EG บทที่ 881 คำเชิญ

“เจ้านายครับ คุณโซรอสขอเข้าพบคุณครับ” ราล์ฟโทรมา

“ใครนะ? โซรอสไหน?” เฝิงหยู่รู้สึกประหลาดใจ หรือว่าจะเป็นโซรอสที่เขารู้จัก?

“คุณจอร์จ โซรอสจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนโซรอส เจ้าของกองทุนควอนตั้มครับ”

ห้ะ? ใช่เขาจริงๆ ด้วย!

ทำไมนักเก็งกำไรทางการเงินถึงอยากพบเขา?

บุคคลนี้เป็นนักธุรกิจร่ำรวยและมีอิทธิพลที่ยอดเยี่ยมมากและน่ากลัวกว่านักธุรกิจร่ำรวยและมีอิทธิพลรายอื่น เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ เขาเป็นหัวหอกในวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย (วิกฤตต้มยำกุ้ง) และยังเป็นคนที่เฝิงหยู่เตรียมที่จะติดต่อด้วย

เนื่องจากโซรอสต้องการพบกับเฝิงหยู่ เฝิงหยู่จึงสนใจว่าเขาอยากจะคุยอะไรด้วย

“ได้สิ ผมจะกลับนิวยอร์กพรุ่งนี้ ช่วยนัดเขาให้ผมที”

เฝิงหยู่ลุกขึ้นจากโซฟาและเดินไปที่โต๊ะอาหาร หลังอาหารค่ำ เฝิงหยู่ขอโทษลีน่า “ฉันต้องกลับไปที่นิวยอร์กและไปส่งเธอที่บ้านไม่ได้”

ลีน่าผิดหวัง แต่เธอก็ยังยิ้ม “ไม่เป็นไร งานของนายสำคัญกว่า ฉันกลับเองได้”

“ฉันจะสั่งให้เหม่ยจื้อกังไปส่งเธอนะ ฉันจะรีบกลับมาเมื่อทำงานเสร็จ” เฝิงหยู่จูบลีน่าที่หน้าผากของเธอ

……

เฝิงหยู่เดินออกจากสนามบินนิวยอร์กและคนขับรถของเขาก็รอเขาอยู่ที่นั่นแล้ว หลังจากลงรถแล้ว เขาก็ถามราล์ฟ ซึ่งนั่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า “นัดไว้กี่โมง?”

“เป็นนัดทานข้าวเย็นครับ คุณยังมีเวลาพักผ่อนอีก 2 ชั่วโมง” ราล์ฟตอบ

“โอเค” เฝิงหยู่หลับตาลงและนึกถึงการนัดหมายกับโซรอส

บุคคลนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้จัดการกองทุนที่ดีที่สุดในโลกและความร่ำรวยของเขาก็ยังคงเป็นปริศนา

โดยทั่วไปแล้วสินทรัพย์ของโซรอสมีเพียงไม่กี่พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เขามีเงินเพียงประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาทำสิ่งที่ทำให้โลกประหลาดใจได้สำเร็จ นั่นคือเหตุการณ์พุธทมิฬในปี 1992 ของอังกฤษ

โซรอสทำให้เงินปอนด์หลุดออกจากกลไกอัตราแลกเปลี่ยนของยุโรปได้สำเร็จและกองทุนควอนตั้มของเขาทำเงินได้ประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ บางคนบอกว่าเขาทำเงินได้อย่างน้อย 600 ถึง 700 ล้านและบางคนบอกว่าเขาทำกำไรได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเขาเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดการเงินลงทุนของคนอื่น

ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำรายได้ได้มากแค่ไหนในช่วงเวลานั้น

ด้วยการเพิ่มสถานะการลงทุนให้สูงกว่ามูลค่าทรัพย์สินของกองทุน กองทุนบริหารความเสี่ยงสามารถใช้เงินไม่กี่ร้อยล้านเพื่อสร้างมูลค่าการซื้อขายได้สองสามพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในตอนนี้กองทุนควอนตั้มของโซรอส มีเงินมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นเขาจึงสามารถควบคุมตลาดการเงินได้

แน่นอนว่าเงินไม่กี่พันล้านดอลลาร์สหรัฐอาจดูเหมือนมาก แต่จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อประเทศ แต่กองทุนบริหารความเสี่ยงของโซรอสได้รวมเงินลงทุนของผู้อื่นเอาไว้ด้วย และเขาสามารถขอเงินกู้จากนักลงทุนได้อีก นอกจากนี้ ยังมีนักเก็งกำไรรายอื่นติดตามการลงทุนของเขา จากการรวมกลุ่มกันของสถาบันการเงินและผู้จัดการกองทุนหลายราย จึงกลายเป็นพลังที่น่าจับตามอง

แต่สิ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากการเป็นนักเก็งกำไรทางการเงินแล้ว เขายังเป็นผู้บริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลอันดับต้นๆ ของโลกด้วย เขาบริจาคเงินมากกว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์ บิล เกตส์ พอลอัลเลน และคนอื่นๆ

โซรอสเป็นเจ้าของมูลนิธิการกุศลหลายสิบแห่งทั่วโลก บางคนบอกว่าเขาใช้มูลนิธิพวกนี้เพื่อรับข้อมูลจากรัฐบาลของประเทศนั้น เมื่อใดก็ตามที่มีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลของประเทศนั้น เขาจะฉวยโอกาสทำเงิน

ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไรเกี่ยวกับโซรอส เขาก็ยังคงเป็นผู้จัดการกองทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก!

ประมาณ 1 ทุ่ม เฝิงหยู่เข้าไปในร้านอาหาร ร้านอาหารนี้ไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้ารับประทานเนื่องจากโซรอสจองทั้งร้าน!

การสนทนาของโซรอสกับเฝิงหยู่จะให้ใครมาได้ยินไม่ได้

“คุณเฝิง ยินดีที่ได้รู้จักครับ” โซรอสยืนขึ้นและยื่นมือออกไปจับทักทาย

“ยินดีที่ได้พบคุณเช่นกันครับ” เฝิงหยู่จับมือทักทายกับโซรอสแล้วนั่งลง เขาโบกมือให้กับบอดี้การ์ดของเขาเพื่อให้พวกเขาถอยห่างออกไป

ตอนนี้โซรอสอายุประมาณ 60 หรือ 70 ปี ผมของเขาเป็นสีขาวทั้งหมด แต่ดวงตาของเขายังคมกริบและมีความมั่นใจ

บางทีนี่อาจจะเป็นลักษณะของนักธุรกิจชาวยิวทุกคนก็ได้

“คุณเฝิง ผมเรียกคุณแบบนี้ได้มั้ยครับ คุณเรียกผมว่าโซรอสก็ได้”

“ได้สิครับ ผมสงสัยว่าทำไมคุณถึงอยากเลี้ยงมื้อเย็นผมหรอครับ?” เฝิงหยู่กอดอกและท้าวลงบนโต๊ะ ซึ่งถือว่าเป็นการหยาบคาย แต่โซรอสก็ไม่ได้สนจะไร

“คุณเฝิง ผมคิดว่าผมคงไม่จำเป็นต้องแนะนำตัว และแน่นอนว่าคุณก็ไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวคุณให้ผมฟังเช่นกัน คุณเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสามของไมโครซอฟท์ เจ้าของตึกเอ็มไพร์ สเตท เจ้าของบริษัทเฟิงหยู่ และมีธุรกิจลงทุนมากมายในจีน ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณครับโดยที่ไม่สนตัวตนที่หลากหลายของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณชอบลงทุนในหุ้นและผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบด้วยเหมือนกัน” โซรอสหัวเราะ

เฝิงหยู่ขมวดคิ้ว เขาอยากให้ผมร่วมลงทุนกับเขาหรอ? ตอนนี้คือปี 1997 และ เฝิงหยู่รู้ว่าโซรอสกำลังจะลงทุนอะไร

“ฟังจากที่คุณพูดมา คุณต้องมีโอกาสในการลงทุนที่ดีและต้องการให้ผมเข้าร่วมด้วยใช่มั้ยครับ?” เฝิงหยู่ถาม

“คุณเฝิงซื้อขายสกุลเงินหรือเปล่าครับ?”

“เมื่อก่อนเคยซื้อขายเงินเยน รูเบิล และก็เงินปอนด์ด้วย!” เฝิงหยู่มองหน้าโซรอส

โซรอสยิ้ม เขารู้ว่าคนตรงหน้าเขาก็ชอบการเก็งกำไรเหมือนกัน และตอนนี้พวกเขาก็มีประเด็นที่เหมือนกันให้พูดคุยแล้ว

บริกรเดินเข้ามาเสิร์ฟอาหาร

“ลองชิมอาหารที่นี่ดูครับ เราคุยไปกินไปก็ได้”

เฝิงหยู่ชิมอาหารแล้วมันอร่อยมาก แต่เฝิงหยู่ไม่เคยชินกับการใช้มีดและส้อม นอกจากนี้ เฝิงหยู่ก็มาที่นี่เพื่อพบกับโซรอสไม่ใช่เพื่อทานอาหารเย็น

“คุณเฝิง ผมสงสัยครับ หรือจะบอกว่าทุกคนในวอลล์สตรีทต่างก็สงสัยเกี่ยวกับตัวคุณ นักธุรกิจร่ำรวยและมีอิทธิพลแบบคุณปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไหร่? สิ่งที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือคุณไม่เพียงแต่เก่งเรื่องการลงทุนทางการเงินเท่านั้น แต่คุณยังเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย ผมไม่ได้พยายามจะล้วงความลับคุณนะครับ แต่พอเห็นคุณแล้ว ผมรู้สึกแก่จัง”

คุณรู้สึกแก่งั้นหรอ? ก่อนที่ผมจะกลับมาอยู่ในชาตินี้ คุณก็เป็นผู้จัดการกองทุนชั้นนำของโลกแล้ว ทรัพย์สินส่วนตัวของคุณน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่กองทุนบริหารความเสี่ยงที่คุณควบคุมอยู่นั้นน่ากลัวมาก ชายคนนี้จะนำความวุ่นวายมาสู่ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คนแบบนี้เนี่ยนะจะรู้สึกแก่?

“คุณโซรอสครับ คนนั้นต้องตาบอดแน่ถ้าคิดว่าคุณแก่ ผลตอบแทนต่อปีของกองทุนบริหารความเสี่ยงของคุณมากกว่าอุตสาหกรรมการเงินทั้งหมด แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ก็ไม่มีใครกล้าคิดว่าคุณแก่แล้วครับ” เฝิงหยู่ตอบอย่างจริงจัง

เฝิงหยู่ไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับโซรอส แต่ถ้าโซรอสนำกลุ่มนักเก็งกำไรมาด้วย เฝิงหยู่จะแพ้อย่างแน่นอน

การเผชิญหน้ากับชายชราคนนี้ในวัย 60 ปีทำให้เฝิงหยู่เครียดมาก แม้ว่าทรัพย์สินส่วนตัวของโซรอสจะไม่ได้เยอะกว่าเฝิงหยู่และบิล เกตส์ แต่ เฝิงหยู่ก็ต้องระวังตัว

โซรอสมองหน้าเฝิงหยู่ เขาไม่คิดว่าเฝิงหยู่จะให้เกียรติเขามากขนาดนี้ เมื่อปีที่แล้วหลายคนใน วอลสตรีทกล่าวว่าโซรอสแก่แล้ว แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับมีมุมมองที่แตกต่างออกไป

ตอนนี้โซรอสมั่นใจมากขึ้นว่าเขาสามารถทำให้เฝิงหยู่มาร่วมมือกับเขาในการสร้างรายได้จากเอเชียได้!