บทที่ 1391 ถังถังยังสบายดีไหม / บทที่ 1392 เบบี๋แย่ตรงไหน

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1391 ถังถังยังสบายดีไหม

ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดเช่นนี้ นักพรตใจบริสุทธิ์กับเนี่ยอู๋หมิงก็มึนงงโดยสมบูรณ์แล้ว ยังมีธุรกิจอย่างนี้อยู่ด้วยเหรอ!

“ฉันก็ไม่ซื้อขาดพวกนายหรอกนะแต่จะให้ส่วนแบ่ง ให้พวกนายลงทุนด้วย ถึงตอนนั้นเงินจะไหลมาเทมา…ตระกูลเสิ่นรวยล้นฟ้าอะไรนั่นก็ต้องหลีกทางให้ ถึงตอนนั้นพวกเราจะรวยกว่าตระกูลเสิ่นอีก!” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยหว่านล้อม

“หัวหน้า พวกเราจะรวยแล้ว!” นักพรตใจบริสุทธิ์ฟังจนหัวหมุนแต่สีหน้ากลับเปี่ยวความตื่นเต้น ตระกูลเสิ่นนั่นอาศัยกำลังทรัพย์ล้วนๆ ถึงเบียดเข้าสี่ตระกูลใหญ่ได้…ถ้าพวกเขายังรวยกว่าตระกูลเสิ่นละก็…

“หุบปาก!” เนี่ยอู๋หมิงถลึงตาใส่นักพรตใจบริสุทธิ์หนึ่งทีจากนั้นก็หันมองเยี่ยหวันหวั่น ใบหน้าพลันสวมรอยยิ้มประจบประแจง “งั้น…เถ้าแก่โหย่วหมิง…เถ้าแก่โหย่วหมิงว่าอันนี้ซื้อขาดราคาเท่าไร…แล้วส่วนเบ่งแบ่งยังไง…”

“เห็นแก่ความสัมพันธ์ของพวกเรา ฉันไม่เอาเปรียบคุณแน่นอน ฉันคนนี้ไม่เคยหลอกเงินคนสนิท…ยี่สิบแปดสิบ” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเอ่ย

ได้ยินแบบนั้นเนี่ยอู๋หมิงพลันมีสีหน้ายินดี แต่ยังไม่รอให้เอ่ยปากเยี่ยหวันหวั่นก็พูดอีก “ฉันแปดสิบ นายยี่สิบ”

“ฉันยี่สิบ?” เนี่ยอู๋หมิงชะงัก

“หัวหน้า พวกเรายี่สิบอ่ะ…” นักพรคใจบริสุทธิ์ไม่ค่อยพอใจเท่าไร

แต่เนี่ยอู๋หมิงครุ่นคิดชั่วครู่และสุดท้ายก็พยักหน้า “ขอแค่ได้เงิน ฉันยี่สิบก็ยี่สิบ…แล้ววิธีหาเงินนี้ถูกกฎหมายใช่ไหม”

“ยิ่งกว่าถูกกฎหมายอีก เป็นสากลชัดๆ รอเดธโรสกลายเป็นลิขสิทธิ์ใหญ่จริงจังแล้ว ทั้งโลกจะรู้ว่าเนี่ยอู๋หมิงคุณคือผู้แต่ง” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้ารัว

ยังไม่รอให้เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยปากต่อเยี่ยหวันหวั่นก็ล้วงเอาธนบัตรใหญ่ร้อยหยวนห้าใบมาวางในมือเนี่ยอู๋หมิงเบาๆ “นี่จ่ายเป็นค่าโอนแล้วกัน…คุณรับไว้ก่อน”

“แค่ห้าร้อย…” เนี่ยอู๋หมิงไม่พอใจอยู่บ้าง

“รอหลังจากนี้ได้เงินแล้วคุณยังจะสนเงินแค่นี้อยู่เหรอ วิสัยทัศน์ต้องกว้างไกลหน่อยสิ เชื่อฉัน ไม่ผิดหรอก” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างหนักแน่นจริงใจ

“หัวหน้า เถ้าแก่โหย่วหมิงเป็นผู้จัดการชื่อดังที่ประเทศจีนเชียวนะ แถมยังปั้นราชาจอเงินกับราชินีจอเงินหลายคนอีก ความน่าเชื่อถือสูงลิ่วเลยนะ!” นักพรตใจบริสุทธิ์เอ่ยปาก

และจากวันนี้เป็นต้นไป เดธโรสของเธอก็เป็นจริงและมีผล ไม่ใช่การสวมรอยอีกต่อไป

ผ่านไปชั่วครู่พวกเยี่ยหวันหวั่นกับเนี่ยอู๋หมิงก็ออกมาอยู่ในสายตาทุกคนอีกครั้ง

เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันขอพูดหน่อย คืออย่างนี้…ก่อนหน้านี้พวกฉันผิดไปแล้ว พวกนายไม่ได้สวมรอย…ต้องโทษเจ้าขยะนี่พูดชวนให้สับสน”

นักพรตใจบริสุทธิ์หมดคำพูดทันที ความสามารถในการหักหลังเพื่อนของหัวหน้านี่…

“ยังไม่ขอโทษแม่ม่ายอีก” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ย

นักพรตใจบริสุทธิ์มองเยี่ยหวันหวั่นแล้วยิ้มเอ่ยอย่างขอโทษ “แม่ม่าย ผมผิดไปแล้ว…ขออภัยเป็นอย่างสูง ครั้งหน้าผมจะทำให้ชัดเจนแน่นอน วันนี้รบกวนจริงๆ ครับ”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

แม่แกสิแม่ม่าย ทั้งตระกูลแกเป็นแม่ม่ายกันหมด…

“ช่างเถอะ ไม่รู้ไม่ผิด เรื่องวันนี้แค่เข้าใจผิดกันเท่านั้น ทุกคนไม่ต้องจริงจัง” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

ได้ยินแบบนั้นผู้แข็งแกร่งที่เมื่อครู่นี้ในใจนึกสงสัยเล็กน้อยก็ไม่สงสัยอีก แม้แต่คนตระกูลเนี่ยก็พูดแบบนี้แล้ว…พี่ใหญ่ของพวกเขาต้องเป็นแม่ม่ายดำไม่ผิดแน่!

“หึ พวกคุณก็หยาบคาบเกินไป หวังว่าการกระทำครั้งหน้าจะคิดสามครั้งก่อนทำนะ” เจียงเฉิงหน้าบูดบึ้งไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“ได้…ฉันจะจำไว้ ครั้งหน้าฉันต้องคิดสามครั้งก่อนทำ ไม่แส่หาเรื่องอีกแน่นอน” นักพรตใจบริสุทธิ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยใจอยู่บ้าง

ผ่านไปสักครู่เยี่ยหวันหวั่นก็เอ่ย “ในเมื่อเรื่องเรียบร้อยแล้วฉันจะไปส่งสองท่านนี้กลับ”

หลังอธิบายกับพวกเหล่าเจียงและโลลิน้อยหนึ่งรอบ เยี่ยหวันหวั่นก็พาเนี่ยอู๋หมิงกับนักพรตใจบริสุทธิ์เดินออกจากคฤหาสน์

“ถังถังอยู่บ้าน…ยังสบายดีไหม…”

ระหว่างทาง เยี่ยหวันหวั่นมองเนี่ยอู๋หมิงพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย

————————————————————————————-

บทที่ 1392 เบบี๋แย่ตรงไหน

ได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่นเนี่ยอู๋หมิงก็ชะงักเล็กน้อย อยู่ดีๆ ทำไมถึงถามถึงจอมมารน้อยนั่นได้ล่ะ

“เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” หลังเนี่ยอู๋หมิงครุ่นคิดสักครู่ก็เอ่ยปาก “จอมมารน้อยนั่นหลังกลับมาก็ไม่ใกล้ชิดกับแม่แท้ๆ ตัวเอง อยู่บ้านไม่มีขื่อมีแปใครก็ดูแลไม่ได้ ดื้อจะตายชัก”

ได้ยินเนี่ยอู๋หมิงพูดเช่นนี้เยี่ยหวันหวั่นก็อดชำเลืองมองอีกฝ่ายหนึ่งทีไม่ได้ เบบี๋ถังถังดื้อตรงไหน ทำไมเธอไม่เห็นรู้เลย

“เด็กก็เป็นแบบนี้แหละ…เขาสนิทกับแม่ก็ดีสิ” นักพรตใจบริสุทธ์เข้ามาใกล้แล้วยิ้มเอ่ย

“หึ ใครจะรู้ว่าใช่แม่เขาจริงหรือเปล่า!” เนี่ยอู๋หมิงแค่นเสียงเย็นหนึ่งที ดูยังไงน้องสาวคนนั้นของเขาก็ดูรกตาเหลือเกิน

“พอดีเลย ไหนๆ น้องโหย่วหมิงก็มาแล้ว ไปนั่งเล่นที่บ้านฉันหน่อยเป็นไง” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น

“บ้านคุณอยู่ไหน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปากถาม

“เขตเนี่ย น้องโหย่งหมิงมาถึงรัฐอิสระก็คงเคยได้ยินชื่อตระกูลเนี่ยแล้วสินะ” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ย

“ตระกูลเนี่ย…” เยี่ยหวันหวั่นอดพินิจมองเนี่ยอู๋หมิงหลายทีไม่ได้ “คุณเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของรัฐอิสระ คนของตระกูลเนี่ยจริงๆ เหรอ”

“แล้วไม่ใช่เหรอ เถ้าแก่โหย่วหมิง หัวหน้าพวกเราก็คือคุณชายใหญ่ของตระกูลเนี่ยนั่นแหละ!” นักพรตใจบริสุทธิ์เอ่ยปาก

“คุณชายใหญ่ตระกูลเนี่ย…” เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองเนี่ยอู๋หมิงด้วยสีหน้าประหลาดใจไม่อยากเชื่อ

ตระกูลเนี่ยนั้นเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของรัฐอิสระ อำนาจค้ำฟ้าน่าหวั่นเกรง ไม่น่าเชื่อว่าเนี่ยอู๋หมิงนี้จะเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเนี่ย…

แต่พินิจพิจารณาดูยังไงก็กลับดูไม่เหมือน

ในฐานะคุณชายใหญ่ตระกูลเนี่ยไหงถึงยาจกถึงขั้นนั้นได้…

“ฮ่าๆ น้องโหย่วหมิง ในเมื่อมาแล้วก็ไม่สู้ไปพักที่บ้านตระกูลเนี่ยชั่วคราวเถอะ ถึงยังไงน้องโหย่วหมิงก็ไม่มีบัตรผ่าน อยู่ที่บ้านตระกูลเนี่ยยังพอปลอดภัยบ้าง” เนี่ยอู๋หมิงหัวเราะแล้วเอ่ย

เยี่ยหวันหวั่นตกอยู่ในห้วงความคิด ถึงเธอคิดถึงถังถังแต่ตอนนี้ก็ไม่เหมาะจะไปบ้านตระกูลเนี่ย

สามวันหลังจากนี้เธอยังต้องรับคำเชิญของอาชูร่าเข้าร่วมงานประชุมอาชูร่า เวลาค่อนข้างชนกัน อีกอย่างจากประสบการณ์ตอนอยู่ประเทศจีน คุณนายเนี่ยกับแม่แท้ๆ ของถังถังไม่ค่อยต้อนรับตัวเธอเท่าไร…

“ฉันยังมีบางเรื่องต้องจัดการ ในเมื่อมารัฐอิสระแล้วฉันต้องไปเยี่ยมตระกูลเนี่ยคุณแน่นอน ตอนนี้ยังไม่รีบ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย

“หัวหน้า พวกเราอย่าถ่วงเวลาเถ้าแก่โหย่วหมิงหาเงินเลย เถ้าแก่โหย่วหมิงเพิ่งได้ลิขสิทธิ์เดธโรสไปจะต้องมีงานกองพะเนินแน่ ถ่วงเวลาเถ้าแก่โหย่วหมิงหาเงินก็ไม่เท่ากับถ่วงเวลาพวกเราหาเงินหรอกเหรอ” นักพรตใจบริสุทธิ์เอ่ยกับเนี่ยอู๋หมิง

เนี่ยอู๋หมิงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำพูดของนักพรตใจบริสุทธิ์

“จริงสิ พวกคุณเจอคนที่ฉันให้พวกคุณหาครั้งก่อนแล้วหรือยัง” เยี่ยหวันหวั่นพลันนึกขึ้นได้ วันนั้นตอนที่พวกเนี่ยอู๋หมิงออกจากประเทศจีน เธอเคยไหว้วานพวกเขาให้ตามหาซือเยี่ยหาน แต่คนพวกนี้ไม่น่าเชื่อถือซะอย่างนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้หวังมากมาย

“เรื่องที่น้องโหย่วหมิงว่าพวกเราต้องใส่ใจแน่นอนอยู่แล้ว…” เนี่ยอู๋หมิงมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างแฝงปริศนา เขาเหลือบมองรอบด้านจากนั้นก็แอบถูมือเอ่ยปาก “น้องโหย่วหมิง ฉันหาข่าวนี้ต้องติดสินบนใครต่อใครไปไม่น้อย…น้องโหย่วหมิงว่า…”

เนี่ยอู๋หมิงยื่นมืออกมา เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปากขึ้นน้อยๆ ในหัวคนคนนี้มีแต่เงินเหรอเนี่ย

คุณชายใหญ่ตระกูลเนี่ยหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของรัฐอิสระอันยิ่งใหญ่…ช่างขายหน้าตระกูลเนี่ยเสียไม่มี…

เยี่ยหวันหวั่นจ้องเนี่ยอู๋หมิงหน้าดำทะมึน จากนั้นก็ล้วงธนบัตรร้อยหยวนหนึ่งใบจากในกระเป๋าเสื้อส่งให้เนี่ยอู๋หมิง