ไข่มุกทะเลใต้พิภพหายไปแล้ว?
มุมปากของถังอ้าวเทียนกระตุกอย่างแรง เขารู้สึกเจ็บแค้นอยู่ในใจ ทว่ากลับพูดว่า “ช่างเถิด ให้เรื่องจบลงเพียงเท่านี้! ”
ยอดฝีมือทั้งแปดและสัตว์เทพทั้งสามต้องจบชีวิตลง ทั้งยังสูญเสียไข่มุกทะเลใต้พิภพที่เทพีหนี่ว์วาให้ไว้ขณะผสานสวรรค์และแผ่นดินโลก แต่ถังอ้าวเทียนกลับพูดว่าให้เรื่องจบลงเพียงเท่านี้
เป็นเรื่องจริงหรือเท็จกันแน่?
อย่างไรก็ตาม ภายในใจของถังอ้าวเทียนคิดสิ่งใดอยู่นั้น แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดล่วงรู้
ถังเสวี่ยนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสำนักถังเหมิน และเรื่องที่ซูจิ่นซีกับตงหลิงหวงถูกวิชามนต์ดำของพ่อมดทำร้ายมาบอกอู๋จุน มู่หรงฉีเป็นคนแรกที่อู๋จุนติดต่อด้วย ในเวลานี้ อู๋จุนจึงทราบตำแหน่งของพวกเขา
อู๋จุนรีบควบม้าไปยังผาเก็บดาว โดยมีถังเสวี่ยตามไปด้วย
ม้าของอู๋จุนวิ่งเร็วมาก จนทิ้งห่างม้าของถังเสวี่ยที่วิ่งตามมาด้านหลัง
“พี่เป่าอวี้ ท่านรอถังเสวี่ย รอถังเสวี่ยด้วย! ”
“ข้าจะไปดูแม่นางพิษน้อย ไปดูภรรยาในอนาคตของข้า เจ้าตามมาเพื่ออันใด กลับไป! ”
ใบหน้าถังเสวี่ยซีดขาว นางปกปิดความเศร้าทั้งหมดไว้ภายในใจ และแสดงออกด้วยรอยยิ้มเข้มแข็ง “พี่เป่าอวี้ ข้าก็จะไปดูพี่จิ่นซีด้วยกันกับท่าน ท่านช้าลงหน่อย ถังเสวี่ยตามท่านไม่ทันแล้ว! ”
อู๋จุนไม่พูดสิ่งใด ทำเพียงควบม้าให้เร็วยิ่งขึ้น
ถังเสวี่ยพยายามไล่ตาม ทว่าไล่ตามอย่างไร ก็ตามไม่ทัน
บนยอดเขาแห่งหนึ่ง มีรอยเท้าม้าสองตัววิ่งไปอย่างรวดเร็ว!
เมื่อมาถึงผาเก็บดาว นับว่าถังเสวี่ยไล่ตามอู๋จุนทันแล้ว
อู๋จุนลงจากหลังม้าและทำตามสิ่งที่มู่หรงฉีบอกไว้ เขามองหาตำแหน่งที่ตั้งของผาเก็บดาว ทว่าถังเสวี่ยเดินมาข้างหน้าและคว้าแขนของอู๋จุนไว้
“พี่เป่าอวี้ หากซูจิ่นซีเป็นอันใดไปจริงๆ ท่านจะเสียใจหรือไม่? ”
“ไปเถิด พูดมากน่ารำคาญ! ต่อให้เจ้าเป็นอันใดไป แม่นางพิษน้อยก็ต้องไม่เป็นอันใด! ”
ใบหน้าถังเสวี่ยซีดขาวอีกครั้ง นางปิดบังแววตาที่ทอประกายความเจ็บปวด และรั้งแขนของอู๋จุน “พี่เป่าอวี้ หากถังเสวี่ยเป็นอันใดไป ท่านจะเสียใจหรือไม่? ”
อู๋จุนขมวดคิ้วเล็กน้อย ทว่าเขาไม่ได้มองไปที่ถังเสวี่ย “เจ้าจะมีเรื่องอันใดได้อีก? ”
ถังเสวี่ยมีท่าทางจริงจัง “ข้าหมายความว่า หากถังเสวี่ยเป็นอันใดไป? ”
“เจ้าหรือ? ”
ทันใดนั้น อู๋จุนก็เงยหน้าขึ้นมองถังเสวี่ย
ถังเสวี่ยตกประหม่า และพยักหน้าอย่างจริงจัง “อืม! ” จากนั้น นางก็จ้องเขม็งไปที่ดวงตาของอู๋จุน ด้วยเกรงว่าตนเองจะพลาดโอกาสได้เห็นการแสดงออกที่สำคัญที่สุดของเขา
อย่างไรก็ตาม นางไม่คาดคิดเลยว่า อู๋จุนจะยกยิ้มมุมปาก และสะบัดมือของนางออก “หากเจ้าเกิดเรื่อง แล้วเกี่ยวอันใดกับข้า! ”
ถังเสวี่ยหยุดชะงัก นางยังอยู่ในท่าที่สองมือกำลังดึงแขนของอู๋จุน ใบหน้าของนางซีดขาวอย่างไม่รู้ว่าควรตอบสนองเช่นไร
นางบอกตนเองว่าต้องเข้มแข็ง
บอกว่านางจะอยู่กับพี่เป่าอวี้ตลอดชีวิต
บอกว่าชั่วชีวิตนี้ หากพี่เป่าอวี้ไปที่ใด นางก็จะตามไปที่นั่น แม้เจ็บปวดเพียงใดก็จะไม่เสียใจ นางจะไม่ยอมปล่อยมือและจะยืนหยัดตลอดไป
ทว่าแท้จริงแล้ว ในใจเจ็บปวดเหลือเกิน!
ถังเสวี่ยเม้มริมฝีปาก พลางกำหมัดแน่น นางยืนอยู่ที่เดิม เฝ้ามองร่างในชุดสีแดงอันทรงเสน่ห์ของอู๋จุนกำลังค้นหาบางอย่างบนขอบหน้าผา นางมองเห็นแววตาตึงเครียดภายใต้หน้ากากเย็นชาของเขาได้อย่างชัดเจน
ทว่า สิ่งเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับนางแม้แต่น้อย
พี่เป่าอวี้ ถังเสวี่ยไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกับท่านจริงหรือ?
ทว่า ท่านมีความสัมพันธ์กับถังเสวี่ย!
ท่านอยู่ในใจของถังเสวี่ยตลอดมา
ในที่สุด อู๋จุนก็พบตำแหน่งที่ตั้งของผาเก็บดาว และกระโดดลงไปที่แนวหน้าผาโดยไม่ลังเล
ใบหน้าของถังเสวี่ยที่ยืนห่างออกไปพลันซีดขาว นางไม่คิดสิ่งใด และกระโดดตามอู๋จุนไปทันที
ผู้ใดจะรู้ว่าภายในใจแม่นางถังเสวี่ยผู้โง่เขลาดื้อรั้น จะยืดติดกับความรักเพียงใด?
ในเวลานี้ นางไม่ได้ทำเพื่อซูจิ่นซี ไม่ได้ทำเพื่อมิตรภาพ และไม่ได้ทำเพื่อผู้ใด ทว่าทำเพื่อความรักที่นางยึดติดอยู่ในใจ เพียงเพื่อความรักที่หยั่งรากลึกอยู่ในใจมาเนิ่นนานราวกับยาพิษ เพียงเพื่อ… ไล่ตามพี่เป่าอวี้
พี่เป่าอวี้ ท่านเป็นดั่งยาพิษที่อยู่ในใจของถังเสวี่ย! เป็นยาพิษที่เข้าสู่ไขกระดูก เข้าสู่ปอด ไร้หนทางรักษา
ในผาเก็บดาว เจ้าหุบเขากำลังใช้ไข่มุกทะเลใต้พิภพมาทดแทนศิลาปี้ลั่ว โดยมีเยี่ยโยวเหยา อวิ๋นจิ่น มู่หรงฉี และคนอื่นๆ ยืนอยู่ด้านข้าง
ทันใดนั้น อู๋จุนก็บุกเข้ามา พวกเขาจึงขมวดคิ้วแน่น
เยี่ยโยวเหยาไม่เคยเห็นอู๋จุนอยู่ในสายตา ใบหน้าของเขาแสดงถึงความไม่พอใจ
อู๋จุนรีบตรงไปยังข้างกายมู่หรงฉี “เจ้าฉี แม่นางพิษน้อยเป็นอย่างไรบ้าง? ”
ทั้งร่างของมู่หรงฉีเต็มไปด้วยบาดแผล ที่เขายังสามารถยืนอยู่ที่นี่ได้ นับว่าต้องใช้ความพยายามอย่างสุดกำลัง เมื่ออู๋จุนสัมผัสถูกบาดแผลเข้า มู่หรงฉีจึงส่งเสียงร้องออกมา หัวคิ้วพลันขมวดแน่น
“เจ้าฉี เจ้าบาดเจ็บสาหัสหรือ? ”
มู่หรงฉีกัดฟันพลางหลับตา และไม่พูดสิ่งใด
“แม่นางพิษน้อยเล่า! ” อู๋จุนถามขึ้นอีกครั้ง
ยามนี้ ซูจิ่นซีและตงหลิงหวงนอนอยู่บนแท่นศิลาเหมันต์ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก มู่หรงฉีหันไปมองศิลาเหมันต์ อู๋จุนจึงตรงเข้าไปทันที
อย่างไรก็ตาม อู๋จุนยังไม่ทันได้เข้าใกล้ซูจิ่นซี ร่างสีดำเคร่งขรึมก็ยืนขวางอยู่เบื้องหน้าเขา เยี่ยโยวเหยากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไสหัวไป! ” อู๋จุนจึงเหาะออกไป และชนเข้ากับถังเสวี่ยที่ลงมาจากด้านบนของผาเก็บดาวพอดี
ถังเสวี่ยรีบปีนขึ้นมา “พี่เป่าอวี้ ท่านไม่เป็นอันใดใช่ไหม? เป็นอย่างไรบ้าง? บาดเจ็บที่ใดหรือไม่? ”
อู๋จุนโกรธยิ่งนัก เดิมที เขาต้องการพูดว่า บัดซบ เยี่ยโยวเหยา ข้าต้องการต่อสู้กับเจ้าตัวต่อตัว
ทว่าเขาเห็นเยี่ยโยวเหยาค่อยๆ โน้มตัวลงจุมพิตใบหน้าของซูจิ่นซีอย่างอ่อนโยน ด้วยใบหน้าที่แสนเจ็บปวด โดยไม่พูดสิ่งใด
หลังจากใช้ไข่มุกทะเลใต้พิภพทดแทนศิลาปี้ลั่ว เจ้าหุบเขาผาเก็บดาวจึงนำตัวซูจิ่นซีและตงหลิงหวงไปที่แท่นผนึกวิญญาณจิ่วโยว และใช้ศิลาปี้ลั่วขับไล่มนตร์ดำของพ่อมด
หลังจากขับไล่มนตร์ดำของพ่อมดออกจากร่างแล้ว ตงหลิงหวงก็ฟื้นขึ้นมา ทว่ามนตร์ดำแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของซูจิ่นซีมากเกินไป
ร่างของนางไม่เพียงมีมนตร์ดำของพ่อมดเท่านั้น ทว่ายังมีคำสาปที่พ่อมดที่ใช้เลือดของตนเองสังเวยต่อไข่มุกเจ็ดนักษัตรแห่งแดนปีศาจ ทำให้นางไม่อาจฟื้นขึ้นได้ในเวลานี้ หากต้องการให้นางฟื้นขึ้นมา คงไม่ง่ายอย่างแน่นอน
จากคำขอร้องของเยี่ยโยวเหยา เจ้าหุบเขาผาเก็บดาวจึงมอบอายุขัยสิบปีของเยี่ยโยวเหยาให้ซูจิ่นซี
ทว่าเยี่ยโยวเหยากลับให้ทุกคนปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ไม่ให้บอกซูจิ่นซี
เมื่อพลังวิญญาณของศิลาปี้ลั่ว และพลังวิญญาณของเยี่ยโยวเหยาค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่ร่างของซูจิ่นซี ภายในถ้ำที่มืดมิดและหนาวเหน็บ ใบหน้าของพ่อมดยิ่งทวีความน่ากลัวมากขึ้น
“ไม่… เป็นไปไม่ได้… เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!”
เพื่อสังหารซูจิ่นซี เขาต้องใช้พลังชั่วร้ายทั้งหมดของไข่มุกเจ็ดนักษัตรแห่งแดนปีศาจ อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าจะมีคนช่วยชีวิตนางได้
เขาไม่ยอมแพ้แน่นอน
ทันใดนั้น พ่อมดก็รวบรวมพลังชั่วร้ายทั้งหมดเข้าสู่ดินแดนเสมือนจริง
ขณะที่พลังชั่วร้ายถูกปล่อยเข้าสู่ดินแดนเสมือนจริงนั้น ใบหน้าของเขาปรากฏความพึงพอใจอย่างมาก เมื่อเห็นใบหน้าของซูจิ่นซีในสภาพที่ตายไปแล้ว และพลังหยางก็ค่อยๆ หายไป
ทว่าระหว่างนั้น พลังที่แข็งแกร่งพลันปะทุขึ้นมา มันไม่เพียงทำลายคำสาปของเขาเท่านั้น ทว่ายังทำลายภาพเสมือนจริงอีกด้วย
ร่างของพ่อมดกระเด็นออกมาอย่างแรง และชนเข้ากับหินที่อยู่ด้านข้างจนกระอักเลือด
เขารีบลุกขึ้น ก่อนจะรวบรวมพลังภาพเสมือนจริงอีกครั้ง ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด ทดลองอยู่สองครั้งก็ยังไม่เป็นผล
ใบหน้าของพ่อมดที่ดูดุร้ายอยู่แล้ว ยิ่งดุร้ายโหดเหี้ยมมากขึ้น
นี่… นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?
หรือว่ามีคนค้นพบแล้ว?
ทันใดนั้น พ่อมดก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขาถึงกับตกตะลึง
พลังวิญญาณหยางที่เข้าสู่ร่างของเทพธิดาเมื่อครู่นั้น ราวกับเป็น…
เป็นพลังแห่งโอรสสวรรค์!
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ ในความคิดของพ่อมดก็ปรากฏภาพของคนผู้หนึ่งที่อยู่เคียงข้างเทพธิดาซึ่งกลับชาติมาเกิด รูปลักษณ์อันเคร่งขรึมและรัศมีที่เต็มไปด้วยอำนาจ
หรือว่า เขาคือ…
ดวงตาของพ่อมดเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เป็นไปไม่ได้!