ตอนที่ 1099 การแทรกแซงความเป็นจริง

The Legendary Mechanic

ผู้ตรวจการของสามอารยธรรมจักรวาลมีคนสนับสนุนและมีทรัพยากรมากมาย มันไม่ยากที่จะเก็บกวาดพวกกินซากระดับต่ำ
  กระบวนการนี้ค่อนข้างราบรื่น
  ชุดปฏิบัติการนี้ดำเนินอย่างราบรื่นราวกับพวกเขาทำมาแล้วเป็นร้อยครั้ง
  ในยานอวกาศขนาดเล็กของพวกกินซาก แฮร์ริสันกับพรรคพวกกำลังนั่งยองๆบนกำแพงและตัวสั่น ตราสหพันธ์แห่งแสงบนชุดของทหารเหล่านี้ปัดเป่าความปรารถนาที่จะต่อต้านของพวกเขาจนสิ้น
  สำหรับคนที่เป็นชนชั้นต่ำของสังคม แม้กระทั่งเบี้ยตัวเล็กของสามอารยธรรมจักรวาลก็ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะตอแยด้วยำได้ โดยปราศจากการสนับสนุนขององค์กรใด ใครที่กล้าตอแยคนจากสามอารยธรรมจักรวาลก็ไม่ต่างอะไรกับพวกขาดสติ  “คุณ..พวกคุณจะทำอะไร?เราคือพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฏหมายนะ”ชายเตี้ยพูดตะกุกตะกัก
  ผู้ตรวจการสหพันธ์แห่งแสงขยับเก้าอี้ นั่งตรงหน้ากลุ่มนี้ เขาโน้มตัวไปข้างหน้า ปล่อยกลิ่นอายกดขี่”แกไม่รู้ว่าพวกแกก่ออาชญากรรมประเภทไหน?”
  เราก่ออาชญากรรมอะไร?
  ทุกคนมีสีหน้าสับสน พยายามบีบเค้นสมองจนแห้ง
  ทันใดนั้นชายเตี้ยก็ตัวสั่นสะท้านก่อนจะพูดโพล่ง”ผะ..ผมยอมจำนน!’
  “โอ้?”ผู้ตรวจการหันมามองเขา”งั้นพูดมา อาชญากรรมของแกคืออะไร?”
  “ผม..ผมเจาะระบบชำระเงินของช่องบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่เมื่อวานนี้ โหลดสื่อลามกนับพัน..อะแฮ่ม หนังประเภทนั้นแหละครับ ผมผิด!ผมขอสารภาพ!”เขาพ่นทุกอย่างออกมา
  จู่ๆกัปตันก็อุทาน”ไม่แปลกใจเลยที่นายจะอยู่ในห้องทั้งวัน”
  เมื่อเขาพูด เขาก็พลันหยุด ทุกคนตระหนักว่าชายเจี้ยยังสวมชุดจากเมื่อวานอยู่ และรีบถอยห่างจากเขา
  “…”
  สีหน้าของผุ้ตรวจการแข็งราวกับเหล็ก แต่ถ้ามองใกล้ ๆ พวกเขาจะพบว่ามุมปากของเขากระตุกอย่างรุนแรง
  เห้ย ฉันกำลังสอบปากคำพวกแก!
  “แกพยายามยั่วโมโหฉันใช่ไหม?คิดว่าฉันเป็นเพื่อนเล่นพวกแกหรือไง?!”
  ผู้ตรวจการชักปืนออกมา กดลงบนหัวชายเตี้ย แต่ทว่า เขาก็หยุดและถอนปากกระบอกปืนออกไป เขาไม่กล้าแนบมันกับผิวของชายเตี้ยเพราะกลัวว่าจะทำให้อาวุธเขาแปดเปื้อน
  “อย่า อย่า อย่า อย่า…”ชายเตี้ยกลัวจนปัสสาวะราด
  แฮร์ริสันตกใจมาก”ท่านผุ้ตรวจการ เราทำตามกฏหมาย เราไม่ได้ปล้นสะดมหรือฆ่า เราแค่ขุดซากปรักหักพัง เราไม่รู้ว่าเราก่ออาชญากรรมอะไร”
  “ฮึ่ม!”ผู้ตรวจการไม่คิดทำให้ชีวิตพวกเขายากลำบาก เขาถอนอาวุธ ฉายภาพอุปกรณ์สามเหลี่ยม”ไม่นานมานี้ พวกแกขุดสิ่งประดิษฐ์นี้จากอารยธรรมที่ไม่รู้จักและนำไปประมูล แต่มันถูกขโมยโดยพวกโจรสลัด และตอนพวกมันเปิด มันกระตุ้นความผันผวนพลังงานจักรวาล ฉันมาที่นี่เพื่อสิ่งนี้”
  หัวใจของแฮร์ริสันแทบหยุดเต้น
  เห็นไหม เราเจอปัญหาจริงๆ!
  สัญชาตญาณของฉันถูกต้อง วัตถุนี้ไม่ใช่ของเล่น มันยังนำปัญหามาให้หลังเราขายมัน!
  แต่ทว่า เขาไม่ได้อารมณ์เสียแต่กลับรู้สึกตื่นเต้นแทน ความอยากรู้กลืนกินความมีเหตุผลเขาไป เขาอดถามไม่ได้”อะไรอยู่ข้างในครับ?”   “มันยังไม่ชัดเจนและยังมีการตรวจสอบความผันผวนอย่างละเอียด”
  ตอนนี้ กัปตันอดถามไม่ได้”รอเดี๋ยว เราขายสิ่งนั้นไปแล้ว และมันก็ไม่ใช่เราที่เปิดมัน แล้วเราก่ออาชญากรรมอะไร?”
  “ถูกต้อง เราบริสุทธิ์!”
  “คุณไม่สามารถใส่ร้ายคนดีได้!”
  กล่มคนกรีดร้อง แสดงความไม่พอใจตรงๆ
  “หุบปาก!”ผู้ตรวจการคำราม”ของที่พวกแกขุดจากซากปรักหักพังมีความเสี่ยงสูง เพราะพวกแก หายนะใหม่อาจเกิดขึ้นกับจักรวาล ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่อาชญากรรมที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยสาธารณะก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกแกติดคุก!”
  เมื่อได้ยิน ทุกคนก็หดตัวกลับทันที ลดหัวลง นับจำนวนมดบนพื้น..แม้จะไม่มีมดบนยานอวกาศก็ตาม  ผู้ตรวจการแค่นเสียงเย็น”แต่ทว่า ถ้าพวกแกเต็มใจช่วยเราทำงาน เราก็จะไม่สนใจความผิดพลาดนี้ เรากำลังตรวจสอบสถานที่นั้นอยู่และเราก็ต้องการให้พวกแกนำทางเราไป มีใครคัดค้านไหม?”
  “ไม่ ไม่ ไม่เลย มันถือเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่ได้ช่วยงานสหพันธ์แห่งแสง!ผมคือผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรบนยานนี้ คุณแค่ต้องออกคำสั่งถ้าต้องการอะไรจากผม!”
  เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ร้ายแรงอย่างที่คิด ชายเตี้ยก็ถอนหายใจโล่งอกก่อนใช้ทักษะที่สะสมมาหลายปีเพื่อเลียอีกฝ่าย
  “นี่..”กัปตันลังเล”เราจะมีประวัติอาชญากรรมไหม?”
  ผู้ตรวจการตอบ”แน่นอน แต่มันไม่สำคัญ ตราบเท่าที่พวกแกส่งมอบสิ่งที่ขุดขึ้นมาในอนาคตให้อารยธรรม นั่นก็จะไม่มีปัญหา”
  มอบให้อารยธรรม?เรากำลังจะกลายเป็นทีมโบราณคดี?!   นี่เกินไปแล้ว นี่คือการคุกคามด้วยจุดอ่อนเรา อยากให้เราประนอม?ฝันไปเถอะ!เราจะไม่ยอมรับมันเด็ดขาด
  ..เว้นแต่ สหพันธ์จะจ่ายเงินเดือน
  หลังบรรลุข้อตกลง ทีมก็นำทางไปอย่างรวดเร็ว ไปถึงดาวแห้งแล้งที่พวกเขาพบอุปกรณ์สามเหลี่ยม
  แฮร์ริสันชี้ภาพบนหน้าจอขณะอธิบาย”นี่คือสสถานที่นั้น เคยมีซากปรักหักพังลักษณะคล้ายฐานทัพ แต่วินาทีที่เราออกมา มันก็ถล่ม นี่คือบันทึกตอนเราเข้าไป..”
  ผู้ตรวจการพยักหน้าและสั่งลูกน้องเขาให้ลงไปสแกนพื้นที่ และสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
  เขาไม่คิดว่าผลการตรวจสอบจะแสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นภายในชั้นหินเลย มีแค่ดินโคลนเท่านั้น
  นี่ไม่สมเหตุสมผล ต่อให้ซากปรักหักพังจะถล่มและถูกฝัง ก็ควรมีร่องรอย แต่ทว่า ในภาพเครื่องมือตรวจจับขั้นสูงเหล่านี้ ไม่มีร่องรอยของหินด้านล่างนี้เลย
  ผู้ตรวจการขมวดคิ้ว”แน่ใจนะว่าเป็นที่นี่”
  “ครับ คุณก็เห็นบันทึกการบินของเรา เราหยุดที่นี่”แฮร์ริสันแสดงความแปลกใจ
  สถานการณ์ลึกลับดังกล่าวดึงดูดความอยากรู้อยากเห็นของเขาอีกครั้ง เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าสถานที่นั้นหายไปได้อย่างไร
  หรือว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะเป็นแค่ฝัน?แต่ตู้เซฟที่พวกเขาขุดนั้นเป็นของจริง
  ขณะกำลังคิด ผู้ตรวจการจากสหพันธ์ก็ดูเหมือนจะคิดอะไรได้ สีหน้าของเขาดำมืดขณะพึมพำ”ปรากฏการณ์เช่นนั้น หรือว่า…สถานะข้อมูลมิติสูงที่รบกวนกับความเป็นจริง?”
  แฮร์ริสันกำลังจะพูดถาม แต่เขาก็เห็นผู้ตรวจการผลักทุกคนออกไป วิ่งกลับไปรายการเบื้องบน  เมื่อเห็นสีหน้าดำมืดของอีกฝ่าย แฮร์ริสันก็มีลางสังหรณ์ว่าเรื่องนี้จะร้ายแรงกว่าที่เขาคิด
  …
  ภายในฐานขององค์กรเทพอำนวย ลอว์กับเฟย์ถูกเรียกตัว พวกเขามาถึงวังมืดเพื่อพบกับผู้รักษาสัจจะอีกครั้ง
  “มากันครบแล้วสินะ”
  กลางอากาศ ผู้รักษาสัจจะลดหัวลง
  มีความผันผวนจิตรุนแรงภายในน้ำเสียงเขา ซึ่งทำให้ลอว์กับเฟย์เริ่มกระวนกระวาย
  ทั้งคู่รู้จักอีกฝ่ายมานาน พวกเขาจึงเข้าใจนิสัยเขา การกระทำเช่นนี้หมายความว่าเขากำลังโกรธ ซึ่งไม่เกิดขึ้นนานแล้ว
  พวกเขาสบตากันและสื่อสารกันด้วยสายตา
  ลอว์(ดูงงๆ): อารมณ์ของท่านผู้นำดูไม่ดีเลย
  เฟย์(กะพริบตา) : บางทีเขาอาจเจรจากับแบล็คสตร์ล้มเหลว
  ลอว์(ขมาวดคิ้ว):นั่นคงไม่ทำให้เขาโกรธ ควรมีเหตุผลอื่น
  เฟย์(อยากรู้) : งั้นมันคืออะไร?
  ลอว์(กลอกตา) : คิดว่าฉันจะอธิบายเรื่องซับซ้อนแบบนั้นได้ด้วยสายตาหรือไง?
  เฟย์(กะพริบตาอย่างไร้เดียงสา) : นั่นก็จริง
  ทั้งู่คุยกันในชั่วพริบตาก่อนลดหัวเพื่อทักทายผู้รักษาสัจจะ
  “แบล็คสตาร์มีข้อมูลภายในของเรา!”ผู้รักษาสัจจะพูดโพล่งขึ้น
  “ว่าไงนะ?!”ทั้งคู่หน้าซีด
  หรือว่าเพราะการซุ่มโจมตีของพวกเขา แบล็คสตาร์ถึงมีเบาะแส ซึ่งทำให้ข้อมูลองค์กรรั่วไหว?
  ถ้าเป็นอย่างนั้น งั้นพวกเขาก็ผิด!
  ผู้นำเรียกเรามาเพื่อลงโทษ?ต้องเป็นอย่างนั้นแน่!
  ทั้งคู่ตื่นตระหนกและไม่กล้าลังเล พวกเขารีบพูด”มันเป็นความผิดของเราเอง โปรดลงโทษเราด้วย!”
  ผู้รักษาสัจจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
  “อย่าเข้าใจผิด การกระทำของพวกนายไม่ได้มีส่วนเกี่ยว แบล็คสตาร์รู้การดำรงอยู่ขององค์กรเรามานานแล้ว”
  เมื่อได้ยิน ทั้งสองก็อดตกใจไม่ได้
  ถ้ามันไม่ใช่เราที่เผยข้อมูล แล้วใคร?มันเป็นครั้งแรกที่เราเจอกับแบล็คสตาร์ หรือจะมีคนอื่นติดต่อกับเขาแล้วในอดีต?
  ตอนนี้ เสียงหนาวเย็นของผู้รักษาสัจจะได้ตอบคำถามพวกเขา
  “หยุดเดาได้แล้ว องค์กรเรามีคนทรยศ!”
  “นั่นเป็นไปไม่ได้!”ลอว์ส่ายหัว อุทานด้วยน้ำเสียงกังขา”คนที่รั่วไหลข้อมูลจะต้องโดนผลของไฟวิญญาณ ใครจะมีชีวิตอยู่ได้?!”
  ไฟวิญญาณคือสิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่ม ตามชื่อมัน ความสามารถนี้เกี่ยวข้องกับวิญญาณ และปัจจุบัน ผู้รักษาสัจจะก็คือนายมัน
  ความสามารถเอสเปอร์มันหมายความว่ามันเปนผู้เชี่ยวชาญที่เล่นกับวิญญาณของผู้คน ทำให้มันเป็นหนึ่งในความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูง หนึ่งในความสามารถมันช่วยให้มันห้ามเป้าหมายจากการเผยข้อมูลได้ และผู้รักษาสัจจะก็ใช้ความสามารถนี้เพื่อป้องกันคนในองค์กรจากการรั่วไหลความลับ ถ้าสมาชิกอยากเปิดเผยข้อมูล พวกเขาจะต้องทนกับผลกระทบ แถมผู้รักษาสัจจะยังรู้ตัวอีกด้วย นี่คือวิธีที่เทพอำนวยเก็บตัวอยู่ในที่มืดมานาน
  เขาใช้พลังผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดเพื่อกระตุ้นความสามารถเอสเปอร์ไฟวิญญาณ ดังนั้นผลของมันจึงน่ากลัวมาก ต่อให้เป็นลอว์กับเฟย์ก็ไม่สามารถหลุดพ้นมันได้
  ดังนั้น ทั้งคู่จึงเชื่อว่าไม่มีใครทรยศต่อองค์กรได้  “ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ ความจริงก็อยู่ตรงหน้าเราแล้ว แบล็คสตาร์ระบุตัวฉันได้ทันทีที่เห็นฉัน และฉันยังเชื่ออย่างโง่เขลาว่าไม่มีใครรู้เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของเรา เรื่องนี้ต้องได้รับการตรวจสอบ!”
  “ควรมีใครสักคนที่ใช้วิธีพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบย้อนหลังของไฟวิญญาณ พวกเขาต้องส่งข้อมูลให้โลกภายนอก ตำแหน่งของคนคนนั้นต้องไม่ต่ำ สำหรับตอนนี้ ฉันยังไม่รู้ว่าพวกมันเป็นสมาชิกหลักเราหรือไม่”
  สีหน้าของลอว์กับเฟย์ดูน่ากลัว เรื่องนี้เกี่ยวกับความอยู่รอดขององค์กร
  “ท่านผู้นำ ท่านจะให้เราทำอะไร?”
  “พวกนายสองคนเป็นคนสนิทของฉัน และฉันก็เชื่อในหลักการ แต่ทว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลักฐาน ดังนั้นฉันต้องค้นความทรงจำพวกนาย พวกนายเต็มใจหรือไม่?”
  ลอว์กับเฟย์ตกที่นั่งลำบาก แม้จะไม่ใช่คนทรยศ ผู้ใช้พลังก็มักขับไล่ผู้อื่นจากการบุกรุกจิตใจตัวเอง
  แต่ทว่า พวกเขาตระหนักถึงความผันผวนจิตที่เพิ่มขึ้นรอบตัว ดังนั้น พวกเขาจึงต้องกล้ำกลืนความไม่เต็มใจไป
  วินาทีต่อมา ผู้รักษาสัจจะก็ยกมือขึ้น เปลวไฟสองสายพุ่งใส่พวกเขา
  ทั้งคู่สังเกตเห็นความผันผวนจิตพิเศษเข้าสมองพวกเขา พวกเขามองหน้ากัน กัดฟันก่อนลบม่านจิตออกไป ปล่อยให้ผู้รักษาสัจจะเจาะความทรงจำพวกเขา
  ความทรงจำถูกตรวจค้น ฉากมากมายฉายตรงหน้า พวกเขากัดฟัน ไม่สนใจความรู้สึกเสียวซ่าของการค้นจิตใจ
  หลังผ่านไปนาน การตรวจสอบจิตก็ถูกเรียกกลับโดยผู้รักษาสัจจะ
  “ดีมาก พวกนายสองคนไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”ผู้รักษาสัจจะพยักหน้าก่อนพูดต่อ”ฉันจะมอบหมายงานกำจัดคนทรยศให้พวกนาย อนุญาตให้ใช้สิทธิ์ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่ทั้งหมดภายในองค์กรและรายงานคนต้องสงสัยให้ฉัน ฉันจะค้นความทรงจำพวกมันเอง ก่อนเราจะพบคนทรยศ เราจะหยุดกิจกรรมทั้งหมดชั่วคราว”
  ทั้งคู่ยังเงียบ พยักหน้าเพื่อแสดงถึงการยอมรับขณะที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดที่เป็นผลข้างเคียงของการตรวจจิต
  มันดูเหมือนผู้นำจะโกรธจริงๆถ้าแม้กระทั่งคนสนิทก็ยังโดนตรวจสอบแบบนี้ คงไม่ต้องพูดถึงคนอื่น…
  ทั้งคู่เดาได้ว่าการดำเนินการนี้จะสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับองค์กร
  …
  การระเบิดของพลังงานจักรวาลไม่อาจรอดพ้นทุ่นตรวจจับของอารยธรรมขั้นสูงได้ ทุ่นตรวจจับเหล่านี้ถูกใช้โดยทุกอารยธรรมขั้นสูงเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ภายใต้เขตอำนาจตน และพวกมันก็แผดเสียงเตือน
  มันแค่ว่าสิทธิ์การตั้งทุ่นตรวจจับสงวนไว้สำหรับอารยธรรม และองค์กรพลเรือนก็ไม่ได้รับอนุญาต
  ภายในทะเลทรายดวงดาวโบราณ สาขาของกองทัพแบล็คสตาร์ไม่มีอิทธิพลมากนักและไม่มีสิทธิ์วางทุ่น แถมหานเซี่ยวยังอยู่ไกลจนไม่ค้นพบความผันผวนนี้
  อารยธรรมขั้นสูงตอบสนองอย่างรวดเร็วเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาและผลกระทบของปรากฏการณ์ แต่ก็ไม่พบอะไร พวกเขาไม่รู้ว่าความผันผวนนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไร
  ตอนนี้ ภายในเครือข่ายควอนตัมที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ชุดข้อมูลที่ปล่อยจากอุปกรณ์สามเหลี่ยมกำลังกระจายตัวอย่างรวดเร็วภายในทะเลทรายดวงดาวโบราณ
  ข้อมูลชุดนี้มีความสามารถอำพรางตัวสูง สามารถหลบไฟร์วอลล์ปัญญาประดิษฐ์ส่วนใหญ่ได้และเจาะโหนดเครือข่ายควอนตัมทีละนิด มันกระจายเหมอืนไวรัส แต่ในขณะนี้ มันไม่แสดงปฏิกิริยาผิดปกติอะไร แค่ซุ่มซ่อนตัว  มีเพียงปัญญาประดิษฐ์ส่วนน้อย เช่นปัญญาประดิษฐ์ต้นแบบจากอารยธรรมขั้นสูงถึงตรวจพบและหยุดมันได้ แต่ทว่า ทันทีที่มันถูกพบ ชุดข้อมูลก็จะทำลายตัวเอง ลบข้อมูลมันจนหมดสิ้น พร้อมกับทำเครื่องหมายว่าไฟร์วอลล์นี้ไม่สามารถเจาะได้เพื่อไม่ให้ชุดข้อมูลอื่นต้องมาเสี่ยงเหมือนกัน
  เมื่อขอบเขตมันขยายตัว ประสิทธิภาพการแพร่กระจายก็เพิ่มขึ้นตาม ภายในเครือข่ายควอนตัม การส่งผ่านไม่ได้รับผลกระทบโดยระยะทาง ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ตัว จำนวนโหนดเครือข่ายควอนตัมในทะเลทรายดวงดาวโบราณมีแต่จะติดไวรัสเพิ่มขึ้น
  บางจุด ชุดข้อมูลจะถูกส่งไปโหนดควอนตัมอื่น แต่ครั้งนี้ มันดันเจอกับปัญญาประดิษฐ์ที่แข็งแกร่งสุดที่มันเคยพบเจอ วินาทีที่มันเข้าสู่บริเวณรอบข้างโหนด มันก็ถูกสแกนและชุดข้อมูลก็ระเบิดตัวเองทันที
  แต่ทว่า กระแสข้อมูลพลุ่งพล่านได้ไหลออกจากโหนดนี้เพื่อห่อหุ้มชุดข้อมูลไว้ เมื่อมันทำลายตัวเองไปประมาณ 65% ข้อมูลที่เหลืออยู่ก็ถูกสกัดไว้
  วินาทีต่อมา กระแสข้อมูลก็รวมกันเป็นรูปร่างมนุษย์
  วิญญาณเสมือนของแมนิสันจ้องชุดข้อมูลที่หลงเหลือตรงหน้าด้วยสีหน้าอยากรู้
  อืม โครงสร้างข้อมูลแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน…มันคืออะไร มันกำลังพยายามแทรกซึมฐานย่อยฉัน?