บทที่ 2463 บัณเฑาะก์ 4 / บทที่ 2464 ชักจูง

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2463 บัณเฑาะก์ 4

ในไม่ช้าเขาก็ลงมาถึงก้นทะเลแล้ว เพียงแต่เขาไม่พบว่ามีวังบาดาลอันใดอยู่ที่นี่เลย มีเพียงหินโสโครก สาหร่ายทะเล ปะการัง ปลาทะเลสารพัดชนิด…

ไม่มีวังบาดาลที่สามารถกั้นขวางวารีได้ พวกกู้ซีจิ่วทั้งสองก็ยากที่จะรั้งอยู่ใต้ทะเลนี้เป็นเวลาหลายชั่วยามได้

ความผิดหวังพาดผ่านดวงตาของอวิ๋นเยียนหลี หรือทิศทางการตามหาของเขาจะผิดพลาดไป? พวกกู้ซีจิ่วไม่ได้มาที่นี่ แต่ไปซ่อนตัวที่เมืองเล่อกั่ว?!

ส่วนมนุษย์หมึกตนนี้ก็เป็นแผนล่อเสือออกจากถ้ำ?

แถมเขายังติดกับด้วย!

อวิ๋นเยียนหลีกำหมัดแล้ว

ถึงอย่างไรเขาก็เคยร่วมผจญภัยกับกู้ซีจิ่วมาแล้ว ฝ่าฟันอันตราย ทราบลักษณะการจัดการเรื่องราวของนางดี

สถานที่ที่อันตรายที่สุดก็คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด นี่คือคำพูดที่กู้ซีจิ่วเคยกล่าวไว้ ไม่แน่ว่าตอนนี้นางกับตี้ฝูอีอาจจะเข้าไปซ่อนตัวในฐานทัพของเขาแล้วก็ได้!

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ อวิ๋นเยียนหลีก็ร้อนใจดั่งไฟสุมทรวง ไม่สนใจตามหามนุษย์หมึกแล้ว คิดจะขึ้นสู่ผิวทะเลย้อนกลับไปตามหาที่เมืองเล่อกั่ว!

ด้านหน้าไม่ไกลนักมีเสียงคลื่นน้ำดังขึ้นนิดๆ คล้ายบางสิ่งเผลอทำน้ำกระเซ็นโดยไม่ได้ตั้งใจ…

อวิ๋นเยียนหลีขมวดคิ้ว จู่ๆ เขาก็ได้กลิ่นของมนุษย์หมึกแล้ว!

เขาใจเต้นแวบหนึ่ง!

จากที่นี่ไปเมืองเล่อกัวใช้เวลาอย่างน้อยสองชั่วยาม ซ้ำยังไม่แน่ว่าจะหาพบด้วย

แต่มนุษย์หมึกตนนี้เป็นลูกน้องคนสำคัญของตี้ฝูอี หากจับกุมเขาได้ ก็สามารถใช้เขาบีบคั้นให้พวกตี้ฝูอีเผยตัว ยึดครองความได้เปรียบส่วนหนึ่งไว้ มิเช่นนั้นก็จะถูกเสยปลายจมูกแล้วหลบหนีอยู่ร่ำไป เสียเปรียบเกินไป!

เขาเคลื่อนผ่านแนวปะการังสองสามแห่ง สัมผัสได้ชัดเจนว่ามนุษย์หมึกตนนั้นอยู่แถวนี้ เพียงแต่มองไม่เห็นตัว

เห็นได้ชัดว่ามนุษย์หมึกตนนี้กำลังกลั่นแกล้งเขา เดี๋ยวซ้ายเดี๋ยวขวาวนเวียนอยู่รอบตัวเขา ไม่หลบหนีไม่ปรากฏตัว

วิชาเร้นกาย!

อวิ๋นเยียนหลีลอบกัดฟัน สะกดเจตนาสังหารในใจเอาไว้ไม่อยู่แล้ว! เขาร่ายวิชาทันที

‘ครืน!’

ลำแสงสีขาวสายหนึ่งปะทุออกมารอบกายเขา ลอยกระจัดกระจายไปรอบข้าง พลังมหาศาลทำให้น้ำรอบๆ ปั่นป่วน!

และท่ามกลางระลอกคลื่นอันปั่นป่วนนี้ ในที่สุดเงาร่างของคนผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้น

คนผู้นี้สวมอาภรณ์สีน้ำเงินเข้ม เป็นสีเดียวกับน้ำทะเลโดยรอบ คล้ายว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บ ถูกมวลน้ำที่ปั่นป่วนกระแทกจนกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง

“บัณเฑาะก์ที่น่าตาย ดูสิว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้อีก?!”

อวิ๋นเยียนหลีหัวเราะเย้ยคราหนึ่ง สำแดงกระบวนท่าสังหารของระดับซ่างเซียนขึ้นมา ซัดเข้าใส่คนผู้นั้น…

คนผู้นั้นเห็นท่าไม่ดี จึงหันหลังหมายจะหนี!

กลับชนเข้ากับกำแพงน้ำแข็งที่ปรากฏขึ้นกะทันหัน!

เขาชนจนเวียนหัวลายตาแล้ว อีกทั้งไม่ถนัดศึกสงคราม จึงหันหนีไปยังทิศทางอื่นเสีย ผลคือพบว่าน้ำทะเลที่อยู่รอบข้างเกาะตัวเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า เขาหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น พริบตาเดียวก็ถูกแช่แข็งไว้ด้านใน ก่อตัวเป็นน้ำแข็งใหญ่ก้อนหนึ่ง ขยับไม่ได้อีก

“ภูตปลาหมึกกะจ้อยร่อยตัวหนึ่งก็ริอ่านจะวางแผนเล่นงานข้าแล้ว ช่างไม่เจียมกำลังตนโดยแท้!”

อวิ๋นเยียนหลียืนอยู่หน้าก้อนน้ำแข็ง มองภูตปลาหมึกที่อยู่ในก้อนน้ำแข็งพลางยิ้มเยาะ

ถึงแม้คนผู้นั้นจะขยับตัวไม่ได้ แต่สติยังอยู่ ถึงขั้นที่สามารถพูดจาได้

“ตาบอด!”

อวิ๋นเยียนหลีงุนงง

คนผู้นั้นกะพริบตา ขนตายาวปัดผ่านชั้นน้ำแข็ง ขึ้นเสียงใส่

“ข้าหล่อเหลารูปงามปานนี้ไหนเลยจะเป็นภูตปลาหมึกได้?”

“เช่นนั้นเจ้าเป็นตัวอะไร?!”

ริมฝีปากบางของคนผู้นั้นหยักขึ้นน้อยๆ แย้มยิ้มล่มเมือง

“เจ้าเดาสิ?”

ยิ้มนี้ของเขาดุจบุปผาคลี่แย้ม ราวกับทั้งท้องทะเลจะเจิดจ้าขึ้นมาด้วย โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นของเขา ยามที่ยิ้มแย้มเช่นนี้ หยีโค้งดุจจันทร์เสี้ยว ก้นบึ้งนัยน์ตาคล้ายมีดวงดาวนับไม่ถ้วนพร่างพราวอยู่ ทำให้คนลุ่มหลงลึกล้ำ ปรารถนาจะตายเพื่อเขา…

สิ่งที่เขาใช้คือมนต์เสน่ห์ของเผ่าเขา คิดจะล่อลวงอวิ๋นเยียนหลีให้ปล่อยเขาออกมาจากก้อนน้ำแข็งนี้

อวิ๋นเยียนหลีมองเขายิ้มแวบหนึ่ง เสียงอ่อนโยน

“ผู้ทรงศักดิ์อย่างข้าระอาเกมทายใจเช่นนี้เป็นที่สุด ในเมื่อเจ้าไม่ยอมบอก เช่นนั้นข้าคงต้องมอบความสำราญให้เจ้าเสียแล้ว!”

….

————————————————————————————-

บทที่ 2464 ชักจูง

เขาพลันซัดฝ่ามือใส่ก้อนน้ำแข็งยักษ์!

ฝ่ามือนี้ของเขาเสมือนวิทยายุทธ์ทะลวงภูผาฆ่าโคถึกของปรมาจารย์ยอดยุทธ์ ฝ่ามืออันดุร้ายนี้ซัดลงบนก้อนน้ำแข็ง ก้อนน้ำแข็งปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ทว่าคนที่อยู่ในก้อนน้ำแข็งกลับสั่นสะท้านอย่างรุนแรง สีหน้าซีดเซียว กระอักโลหิตสดๆ ออกมา…

โลหิตสดแทบจะอาบย้อมภายในก้อนน้ำแข็งให้แดงฉาน

จากนั้นอวิ๋นเยียนหลีก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าร่างของอีกฝ่ายที่อยู่ด้านในกำลังเลือนรางลงอย่างช้าๆ ราวกับค่อยๆ หลอมละลาย…

เขาคงมิใช่แมงกะพรุนกระมัง?

พอตายร่างกายจะกลายเป็นน้ำหย่อมหนึ่ง…

เนื่องจากอวิ๋นเยียนหลีตกหลุมพรางคนผู้นี้ต่อเนื่องกันสองสามหนแล้ว ยามนี้จึงไม่กล้าประมาทอีก

ใช้มือข้างหนึ่งกดก้อนน้ำแข็ง สัมผัสถึงพลังชีวิตของอีกฝ่าย…

ก้อนน้ำแข็งนี้เป็นเขาที่ควบรวมขึ้นมา ยามที่ฝ่ามือของเขาสัมผัสลงไป จึงคล้ายหมอที่จับชีพจรให้คนไข้ สามารถวินิจฉัยได้ว่าสุขภาพของอีกฝ่ายดีหรือป่วย…

ผลคือ เขาสัมผัสได้ว่าพลังชีวิตของอีกฝ่ายกำลังเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว…

สีหน้าอวิ๋นเยียนหลีแปรเปลี่ยนนิดๆ เขายังไม่คิดจะฆ่าอีกฝ่ายในตอนนี้! ถ้าลูกน้องตายไปก็ข่มขู่พวกตี้ฝูอีไม่ได้แล้ว!

เขารีบร่ายคาถากระเทาะก้อนน้ำแข็ง ร่างของคนผู้นั้นดูซีดจางมองไม่เห็นสีสันแล้ว ก้อนน้ำแข็งละลาย ร่างเขาก็ปวกเปียกไหลลงมา ฟุบอยู่บนพื้น แน่นิ่งไม่เคลื่อนไหว

เดิมทีเขาสวมเสื้อคลุมตัวยาวสีเขียวทึบ ยามนี้สีสันของเสื้อคลุมกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดแล้ว สีหน้าก็ซีดเผือดโปรงใส กระเพื่อมไหวไปพร้อมคลื่นทะเล ราวกับจะละลายเป็นน้ำได้ทุกเมื่อ หายไปได้ทันที…

อวิ๋นเยียนหลีย่อมไม่ยอมให้เขาตายไปเช่นนี้ หยิบยารักษาฝ่ามือที่ซัดไปเมื่อครู่ออกมา เข้าใกล้ร่างคนผู้นั้น ง้างกรามเขาให้เปิด แล้วยัดใส่ปากเขา

และเขาก็เตรียมการรับมือคนผู้นี้แล้ว มือหนึ่งป้อนยาเขา มือหนึ่งตั้งท่าไว้ ขอเพียงคนผู้นี้มีทีท่าผิดปกติสักนิด เขาก็จะซัดคนผู้นี้ให้กระเด็น!

เพียงแต่เขาป้อนยาให้อีกฝ่ายแล้ว คนผู้นั้นก็ไม่มีความผิดปกติอันใด อวิ๋นเยียนหลีรู้สึกเพียงว่าใบหน้าของอีกฝ่ายเย็นเฉียบอย่างยิ่ง ราวกับคนตาย ชีพจรก็คล้ายจะหยุดเต้นแล้ว สัมผัสถึงลมหายใจไม่ได้เลย

ยาที่ป้อนเข้าปากไปเม็ดนั้นก็ค้างอยู่เพียงในปาก กลืนลงไปเองไม่ได้

คงไม่ใช่ว่าตายแล้วกระมัง?!

แตะต้องไม่ได้ขนาดนี้เชียว?

ฝ่ามือที่อวิ๋นเยียนหลีซัดออกไปด้วยความโกรธเมื่อครู่นี้ทรงพลังยิ่งนักจริงๆ ต่อให้เป็นคนที่บำเพ็ญถึงขั้นจินเซียนแล้วก็ถูกซัดจนกระอักโลหิตได้ เกรงว่าคนผู้นี้คงเป็นเพียงระดับเสี่ยวเซียน…

พลังวิญญาณไม่นับว่าสูงส่ง มีเพียงความสามารถอันพิสดารบางอย่างเท่านั้น

และเขาก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นสายพันธุ์ใด ความเป็นไปได้ที่จะถูกซัดตายในฝ่ามือเดียวยังคงมีมากยิ่ง

อวิ๋นเยียนหลีสำนึกเสียใจอยู่บ้าง ก้มตัวลงเล็กน้อย มือหนึ่งยื่นไปอังลมหายใจของเขา มือหนึ่งกดลงบนทรวงอกของเขา คิดจะลองใช้พลังวิญญาณรักษาดู

ผลคือ…

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อีกครั้ง อวิ๋นเยียนหลีจะเลือกไม่ช่วยเหลือเขาแน่นอน จะปล่อยให้เขาสลายเป็นตะกอนในน้ำไปเสีย

แต่ย้อนเวลากลับไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงติดกับอีกครั้ง!

บุรุษที่ดูเหมือนใกล้ตายแล้วผู้นั้น ไม่น่าเชื่อว่าวินาทีที่ฝ่ามือของเขาสัมผัสถูกทรวงอกจะเด้งตัวขึ้นมาทันที!

ปากเล็กๆ ที่งดงามนั้นอ้ากว้างเท่าปากชาม! งับลงบนฝ่ามือของอวิ๋นเยียนหลี!

อวิ๋นเยียนหลีบำเพ็ญมาถึงขั้นนี้แล้ว ร่างกายแกร่งกล้าปานเหล็ก ซ้ำเขายังเตรียมตัวอยู่ก่อนแล้ว บนร่างปกคลุมด้วยพลังวิญญาณ อย่าว่าแต่ถูกคนผู้หนึ่งกัดเลย ต่อให้ถูกเสือตัวหนึ่งกัด ก็ไม่สามารถกัดทะลุผิวของเขาได้ ทว่าผลลัพธ์คือถูกเขี้ยวแหลมของคนผู้นั้นเจาะทะลุเป็นรูสองรู!

อวิ๋นเยียนหลีสะท้านด้วยความเจ็บปวด ความโกรธเข้าครอบงำทันที ฝ่ามือข้างที่เหลือซัดออกไปอย่างรุนแรง กระแทกใส่ทรวงอกของคนผู้นั้น!

คนผู้นั้นร้องดังเฮือกปลิวออกไปทันที

เนื่องจากเขี้ยวของเขายังฝังอยู่บนฝ่ามืออวิ๋นเยียนหลี ครั้งนี้จึงรั้งกระชากออกไปอย่างรุนแรง