ตอนที่ 268 เปรียบเทียบ

รักเล่ห์เร้นใจ

หลินหว่านเห็นเวยปั๋วที่อี้อวิ๋นฉังโพสต์ลงเน็ต แค่นหัวเราะทีหนึ่ง เธอไม่เข้าใจเลยว่าอี้อวิ๋ฉังทำไมจึงหน้าหนาได้ขนาดนี้ เพราะเพื่อแย่งตัวเซียวจิ่งสือ ถึงกับไปทำศัลยกรรมหน้าใหม่ยังไม่พอ ยังจะมาแอบอ้างว่าเป็นน้องสาวของเธออีก คิดจะทำลายชื่อเสียงกันถึงขนาดนี้เชียว? 

 

 

หลินหว่านนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในมือถือเป็นภาพขยายใหญ่ที่อี้อวิ๋นฉังโพสต์ลงเวยปั๋ว ดูท่าเซียวจิ่งสือคงไม่ได้รักเธอเหมือนที่เขาพูด ไม่อย่างนั้นจะเกิดเรื่องแบบนี้กับอี้อวิ๋นฉังได้ยังไงกัน และอี้อวิ๋นฉังก็ยังมีใบหน้าที่เหมือนกับเธออีกด้วย 

 

 

หลินหว่านโมโหจนทนไม่ได้ จึงเข้าไปที่ออฟฟิศโพสต์ข้อความลงเวยปั๋ว เป็นประกาศ อย่างเป็นทางการ บอกว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียว ไม่มีน้องสาวที่ไหนอีก ปฏิเสธอี้อวิ๋นฉังไปตรงๆ 

 

 

ประกาศของหลินหว่านได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเรื่องนี้ผู้คนกำลังสนใจ ด้วยเกรงว่าจะมีเรื่องราวหักมุมขึ้นเมื่อไรก็ได้ เดิมทีหลายคนต่างก็มีชีวิตที่ไม่ค่อยสมหวังอยู่แล้ว ตอนนี้จึงหาความบันเทิงจากการดูเรื่องราวดราม่าของพวกซุปตาร์ดาราใหญ่ พวกเศรษฐีมีเงินซะหน่อย 

 

 

แฟนคลับของหลินหว่านย่อมออกมาสนับสนุนอยู่แล้ว คราวนี้เลยมีเหตุให้อี้อวิ๋นฉังเพิ่มดีกรีความฮอตขึ้นบ้าง ต่อให้พวกเขาหน้าตาเหมือนกันแล้วไง หลินหว่านไม่มีน้องสาวซะหน่อย 

 

 

อี้อวิ๋นฉังเห็นเวยปั๋วของหลินหว่าน ก็ยิ้มอย่างพอใจ เธอรู้อยู่แล้วว่าหลินหว่านต้องอับอายจนโมโห เธอกล้าโพสต์รูปของเธอกับเซียวจิ่งสือ ย่อมต้องมีแผนต่อเนื่อง หลินหว่านไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร เธอมีวิธีให้หลินหว่านชื่อเสียงย่อยยับอยู่แล้ว คิดจะแย่งเซียวจิ่งสือรึ นี่เป็นค่าตอบแทนที่เธอต้องจ่ายไงล่ะ 

 

 

อี้อวิ๋นฉังแอบโทรไปสายหนึ่ง ตอนนี้ข่าวลือบนเน็ตจัดการได้ง่ายจะตาย ก็แค่จ้างพวกมือโพสต์มาทำ แล้วเธอก็ไม่สนใจเงินแค่นั้นหรอก 

 

 

อี้อวิ๋นฉังจ้างมือโพสต์ ให้เข้าไปปั่นกระแสข่าวในบล็อกใหญ่ๆ หลายแห่ง บอกว่าหลินหว่านอิจฉาเธอ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ดี สาเหตุที่ทำให้หลินหว่านไม่ยอมรับว่าเธอเป็นน้องสาวก็เพราะ ใครใช้ให้เธอกับหลินหว่านหน้าตาเหมือนกันเล่า หลินหว่านก็อธิบายไม่ได้ 

 

 

แผนการเป็นไปตามที่อี้อวิ๋นฉังวางเอาไว้ทีละขั้น 

 

 

ทีแรกหลินหว่านปฏิเสธตัวตนของอี้อวิ๋นฉัง ทุกคนก็เริ่มสงสัยความเป็นจริงของโพสต์อี้อวิ๋นฉัง ในเมื่ออี้อวิ๋นฉังไม่ใช่น้องสาวของหลินหว่าน งั้นเรื่องเธอกับเซียวจิ่งสือเป็นความจริงหรือเปล่า? 

 

 

แต่อี้อวิ๋นฉังจ้างมือโพสต์เข้ามาปั่นกระแสว่า ถ้าอี้อวิ๋นฉังไม่ใช่น้องสาวของหลินหว่าน งั้นสองคนทำไมถึงได้หน้าเหมือนกันขนาดนี้ บางแห่งยังเหมือนกันราวกับพิมพ์เดียวกันเลย ถ้าไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ทั้งสองก็เหมือนกันจนเกินไป 

 

 

คำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ทำให้พวกขาจรที่ไม่รู้ความจริงเกิดความสงสัยได้ไม่น้อย อี้อวิ๋นฉังพอเห็นว่าตัวเองปั่นกระแสขึ้นมาได้ก็โหมรุก ให้เป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้ทีละก้าว 

 

 

ในเวลานั้นได้เกิดกระแสเสียงอีกอย่างหนึ่งขึ้นมา บอกว่าอี้อวิ๋นฉังก็คือน้องสาวแท้ๆ ของหลินหว่าน แต่หลินหว่านอิจฉาที่เธอสวยกว่าและฝีมือการแสดงดีกว่า จึงไม่ยอมรับอี้อวิ๋นฉัง 

 

 

ตอนแรกทุกคนก็ไม่ค่อยเชื่อหรอก เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าฝีมือการแสดงของหลินหว่านดีมาก เรื่องที่เธออิจฉาฝีมือการแสดงและรูปโฉมของอี้อวิ๋นฉังจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ 

 

 

แต่ต่อมาไม่รู้ว่าทำไมเกิดมีคลิปการแสดงของอี้อวิ๋นฉังกับหลินหว่านตอนอยู่ในกองถ่ายรั่วไหลออกมา ตอนนั้นสภาพของหลินหว่านไม่ค่อยดีนัก โดนเทคตลอด และยังถูกผู้กำกับด่าอีก นั่นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นตอนที่น้อยครั้งนักที่หลินหว่านจะแสดงได้ย่ำแย่ขนาดนี้ 

 

 

อี้อวิ๋นฉังกลับเอามาเป็นข้ออ้าง 

 

 

คลิปนี้ผ่านการตัดต่อมาก่อน ตอนนั้นเพราะอี้อวิ๋นฉังกับเธอหน้าตาเหมือนกัน จึงแสดงแทนเธอไปหลายตอน ดังนั้นในหลายๆ ฉากทั้งสองจึงดูเหมือนกันมาก 

 

 

คนทำคลิปใช้จุดนี้เป็นประโยชน์ ฝีมือการแสดงต้องเปรียบเทียบกันจึงจะเห็นฝีมือ ตอนนั้นหลินหว่านแสดงได้ไม่ดีจนอาจเรียกได้ว่าเป็นแย่มาก พอนำอี้อวิ๋นฉังกับเธอในตอนนั้นมาเทียบกัน จึงเป็นเรื่องแน่อยู่แล้วที่จะเห็นชัดถึงความแตกต่าง 

 

 

พอคลิปนี้หลุดออกมาก็พุ่งขึ้นเป็นคลิปฮอตในชั่วพริบตา กระแสข่าวลือเริ่มเปลี่ยนทิศทาง มีคนไม่น้อยเข้าข้างอี้อวิ๋นฉัง และมีคนไม่น้อยที่เชื่อว่าหลินหว่านไม่ยอมรับอี้อวิ๋นฉังเป็นน้องเพราะอิจฉาที่อี้อวิ๋นฉังสวยกว่าและฝีมือการแสดงดีกว่า นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ยังเชื่อคลิปที่อี้อวิ๋นฉังโพสต์ เรื่องของเธอกับเซียวจิ่งสือ 

 

 

หลินหว่านแม้จะโกรธอยู่ ไม่อยากจะโผล่หน้าเข้าไปยุ่งกับอี้อวิ๋นฉังให้เสียอารมณ์ แต่ผู้จัดการของหลินหว่านทำไม่ได้ มันเป็นหน้าที่ของเธอ ดังนั้นในตอนที่เรื่องนี้กำลังเป็นที่สนใจ อวิ๋นซีจึงบอกเรื่องราวที่พัฒนาในภายหลังนี้กับหลินหว่าน 

 

 

หลินหว่านโมโหอยู่บ้าง เธอน่าจะคิดได้ว่าในเมื่ออี้อวิ๋นฉังกล้าโพสต์ลงเวยปั๋ว ย่อมต้องมีแผนเตรียมไว้ก่อนแล้ว แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะมาเร็วขนาดนี้ 

 

 

หลินหว่านดูคลิปที่อวิ๋นซีส่งมาให้ คลิปไม่ยาวนัก แต่ก็ชัดเจนมาก แต่ละท่อนล้วนแต่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างนี้ ล้วนเป็นตอนที่เธอแสดงในสภาพที่ไม่พร้อม เนื่องจากภาพเหล่านี้ถูกคัดออก ดังนั้นทุกตอนจึงสั้นมาก ในคลิปยังมีคำอธิบายด้วย พวกขาจรที่เข้ามาดูจึงเห็นว่าอี้อวิ๋นฉังแสดงได้ดีกว่าเธอมาก 

 

 

ความยาวคลิปขนาดนี้ตอนทำขึ้นคงต้องใช้เวลาพอดู และคำอธิบายบนคลิปก็ละเอียดมากจนต้องใช้เวลาไม่น้อย ตั้งแต่อี้อวิ๋นฉังโพสต์ลงเวยปั๋วจนถึงตอนนี้ยังไม่ถึงวันเลย ดูท่าว่าคลิปนี้คงเตรียมไว้แต่แรกแล้ว และรอให้เธอตอบโต้ 

 

 

ตอนนั้นเอง หลินหว่านได้รับโทรศัพท์จากอวิ๋นซี 

 

 

“หว่านเอ๋อร์ เรื่องวันนี้คุณเห็นรึยัง?” 

 

 

“เธอหมายถึงคลิปนั่นเหรอ? เธอส่งมาให้แล้วไม่ใช่เหรอ?” 

 

 

“ใช่ คลิปนั่นล่ะ” 

 

 

“อันนั้นฉันดูแล้ว ทำไมเหรอ?” 

 

 

“อี้อวิ๋นฉังนั่นเลวเกินไปแล้ว ฝีมือการแสดงของตัวเองมีแค่ไหนก็น่าจะรู้แก่ใจดีอยู่แล้วนี่? ถึงกับกล้าใช้ฝีมือการแสดงของเธอมาเปรียบมาดีกว่า ฉันไม่รู้จะพูดยังไงเลย…” 

 

 

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องสนใจหรอก ฉันก็ไม่ได้เพิ่งจะรู้จักอี้อวิ๋นฉังนี่ ฉันย่อมรู้ว่าเธอเป็นคนยังไง และยังรู้จักฝีมือเธอด้วย เธอไม่ต้องห่วงว่าฉันเห็นแล้วจะเสียใจกับเรื่องพวกนี้นะ” 

 

 

“หว่านเอ๋อร์ งั้นฉันจะไปลงแก้ข่าวนี้ในเวยปั๋วของเธอนะ เธอจะมาถูกเข้าใจผิดแบบนี้ไม่ได้หรอก” 

 

 

“ไม่ต้องหรอก เรื่องนี้ฉันจัดการเอง เธอไม่ต้องยุ่ง” 

 

 

“ไม่ต้องจริงๆ น่ะ? อี้อวิ๋นฉังใส่ร้ายเธอขนาดนี้ เฮ้อ ทั้งๆ ที่ฝีมือเธอสุดยอดขนาดนี้ ถามไปทางกองถ่ายก็รู้แล้วว่าฝีมือเธอดีกว่าเขาตั้งเยอะ อี้อวิ๋นฉังยังคิดจะโม้เรื่องฝีมือการแสดงกับเธออีก…” 

 

 

เห็นได้ชัดว่าอวิ๋นซีขุ่นเคืองกับเรื่องนี้มาก ก็น่าอยู่หรอก ขนาดฝีมือการแสดงของหลินหว่านยังกล้าสาดโคลนขนาดนี้ 

 

 

“ไม่ต้องเลยจริงๆ ฉันรู้ว่าเธอดีกับฉัน แต่ฉันมีวิธีอื่นอยู่จริงๆ เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ เรื่องนี้ฉันต้องจัดการได้แน่” 

 

 

หลินหว่านได้ฟังอวิ๋นซีพูดแทนเธอ ก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา เซียวจิ่งสือระแวงเธอ เมินเฉยกับเธอ ส่วนอี้อวิ๋นฉังก็ใส่ร้ายเธอ อยากให้เธอตกนรก แต่ก็ยังมีคนที่ห่วงใยเธออยู่เสมอ 

 

 

“งั้นเรื่องนี้ก็แล้วแต่เธอละกัน” 

 

 

“วางใจได้น่า แล้วก็…ขอบใจนะ” 

 

 

“ไม่เป็นไร นี่มันงานฉัน บายนะ” 

 

 

“บาย”