ตอนที่ 667 บ้านเกิด

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 667

บ้านเกิด

“อาจารย์ ข้ามาขอลากลับบ้านเกิดขอรับ” หลังจบการต่อสู้กับสำนักวิญญาณกระบี่ ฟงเป่าที่รักษาอาการบาดเจ็บที่มีไม่มากจนหายสนิทก็เข้ามาหาหลินเฟยเพื่อจะลากลับไปยังบ้านเกิดทันที แน่นอนว่าการกลับบ้านเกิดครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฟงเป่าหนีออกมาจากเงื้อมมือของตระกูลหยู และเหตุผลที่จะกลับไปก็เพื่อทำทุกอย่างให้จบนั่นเอง

“ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าต้องมาขอแน่ๆ ไปเถอะไปจัดการให้เรียบร้อย”หลินเฟยทราบเป้าหมายของฟงเป่ามานานมากแล้ว แถมยังใช้ความต้องการข้อนี้ของฟงเป่าในการพาตัวมันมาเป็นศิษย์อีกด้วย ตัวหลินเฟยเลยสนับสนุนจะให้ฟงเป่าทำตามความประสงค์เพราะตอนนี้คนที่จะห้ามไม่ให้ฟงเป่าแก้แค้นคงไม่มีอีกแล้ว

“ขอบคุณขอรับ”ฟงเป่าประสานมือคารวะหลินเฟยอย่างนอบน้อม ที่ตนเองสามารถแก้แค้นได้เร็วเช่นนี้ทั้งหมดเป็นเพราะหลินเฟยทั้งสิ้น หลังจากจบเรื่องแล้วฟงเป่าก็คงกลับมาที่สำนักและคอยอยู่รับใช้หลินเฟยในฐานะศิษย์เช่นนี้ต่อไป

“อาจารย์ มีจดหมายมาจากราชสำนักเจ้าค่ะ”ฟงเป่าขออนุญาตเสร็จอาทู้ก็เข้ามารายงานเรื่องต่อไปทันที ดูเหมือนราชสำนักเองก็ต้องการให้หลินเฟยจัดการหยูเจินเหอเช่นกัน จดหมายเลยถูกส่งมาทันทีที่ทราบว่าหลินเฟยกลับมาแล้ว โดยเนื้อหาในจดหมายฉบับนี้คือความประสงค์ต้องการใช้สิทธิ์ช่วยเหลือโดยไม่มีข้อแม้ของหลินเฟยที่มีต่อราชสำนักในการจัดการหยูเจินเหอเสีย แน่นอนว่าหลินเฟยตอบรับทันทีแล้วพร้อมจะเอาหัวของหยูเจินเหอไปยืนยันทันทีด้วยเช่นกัน งานนี้นับว่าหลินเฟยได้ลดโทษฟรีไป 1 รอบก็ว่าได้

.

.

น่าเสียดายที่หลินเฟยยังต้องจัดการเรื่องหลังจากนี้อีกนิดหน่อยทำให้ยืมตัวจางจินมาไม่ได้ ฟงเป่าที่ขอตัวกลับบ้านจึงต้องเดินทางด้วยเส้นทางธรรมดาอย่างรถม้าทำให้ใช้เวลาอีกพักใหญ่เลยทีเดียวกว่าจะกลับมาถึงบ้านเกิด

“…..”หลายปีมากที่ไม่ได้กลับมา ทุกๆอย่างเปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้ แต่ถึงจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ฟงเป่าก็ยังจำถนนที่ตนใช้เดินทางไปทั่วเมืองได้อยู่ จากจุดที่ลงรถม้าขอเพียงเดินทางไปตามถนนเส้นเล็กๆทางตะวันออกก็จะเดินทางถึงบ้านที่ฟงเป่าเคยอยู่ได้ไม่ยาก ฟงเป่าเฝ้าคิดถึงวันนี้มานานเท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบ วันที่จะได้กลับมาเดินบนถนนเส้นนี้

กึก….

ร่างของฟงเป่าหยุดชะงักอยู่หน้าบ้านตระกูลฟงไปอึดใจหนึ่ง บ้านหลังนี้ภายในมีศพของบิดามารดารวมถึงญาติพี่น้องของฟงเป่าอยู่ ไม่ทราบว่ามีคนจัดการอะไรหรือไม่เพราะฟงเป่าก็ไม่ได้กลับมาเลย แต่สภาพบ้านยามนี้เป็นบ้านร้างที่ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งอีกแล้ว เรื่องของตระกูลฟงกลายเป็นข่าวลือไปทั้งเมือง แถมยังมีตำนานความแค้นของตระกูลฟงอีกต่างหาก ทำให้ไม่มีใครกล้าซื้อต่อที่ดินผืนนี้เลย

“ท่านพ่อ….ท่านแม่…..ท่านตา”ฟงเป่ามองตัวบ้านที่เต็มไปด้วยคราบสกปรกด้วยท่าทีแสนจะคิดถึง ภาพบ้านที่เคยเป็นสถานที่อบอุ่นของฟงเป่าฉายซ้ำเข้ามาในความทรงจำก่อนที่ฟงเป่าจะก้าวเข้าไปในตัวบ้านช้าๆ

โชคดีดูเหมือนยังมีคนรู้จักของตระกูลฟงเข้ามาจัดการภายในบ้านอยู่บ้าง ศพของคนตระกูลฟงถูกนำไฟฝังเอาไว้ในสวนหลังบ้านพร้อมมีการตั้งป้ายหลุมศพบอกชื่อเอาไว้อีกด้วย เพียงแต่ที่ป้ายหลุมศพพวกนั้นมีชื่อ ฟงเป่า เขียนเอาไว้ด้วยเช่นกัน

“ลายมือนี้….”ฟงเป่าเพ่งมองลายมือที่เขียนชื่อคนในตระกูลฟงเอาไว้ ลายมือนี้ฟงเป่าเคยเห็นมาก่อน ยิ่งใช้ดวงตาสีทองตรวจสอบก็ยิ่งมั่นใจ ลายมือนี้เป็นลายมือของพ่อค้าตระกูลตี๋ที่อยู่กลางเมือง ร้านตระกูลตี๋แต่ก่อนเป็นคู่ค้าของตระกูลฟง สนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง หากท่านลุงตี๋ฮัวเจ้าบ้านตระกูลตี๋เป็นคนจัดการศพให้ก็นับว่าเป็นเรื่องไม่แปลกประหลาดอะไร แต่ทำไมถึงต้องเขียนชื่อฟงเป่าเข้าไปด้วยกัน

.

.

เมื่อทราบเช่นนั้น ฟงเป่าจึงเดินทางไปยังบ้านตระกูลตี๋ทันที ที่นี่เป็นร้านค้าใหญ่ของเมืองรับซื้อและขายวัตถุดิบหายากเหมือนร้านตระกูลชุนไม่มีผิด แต่ก่อนร้านนี้รับสินค้าจากครอบครัวตระกูลฟงทำให้สามารถขายของหายากได้อย่างมั่นใจจนทำให้ร้านใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนได้รับความนับถือจากคนในเมืองในเวลาไม่นาน

“สวัสดีเจ้าค่ะคุณลูกค้า”ทันทีที่เดินเข้ามาในร้าน พนักงานต้อนรับก็เข้าไปหาฟงเป่าด้วยท่าทียิ้มแย้มทันที ตอนนี้ฟงเป่าแต่งกายด้วยเครื่องแบบสำนักเหยี่ยวทะเลทราย สำหรับร้านขายของหายากในเมืองภายนอกนั้นนับฟงเป่าดูเป็นลูกค้าชั้นดีไม่น้อยเลย

“เจ้าของร้านอยู่หรือเปล่าขอรับ”ฟงเป่าถามพลางยิ้มบางๆออกมา นานมากแล้วที่ไม่ได้มาที่ร้านของท่านลุงตี๋ อย่างน้อยร้านนี้ก็ยังไม่ต่างไปจากเดิมมาก

“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าได้นัดเอาไว้หรือเปล่าเจ้าคะ”หญิงสาวพนักงานถามด้วยท่าทีสงสัย ช่วยไม่ได้หรอกการจะเจอเจ้าของร้านไม่ใช่เรื่องที่นึกจะเดินเข้ามาก็สามารถเจอได้ทันทีเสียหน่อย

“บอกท่านว่าหลานฟงเป่ามาขอพบ”ฟงเป่าตอบออกไปตามตรงเพราะไม่คิดจะปิดบังตัวเองอีกต่อไปแล้ว แต่ทางพนักงานสาวดูเหมือนจะงุนงงนิดหน่อยก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปในร้านด้วยท่าทีข้องใจไม่หาย เพียงแต่ท่านลุงตี๋พอได้ยินว่าผู้มาหาคือฟงเป่ากลับรีบวิ่งออกมาด้วยท่าทีแตกตื่นทันที ชนิดที่ว่าทำเอาคนในร้านตกใจกันถ้วนหน้า

“ฟ…..หลานชาย เจ้ากลับมาแล้ว เข้ามาๆข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน”ตี๋ฮัวเห็นฟงเป่าก็มีท่าทีแตกตื่นใจอย่างมาก มันรีบพาตัวฟงเป่าเข้าไปในห้องก่อนจะสั่งให้บ่าวรับใช้ออกไปจากห้องให้หมดทันที

“ฟงเป่า เจ้าต้องระวังอย่าประกาศชื่อตัวเองให้ใครรู้เข้าใจหรือเปล่า หากพวกตระกูลหยูรู้เข้าว่าเจ้ากลับมาพวกมันจะทำอะไรบ้างก็ไม่รู้”ตี๋ฮัวว่าพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ ท่าทางข่าวของหยูเจินเหอจะยังมาไม่ถึงเมืองนี้สินะ

“ไม่ต้องห่วงหรอกขอรับท่านลุง ข้ามาหาท่านเพื่อจะขอบคุณท่านเรื่องที่ท่านจัดการศพของคนในครอบครัวข้าให้”ฟงเป่าประสานมือก่อนจะก้มลงคารวะตี๋ฮัวอย่างนอบน้อม หากร่างของบิดามารดาของฟงเป่าต้องนอนในสภาพตอนตายมาตลอดหลายปีละก็ฟงเป่าคงเสียใจหนักกว่านี้แน่ๆ

“ข้าเป็นเพื่อนของตาเจ้าข้าก็ต้องทำสิ วันนั้นข้าไม่เห็นร่างของเจ้าก็คิดว่าเจ้าคงหนีไปได้ ข้าเขียนชื่อเจ้าเอาไว้หวังจะหลอกคนตระกูลหยูเจ้าคงไม่ถือสานะ”ตี๋ฮัวถามพลางมองฟงเป่าด้วยท่าทีตื้นตันใจ วันนั้นมันตัดสินใจเขียนชื่อของฟงเป่าเพื่อจะหลอกตระกูลหยูว่าฟงเป่าเองก็ตายไปด้วย อย่างน้อยก็อาจจะทำให้ตระกูลหยูไม่ตามล่าฟงเป่าต่อ และเพราะแบบนั้นทำให้ตี๋ฮัวเชื่อมั่นมาเสมอว่าฟงเป่ายังไม่ตายและคงใช้ชีวิตอยู่ที่ใดที่หนึ่งในแผ่นดินนี้เป็นแน่ การได้พบฟงเป่าเช่นนี้นับว่าทำให้ตี๋ฮัวโล่งอกอย่างมาก ครั้งใดที่ไหว้พระคงบอกตาของฟงเป่าได้เสียทีว่าไม่ต้องห่วงหลานชายของมันแล้ว

“ท่านลุงตี๋ ท่านไม่ต้องห่วงนะขอรับ ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”ฟงเป่าว่าพลางเงยหน้าขึ้นมาช้าๆก่อนจะปล่อยพลังวิญญาณของตนออกมาให้ตี๋ฮัวรับทราบ พลังของฟงเป่ายามนี้เหนือกว่าหยูจ้านและหยูต้านเจียนอย่างมาก และต่อให้ยอดฝีมือของตระกูลหยูเข้ามารุมทำร้ายฟงเป่าก็มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะได้

“ฟงเป่า เจ้าต้องคิดให้ดีๆนะ ถึงตอนนี้บ้านตระกูลหยูจะอยู่ในสภาพย่ำแย่ แต่พวกมันก็ยังมีหยูเจินเหออยู่”ตี๋ฮัวเตือนฟงเป่าทันที เมื่อได้สัมผัสพลังวิญญาณของฟงเป่าก็นึกว่าฟงเป่าจะอาศัยจังหวะนี้เล่นงานตระกูลหยู แต่หากทำเช่นนั้นหยูเจินเหอคงต้องตามล่าฟงเป่าแน่ๆ

“ไม่ต้องห่วงขอรับ ข้าสังหารหยูเจินเหอไปแล้ว”ฟงเป่าตอบพลางขอตัวลาออกจากร้านไปปล่อยให้ตี๋ฮัวแสดงสีหน้างุนงงอยู่ในร้านไม่ทราบจะเชื่อที่ฟงเป่าพูดมาดีหรือไม่

.

.

“…………”ฟงเป่ามุ่งหน้ามาถึงบ้านตระกูลหยูพอได้เห็นสภาพบ้านตอนนี้ฟงเป่าก็อดประหลาดใจไม่ได้เลย ตอนแรกนึกว่าตนเองจะต้องเจอศึกหนักเพราะคนตระกูลหยูก็จ้างยอดฝีมือเอาไว้ไม่น้อย แม้จะมีคนระดับเสินเซียนขั้นสิบไม่มากแต่ก็มีพวกระดับขั้นสูงๆหลายคนทีเดียว แต่ยามนี้อย่าว่าแต่คนพวกนั้นเลยลำพังตัวบ้านพังขนาดนั้นตระกูลหยูควรมีคนงานมาช่วยซ่อมแซมเป็นสิบเป็นร้อยแล้ว แต่นี่กลับมีคนซ่อมอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น

“เจ้า ห้ามเข้ามานะ”ฟงเป่าเดินเข้าไปในตัวบ้านตระกูลหยูอย่างง่ายดาย คนเฝ้าประตีระดับพลังไม่ถึงระดับเสินเซียนเสียด้วยซ้ำ มันไม่กล้าแม้แต่จะเข้ามาขวางฟงเป่าราวกับพึ่งเคยมาทำงานเช่นนี้เป็นครั้งแรกไม่มีผิด

“นี่คือฝีมือท่านน้าจูล่งงั้นหรือ”ฟงเป่ามองสภาพบ้านตระกูลหยูด้วยท่าทีขนลุก จากเรื่องที่หยูเจินเหอจับตัวไป๋ฟานไปก็พอทราบว่าท่านน้าของอาจารย์อย่างไป๋จูล่งเข้าไปทำลายบ้านของตระกูลหยูจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่ก็ไม่นึกเลยว่าบ้านตระกูลหยูจะวอดวายถึงเพียงนี้

“พี่ต้านเจียน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”ระหว่างเดินเข้ามาในตัวบ้านตระกูลหยู ฟงเป่าก็บังเอิญได้ยินเสียงๆหนึ่งเข้าเสียก่อน เสียงนั้นเป็นเสียงที่ฟงเป่าไม่มีทางลืมแน่ๆ เพราะมันคือเสียงของบุตรสาวตระกูลติงผู้เคยเป็นคู่หมั้นของฟงเป่านั่นเอง

“น้องติง เจ้ามาแล้วงั้นหรือ”เสียงของหยูต้านเจียนดังขึ้นมาจากทางเดียวกัน ก่อนที่ฟงเป่าจะเดินเข้าไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“พี่ต้านเจียน ข้าพึ่งจะกลับมาจากเมืองอื่น ข้าขอโทษจริงๆที่ไม่ได้เข้ามาช่วยตั้งแต่แรก ท่านไม่ต้องกลัวนะข้าจะให้คนงานที่บ้านมาช่วยซ่อมแซมบ้านของท่านเอง”แม่นางติงว่าพลางเดินเข้าไปหาหยูต้านเจียนด้วยท่าทีสนิทสนมอย่างประหลาด ตระกูลติงนั้นเป็นตระกูลที่ร่ำรวยไม่น้อยที่ยังส่งคนมาช่วยตระกูลหยูและยังให้บุตรสาวของตนคบหากับหยูต้านเจียนอยู่นั้นเพราะพวกมันยังต้องการอำนาจของหยูเจินเหออยู่ แม้สมบัติตระกูลหยูจะถูกเผาวอดวายแต่ก็ยังส่งบุตรสาวมามอบความช่วยเหลืออยู่ดี

“น้องติง นี่เจ้า….”ฟงเป่าพูดพลางเดินออกไปหาทั้งสองคนด้วยท่าทีอึ้งๆ เท่าที่จำได้หยูต้านเจียนมีเรื่องกับมันเพราะมันมาชอบคุณหนูตระกูลติง หลังจากสังหารคนตระกูลฟงจนสิ้นมันก็ลักพาตัวบุตรสาวตระกูลติงไปไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้ทั้งสองถึงได้ดูสนิทสนมกันนัก

“ฟงเป่า…..”คุณหนูตระกูลติงเห็นฟงเป่าเข้าก็จำได้ทันที อย่างไรนางก็เคยเป็นคู่หมั้นของมันโครงหน้าของฟงเป่ามีหรือนางจะจำไม่ได้

“ฟงเป่า….เด็กตระกูลฟงงั้นเหรอ”หยูต้านเจียนว่าพลางมองมาทางฟงเป่าด้วยท่าทีตกใจ มีข่าวลือว่าไป๋จูล่งคนนั้นเป็นคนที่คนตระกูลฟงส่งมา หรือว่าแท้จริงแล้วคนที่บงการไป๋จูล่งจะเป็นฟงเป่ากันแน่….