บทที่ 6 บทที่ 99 ของที่ไม่สามารถปกปิดได้

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

“คุณหง อุปกรณ์ทางการแพทย์และการรักษายังเป็นแบบเดียวกัน แค่ย้ายโรงพยาบาลเท่านั้น เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรนักหนา?” 

 

 

 “ผมบอกแล้วว่าหมอกำหนดวันคลอดเป็นภายในเดือนนี้ ไม่อยากย้าย อีกอย่างในเมื่อเป็นสัญญาเดิมแล้วทำไมต้องย้ายโรงพยาบาลด้วย?” 

 

 

หลี่จื่อเฟิงขมวดคิ้ว เขาพูดดีมาโดยตลอดแต่เจ้านี่ดื้อดึงกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก 

 

 

เขามองรอบๆ ที่นี่เป็นห้องดื่มชาในตึก เขาเดินเข้าไปข้างหน้าและกดเสียงเบาพูดว่า “คุณหง คุณลืมว่าพวกเราเคยทำสัญญากันเอาไว้แล้วงั้นเหรอ และคุณได้ทำผิดสัญญาไปแล้ว” 

 

 

 “ผมทำผิดสัญญาอะไร?” อยู่ดีๆ หงก้วนก็รู้สึกรังเกียจคำพูดและสีหน้าท่าทางของคนคนนี้ขึ้นมา 

 

 

รู้สึกว่าคนคนนี้กับคนที่เคยพูดกับเขาอย่างสุภาพมีมารยาทนั้นแตกต่างกัน ดูเผยธาตุแท้มากขึ้น “ใช่! ผมไปเยี่ยมเขา แต่ก็เป็นตอนที่เขายังไม่ฟื้นและไม่รู้ว่าผมมา ไม่ถือว่าผมทำผิดสัญญา” 

 

 

 “คุณหงก้วน เนื้อหาบนสัญญาระบุเอาไว้อย่างชัดเจน…” หลี่จื่อเฟิงกดเสียงให้เบาลงอีก “ในเมื่อคุณทำผิดสัญญาแล้วก็อย่าโทษที่ผมจะลบเนื้อหาบางอย่างบนสัญญาออกก็แล้วกัน” 

 

 

 “คุณคิดจะทำอะไร?!” 

 

 

 “ผมเป็นคนจ่ายค่าห้องและค่าใช้จ่ายของภรรยาคุณ” หลี่จื่อเฟิงยิ้มเยาะและพูดว่า “หากผมหยุดจ่ายตอนนี้…ใช่แล้ว ค่าใช้จ่ายของสัปดาห์นี้ยังไม่สิ้นสุดเลย ค่าใช้จ่ายของสัปดาห์นี้น่าจะมากกว่าค่าใช้จ่ายในห้องรวมหลายเท่า และหากรวมค่ายาเข้าไปด้วย น่าจะยังต้องขอบคุณมากๆ ด้วยใช่ไหม?” 

 

 

 “คุณ…คุณ!!” หงก้วนโมโหมาก ยื่นมือออกไปคว้าคอเสื้อของหลี่จื่อเฟิง “ต่ำช้า!!” 

 

 

หลี่จื่อเฟิงกลับปัดมือออก จัดคอเสื้อของตัวเองไปพร้อมกับพูดว่า “ผมอะไร? คุณหงก็รับได้มาตลอดไม่ใช่เหรอ แต่คุณกลับคำพูด ผมยังจำคำพูดของคุณได้ดี ต้องให้ผมพูดเตือนสติคุณอีกไหม? จะเปลี่ยนโรงพยาบาลหรือไม่…ผมให้เวลาคุณคิดหนึ่งชั่วโมง” 

 

 

หลี่จื่อเฟิงพูดแล้วก็มองหงก้วนแวบหนึ่ง ก่อนออกไปจากห้องดื่มชา…เขาเดินไปพร้อมจัดอารมณ์ตัวเองไปด้วย ทำให้ตัวเองกลับมาดูสุภาพนุ่มนวลเหมือนเดิมอีกครั้ง  

 

 

 “หลี่จื่อเฟิง สัญญาที่นายพูดถึงเมื่อกี้คือสัญญาอะไร” 

 

 

แต่ในตอนที่เขากำลังจะเลี้ยวตรงระเบียงนั้นก็ได้ยินเสียงเอ่ยถามมาจากด้านหลัง…เป็นเสียงของเฉิงอวิ๋น! 

 

 

ในตอนที่เขารีบหันกลับไปนั้น ก็มองเห็นเฉิงอวิ๋นยืนพิงกำแพง เหลือบมองมือและยิ้มมองมาที่เขา! 

 

 

 “ผ…ผอ.เฉิง!” หลี่จื่อเฟิงร้อนรนขึ้นมาในทันที “คุณ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง…” 

 

 

ทันใดนั้นเฉิงอวิ๋นก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายและเดินเข้ามา “ฉันถามนายหน่อยว่ามีสัญญาอะไรที่บริษัทยังไม่รู้อีก?” 

 

 

 “ผอ.เฉิง ผม…” หลี่จื่อเฟิงรู้สึกตัวหนาวเย็นในพริบตา…เหงื่อเย็นกำลังซึมออกทั่วร่างกาย  

 

 

… 

 

 

… 

 

 

 “ใต้เท้าหลง น่าจะไม่มีปัญหาแล้ว” กุยเชียนอีมองดูหลงซีรั่วที่อยู่ตรงหน้ากระจกและพูดขึ้น 

 

 

นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาเรื่องที่หลงซีรั่วไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนที่ง่ายและได้ผล โดยอาศัยพลังปีศาจของกุยเชียนอีสร้างภาพมายาให้เธอกลับไปมีสภาพแบบผู้ใหญ่อีกครั้ง  

 

 

แน่นอนว่ามีเพียงแค่สภาพเท่านั้น…ถ้าหากเป็นพวกที่มีพลังปีศาจเหนือกว่ากุยเชียนอีแล้วก็จะมองทะลุได้ 

 

 

แต่ปีศาจที่มีพลังเหนือกว่ากุยเชียนอีในเมืองนี้ก็มีน้อยมาก…ถึงจะมีผลลัพธ์เป็นเพียงแค่การหลอกตัวเอง แต่หลงซีรั่วก็พยักหน้าอย่างพอใจ 

 

 

 “กุยเชียนอี ออกเดินทางเถอะ” 

 

 

… 

 

 

ตอนที่พ่อยังอยู่…ก็ลำบากแบบนี้ใช่ไหม? 

 

 

ทันใดนั้นชีสก็คิดถึงคำถามแบบนี้ขึ้นมา 

 

 

ร่างกายและจิตใจของเขาเหมือนถูกใช้ไปจนหมด ตอนที่ได้ปล่อยวางนั้นก็ยังรู้สึกเหนื่อยล้าไม่สิ้นสุด 

 

 

แต่เมื่อมองดูบรรดาน้องๆ กอดกัน ถึงจะพูดว่าเบียดกันนอนบนเตียงหลังเดียวอย่างสงบ เขาก็รู้สึกว่าทุกอย่างที่ทำนั้นคุ้มค่าในทันที 

 

 

เขาเข้าใจชูโย่วแล้วว่าการรับผิดชอบครอบครัวเป็นเรื่องยากลำบากมากเรื่องหนึ่ง ส่วนตัวเขาเองยังไม่มีแม้แต่งานในโลกมนุษย์แบบซูโย่ว ทำได้เพียงออกไปหาอาหารข้างนอกเท่านั้น  

 

 

จำนวนงานของเขาในตอนนี้ยังไม่เทียบเท่าหนึ่งในสามของซูโย่วเลยใช่ไหม? 

 

 

ชีสเก็บความรู้สึกแบบนี้ไว้ ฉวยโอกาสตอนที่ซูเสี่ยวซูนอนกลางวันแอบออกจากบ้าน 

 

 

เขารู้สึกว่าการที่นกหวีดออกไปจับพวกสุนัขหรือแมวเร่ร่อนมาเป็นอาหารนั้นไม่ดี 

 

 

เมื่อเขาที่เป็นปีศาจหนูเห็นนกหวีดกลืนหนูเฒ่าก็รู้สึกแย่ในทันที…แต่ดูเหมือนนกหวีดจะรู้สึกอะไรได้ เพราะหลังจากครั้งแรกที่กลืนหนูเฒ่าแล้วก็ไม่กินอาหารชนิดเดียวกันต่อหน้าชีสอีกเลย 

 

 

แต่ถึงจะเป็นพวกสุนัขหรือแมวเร่ร่อนก็ไม่ใช่เรื่องน่าดีใจ ชีสจึงเตรียมปลาสดให้นกหวีดเสมอ หรือไม่ก็เป็นพวกเนื้อสดที่ซื้อกลับมาได้…เขาไม่คิดว่านกหวีดไม่ชอบเพราะเห็นมันกินตลอด  

 

 

หลังชีสแน่ใจแล้วว่าซูเสี่ยวซูจะไม่ตื่นง่ายๆ ก็แอบหิ้วถังปลาเป็นๆ ไปยังที่ซ่อนตัวของนกหวีด…ช่วงนี้นกหวีดกินอาหารเยอะขึ้นหรือเปล่า? ไม่รู้ว่าหนึ่งถังจะพอไหม 

 

 

ขณะที่ชีสกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างมาสัมผัสบนบ่าของตัวเอง ในตอนที่เขาหันกลับไปนั้นก็เห็นเงาร่างขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ด้านหลัง 

 

 

พลังปีศาจอันเข้มข้นและแข็งแกร่งกระจายออกมา…ชีสตกใจในทันที ขณะที่กำลังจะอ้าปากก็ถูกเจ้าของเงาร่างเอามือปิดปากไว้ อีกทั้งยังจับเขาอีกด้วย 

 

 

เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? 

 

 

ชีสเพิ่งมองเห็นชัดว่าคนตรงหน้าสวมชุดสูทสีดำ รูปร่างสูงใหญ่มาก…แม้แต่ในโลกมนุษย์ก็มีคนที่สูงเกินร้อยเก้าสิบเซนติเมตรอยู่ไม่เยอะหรอกมั้ง? 

 

 

บนหน้าผากของเขามีรอยแผลใหญ่มากสายหนึ่ง…แต่ถูกแว่นตาดำปิดไปได้ไม่น้อย ทั้งยังใส่หูฟังบลูทูธสีเงิน 

 

 

ได้ยินเขาพูดเพียงว่า “รายงาน เป้าหมายรองถูกควบคุมสำเร็จ สามารถโอบล้อมเป้าหมายหลักได้แล้ว!” 

 

 

ชีสได้แค่ส่างเสียงอูๆ…คนตัวใหญ่ที่กำลังควบคุมตัวเขามีพลังเยอะจนเขาขยับไม่ได้ 

 

 

ส่วนในขณะเดียวกันก็เห็นเงาร่างหลายสายปรากฏขึ้นรอบทิศอย่างรวดเร็ว มีทั้งหมดสามสาย 

 

 

พวกเขาสวมชุดแบบเดียวกันกับคนตัวใหญ่ที่ควบคุมตัวเขา ทั้งยังค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ท่อระบายน้ำพร้อมๆ กัน 

 

 

เป้าหมายของพวกเขาคือ…นกหวีด! 

 

 

แต่ชีสยังไม่ทันได้หวาดกลัวถึงขีดสุด ก็มองเห็นเงาร่างอีกสายหนึ่งค่อยๆ ร่อนตัวจากกลางอากาศลงมาที่จุดบนสุดของท่อระบายน้ำ  

 

 

เขาสวมชุดแตกต่างจากคนเหล่านี้ แต่ชีสรู้จักเขา เขาคือกุ่ยอิง! 

 

 

เห็นเพียงกุ่ยอิงโบกมือในทันที ปีศาจชายสวมชุดสีดำก็พุ่งเข้าไปในท่อระบายน้ำจากทุกทิศทางพร้อมกัน! 

 

 

ชีสพยายามขัดขืน คิดจะพูดอะไรบางอย่าง ดวงตาของเขาเบิกกว้างเพราะเขาได้ยินเสียงร้องของนกหวีด…เหมือนว่ามันจะได้รับบาดเจ็บ! 

 

 

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงบึม ท่อระบายน้ำเหล่านั้นระเบิดออกมา เงาร่างสายหนึ่งพุ่งขึ้นไปกลางอากาศ ส่วนปีศาจสามตนนั้นก็กระโดดออกมาเช่นกัน! 

 

 

นกหวีดกางปีกที่อยู่ด้านหลัง กำลังมองลงมา! ชีสมองเห็นแผลที่ขาของมัน! 

 

 

แต่นกหวีดกลับไม่หยุดแค่นี้ มันพุ่งเข้ามาบริเวณที่ชีสอยู่อย่างบ้าคลั่ง! 

 

 

 “บินได้จริงๆ สินะ” กุ่ยอิงยิ้มเยาะ แสงอันเย็นยะเยือกในมือพุ่งออกไปยังส่วนท้องของนกหวีด แล้วมันก็ร่วงลงมาจากกลางอากาศทันที! 

 

 

เมื่อปีศาจตนหนึ่งในสามตนเห็นนกหวีดตกลงบนพื้นก็สะบัดสองมือออกไปในพริบตา! เห็นเพียงสองมือของเขาปรากฏเส้นสายสีขาวสองสายยิงออกมาพร้อมกัน 

 

 

เส้นสายเหล่านั้นขยายกลางอากาศ พริบตาเดียวก็เปลี่ยนเป็นตาข่ายขนาดใหญ่สองสายเข้าคลุมนกหวีด ทำให้นกหวีดยากที่จะขัดขืนได้…ยิ่งขัดขืนตาข่ายก็ยิ่งรัดแน่น 

 

 

 “ใต้เท้ากุ่ย จับเป้าหมายได้แล้ว!” 

 

 

กุ่ยอิงพยักหน้าจากนั้นก็มองมาทางชีส ส่งสัญญาณให้ผู้ชายตัวใหญ่ที่จับชีสพาชีสเข้ามา 

 

 

 “ทำ…ทำไม?” ชีสมองกุ่ยอิงอย่างหวาดกลัว “ทำไมถึงทำกับมันอย่างนั้น! ทำไม!!” 

 

 

 “ฉันทำตามคำสั่งเท่านั้น” กุ่ยอิงพูด…แต่สายตาของเขาไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ชีส กลับมองไปยังนกหวีดที่ถูกขังไว้ที่พื้นและพึมพำว่า “นี่ตัวอะไร?” 

 

 

 “ฟังคำสั่ง…ฟังคำสั่งใคร? หรือว่าเป็น…เป็นใต้เท้ากุย?” ชีสรู้สึกว่ามันไร้เหตุผล 

 

 

 “ไม่ใช่หรอก เขาฟังคำสั่งของฉันต่างหาก” 

 

 

ชีสเห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่แว่นดำสวมชุดสูทสีดำค่อยๆ เดินมาถึงตรงหน้าและถอดแว่นตาออก จากนั้นก็พูดว่า “ฉันให้พวกเขาลงมือเอง”  

 

 

 “ใต้…ใต้เท้าหลง!”