ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล


สิ่งที่เซียวอวี๋ถนัดที่สุดก็คือการลอบโจมตีทีเผลอ

ใบดาบอันคมกริบสะบัดวูบลงก่อนที่โลหิตจะสาดกระเซ็นออกจากร่างของดัม

อ๊ากก……

ดัมกู่ร้องอย่างเกรี้ยวกราด แต่การทำเช่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยเหลืออันใด เขาต้องการจะหันกลับไปสับสังหารเซียวอวี๋ให้ดับดิ้น ทว่าเซียวอวี๋นั้นใช้เทเลพอตหลบออกไปไกลแล้ว

ในเวลาเดียวกัน การโจมตีหลายสายก็กระทบลงบนแผ่นหลังของดัม มีดของเมอีฟได้ทิ้งรอยตัดเฉือนหลายสายอันสดใหม่เอาไว้

ฉัวะ ฉัวะ….

อาศัยจังหวะที่ดัมกำลังเหม่อลอยจากการบาดเจ็บ ฮีโร่ทั้งหมดต่างก็เข้ากลุ้มรุมโจมตีจนดัมหัวหมุนงุนงง

ฉัวะ

ในจังหวะสุดท้ายนั้นเอง เซียวอวี๋ก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้งก่อนจะใช้ดาบคาริมดอร์แทงทะลุอกของดัม

ดัมเบิกตากว้างอย่างไม่อาจเชื่อว่าเขาจะต้องมาจบชีวิตในศึกครั้งนี้

นี่ก็คือราคาที่เขาต้องจ่ายจากความหยิ่งผยองของเขาเอง

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเซียวอวี๋จะใช้กลยุทธ์อันไร้ยางอายเช่นนี้ เซียวอวี๋นับว่าผิดแผกแตกต่างจากผู้บัญชาการทุกคนที่เขาเคยพบเจอมา

เซียวอวี๋นั้นมีแนวคิดเกี่ยวกับพิชัยสงครามเพียงข้อเดียว นั่นคือชัยชนะ สำหรับวิธีการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์มานั้น ขอเพียงชนะก็พอแล้ว อื่นๆล้วนไม่สำคัญ

เห็นฉากการตายของดัม กระทั่งเออซ่าที่มองดูอยู่ก็ยังถึงกับชะงัก แม้จะคาดเดาได้ว่าดัมคงไม่มีชีวิตรอดกลับมาจากศึกครั้งนี้ แต่การตายของดัมนั้นเกิดขึ้นเร็วเกินไป เพิ่งเริ่มสงครามได้ไม่ทันไร ผู้นำทัพก็ตกตายเสียแล้ว

ต้องทราบว่าตัวตนขั้นที่หกนั้นมีโอกาสน้อยมากที่จะตกตาย แม้ว่าสู้ไม่ได้ แต่การหลบหนีกลับไม่ใช่เรื่องยากอะไร

อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะมอบโอกาสให้ดัมได้ทดลองหลบหนี นี่แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งเพียงใด ตัวเออซ่าเองนั้นทราบถึงความแข็งแกร่งของดัมดี กระทั่งเขาเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของดัม

กล่าวก็คือ หากว่าเขาตกอยู่ในวงล้อมของอีกฝ่าย เขามีแต่หนทางตายสถานเดียว

ชั่วขณะหลังจากเซียวอวี๋และเหล่าฮีโร่ล้อมสังหารดัมได้สำเร็จ กลุ่มพาลาดินขั้นที่หกที่ต้องการช่วยเหลือดัมก็เพิ่งมาถึง

“ฆ่าให้หมด!” เมื่อเห็นโอกาส เซียวอวี๋ย่อมไม่ปล่อยไป อีกฝ่ายพาตัวเข้ามาส่งเองเช่นนี้ เขาจะไม่น้อมสนองได้อย่างไร? หากสังหารพาลาดินกลุ่มนี้ได้สำเร็จ ขุมกำลังของอีกฝ่ายจะตกฮวบลง และเมื่อเป็นเช่นนั้นโอกาสที่จะชนะสงครามนี้ก้จะเพิ่มขึ้นมาก

พาลาดินเหล่านั้นเพิ่งหยั่งเท้าลงบนกำแพงเมืองได้ไม่ทันไรก็ต้องพบเห็นศพของดัม พวกเขาต่างตกตะลึงก่อนจะรีบถอยหลังเตรียมตัวหลบหนี

แต่เซียวอวี๋สั่งให้เหล่าฮีโร่เข้ากลุ้มรุมใส่ศัตรูเพียงคนเดียวโดยไม่ต้องไม่สนใจศัตรูคนอื่นๆ

ผู้ที่รวดเร็วที่สุดก็คือเมอีฟ เพียงชั่วกระพริบตาร่างของนางก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพาลาดินผู้หนึ่งก่อนจะจ้วงแทงมีดทำลายจังหวะหลบหนีของอีกฝ่ายไป จากนั้นเซียวอวี๋และฮีโร่คนอื่นๆติดตามมาถึงก่อนจะเปิดฉากโจมตีอย่างดุเดือด

พาลาดินคนอื่นๆที่เห็นดังนั้นก็ต้องการจะย้อนกลับมาช่วยเหลือ หากแต่เครื่องยิงบาริสต้าบนกำแพงกระหน่ำยิงสกัดพวกเขาเอาไว้ ความรุนแรงของเครื่องยิงบาริสต้าที่ถูกปรับปรุงของกองทัพดินแดนไลอ้อนนั้น กระทั่งตัวตนขั้นที่หกก็ต้องขยาด

สุดท้ายแล้วตัวตนขั้นที่หกก็ยังไม่ถึงกับตายไม่เป็น พวกเขายังมีเลือดเนื้อ

หากถูกศรเวทที่บรรจุบนเครื่องยิงบาริสต้าเสียบทะลวงบนร่าง พวกเขาก็คับขันแล้ว

ศรเวททั้งหมดต่างก็ถูกปรับปรุงเสริมอานุภาพโดยฮิกกิ้น ทุกดอกล้วนแต่มีพลังทำลายล้างขั้นสูง

เหล่าพาลาดินต่างก็หลบศรเวทจากเครื่องยิงบาริสต้าเป็นพัลวันจนทั้งหมดแตกสานซ่านเซ็นไม่เป็นกลุ่ม และเพียงชั่วลมหายใจเข้าออกไม่กี่ครั้ง พาลาดินผู้โชคร้ายที่ถูกพวกเซียวอวี๋กลุ้มรุมก็ตกตาย

ต้องทราบว่ายอดฝีมือระดับเดียวกับดัมนั้นมีไม่มาก และพาลาดินขั้นที่หกผู้นี้ก็เป็นเพียงขั้นที่หกทั่วไป เขาไม่อาจรับมือกับฮีโร่ที่รุมโจมตีใส่เขาได้แม้แต่คนเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเอาชนะ

เมอีฟดึงมีดออกจากขั้นหัวใจของพาลาดินผู้นั้นก่อนจะสะบัดเลือดอทิ้งอย่างเฉยชา

โฮก……………….

กรอมเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ในเสียงคำรามแฝงแววกระหายเลือดไว้อยู่กลายๆ

“พาลาดินขั้นหกที่พวกเจ้าพึ่งตกตายไปแล้วสอง กุ้งฝอยเช่นพวกเจ้าต้องพึ่งพาตัวเองแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า….มาเถอะ ให้บิดาส่งพวกเจ้าไปยังสถานที่ที่เรียกว่านรกเถอะ”

เซียวอวี๋ก้มกายลงตัดศีรษะของดัมและพาลาดินอีกคนก่อนจะยกขึ้นชู

ช่วงเริ่มการต่อสู้ ดัมได้มุ่งหน้าไปยังกำแพงโดยทิ้งกองทัพไว้ด้านหลัง เรื่องนี้ไพร่พลของศาสนจักรต่างก็เห็นกันทุกคน ยามเมื่อดัมถูกปลิดปลง พวกเขาก็เห็น และฉากการตายของพาลาดินอีกคนเองก็ไม่หลุดรอดไปเช่นเดียวกัน นักรบของศาสนจักรทุกคนล้วนเห็นด้วยสองตาของตน

ฉากเหล่านี้ได้ทำลายขวัญกำลังใจพวกเขาจนแทบสิ้นหวัง อย่างไรก็ตาม ในสนามรบนั้น คำสั่งของผู้บัญชาการถือเป็นที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะมีผู้บัญชาการมาสั่งให้ถอยทัพ เมื่อเข้าประชิดกำแพงได้ พวกเขาก็เริ่มพาดบันไดเทียมเมฆเพื่อทำการโจมตีต่อไป

เซียวอวี๋ที่เห็นเช่นนั้นก็ตะโกนสั่งการต่อ “จงทะยานออกไป สังหารศัตรูให้สิ้นซาก!”

หากในช่วงเริ่มต้นพวกเขาต้องเผชิญกับการโหมบุก ฝ่ายเมืองไลอ้อนก็คงทำได้เพียงตั้งรับให้มั่น แต่ในเมื่อผู้นำทัพหน้าของอีกฝ่ายถูกสังหารไปแล้ว ขวัญกำลังใจของกองทัพฝ่ายศาสนจักรก็ตกฮวบลง นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะโต้กลับ

หากไม่ไล่ตีศัตรูให้แตกพ่ายตอนนี้ ผู้บัญชาการของอีกฝ่ายก็คงมีคำสั่งเรียกทัพกลับไปเสียก่อน……