ตอนที่ 1098 ต้องมีคนทรยศ

The Legendary Mechanic

แบล็คสตาร์รู้ตัวตนฉันได้อย่างไร?!
  เดิมผู้รักษาสัจจะอยากอวดพลังระดับผู้อยู่เหนือ ดึงดูดความสนใจของแบล็คสตาร์ก่อนเจรจา เขาไม่คิดว่าวินาทีที่เขาปรากฏ เขาจะถูกเปิดเผยตัวตน ดงันั้น การทำตัวลึกลับของเขาจึงล้มเหลว
  เมื่อเห็นแบล็คสตาร์รู้จักเขา ผู้รักษาสัจจะก็เจอพายุแห่งอารมณ์
  เขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับฉันมาจากไหน?มีอะไรรั่วไหลไปบ้าง?!
  คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวเขาและอารมณ์ของเขาก็ย่ำแย่
  เทพอำนวยมักซ่อนตัวในที่มืดมาตลอด พวกเขามีความลับมากมาย ตอนนี้ที่แบล็คสตาร์บอกตัวตนเขาได้ เขาจะรู้เกี่ยวกับเทพอำนวยมากแค่ไหน?เขายังรู้ภารกิจสูงสุดของพวกเขาด้วยหรือไม่?   ความคิดนี้แวบเข้าในหัว เขาพลันรู้สึกถึงจิตสังหาร อยากปิดปากอีกฝ่าย
  แต่จิตสังหารนี้ก็ถูกบังคับให้ดับลง
  โล่เนื้ออย่างแบล็คสตาร์ไม่สามารถฆ่าได้ง่ายๆ การใช้กำลังควรเป็นทางเลือกสุดท้าย
  นี่ยังเป็นข้อดีของการมีพลัง มันทำให้คนต้องมีเหตุผลมากขึ้น
  ฉันต้องทดสอบก่อนว่าแบล็คสตาร์รู้มากแค่ไหน ถ้าเขาเข้าใจพื้นฐานเทพอำนวย งั้นฉันก็ต้องคำนวณแผร หลังวางแผนมาหลายปี ฉันไม่สามารถเสี่ยงได้…
  เขาระงับความตกใจ รีบปรับอารมณ์ เขาไม่ทำการเจรจา สิ่งสำคัญสุดคือทดสอบแบล็คสตาร์
  ผู้รักษาสัจจะนั่งลงตรงข้ามหานเซี่ยว”นายเข้าใจเกี่ยวกับเทพอำนวยมากแค่ไหน?”
  “ไม่มาก”
  หานเซี่ยวทำท่า โดยเว้นช่องว่างระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ ยิ้มอย่างมีความหมาย ดูเหมือนจะบ่งบอกว่า’ฉันรู้ทุกอย่าง’
  ในความเป็นจริง สุดยอดช่างกลหานรู้เกี่ยวกับเทพอำนวยน้อยมาก เขาแค่รู้ว่าพวกเขาฟื้นคืนชีพบรรพชนจำนวนมาก แต่ไม่รู้เนื้อหาจริง มันอาจกล่าวได้ว่าเขาแค่รู้พฤติกรรมของเทพอำนวย แต่ไม่ใช่นิสัย
  เขาจำผู้รักษาสัจจะได้เพราะผู้รักษาสัจจะยังเป็นผู้นำเทพอำนวยในเวอร์ชั่นหลัง และเขาก็ได้รับความสนใจอย่างมากระหว่างสงครามอารยธรรมต้นไม้โลก แต่หานเซี่ยวไม่รู้ต้นกำเนิดอีกฝ่าย
  ดังนั้นหานเซี่ยวจึงจงใจทำท่าแบบนี้เพื่อหลอกอีกฝ่าย
  เมื่อเห็นแบบนี้ ผู้รักษาสัจจะจึงนั่งก้นไม่ติด แต่บนหน้า เขายังแสดงใบหน้าตายด้าน”ฉันอยากรู้ว่านายรู้จักฉันได้ยังไง?เราเคยเจอกันมาก่อน?”
  “ถูกต้อง”   “นั่น…”ผู้รักษาสัจจะตกใจ รีบระดมสมอง คิดหาว่าเขาเคยเจอแบล็คสตาร์ตอนไหน แต่ไม่ว่าเขาจะคิดหนักแค่ไหน เขาก็ไม่พบอะไร
  ตอนนี้ หานเซี่ยวพูดขึ้นด้วยใบหน้าเฉยเมย”เราเจอกันในฝัน”
  ผู้รักษาสัจจะพูดไม่ออก
  แกล้อเล่นอะไร?
  แบล็คสตาร์กำลังพูดเล่น ในสายตาของผู้รักษาสัจจะ มันหมายความว่าแบล็คสตาร์รู้มากกว่าที่เขาคิด ดังนั้นอารมณ์ของเขาจึงยิ่งดำดิ่ง
  “อย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้กันเลย”หานเซี่ยวโบกมือ”นายบอกว่าอยากเจรจากับฉันนี่ ขอฉันฟังมันก่อน.”
  ผู้รักษาสัจจะปรับอารมณ์ ละทิ้งความคิดทดสอบไว้ชั่วคราว”ฉันอยากแลกเปลี่ยนกับส่วนหนึ่งของอนุภาคแสงศักดิ์สิทธิ์”
  “โอ้?”หานเซี่ยวเหลือบมอง”แล้วนายจะเสนออะไรให้ฉัน?”   “มันขึ้นอยู่กับว่านายต้องการอะไร เรายินดีแลกกับสิ่งมีชีวิตพลังงานแรกเริ่มอื่น”
  งั้น เทพอำนวยก็อยากได้รับอนุภาคแสงผ่านการเจรจา นี่ควรเป็นวิธีที่พวกเขาร่วมมือกับเทพเอสในชีวิตก่อนหน้าฉัน แผนล่องูออกจากถ้ำได้ผลจริงๆ
  โดยการเปิดเผยต่อสาธารณะว่าอนุภาคแสงอยู่ในมือเขา อีกฝ่ายจึงถูกล่อให้มาติดต่อกับเขา ตามการตัดสินของเขา หลังการลอบโจมตีนั้น พวกเขาต้องไม่คิดโจมตีเขาอีก แต่เป็นการเจรจาแทน
  ถ้าเทพอำนวยอยู่ในที่มืด หานเซี่ยวคงไม่สามารถหาเจอ ตอนนี้โอกาสมาถึง จึงมีที่ว่างให้เล่น
  หานเซี่ยวแสร้งทำเป็นครุ่นคิดก่อนเคาะโต๊ะด้วยนิ้ว พลันเปลี่ยนเรื่อง
  “ถ้าฉันจำไม่ผิด พวกนายเพิ่งมาชิงพลังงานโกลาหลแรกเริ่มไปจากฉันเองนะ”
  แบล็คสตาร์รู้จริงๆว่าคนที่โจมตีเขาก่อนหน้านี้เป็นของเทพอำนวย….
  ผู้รักษาสัจจะพลันตระหนักถึงเรื่องร้ายแรง
  แบล็คสตาร์รู้จักองค์กรพวกเขาหลังการซุ่มโจมตี หรือรู้ก่อนโดนโจมตี?
  นี่แตกต่างกันมาก!
  “แน่ใจนะว่าคนที่โจมตีนายครั้งก่อนเป็นของเทพอำนวย?”ผู้รักษาสัจจะหยั่งเชิง
  “หือ อยากปฏิเสธ?คิดว่าฉันจะจำพวกนายไม่ได้หลังส่งสมาชิกสายนอกมา?”หานเซี่ยวลูบคางและพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น”กระสุนขับไล่มิติ ไวรัสจัดรูปแบบ คลื่นบิดเบือนสิ่งมีชีวิตพลังงานระดับสูง-ทั้งหมดเป็นของที่เทพอำนวยคิดค้นไม่ใช่หรือ?”
  ภายใต้ฮู้ด ใบหน้าของผู้รักษาสัจจะบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด
  ความจริงที่แบล็คสตาร์เผยออกมาเกินกว่าที่เขาคิด เขารู้การดำรงอยู่ของเทพอำนวยมานานแล้ว!   เทพอำนวยได้รับเทคโนโลยีผ่านการวิจัยสิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่ม พวกเขาแทบไม่ได้ลงมือต่อใคร สำหรับแบล็คสตาร์ที่เรียกชื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ออกมาได้ ความเป็นไปได้เดียวที่หลงเหลืออยู่ก็คือ…
  ต้องมีคนทรยศในองค์กร!
  นอกจากนี้ มันต้องเป็นพวกระดับสูง!
  ใบหน้าของเจ้าหน้าที่ต่างๆผุดขึ้นในหัวของผู้รักษาสัจจะ
  ใครกันที่ทำลายขีดจำกัดของไฟวิญญาณ แล้วทรยศองค์กร?!
  แม้กระทั่งแบล็คสตาร์ก้ยังรู้เรื่องนี้ ข้อมูลรั่วไหลออกไปมากแค่ไหนกัน?หรือว่า ภายในอารยธรรมขั้นสูง จะมีไฟล์ของเทพอำนวยเก็บไว้แล้ว?
  ถ้าเป็นแบบนั้น งั้นเทพอำนวยที่ซ่อนตัวอย่างมั่นใจมาหลายปีก็เหมือนตัวตลกของจักรวาล!
  จิตใจของผู้รักษาสัจจะแทบระเบิด  เขาคือคนที่สงบอย่างมาก แต่ความตึงเครียดที่เขาเจอวันนี้กลับมากเกิน มันทำให้เขาหลุดการควบคุมอารมณ์
  เมื่อรับรู้ถึงความผันผวนของผู้รักษาสัจจะ หานเซี่ยวก็ลังเล
  มันดูเหมือนเขาจะเล่นเกินไปจนทำให้อีกฝ่ายกลัว
  หานเซี่ยวถอนหายใจด้วยความสงสาร
  เห้อ อัจฉริยะเหล่านี้ทุ่มกับสติปัญญาเกินไป พวกเขาจึงมีความสงสัยอยู่ตลอด รายละเอียดเล็กน้อยจะทำให้พวกเขาจดจ่อกับมันตลอดเวลา มันไม่ใช่เพราะเขาเล่นเกินไป แต่อีกฝ่ายอ่อนไหวเกินไป
  ในความเป็นจริง หานเซี่ยวมองเทพอำนวยเป็นกลางมาก เขาไม่มีความรู้สึกดีหรือขุ่นเคืองกับอีกฝ่าย ในชีวิตก่อนหน้าเขา องค์กรเทพอำนวยไม่ใช่องค์กรชั่วร้ายที่สร้างปัญหา และไม่สร้างศัตรูเลย เหตุการณ์เดียวที่พวกเขาเกี่ยวข้องคือการคืนชีพผู้อยู่เหนือและเหล่าบรรพชนจากประวัติศาสตร์เท่านั้นเอง  ด้วยความที่การเข้าร่วมของเทพอำนวยในสงครามคือกำลังรบหลัก พวกเขาจึงสร้างผลงานไว้มากต่อสงครามต้นไม้โลก
  ในเรื่องนี้ หานเซี่ยวยืนอยู่ข้างเดียวกับพวกเขา การคืนชีพผู้อยู่เหนือในประวัติศาสตร์จะช่วยเพิ่มพลังรบของผู้อยู่เหนือในจักรวาล เช่นนั้นจึงมีหมากไว้สู้กับต้นไม้โลกมากขึ้น เขาจะไม่หยุดเทพอำนวยจากการบรรลุเป้าหมาย
  ดังที่กล่าวมา เทพอำนวยโจมตีเขาโดยไม่ได้ยั่วยุ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่แค้นใจมาก แต่ของฟรีจะมีในโลกได้อย่างไร?
  สำหรับว่าการคืนชีพบรรพชนเกี่ยวกับเทพอำนวยไหม หานเซี่ยวไม่แน่ใจ แต่เขาสงสัยว่าข้ออ้างการเอาชีวิตรอดในตู้ช่วยชีวิตจะเป็นข่าวปลอม
  ในความเป็นจริง เขาสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมการคืนชีพบรรพชนจึงเป็นชนวนสำคัญที่นำไปสู่หายนะของผู้ใช้พลัง ก็ลองคิดดูจากมุมมองสามอารยธรรมจักรวาล…  บัดซบ พวกที่ควรตายไปแล้วคืนชีพมา?!งั้น นั่นหมายความว่าผู้อยู่เหนือที่ตายจะมีสิทธิ์คืนชีพได้?ถ้าจำนวนคนที่คืนชีพเพิ่มจนทำลายการปกครองเรา เราจะทำอย่างไร?!
  อารยธรรมขั้นสูงมักพยายามควบคุมอัตราส่วนบุคคลที่มีพลัง ทันทีที่พบว่าแต่ละคนสามารถคืนชีพได้ พวกเขาจึงไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อีก ความคิดพวกเขาจึงระเบิด
  ดังนั้น ไม่ว่าบรรพชนจะถูกปลุกให้ตื่นจากการจำศีลหรือคืนชีพ พวกเขาก็ต้องพูดกับภายนอกว่าพวกเขานอนภายใต้ตู้ช่วยชีวิต ไม่งั้นปัญหาคงตามมาแน่ และไม่มีใครรู้ว่าสามอารยธรรมจักรวาลจะทำอะไร
  ในขณะที่ทั้งสองกำลังครุ่นคิด มันก็ต้องใช้เวลาสักพักก่อนพวกเขาจะตระหนักว่าพวกเขายังคุยกันอยู่
  ผู้รักษาสัจจะสงบอารมณ์ก่อนพูด
  “ฉันสามารถให้ค่าชดเชยเป็นคำขอโทษได้ หวังว่าจะให้อภัยในความประมาทของลูกน้องฉัน”
  “นายจะชดเชยสภาพจิตใจของฉันยังไง?”
  “ต้องการอะไร?”
  “อืม ขอฉันคิดก่อน…”หานเซี่ยวกุมขมับ”ด้วยประวัติอันยาวนานของเทพอำนวย ควรมีหลายอย่างในคลังของนาย ถ้านายมอบสมบัติจักรวาลสักสิบหรือพิมพ์เขียวให้ฉัน ฉันจะให้อภัย”
  ทำไมแกไม่ปล้น..โอ้ ไม่ แกกำลังปล้นฉันอยู่
  ผู้รักษาสัจจะส่ายหัว
  “นั่นมากไป เราไม่มีมากขนาดนั้น”
  “จะเป็นไปได้ยังไง?”หานเซี่ยวหัวเราะ”สมาชิกหลายคนของนายคือลูกหลานของผู้อยู่เหนือ บรรพบุรุษของพวกเขาจะไม่ทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลานเลยหรือ?”
  เรื่องนี้แกก็ยังรู้?!
  ข้อมูลรั่วออกไปมากแค่ไหนกัน?!   ผู้รักษาสัจจะลอบกัดฟัน ความคิดเดียวของเขาคือขุดหาคนทรยศและกระทืบให้ตาย
  “…ไม่ว่ายังไง เราก็ไม่มีสมบัติจักรวาลมากขนาดนั้น เรามีแค่พิมพ์เขียวสองชุดและสามารถชดเชยได้แค่นั้น”
  “สองชุด..”หานเซี่ยวเม้มปาก”ดูเหมือนจะขาดไปเล็กน้อย งั้นฉันขอชุดเทคโนโลยีความสามารถเอสเปอร์ด้วยได้ไหม?”
  “เป็นไปไม่ได้!”ผู้รักษาสัจจะพ่นน้ำเสียงจริงจังออกมา เขาจะไม่ประนอมในเรื่องนี้
  ช่างมัน สองชุดก็สองชุด อย่างน้อยก็ได้อะไรบ้าง
  การเอาส่วนหนึ่งของพลังงานโกลาหลแรกเริ่มไปและแลกมันด้วยสองพิมพ์เขียวเกรดสอง นี่คล้ายกับการยอมแพ้…ไม่สิ เป็นการแลกเปลี่ยกนับผลประโยชน์มากมหาศาล
  จากนั้นหานเซี่ยวก็เดาะลิ้น สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นจริงจัง เขาวางมือบนโต๊ะ”เราสามารถตกลงกันได้ แต่ส่วนหนึ่งของพลังงานโกลาหลแรกเริ่มที่พวกนายขโมยไปต้องรวมในเงื่อนไข ถือซะว่าฉันกำลังขายมันให้นาย นี่หมายความว่านายต้องเสนอสิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มให้ฉันสองเพื่อแลกกับส่วนหนึ่งของอนุภาคแสง”
  เนื่องจากภารกิจ[ผู้สะสมความสามารถแรกเริ่ม]ต้องการสิ่งมีชีวิตเอสเปอร์อีกสอง จากนั้นเขาจึงสามารถใช้อนุภาคแสงเพื่อทำให้ภารกิจสำเร็จได้ นี่จะทำให้เขาได้รับรัศมีไว้ต่อสู้กับเอสเปอร์ รวมถึงชิ้นส่วนทักษะ[วิหารสาม]
  “ตกลง”ผู้รักษาสัจจะพยักหน้า
  องค์กรเทพอำนวยเก็บสิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มไว้มาก และการตัดชิ้นส่วนเพื่อขายก็ไม่ใช่ปัญหา
  แม้จะค่อนข้างผิดบาป แต่ก็ไม่มีใครเป็นคนดี
  ด้วยกองทัพแบล็คสตาร์ที่ครอบครองส่วนหนึ่งของจักรวาล ผู้รักษาสัจจะจึงต่อรองไม่ได้มาก แม้เขาจะไม่กลัวแบล็คสตาร์ มันก็ยังดีกว่าที่จะจัดการกับสิ่งต่างๆอย่างสงบ
  ตอนนี้ ดวงตาของผู้รักษาสัจจะเป็นประกาย”แบล็คสตาร์ นายคิดยังไงกับจุดประสงค์ของเรา?”
  แม้ข้อมูลจะรั่วไหลไปมาก ผู้รักษาสัจจะก็ยังเก็บความหวังสุดท้ายไว้ มันอาจดูเหมือนแบล็คสตาร์จะรู้ทุกอย่าง แต่ก็ยังมีโอกาสเล็กน้อยที่จะไม่รู้ถึงเป้าหมายหลักพวกเขา
  “วัตถุประสงค์?นายไม่ใช่องค์กรที่วัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีความสามารถเอสเปอร์อย่างเดียว?อะไร ยังมีแผนการอื่นอีกเหรอ?”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
  ผู้รักษาสัจจะจ้องสีหน้าหานเซี่ยว แต่ก็ไม่อาจอ่านอะไรได้ เขาไม่รู้ว่าหานเซี่ยวไม่รู้จริงๆหรือแกล้งทำ
  แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจโล่งอกหลังได้ยินคำตอบ
  แบล็คสตาร์ไม่รู้วัตถุประสงค์หลักของพวกเขา ซึ่งหมายความว่าตัวแปรภายนอกยังอยู่ในขอบเขตการควบคุม นี่หมายความว่าคนทรยศในองค์กรพวกเขาแค่ระดับเจ้าหน้าที่
  “ไม่มีแผนการหรืออะไร จุดประสงค์เราคือเราเชื่อว่าความสามารถเอสเปอร์มีความเป็นไปได้ไร้สิ้นสุด..”ผู้รักษาสัจจะเริ่มพ่นเรื่องไร้สาระออกมา ซึ่งเป็นข้อมูลเดียวกับที่พวกเขาบอกสมาชิกไว้เป็นการอำพราง
  หลังพูดพ่นอยู่หลายประโยค พวกเขาก็กำหนดเวลาการทำธุรกรรม ก่อนผู้รักษาสัจจะจะจากไปกด้วยความคิดกำจัดคนทรยศ
  หานเซี่ยวเอนหลังพิงด้วยความคิดลึก
  เขาไม่ได้ยั่วยุเจตนาของอีกฝ่ายเพื่อคืนชีพผู้อยู่เหนือ นี่เพราะเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะใช้ทำอะไรหรือเป้าหมายคืออะไร การเผยความจริงอาจทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายแทน
  ดังนั้น เขาจึงแสร้งทำเป็นหลอก แต่ถ้าเขาถลำลึก เขาอาจไม่มีทางถอย
  อย่างน้อยก่อนเขาจะได้รับพิมพ์เขียวและสิ่งมีชีวิตเอสเปอร์อีกสอง เขาไม่มีความปรารถนาจะฉีกหน้าเทพอำนวย
  ยิ่งไปกว่านั้น หานเซี่ยวไม่สนใจการคืนชีพของผู้อยู่เหนือ เทียบกับต้นไม้โลก ผลกระทบนี้เล็กน้อยไปเลย
  ในชีวิตก่อนหน้าฉัน เทพอำนวยทำงานร่วมกับเทพเอส แต่ตอนนี้ฉันได้มาแทนเทพเอสและกลายเป็นแรงผลักดันเบื้องหลัง ภายใต้อิทธิพลของฉัน โครงเรื่องเปลี่ยนแปลงไปมาก มีพิกัดที่นำไปสู่ต้นไม้โลก แผนกโลจิสไม่ประสบความสำเร็จในการหา และฉันไม่รู้ว่าการวิจัยของจักรวรรดิไปไกลแค่ไหนแล้ว…
  หานเซี่ยวครุ่นคิดสักพัก
  ถูกต้อง เทพอำนวยมีประวัติยาวนาน บางทีพวกเขาอาจมีข้อมูลเกี่ยวกับวิหาร ฉันควรหาโอกาสถามพวกเขาในครั้งต่อไป
  …
  ที่ไหนสักแห่งในทะเลทรายดวงดาวโบราณ กองยานโจรสลัดถูกหยุดโดยยานรบเล็กสามลำที่มีสัญลักษณ์สหพันธ์ หลังการต่อสู้รุนแรง พวกโจรสลัดก็ถูกจับ
  บนดาดฟ้ายานหลักของโจรสลัด ศพของผู้นำล้มลงกับพื้น ส่วนสมาชิกทั้งหมดนั่งยองๆบนพื้นโดยเอามือกุมหัว พวกเขาถูกล้อมด้วยกลุ่มทหารชุดสหพันธ์
  ผู้นำทหารสวมชุดรบไฮเทค มีตราบนหน้าอก แสดงถึงตำแหน่งผู้ตรวจสอบจักรวาล
  ผู้ตรวจสอบจักรวาลคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนกพิเศษที่ตั้งโดยอารยธรรมขั้นสูง พวกเขาจะลาดตระเวนระบบดาวต่างๆและตำแหน่งพวกเขาก็สูงกว่าเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนทั่วไป เชี่ยวชาญการตรวจจับสภาวะผิดปกติ
  ผู้ตรวจสอบสหพันธ์แห่งแสงเดินไปด้านหน้ากลุ่มโจรสลัด ค่อยๆถอดถุงมือออก”ห้าวันก่อน มีสัญญาณพลังงานจักรวาลจากยานพวกแก ความผันผวนพลังงานกระจายพร้อมๆกับที่พวกแกเดินทาง ปลุกอารยธรรมขั้นสูงมากมาย รวมถึงสามอารยธรรมจักรวาล ความผันผวนนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร…”
  ปึก!
  ทันใดนั้นเขาก็เดินไปหาโจรสลัดคนหนึ่ง ตบหน้า”บอกได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
  “มัน…มันเป็นตู้เซฟครับ..”โจรสลัดพูดตะกุกตะกักก่อนเปิดเผยทุกอย่าง
  “ตู้เซฟโบราณที่ขายทอดตลาด?”
  ผู้ตรวจสอบสหพันธ์แห่งแสงเรียกข้อมูลที่พวกเขาได้รับจากโจรสลัดและกลุ่มของแฮร์ริสันก็ปรากฏบนจอ
  “กลุ่มพวกกินซาก ไม่แน่ใจว่าโชคดีหรือร้าย.”
  เขาหรี่ตา ผลักพวกโจรสลัดออกไปก่อนสั่ง
  “ไป ออกตามหาคนเหล่านี้!”��