หลังจากสนทนากันสักพัก แพทย์ของผู้อาวุโสก็บอกให้เขากลับไปพักผ่อนได้แล้ว ผู้อำนวยการฟางเข้ามาในห้องอีกครั้งและนั่งข้างเฝิงหยู่

“ผมบอกได้เลยว่าท่านประธานชอบคุยกับคุณมาก นานแล้วที่ผมไม่ได้เห็นเขายิ้มอย่างมีความสุขแบบนี้” ผู้อำนวยการฟางกล่าว

เฝิงหยู่ถาม “สุขภาพของท่านประธานคงอยู่ได้อีกไม่นานใช่มั้ยครับ?”

ผู้อำนวยการฟางหันขวับไปมองหน้าเฝิงหยู่อย่างรวดเร็ว “อย่าถามเรื่องที่ไม่ควรถาม!”

สุขภาพของผู้อาวุโสถือเป็นความลับสุดยอดของประเทศ ถ้ายังมีเขาอยู่ จีนเป็นชาติที่ไม่มีประเทศใดกล้าดูแคลน แต่สุขภาพของผู้อาวุโสกำลังทรุดลงและจะให้ประเทศอื่นๆ รู้เรื่องนี้ไม่ได้!

เฝิงหยู่คิดในใจ แม้ว่าคุณจะไม่ยอมบอกความจริงอะไรก็ตาม ผมก็รู้อยู่ดีว่าผู้อาวุโสอยู่ในช่วงระยะสุดท้ายของโรคพาร์กินสันและป่วยเป็นโรคปอดบวม อวัยวะในระบบทางเดินหายใจของเขาแย่ลงและเขาก็จะเสียชีวิตด้วยสาเหตุนี้

ทันใดนั้น เฝิงหยู่ก็มีความคิดที่อาจจะทำให้ผู้อาวุโสมีชีวิตอยู่อีกต่อไปอีกได้

“พี่สาวผมทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลและผมก็มีความรู้เรื่องโรคพาร์กินสัน ภาวะนี้สามารถกระตุ้นให้เกิดโรคปอดบวมได้ง่าย” เฝิงหยู่พูด

ผู้อำนวยการฟางมองหน้าเฝิงหยู่อย่างสงสัย คุณกำลังคิดที่จะแนะนำโรงพยาบาลของพี่สาวคุณหรอ? แพทย์ที่ดีที่สุดของประเทศจีนล้วนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้ว และพวกเขายังไม่มีความหวังมากขนาดนั้นเลย

“ระบบภูมิคุ้มกันของท่านประธานอ่อนแอเกินไปและแพทย์เกรงว่าเขาอาจเป็นไข้หวัดได้ ถ้าป่วยเป็นไข้หวัดขึ้นมา อาจพัฒนากลายเป็นโรคปอดบวม โรคกระเพาะ และอาจทำให้อวัยวะในระบบทางเดินหายใจหยุดทำงานได้ นั่นเป็นสาเหตุที่แพทย์ห้ามไม่ให้เขาสูบบุหรี่และยังระวังไม่ให้ผู้ที่สูบบุหรี่เข้าใกล้เขาด้วย” เนื่องจากเฝิงหยู่รู้เกี่ยวกับอาการของผู้อาวุโสแล้ว ผู้อำนวยการฟางก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง

บางทีผู้อำนวยการฟางอาจเชื่อว่าเฝิงหยู่จะไม่ทำร้ายผู้อาวุโส สำหรับผู้อำนวยการฟางแล้ว การติดสินบนเฝิงหยู่นั้นเป็นเรื่องยากกว่าการติดสินบนพนักงานส่งเอกสารของผู้อาวุโสเสียอีก!

เฝิงหยู่กัดฟันและพูดขึ้นมาทันที “บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงได้พัฒนายาตัวใหม่ขึ้นมาและส่วนประกอบหลักคือสารยับยั้ง PDE5 ยานี้ใช้ได้ผลดีในการรักษาโรคปอดบวม ปัญหาทางเดินหายใจ ไข้ ไอ ความดันโลหิต และอื่นๆ ผมคิดว่าคุณสามารถให้แพทย์ของท่านประธานลองทดสอบดูก่อนก็ได้ครับ”

ยาที่เฝิงหยู่กำลังพูดถึงเพิ่งผ่านการทดลองทางคลินิกเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย และกำลังอยู่ในระหว่างการประเมินยา ยานี้คือไวอากร้าและอู่จื้อกังก็ได้ทำการทดสอบที่บ้านด้วย!

จุดประสงค์แรกในการพัฒนาสารยับยั้ง PDE5 คือการรักษาความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และป้องกันการก่อตัวของลิ่มเลือด แต่ไม่ได้ผลมากนักและมูลค่าของยานี้เพิ่มขึ้นหลังจากผลข้างเคียงทำให้เกิดการเปลี่ยนวัตถุประสค์ในการใช้งาน

“ว่าไงนะ? บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงมียาตัวใหม่งั้นหรอ? คุณแน่ใจหรอว่ายานี้จะใช้ได้ผลกับโรคตามที่คุณพูดมาจริง? เฝิงหยู่ ผมจะดีกว่านี้ถ้าคุณไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าคุณแค่อยากพยายามโปรโมทยาของคุณ เรื่องนี้จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมานะ!” ผู้อำนวยการฟางตอบอย่างเย็นชา

เฝิงหยู่โกรธ ให้ตายสิ! ทุกคนคิดว่าผมสนใจแค่การหาเงินอย่างเดียวหรือไง?

เฝิงหยู่อยากจะช่วยจริงๆ เขายังไม่แน่ใจว่ายาของเขาจะได้ผลหรือไม่? แต่เมื่อชาติที่แล้ว ยาซิลเดนาฟิลเป็นยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์และใช้ได้ผลจริง แต่เฝิงหยู่ไม่รู้ว่ายานี้จะมีประสิทธิภาพในการรักษาผู้อาวุโสหรือเปล่า เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ ในช่วงนี้ประเทศจีนและแม้แต่ทั้งโลกก็ยังไม่มียานี้ จะเกิดอะไรขึ้นไรถ้ายาใช้ได้ผล?

ฤดูหนาวเป็นฤดูที่มีผู้ป่วยโรคปอดบวมมากที่สุดและเมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ ผู้อาวุโสก็เสียชีวิตเพราะโรคนี้ ในชาตินี้ เฝิงหยู่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อาวุโสจะได้เห็นการคืนเกาะฮ่องกงด้วยตาตัวเองและจากไปอย่างสงบไร้ความกังวล

“ผู้อำนวยการฟางครับ แพทย์จะเป็นคนระบุเองว่ายานี้ได้ผลหรือเปล่า? คุณไม่ใช่หมอ และหาว่าผมอยากจะโปรโมทยาตัวเองงั้นหรอครับ? คุณกำลังดูถูกผมนะ!”

ผู้อำนวยการฟางและเฝิงหยู่จ้องหน้ากันสักพัก เขาเห็นความโกรธและความกังวลในดวงตาของเฝิงหยู่

“ผมขอโทษครับ เดี๋ยวผมไปเรียกหมอให้มาเลย” ผู้อำนวยการฟางพูดกับเฝิงหยู่และเดินออกไปอย่างรีบร้อน ยาตัวใหม่ที่สามารถรักษาผู้อาวุโสได้คือสิ่งที่เขาและทุกคนในจีนปรารถนา

เฝิงหยู่เพิ่งหยิบถ้วยน้ำชาของเขาขึ้นมาทันใดนั้นประตูก็เปิดออกอย่างกะทันหัน แพทย์ 5 คนในชุดคลุมสีขาวรีบเดินเข้ามา คนที่อยู่ข้างหน้าสุดคือหมอคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้อาวุโสเมื่อกี้

“คุณเป็นคนที่อ้างว่ามียาที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคปอดบวม ปัญหาทางเดินหายใจ และความดันโลหิตงั้นหรอ?” หมอชราคว้าแขนของเฝิงหยู่และถาม

มือของเฝิงหยู่สั่นและชาก็หกลงบนกางเกงของเขา เขารีบลุกขึ้นยืนและเช็ดกางเกง “นี่คุณทำอะไรเนี่ย? เอามือออกไปจากตัวผมเดี๋ยวนี้!”

“ผมกำลังถามคุณอยู่!” หมอชราตะโกนลั่น

“นี่มันเป็นวิธีการถามคนอื่นหรือไง? ไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรอ?!” เฝิงหยู่ปัดมือหมอชราออกแล้วนั่งลง

“คุณ…. โอเค! เจ้าหนุ่มน้อย…ไม่สิ…ผู้จัดการเฝิง ที่คุณบอกเสี่ยวฟางก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริงหรอ?” หมอชราควบคุมความโกรธของเขาและถามอย่างสุภาพ

เสี่ยวฟาง? โอ้…ผู้อำนวยการฟางเนี่ยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า…ผู้อำนวยการฟางอายุห้าสิบกว่า แต่ยังถูกเรียกว่าเสี่ยวฟางอีก

“จริงสิครับ ยานี้มีชื่อว่าไวอากร้าและผลิตโดยบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิง และเพิ่งผ่านการทดลองทางคลินิก ตอนนี้ถูกส่งไปประเมินยาอยู่ พวกคุณลองทดสอบก่อนและดูว่าได้ผลหรือเปล่า” เฝิงหยู่ตอบอย่างมั่นใจ แต่เขายังคงกระวนกระวายใจ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ายานี้ไม่สามารถรักษาอาการนี้ได้และใช้ได้ผลเฉพาะ “ส่วนนั้น”?

หมอชราหันมาออกคำสั่ง “เสี่ยวหลิวไปที่แผนกประเมินยาและนำยานี้ไปด้วย เราจะจัดให้คนเข้ารับการทดลองทันที”

เสี่ยวหลิว หมอในวัยห้าสิบ รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เฝิงหยู่รู้สึกประหลาดใจที่เห็นชายชรากลุ่มนี้คล่องแคล่วมาก!

“ผู้จัดการเฝิง ถ้ายานี้ได้ผลจริง ประเทศชาติจะตอบแทนคุณอย่างงาม แต่ถ้าคุณโกหกเรา คุณจะต้องรับผลที่ตามมา!” หมอชราจ้องหน้าเฝิงหยู่

ให้ตายสิ! คนพวกนี้เป็นอะไรมากป้ะ ขนาดหมอยังอวดดีเลย!

“ตอบแทนผมหรอ? ตอนแทนยังไงหรอครับ? แค่ให้เงินผมก็ได้ รายได้ของผมอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี คุณคิดว่าจะตอบแทนผมได้เท่าไหร่?” เฝิงหยู่หัวเราะ

“คุณขอมากเกินไปแล้ว! 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีหรอ? ทำไมคุณไม่บอกไปเลยล่ะว่าคุณมีรายได้ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ!” หมออีกคนแผดเสียงใส่

หมอชราไม่พูดอะไรสักคำ เขายืนอยู่ข้างประธานก่อนหน้านี้และรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา ประธานขอพบเขาเป็นการส่วนตัวและขอคำแนะนำเขาด้วย ชายหนุ่มคนนี้อยู่ในระดับเดียวกับซูเปอร์แมนหลี่แห่งฮ่องกงเลย แม้ว่าชายหนุ่มคนนี้จะคุยโม้เรื่องรายได้ แต่ก็ไม่ควรโม้จำนวนเงินให้สูงเกินจริงมากเกินไป

ผู้อำนวยการฟางกระแอมในลำคอและขัดจังหวะ “รุ่นพี่หม่าครับ ผู้จัดการเฝิงมีรายได้ในปีที่แล้วมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐครับ!”

หมอคนที่ถามเฝิงหยู่ตกใจมาก รายได้ของชายหนุ่มคนนี้สูงมาก? รายได้ของเขามากกว่ารายได้ของทั้งจังหวัดเสียอีก!

“พวกคุณคิดว่าผมทำสิ่งนี้เพื่อผลประโยชน์งั้นหรอ? อย่าคิดว่าทุกคนจะเหมือนพวกคุณหมดสิ ผมขอแค่มีส่วนในการช่วยเหลือผู้อาวุโสเท่านั้น พวกคุณเอายาไปทดสอบกับคนที่มีอาการเดียวกันและดูว่าได้ผลหรือเปล่า ผู้อำนวยการฟาง ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ช่วยหาคนมาพาผมออกไปที” เฝิงหยู่ยืนขึ้นและเดินออกไป

ผมเข้าใจนะว่าพวกคุณเป็นกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของผู้อาวุโส แต่ก็ไม่ควรมาตัดสินคนอื่นแบบนี้!

ไม่ว่ายังไงก็ตาม เฝิงหยู่ก็พยายามเต็มที่แล้ว และหวังว่าผู้อาวุโส จะไม่จากไปก่อนเวลาอันควร