ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล


“ฆ่า……”

ไพร่พลภายใต้การนำของดัมเวลานี้ต่างก็ได้รับอิทธิพลจากความกล้าหาญของดัมจนมีขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยม ทั้งหมดตบเท้ามุ่งหน้าไปยังเมืองไลอ้อนอย่างฮึกเหิม ทุกคนล้วนดูคล้ายกับคนเสียสติ นัยน์ตาของพวกเขาแดงก่ำกระหายเลือด ราวกับว่าผู้คนในดินแดนไลอ้อนที่พวกเขากำลังจะรบด้วยนั้นเป็นศัตรูคู่แค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน

ในฐานะแม่ทัพแห่งทัพหน้า ดัมถือค้อนยักษ์ซึ่งเป็นอาวุธคู่กายนำอยู่ด้านหน้าสุด เขากู่ร้องคราหนึ่งก่อนจะกระโดดไปยังกำแพงเมืองไลอ้อนที่สูงสิบกว่าเมตรอย่างอาจหาญ

เมื่อเห็นดัมกระโดดขึ้นไปบนกำแพงเมือง เออซ่าก็แค่นเสียงเย็น เจ้าคิดว่าสงครามนั้นสามารถจบได้ด้วยกำลังของคนเพียงคนเดียวงั้นหรือ?

หากว่าเป็นเมื่อก่อนที่เซียวอวี๋ไม่มีตัวตนขั้นที่หกอยู่ในสังกัดแล้วล่ะก็ การบุกขึ้นไปบนกำแพงเช่นนี้ก็อาจจะสร้างความปั่นป่วนได้มากมายมหาศาล แต่เออซ่านั้นทราบมาว่าตอนนี้เซียวอวี๋มียอดฝีมือขั้นที่หกอยู่คับคั่ง

โดยเฉพาะในการศึกที่อัลคีราฟ ยอดฝีมือกลุ่มนั้นได้แสดงความเก่งกาจออกมาจนกลายเป็นที่จับตา เหล่านักผจญภัยต่างก็เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับยอดฝีมือกลุ่มนั้นด้วยน้ำเสียงชื่นชม

ด้วยการมีอยู่ของยอดฝีมือกลุ่มนั้น ดัมจะสามารถก่อการใดได้หรือ?

เพียงแค่สองเท้าของดัมแตะสัมผัสพื้นกำแพง เงาร่างหนึ่งก็พลันปราฏกขึ้นทักทายเขา

เปรี้ยง!

ทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง ต่างฝ่ายต่างก็ถอยหลังไปหลายก้าว กระนั้นดัมก็สามารถยืนหยัดอยู่บนกำแพงได้สำเร็จ

ดัมจ้องเขม็งไปยังบุคคลที่เบื้องหน้าก่อนที่เพลิงแห่งโทสะจะถูกจุดจนลุกโชน

นั่นก็เพราะที่ปรากฏกายเบื้องหน้าของเขาไม่ใช่คนอื่นคนไกล หากแต่เป็นอดีตพาลาดินของศาสนจักร อลอนโซ่

เวลานี้อลอนโซ่ถือคบเพลิงต้องสาป ร่างกายสวมใส่ชุดเกราะเซ็ตทีห้าที่ปกคลุมมิดชิดทั่วทั้งร่าง ลักษณะภายนอกของเขาดูน่าเกรงขามยิ่งกว่าครั้งอยู่ในสังกัดศาสนจักรอย่างเทียบกันไม่ติด

ในอดีตนั้น อลอนโซ่เป็นแค่หัวหน้าหน่วยพาลาดินกลุ่มเล็กๆของศาสนจักรที่พอจะมีฝีมืออยู่บ้าง และในช่วงเวลาที่ดัมเริ่มมีฐานะขึ้นมา อลอนโซ่ยังเป็นแค่เพียงพาลาดินฝึกหัดคนหนึ่งเท่านั้น

หากทว่าในเวลานี้ พาลาดินฝึกหัดที่ว่าได้บรรลุถึงขั้นที่หกและกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลัง เรื่องนี้ทำให้ดัมสะเทือนใจมาก และเรื่องที่ทำให้ดัมรู้สึกโกรธแค้นก็คือ การที่อีกฝ่ายแปรพักต์ต่อศาสนจักรและหันไปเข้าร่วมกับฝ่ายตรงข้าม อลอนโซ่ได้เลือกหันหลังต่อศาสนจักรที่ชุบเลี้ยงเขาขึ้นมา

“เจ้าคนทรยศ! เจ้ายังมีหน้ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีก” ดัมตะโกนอย่างเดือดดาล

อลอนโซ่จ้องมองดัมพลางกล่าวตอบอย่างเยือกเย็น “ท่านดัม ท่านได้สติสักที ท่านอูเธอร์ตัวจริงนั้นอยู่ที่นี่ เทพแห่งแสงสว่างนั้นอยู่ที่นี่แล้ว ท่านไม่เห็นพรที่ข้าได้รับหรือ? นี่ต่างหากจึงจะเป็นพรแท้จริงของพาลาดิน พลังที่แท้จริงของแสงสว่าง มีเพียงเส้นทางสายนี้ที่จะนำพาพวกเราไปสู่ความจริง”

“ผายลม ท่านอูเธอร์ตัวจริงงั้นหรือ? ท่านอูเธอร์ตัวจริงนั้นอยู่ที่ศาสนจักร! เจ้าดันหลงเชื่อคำโป้ปดของพวกนอกรีตและหันหลังให้พระเจ้า! วันนี้ ข้าในฐานะตัวแทนของสมเด็จพระสันตะปาปาจะชำระล้างเจ้าเอง!” กล่าวจบดัมก็พุ่งเข้าหาอลอนโซ่พร้อมค้อนยักษ์ในมือ

เมื่อเริ่มปะทะอลอนโซ่ก็ตกเป็นรองด้านพละกำลัง อลอนโซ่พบว่า แม้ตัวเขาจะได้รับบัฟจากอูเธอร์มาแล้ว เขาก็ยังไม่อาจเทียบกับดัมได้ในการปะทะซึ่งหน้า

กำลังใจของดัมเวลานี้ได้พุ่งสู่จุดสูงสุด สิ่งนี้ไม่อาจหักล้างได้ด้วยพลังจากบัฟ นักรบที่แท้จริงนั้นไม่ได้พึ่งพาเพียงแค่กำลังกาย หากแต่ยังต้องมีกำลังใจ ซึ่งหากเทียบในด้านของกำลังใจนี้ อลอนโซ่ยังตกเป็นรองอยู่ขั้นหนึ่ง

อย่างไรกก็ตาม เมื่อเห็นสถานการณ์ของอลอนโซ่เริ่มแย่ลง เงาร่างหนึ่งก็พุ่งโถมออกมาจากด้านข้าง เงาร่างนั้นร้องคำรามพลางพุ่งเข้าหาดัมอย่างรุนแรง

เป็นกรอมที่ถือดาบยักษ์พุ่งโถมออกมา

เคร้ง เคร้ง เคร้ง……

เพียงชั่วพริบตาทั้งสองก็ปะทะกันไปหลายครั้ง กรอมไม่ได้เสียเปรียบแม้แต่น้อย ยิ่งกว่านั้น การโจมตีของกรอมก็ยิ่งมายิ่งหนักหน่วง ทักษะดาบอันลื่นไหลของกรอมได้สร้างความประหลาดใจต่อดัมเป็นอย่างมาก

‘ออร์คตนนี้มันอะไรกัน? ไฉนจึงมีเพลงดาบเฉียบคมถึงเพียงนี้? เมื่อปะทะกันข้ากลับไม่ได้เปรียบแม้แต่น้อย เป็นไปได้หรือไม่ว่าสมุนของเซียวอวี๋ต่างก็มีฝีมือร้ายกาจเช่นนี้?”

นับตั้งแต่ที่ดัมบรรลุขั้นที่หกได้เป็นต้นมา ตัวเขาก็แทบไม่ประสบพบเจอกับคู่ต่อสู้ที่รับมือเขาได้ โดยเฉพาะในช่วงสงครามศักด์สิทธิ์หลายๆสงครามที่ผ่านมา กำแพงเมืองของฝ่ายศัตรูล้วนถูกป่นทำลายด้วยความกล้าหาญของเขามานักต่อนัก ตัวเขานั้นไร้ผู้ต้านราวกับเทพสงครามไร้พ่าย

แม้จะเคยเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งมาบ้าง กระนั้นก็ยังไม่มีผู้ใดเอาชนะเขาได้แม้สักครั้ง อย่างมากก็เพียงเสมอกัน

ดังนั้น ในหลายศึกที่ผ่านมา กล่าวได้ว่าตัวเขาเพียงคนเดียวมีส่วนช่วยอย่างมากในการยึดครองดินแดนมากมายให้ศาสนจักร

อย่างไรก็ตาม ฝีมือของกรอมได้สร้างความประหลาดใจแก่เขา

นั่นเป็นเพราะตัวเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีนักรบจากดินแดนไลอ้อนบีบให้เขาตกเป็นรองได้ แม้เขาจะรู้สึกได้ว่ากรอมไม่สามารถฆ่าเขา แต่เขาก็ไม่อาจทำอย่างไรกรอมได้เช่นกัน

และในครั้งนี้ ดัมก็ต้องรู้สึกเย็นวาบที่สันหลังขึ้นมา เพราะว่าตอนนี้ รอบกายของเขาต่างก็มียอดฝีมือระดับเดียวกับกรอมปรากฏตัวออกมาโอบล้อมเขาไว้

“บัดซบ…” ดัมสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กลายกล้ำเข้ามา เป็นเพราะตัวเขาพุ่งมาสุดกำลัง กองทัพของเขาจึงถูกทิ้งไว้ด้านหลัง

หากว่าเป็นในอดีต แม้ขุมกำลังเหล่านั้นจะมียอดฝีมือขั้นที่หก กระนั้นก็มีเพียงหนึ่งหรือสองคน เขาย่อมไม่รู้สึกเกรงกลัวแต่อย่างใด หากเป็นตัวตนขั้นที่หก ดัมยังสามารถรับมือพร้อมกันได้ห้าหกคน

แต่ในวันนี้ เพียงกรอมคนเดียวก็มีฝีมือคู่คี่ก้ำกึ่งกับเขาแล้ว และที่ด้านข้างยังมีตัวตนแบบนี้อีกหลายคนโอบล้อมเข้ามา นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ดัมเกิดรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว

เหล่าฮีโร่ที่ปรากฏตัวออกมาก็คือ อิลิดัน คาร์น เมอีฟ

กล่าวได้ว่าฮีโร่เหล่านี้ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือในเชิงต่อสู้ระยะประชิดที่แข็งแกร่งที่สุดในสังกัดของเซียวอวี๋แล้ว นี่เป็นกลยุทธ์ที่เซียวอวี๋ได้จัดสรรให้กับพวกเขาเป็นการล่วงหน้า หากว่าสบโอกาสก็ให้ทำการโอบล้อมตัวตนที่แข็งแกร่งของศัตรูเอาไว้

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า ทำให้นิ้วหักหนึ่งนิ้วยังดีกว่าทำให้เจ็บทั้งสิบนิ้ว ดังนั้นตราบที่มีโอกาส เขาจะต้องกำจัดตัวตนระดับผู้นำของศัตรูออกไป เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อฝ่ายตรงข้าม

ยอดฝีมือขั้นที่หกเพียงคนเดียวยังมีค่ายิ่งกว่าทัพทหารหนึ่งแสนนาย

ตอนที่เซียวอวี๋เล่นเกมในอดีต เรื่องพื้นฐานที่สุดที่เขาทำก็คือเด็ดชีพฮีโร่ของฝ่ายตรงข้ามก่อน

ด้วยเหตุนี้ เซียวอวี๋จึงได้จัดเตรียมกลยุทธ์นี้เอาไว้ใช้ออกในเวลาเช่นนี้

หากเพียงตัวตนขั้นที่หกธรรมดาทั่วไป พวกเขาก็รังเกียจที่จะใช้กลยุทธ์เช่นนี้ แต่ว่าเหล่าฮีโร่นั้นเชื่อฟังคำสั่งของเซียวอวี๋ พวกเขาพร้อมปฏิบัติตามโดยไม่มีแม้แต่ความสงสัย

ฮีโร่สายต่อสู้ระยะประชิดสี่คนเข้ารุมล้อมดัมไว้ ทำให้ดัมต้องรับมืออย่างปั่นป่วน เวลานี้เขาไม่สนใจสิ่งที่เรียกว่าศักดิ์ศรีของยอดฝีมืออีกต่อไป เขาต้องการจะตีฝ่าวงล้อมหลบหนีให้ได้โดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม ฮีโร่ทั้งสี่คนต่างก็ดุดันถึงขีดสุด การตีฝ่าออกไปนั้นใช่เ็นเรื่องที่ทำได้ง่ายหรือ?

ทักษะทรงพลังหลายสายต่างกระหน่ำตกลงบนร่างดัมอย่างต่อเนื่อง หากเป็นหนึ่งถึงสองทักษะ เขาก็คงพอรับไว้ได้ แต่ย่อมไม่ใช่กับทักษะนับสิบสาย ดังนั้นดัมจึงรับบาดเจ็บสาหัสในทันที

เวลานี้เองพาลาดินขั้นที่หกคนอื่นๆของศาสนจักรต่างก็รีบพุ่งเข้ามาหวังช่วยเหลือ แต่ทว่าพวกเขาก้ต้องพบเจอกับห่าธนูของทิรันด้าและนากาขัดขวางไว้

เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง….

ขณะที่ทุกคนกำลังต่อสู้กัน เงาร่างหนึ่งก็ลอยลงมาจากฟ้าและสะบัดดาบฟันใส่ดัมจากทางด้านหลัง

คนผู้นี้คือเซียวอวี๋เอง….