TB:บทที่ 321 การแก้แค้นของพวกชาวญี่ปุ่น (3)
ก่อนหน้านี้เฉินหลงคิดว่าถ้าหัวหน้ากังจ้องเล่นงานเขาแค่คนเดียว เขาจะยอมไว้ชีวิตเขา แต่ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าทำร้ายจี้โม่ซี คนๆนั้นมีแต่ต้องตายสถานเดียว!
เฉินหลงยังคงยืนอยู่กับที่ซัดหมัดใส่กังโชสองหมัด
หมัดที่พุ่งออกมาสองหมัดเปรียบเสมือนกับภูเขาสองลูกตรงเข้าไปหากังโช กังโชหลบไม่ทันจึงชักดาบออกมาสกัดหมัดเอาไว้
ในตอนที่ดาบของเขาปะทะกับพลังหมัดของเฉินหลง พลังหมัดที่รุนแรงและทรงพลังของเฉินหลงทำให้ดาบนินจาแตกสลายหายไปในทันที และในขณะที่กังโชกำลังตกตะลึงอยู่นั้น เขาก็ถูกพลังหมัดจนพ่นเลือดออกมาเต็มปาก
เนื่องจากดาบนินจาไม่สามารถต้านพลังของอีกฝ่าย ทำให้ร่างของเขาจึงถูกพลังหมัดของเฉินหลงเข้าอย่างจัง
กังโชใช้จังหวะตอนที่ใช้ตนกำลังต้านพลังของเฉินหลง ให้นินจาอีกคนวิ่งหนีไปอีกทาง
เมื่อถูกเฉินหลงโจมตี กังโชก็เข้าใจในทันทีว่าถึงเฉินหลงจะต้องปกป้องจี้โม่ซีอีกคน เฉินหลงก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาอยู่วันยังค่ำ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายเป็นการวิ่งหนีไปอีกทาง
กังโชและนินจาอีกคนคิดว่าการเปลี่ยนเป้าหมายจะเป็นความคิดที่เข้าท่า แม้ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับเฉินหลงแต่พวกเขาก็มั่นใจมากว่าพวกเขาจะทำสำเร็จ แต่ในตอนนี้พวกเขาได้รู้แล้วว่าพวกเขาคิดผิดถนัด
เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ทั้งสองคนกำลังจะวิ่งหนี เฉินหลงจึงใช้ระเบิดลูกไฟเพื่อปิดกั้นทางหนีที่ทั้งสองกำลังวิ่งไปเอาไว้
ในตอนที่ทั้งสองกำลังวิ่งอยู่นั้นระเบิดลูกไฟก็พุ่งมาตรงหน้าและระเบิดทันที
นอกจากแรงระเบิดจากระเบิดลูกไฟทำให้กังโชและสหายไม่สามารถวิ่งต่อไปได้แล้วมันยังทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
ระเบิดลูกไฟเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ถ้าพวกเขาถูกเฉินหลงเพ่งเล็ง ก็ไม่มีสิทธิ์วิ่งหนีไปได้ง่ายๆ
หลังจากกังโชและสหายถูกแรงระเบิดซัดกลับมา พวกเขาก็ได้พบเจอกับหมัดอันทรงพลังของเฉินหลงอีกครั้ง
แต่ไม่มีทางที่กังโชจะสามารถรับพลังหมัดของเฉินหลงได้อีกครั้ง จึงถูกเฉินหลงซัดจนตัวลอย จากนั้นเขาก็ถูกเฉินหลงใช้ระเบิดลูกไฟพัดกลับมาที่เดิมอีกรอบ
หลังจากถูกระเบิดพัดกลับมาที่เดิม ทันใดนั้นความสิ้นหวังได้ก่อตัวขึ้นภายในใจของกังโช ตอนนี้เขาอยู่เหมือนคนตายทั้งเป็นจะสู้ไม่ได้หรือจะหนีก็ทำไม่ได้เช่นกัน เขามองดูเฉินหลงที่ยังคงเล่นกับร่างกายของเขาเหมือนกับของเล่นชิ้นหนึ่งโดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กังโชและผู้ติดตามถึงกับยอมจำนนเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเล่นงานจนถึงตาย ความแข็งแกร่งของพวกเขาคือหลอมรวมธรรมชาติ และพวกเขาต่างภาคภูมิใจที่ตัวเองมีพลังระดับหลอมรวมธรรมชาติเป็นอย่างมาก เขาไม่มีวันยอมให้ตัวเองถูกฆ่าตายได้ง่ายๆเหมือนของเล่นราคาถูกเด็ดขาด
แม้กังโชและผู้ติดตามยอมแพ้แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะเฉินหลงในตอนนี้ไม่มีทางให้อภัยในสิ่งที่พวกมันทำ ในเมื่อพวกมันอยากตาย เขาก็จะจัดให้ตามคำขอ!
ตู้ม!
หมัดสองหมัดพุ่งเข้าใส่กังโชและผู้ติดตาม ทันใดนั้นร่างของทั้งสองก็ระเบิดเป็นจุน
หลังจากจัดการกับกังโชเสร็จแล้ว เฉินหลงจึงหมุนตัวเดินไปหานินจาที่เหลืออีกสามที่บาดเจ็บ
นินจาคนไหนก็ตามที่กล้ามากระตุกหนวดเสือ มันต้องตายสถานเดียว!
ด้วยกำหมัดของเฉินหลง พวกเขาทุกคนถูกฆ่าตายไม่ต่างจากแมลงหวี่
ทางด้านเต่ากวงหาน เขาใช้เวลาไม่นานจัดการนินจาที่อยู่ระดับกำเนิด
แอนเดสลงมือสังหารนินจาจนร่างแหลกสลายกลายเป็นผุยผง
เรื่องการแก้แค้นของพวกชาวญี่ปุ่น เฉินหลงก็สามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายด้วยการทำให้จุดจบของนินจาพวกนั้นกลายเป็นผุยผง
อ้อ จริงสิ ยังเหลืออีกคนนึงที่หนีไปได้ นินจาคนที่ชื่อซากุระ พอหมอนั่นเห็นสถานการณ์เริ่มแย่ก็ทิ้งสหายและวิ่งหนีไปเลย หึ ขี้ขลาดชะมัด!
ส่วนทหารรับจ้างอีกหกคนที่เห็นสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่กล้าแม้แต่จะปริปากพูด เกรงว่าถ้าตัวเองแสดงออกอีกหน่อย พวกเขาจะต้องถูกอีกฝ่ายจับได้ ถ้าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับยอดมนุษย์อย่างเฉินหลงและเหล่าลูกน้องของเขาแล้ว พวกเขาไม่มีทางชนะแน่
แต่อย่างไรก็ตาม คนพวกนั้นถูกเฉินหลงจับได้ เขาจึงหันไปสั่งหวู่เต่าเทียนจับพวกเขาทั้งหกคนมา
ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากเฉินหลง หวู่เต่าเทียนก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
พริบตาเดียว ร่างของหวู่เต่าเทียนก็ได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าทหารรับจ้างทั้งหกคน
ทันทีที่หวู่เต่าเทียนปรากฏตัวตรงหน้า ชายผิวขาวที่เป็นหัวหน้าทีมหน้าถอดสีแล้วพูดออกมาว่า “มีคนเจอตัวพวกเราเจอแล้ว วิ่ง!”
ทันใดนั้นชายผิวขาวก็รีบวางปืนสไนลงบนพื้นแล้ววิ่งหนีไปทันที
จากนั้นสมาชิกคนอื่นๆในทีมจึงวางกระบอกปืนที่หนักอึ้งลงบนพื้นแล้ววิ่งหนีตามหัวหน้าของตนไป ถึงพวกเขาจะเก่งกาจมากกว่าคนธรรมดา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะหวู่เต่าเทียนได้ ทหารรับจ้างทั้งหกนายจึงถูกหวู่เต่าเทียนพาตัวไปหาเฉินหลง
หลังจากทำการสืบประวัติ เฉินหลงถึงได้รู้ว่าทั้งหกคนนี้ถูกส่งมาโดยคนที่เขารู้จัก และคนที่จ้างวานทหารรับจ้างทั้งหกนายมาจัดการเขาก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแต่เป็นคาร์ลที่กำลังกระโดดน้ำอย่างสำราญใจอยู่บนเรือสำราญ
คาร์ลคนนี้ช่างขยันจริงๆ เขาหาที่นี่เจอถึงได้ส่งทหารรับจ้างมาฆ่าเฉินหลงและแอนเดส
“หึ คาร์ล นายกล้ามากที่ส่งมือปืนมาลอบฆ่าฉัน นายคงอยากตายมากเลยสินะ ตาย… นายต้องตาย!” เมื่อได้ยินว่าคาร์ลเป็นคนส่งทหารรับจ้างทั้งหกนายมา แอนเดสก็รู้สึกมีน้ำโหขึ้นมาทันที เขาให้อีกฝ่ายกระโดดน้ำที่ท่าเรือ แต่อีกฝ่ายกลับมาแก้แค้นตัวเองซะอย่างนั้น คนที่กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ มันต้องตายสถานเดียว!
“แอนเดส ตอนนี้คาร์ลอยู่ที่นิวยอร์ก ห่างจากเราประมาณคาบสมุทรแปซิฟิก ถึงนายจะอยากฆ่าเขาให้ตาย นายก็ทำมันตอนนี้ไม่ได้หรอกนะ” เฉินหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ว่ายังไง ผมก็จะตามไปฆ่าหมอนั่นให้ได้ ผมจะไปนิวยอร์กแล้วฆ่าผู้ชายคนนั้นทันที ไม่สิ ผมจะปล่อยให้เขาตายสบายๆแบบนั้นไม่ได้ ผมจะเก็บวิญญาณของเขา ผนึกวิญญาณไว้ ผมจะได้ทรมานเขาได้ทุกเมื่อ จากนั้นผมก็จะทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นหุ่นเชิด เขาจะต้องเป็นทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์และต้องชดใช้ผลกรรมที่เคยทำไว้ให้ผม” แอนเดสกล่าวพร้อมกับแสดงความบ้าคลั่งออกมาผ่านใบหน้า
เมื่อเห็นท่าทางของแอนเดสในตอนที่กำลังพูดถึงวิธีทรมานคน เฉินหลงรู้สึกถึงไอเย็นที่แผ่ออกมาจากคนตรงหน้า ถึงปกติผู้ชายคนนี้จะดูไม่เหมือนพ่อมดแห่งศาสตร์มืดสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังเป็นพ่อมดแห่งศาสตร์มืด เขาถึงได้พูดเรื่องการทรมานในแบบฉบับพ่อมดแห่งศาสตร์มืด
ส่วนนินจาซากุระที่หลบหนีออกมาได้กลับไปที่นครแห่งหมอก เนื่องจากหัวหน้ากังโชและนินจาคนอื่นๆตายไปหมดแล้ว เขาจึงได้ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อเฉินหลงอีก
ซากุระใช้โอกาสนี้อำพลางชื่อของตัวเองและลาออกจากองค์กร ในตึกแห่งหนึ่งในนครหมอก ในนั้นมีเงินสดสิบล้านดอลลาร์อยู่ เงินก้อนนี้เพียงพอให้เขาอาศัยอยู่ที่นี่ได้
เมื่อซากุระได้เงิน เขาก็หายตัวไปในหมอกหนาของนครแห่งหมอก
ทหารรับจ้างทั้งหกนายเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ไม่มีพิษมีภัย เฉินหลงจึงปล่อยพวกเขาทั้งหกคนให้บอร์แมนเป็นคนดูและและให้พวกเขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริษัทรักษาความปลอดภัย เขามั่นใจมากว่าบอร์แมนจะให้สั่งสอนพวกเขาเป็นอย่างดี
หลังจากนั้น แอนเดสได้ขอให้สภาแห่งศาสตร์มืดส่งคนมาช่วยเขา
เพื่อตอบรับคำขอจากแอนเดส ประธานแห่งสภาแห่งศาสตร์มืดจึงได้หารือกับสมาชิกรัฐสภาและสมาชิกอาวุโส
“ท่านมีความเห็นอย่างไรต่อคำขอของแอนเดส” ท่านประธานถามความเห็นจากสมาชิกรัฐสภาและสามาชิกอาวุโส
“ข้าไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แอนเดสสามาถนำสิ่งที่เราต้องการมาตลอดมายังสภาของเรา และเฉินหลงเป็นบุคคนสำคัญของบริษัทเว่ยหลง หากเราไม่ได้แสดงความจริงใจ อีกฝ่ายอาจจะคิดว่าสภาแห่งศาตร์มืดของเรานั้นไร้ความสามารถ ข้ายินดีตอบรับคำขอจากแอนเดส”
“ในฐานะสมาชิกสภาแห่งศาสตร์มืด ข้าเองก็เห็นด้วยกับท่าน การที่เขาถูกมนุษย์ข่มเหงรังแกเป็นเรื่องที่ข้ายอมรับไม่ได้ ข้าจะส่งยอดฝีมือไปช่วยเขา และข้าจะมอบบทเรียนที่ไม่มีวันลืมให้แก่มนุษย์ที่กล้ามาต่อกรกับสภาแห่งศาสตร์มืด”
“ข้าเห็นด้วยกับท่าน”
“ข้าก็เห็นด้วย”
……
ด้วยเหตุนี้คำพูดของประธานจึงได้รับความเห็นชอบจากทางรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อย