“ข้าได้ปรึกษากับประมุขวิหารหยกวิญญาณแล้ว เราจะร่วมมือกันค้นหาในพื้นที่รอบๆกองกำลังของสิบสองวิหารว่ามีโทเทมอื่นอยู่รึเปล่า ตำแหน่งของโทเทม 48 แห่งนั้นไม่ได้เป็นสถานที่ธรรมดาทั่วไป สถานที่ที่มีการแกะสลักอักขระพวกนั้นทั้งหมดล้วนเป็นที่ที่พลังวิญญาณหนาแน่นมากที่สุด ข้าคิดว่าโทเทมอื่นๆอาจอยู่ในสถานที่ที่คล้ายกันนี้ พวกเราได้กำหนดเป้าหมายเอาไว้บ้างแล้ว กำลังเตรียมการไปตรวจสอบพวกมันอยู่ขอรับ” เย่ฉารายงาน
จวินอู๋เสียพยักหน้า แล้วจู่ๆนางก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
“สถานที่ที่มีพลังวิญญาณหนาแน่นที่สุดงั้นหรือ? อาณาจักรกลางมีสถานที่ที่มีพลังวิญญาณหนาแน่นกว่าภูเขาฝูเหยาด้วยหรือ?” ภูเขาฝูเหยามีความหมายพิเศษต่อจวินอู๋เสียและวิหารหยกวิญญาณ
หลังจากสิบสองวิหารถูกทำลาย สมาชิกทั้งหมดของวิหารหยกวิญญาณได้ออกจากถ้ำบนภูเขาฝูเหยาและไม่เคยกลับไปอีกเลย แต่เมื่อได้ยินจวินอู๋เสียพูดขึ้นมา ก็ทำให้เย่ฉานึกถึงสถานที่ที่ทุกคนลืมคิดไปขึ้นมาได้ทันที
ใช่แล้ว หากพูดถึงสถานที่ที่มีพลังวิญญาณหนาแน่น ภูเขาฝูเหยาย่อมมาเป็นอันดับแรก
“มีใครไปที่ภูเขาฝูเหยาบ้างรึยัง?” จวินอู๋เสียถาม
เย่ฉาส่ายหน้า novel-lucky
“พวกเรายังไม่มีโอกาส……”
แค่ค้นหาโทเทม 48 แห่งที่ซ่อนอยู่ในสิบสองวิหารก็กินเวลาไปหมดแล้ว พวกเขาเพิ่งค้นพบโทเทมสุดท้ายในสิบสองวิหารไปเมื่อวานนี้เอง พื้นของสาขาของสิบสองวิหารและวิหารหลักถูกขุดขึ้นมาทั้งหมด พวกเขาเพิ่งเจอโทเทม 48 แห่ง ไม่มีมากกว่านี้แล้ว
“ข้าอยากไปที่ภูเขาฝูเหยา” จวินอู๋เสียพูดพร้อมมองไปที่จวินอู๋เหยา
“ได้ ข้าจะไปกับเจ้าด้วย” จวินอู๋เหยาพยักหน้าเล็กน้อย
จากสถานที่ 48 แห่งที่พวกเย่ฉาค้นพบโทเทม มีความเป็นไปได้สูงที่ภูเขาฝูเหยาจะมีสถานที่เช่นนั้นอยู่ด้วย การเดินทางไปที่นั่นอาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
ประมุขวิหารหยกวิญญาณกำลังส่งศิษย์ของเขาออกค้นหาเบาะแสของโทเทมอื่นๆในอาณาเขตเดิมของสิบสองวิหาร ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ผลลัพธ์อะไรหรือไม่
“ช่วงนี้เก้าอารามมีการเคลื่อนไหวผิดปกติใดๆบ้างไหม?” จวินอู๋เสียหันไปถามเย่เม่ย แผนการของนางที่การประชุมสุดยอดสิบสองวิหารเกือบเกิดหายนะเพราะกู่อิ่งแล้ว แม้ว่าการปรากฏตัวของจวินอู๋เหยาจะพลิกสถานการณ์ทั้งหมด แต่คนที่กู่อิ่งนำมามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นคนของอารามหลิงซวี หนึ่งในเก้าอาราม แม้ว่าจวินอู๋เหยาจะสังหารพวกเขาทั้งหมดแล้ว แต่เป็นไปไม่ได้ที่อารามหลิงซวีจะไม่รู้ถึงการตายของพวกเขา
เย่เม่ยส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยขอรับ เก้าอารามยังเงียบเหมือนเดิม ช่วงแรกที่คุณหนูกับนายท่านเจว๋เพิ่งจากไป พวกเรากังวลว่าพวกเขาจะทำการแก้แค้นหรือไม่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำ แม้แต่อารามหลิงซวีก็ยังเงียบผิดปกติ”
จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เก้าอารามมีความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันมาตลอด แตกต่างจากสิบสองวิหารที่มีความขัดแย้งภายในอย่างสิ้นเชิง เก้าอารามไม่เคยต่อสู้กันเอง ทำให้อำนาจของพวกเขายังคงอยู่เหนือสิบสองวิหาร
แต่ช่วงนี้เก้าอารามเงียบเกินไป อาจกล่าวได้ว่าเก้าอารามเงียบผิดปกติในช่วงพันปีที่ผ่านมา พวกเขาไม่มีทีท่าสนใจการพยายามขยายอำนาจของสิบสองวิหารเลย การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจดูเหมือนไม่ชัดเจนในระยะเวลายาวนานเช่นนี้ แต่ถ้าคิดให้ดีๆ จะรู้สึกได้ว่าการเก็บเนื้อเก็บตัวของเก้าอารามดูเหมือนจะเริ่มขึ้นหลังจากการ “สิ้น” ของจักรพรรดิแห่งความมืด
ไม่ว่ากู่อิ่งจะพาคนของเขามาที่การประชุมสุดยอดสิบสองวิหารโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือยังไงก็ตาม แต่ในเมื่อเขาสามารถระดมกำลังคนของอารามหลิงซวีได้ ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่าอารามหลิงซวียอมรับตัวตนของกู่อิ่งแล้ว