แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังไม่สามารถทำให้ชีสสงบลงได้ 

 

นกหวีดคือของขวัญที่สวรรค์มอบให้แก่เขา…เป็นของขวัญที่มอบให้เขาในคืนที่เขาโดดเดี่ยวและทรมานมากที่สุด 

 

มันมาเพราะเสียงนกหวีดของเขา ร่างกายของมันให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเขา 

 

แม้มันจะดูประหลาดและดูน่ากลัว แต่สำหรับชีสแล้วขอแค่อยู่ข้างกายนกหวีดก็ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย 

 

ที่เขาเรียกมันว่านกหวีดก็มาจากนกหวีดที่ซูโย่วพ่อของเขามอบให้เขา 

 

… 

 

 “ทำไมถึงทำกับมันอย่างนั้น?” ชีสจ้องมองหลงซีรั่ว 

 

ใช้สายตาดื้อดึงที่กระตุ้นมังกรแท้จริงได้เสมอ 

 

เห็นเพียงหลงซีรั่วถอนหายใจ ก้มหน้าพูดว่า “เป็นฉันเองที่ชะล่าใจไป ฉันน่าจะคิดได้ก่อนแล้ว…ตั้งแต่ตอนที่นายบอกฉันว่านายเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้ตัวหนึ่ง” 

 

 “ใต้เท้าหลง?” ชีสเกิดลางสังหรณ์บางอย่าง 

 

หลงซีรั่วก็กำลังวิเคราะห์สีหน้าของชีส “สัตว์เลี้ยงของนาย…นกหวีดตัวนี้เป็นฆาตกรที่คิดจะฆ่าเสี่ยวเจียง” 

 

ชีสโมโห “เป็นไปไม่ได้!” 

 

 “ให้ความเป็นจริงพิสูจน์เอง” หลงซีรั่วส่ายหน้าและหลีกทาง…ด้านหลังของเธอ เสี่ยวเจียงถือไม้เท้าพยุงสองข้างค่อยๆ เดินเข้ามาพร้อมกับกุยเชียนอี  

 

 “เสี่ยวเจียง นาย…นายฟื้นแล้ว!” ชีสดีใจ  

 

เสี่ยวเจียงพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ชีส ใต้เท้าหลงพูดความจริง…วันนั้นนกหวีดคิดจะฆ่าฉัน กลับกัน…เป็นจุยเฟิงที่ช่วยฉันออกมาจากมัน” 

 

ชีสส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัวและถอยหลังไปหนึ่งก้าว 

 

เสี่ยวเจียงมองชีส ทันใดนั้นก็เปิดเสื้อของตนเองออก เผยให้เห็นบริเวณหน้าอก “นาย…นายน่าจะมองออกใช่ไหม? บาดแผลนี้ รอยแผลแบบนี้ นายคิดว่าจุยเฟิงจะทำได้งั้นเหรอ” 

 

 “ฉันไม่เชื่อ…ฉันไม่เชื่อ…” 

 

ทันใดนั้นเสี่ยวเจียงก็ยิ้มอย่างขมขื่น “ชีส ฉันเข้าใจความรู้สึกของนาย ก็เหมือนกับความรู้สึกของฉันก่อนที่จะสลบไป ฉันไม่คิดจะเชื่อว่าจุยเฟิงช่วยฉัน อาจจะพูดได้ว่า นายกับฉัน…พวกเราไม่คิดจะเชื่อจุยเฟิง…เพื่อตัวพวกเราเอง ไม่ใช่เหรอ” 

 

 “ไม่…ไม่ใช่แบบนั้น ไม่ควรจะเป็นแบบนั้น…” ชีสกำลังคิดจะพูดอะไรสักอย่าง 

 

แต่หลงซีรั่วไม่คิดจะอยู่ที่นี่นานเกินไปจนพวกมนุษย์สังเกตเห็น แม้ที่นี่จะกว้างใหญ่มาก คนมาน้อยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนมาเลย  

 

ดังนั้นเธอจึงพูดว่า “กุ่ยอิง พาคนของนายกับเจ้าตัวนั้นกลับ ชีส เสี่ยวเจียง พวกนายก็กลับไปกับฉัน ฉันกังวลว่าจุยเฟิงจะกลับมาหาพวกนาย ไว้ค่อยไปคุยต่อที่โรงพยาบาลของฉัน!” 

 

กุ่ยอิงพยักหน้า ส่งสัญญาณให้ปีศาจชายที่ยิงตาข่ายออกไปลงมือ ปีศาจชายตนนั้นกำลังเริ่มดึงตาข่ายสีขาวลากนกหวีดเข้ามาใกล้ตนเอง 

 

ทันใดนั้นนกหวีดก็ยิงบางอย่างออกมาจากปากเข้าที่หน้าผากของปีศาจชายตนนั้น! 

 

เป็นเข็มสีดำยาวเท่านิ้วมืออันหนึ่ง! 

 

เข็มเพิ่งจะยิงเข้าไปที่หน้าผากของปีศาจชาย สีดำก็กระจายไปทั่วหน้าผากของเขา! 

 

เข็มพิษ! 

 

แต่ตอนที่ปีศาจชายรับรู้ว่าตนเองโดนเข็มพิษยิงใส่นั้น เขาก็ล้มลงกับพื้นโดยไม่ทันได้ออกเสียงด้วยซ้ำ 

 

 “เจ้าเล่ห์นัก!” กุ่ยอิงเห็นแล้วก็โมโหมาก สะบัดแสงอันเย็นยะเยือกออกไปใส่นกหวีดทันที! 

 

แต่ในขณะเดียวกัน ร่างกายของนกหวีดก็ละลาย…กลายเป็นของเหลวเหนียว! 

 

นกหวีดที่กลายเป็นของเหลวไหลลอดผ่านรูตาข่ายออกไปได้อย่างง่ายดาย ไม่เพียงแต่หลบการโจมตีของกุ่ยอิงได้ แต่มันยังฉวยโอกาสตอนที่บรรดาปีศาจกำลังตกใจ รีบหนีเข้าไปในรอยแยกฝาท่อระบายน้ำด้านข้างทันที! 

 

กุ่ยอิงมีทักษะสูงและใจกล้า เขาทำลายฝาท่อและเข้าไปในท่อระบายน้ำโดยไม่คิดอะไรมาก 

 

หลงซีรั่วขมวดคิ้ว…ภาพที่นกหวีดกลายเป็นของเหลวและความรู้สึกที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคย 

 

นกหวีดคงไม่ใช่ของที่อยู่ในจุดผนึกตอนนั้นหรอกนะ… 

 

ตอนนี้เธอสูญเสียพลังจึงไม่สามารถไล่ตามได้ ไม่เช่นนั้นนกหวีดจะหนีรอดไปง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างไร 

 

สำหรับกุยเชียนอี…เต่าเฒ่าตนนี้ไม่มีทักษะการต่อสู้ อีกทั้งตอนนี้ยังบาดเจ็บหนัก ถึงจะพูดว่าสีหน้ายังดูดีแต่ก็เป็นเพราะฝืนแสร้งทำต่อหน้าผู้คนเท่านั้น 

 

ชีสยืนนิ่งเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เสี่ยวเจียงทำได้เพียงยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าหดหู่ 

 

หลังจากนั้นไม่นาน กุ่ยอิงก็กลับมาพร้อมกับสีหน้าที่ดูโมโหและรู้สึกผิด 

 

 “ขอโทษด้วยครับ ใต้เท้าหลง…ผมตามไม่ทัน เจ้านั่นไม่มีกลิ่นอายปีศาจอยู่เลย อีกทั้งยังปิดซ่อนความร้อนในร่างกายได้ ความสามารถในการหลบซ่อนตัวสูงจนน่ากลัว! และก็ไม่รู้ว่าร่างเดิมนั้นเป็นอะไรกันแน่!” 

 

ทันใดนั้นหลงซีรั่วก็พูดว่า “บางทีอาจจะไม่ใช่ปีศาจ…” 

 

กุ่ยอิงพูดขึ้นในตอนนี้ว่า “ผมพบกระดูกจำนวนมากด้านล่าง มีพวกสัตว์เล็กสัตว์น้อย มีบางส่วนดูคล้ายกระดูกปีศาจและยังมีบางส่วนที่คล้ายกระดูกมนุษย์ แต่ไม่มีกระดูกชิ้นไหนครบสมบูรณ์เลย มีแต่เป็นชิ้นๆ เหมือนกับเป็นส่วนที่เหลือทิ้งจากการกิน”  

 

ตุ้บ 

 

ทันใดนั้นชีสก็คุกเข่าลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง เหมือนสะเทือนใจอย่างรุนแรงและสลบลงไป  

 

หลงซีรั่วมองเห็นก็รำพึงรำพันอยู่ในใจ ทันใดนั้นก็สั่งว่า “พาครอบครัวของชีสไปยังที่ของฉัน” 

 

กุ่ยอิงพยักหน้า ให้ปีศาจอีกตนไปจัดการเรื่องครอบครัวชีส ส่วนตนเองเดินไปข้างปีศาจชายที่ล้มลงและพลิกร่างกายเขาขึ้นมา เห็นเขาสิ้นชีพไปแล้ว ในดวงตามีร่องรอยของไอสังหารอันน่ากลัว 

 

… 

 

หลังรับครอบครัวที่กำลังแตกตื่นของชีสมาแล้ว หลงซีรั่วก็มองพื้นที่ว่างเป็นครั้งสุดท้ายแวบหนึ่ง…ถึงที่นี่ถูกทำลายแล้ว แต่คิดว่าคงไม่มีใครสนใจ เพราะที่นี่มีขยะจากการก่อสร้างทิ้งเอาไว้มากมาย 

 

ไม่รู้เพราะว่าเธอรู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกอยากจะหนีไปจากที่นี่…เธอรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้มีบางอย่างกำลังจ้องมองอยู่เงียบๆ 

 

แต่ก่อนเธอมองลงมาที่ผู้คนเหมือนเป็นคนนอก 

 

แต่ตอนนี้ ผู้คนที่รวมตัวเธอเองกำลังถูกใครจ้องมองอยู่หรือไม่? 

 

“ใต้เท้าหลง ด้านนอกลมแรง กลับกันเถอะ” กุยเชียนอีพูดอยู่ข้างกายเธอ 

 

ทันใดนั้นหลงซีรั่วก็พึมพำว่า “คำพูดแบบนี้ ข้าไม่ได้ยินมากี่ปีแล้ว? กลัวลม…อา” 

 

กุยเชียนอีไม่พูดอะไร เพียงคิดถึงครั้งที่เธอยังเด็ก…เวลานั้นเธอร่างกายอ่อนแอมากโรคเหมือนเทียนที่ริบหรี่ท่ามกลางสายลม ใครก็ไม่รู้ว่าเธอจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน  

 

เธอในเวลานั้นยังไม่ถูกเรียกว่าใต้เท้าหลง…และก็ไม่ได้มีแซ่หลง 

 

… 

 

… 

 

เมืองเดียวกัน เวลาเดียวกัน…พวกเรารู้ว่าที่นี่คือโรงพยาบาล 

 

ภายในห้องผู้ป่วยส่วนตัวชั้นสูงในโรงพยาบาล บอดี้การ์ดคนหนึ่งกำลังเล่นโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าจริงจัง “แย่จริง! สุ่มได้คิงฮัซซัน*อีกแล้ว!!” 

 

แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกไม่ดี เพราะว่าเขาได้ยินเสียงฝีเท้า 

 

“คุณ คุณจง!” บอดี้การ์ดรีบซ่อนโทรศัพท์ไว้ข้างหลัง ร่างกายแข็งทื่อยืนขึ้นมา เงยหน้าเหมือนพลทหารยืนเข้าเวร แต่แอบกลืนน้ำลายเล็กน้อย 

 

“ทำไมถึงมีแค่นายอยู่ที่นี่?” จงลั่วเฉินถาม เมื่อรู้ว่าเฉิงอี้หรานฟื้นแล้วเขาก็มาในทันที 

 

อีกอย่างเฉิงอวิ๋นบอกว่ามีเรื่องจะรายงานให้เขาทราบ…จงลั่วเฉินไม่ได้ไปหาเขาก่อนแต่คิดจะมาดูอาการของเฉิงอี้หราน 

 

 “คุณเฉิงบอกว่ารู้สึกอึดอัดเลยไปเดินเล่นที่สวนใต้ตึก มีบอดี้การ์ดอีกคนตามไปด้วยครับ” บอดี้การ์ดคนนี้รีบพูด “ส่วนผมรออยู่ที่นี่” 

 

จงลั่วเฉินยื่นมือออกไปทันที บอดี้การ์ดทำได้เพียงเอาโทรศัพท์ของตนเองออกมาวางบนมือของจงลั่วเฉิน “คุณจง! ผมสัญญาว่าต่อไปจะไม่เล่นเกมขณะทำงานอีก ผม…” 

 

เห็นจงลั่วเฉินไม่พูดอะไร เพียงแค่ปัดมือไปมาบนโทรศัพท์สองสามครั้ง “เกมนี้คือเกมแบบสุ่มการ์ดงั้นเหรอ” 

 

 “ใช่ครับ ใช่” 

 

จงลั่วเฉินพูดว่า “ของที่เหมือนการจับฉลากแบบนี้ อย่าเดินทางเดียว บางทีการเปลี่ยนจังหวะก็อาจจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง หรือจะเปลี่ยนอารมณ์ก็ได้” 

 

ในที่สุดเขาก็คืนโทรศัพท์ให้บอดี้การ์ด “แต่การเล่นโทรศัพท์ขณะทำงานก็ไม่ถูกต้อง…ฉันจะลงไปเดินเล่นหน่อย ตั้งใจทำงานเข้าล่ะ” 

 

บอดี้การ์ดมองดูจงลั่วเฉินตบบ่าของตนเองจากไปโดยไม่ได้ตำหนิสักคำก็รู้สึกเหลือเชื่อมาก…เจ้านายของผอ.เฉิงดูเข้าถึงได้ง่ายเป็นพิเศษ? 

 

บอดี้การ์ดถอนหายใจ มองดูการ์ดบนโทรศัพท์ตนเอง ทันใดนั้นเขาก็อ้าปากค้าง สูดลมหายใจเข้า รู้สึกเหลือเชื่อมาก 

 

 “สิบได้ 2030** เจ็ด??? สวรรค์!! มิน่ายังหนุ่มขนาดนี้ก็มีทั้งทรัพย์สินและอำนาจ เป็นจักรพรรดิโดยกำเนิดจริงๆ…” 

 

บอดี้การ์ด…รู้สึกเหมือนถูกโจมตีอย่างหนัก 

 

… 

 

เฉิงอี้หรานกำลังนั่งอยู่ในศาลาหลังหนึ่งในสวนพักผ่อนหย่อนใจของโรงพยาบาล นั่งกอดกีตาร์คนเดียว แต่ไม่ได้ดีด ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เหมือนกำลังใจลอย 

 

บอดี้การ์ดยืนอยู่ด้านข้างนอกศาลา เมื่อเขาเห็นจงลั่วเฉินเดินมา เขาก็รีบยืดตัวตรงและคิดจะกล่าวทักทาย 

 

กลับเห็นจงลั่วเฉินส่ายหน้าเล็กน้อยให้เขายืนเงียบๆ ส่วนตัวเขาเดินเข้าไปข้างกายเฉิงอี้หราน “เพิ่งฟื้นก็ลงมาจากตึก ไม่เป็นอะไรแล้วสินะ”  

 

เฉิงอี้หรานตัวสั่น เงยหน้าขึ้น…เขารู้สึกกลัวผู้ชายคนนี้ขึ้นมาในทันที 

 

กลัวรอยยิ้มตอนนี้ของเขา 

 

 

 

 

 

*คิงฮัซซัน ในเกม Fate/Grand Order 

 

**CE(Craft Essence) Fragment of 2030 (เศษเสี้ยวของ 2030) หายาก