ตอนที่ 1876

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,876 : ความโกรธของต้วนหลิงเทียน

 

แม้อีกฝ่ายจะกล่าวออกมาอย่างดุร้าย ทว่าต้วนหลิงเทียนกลับมองทะลุหน้ากากดุร้ายเกรี้ยวกราดที่ชายวัยกลางคนสวม!

 

‘ดูเหมือนมันจะกลัวอะไรสักอย่าง…แต่อะไรทำให้มันกลัวกัน? หากให้เดาสิ่งเดียวที่เป็นไปได้สมควรเป็นเกล็ดมังกรของข้า’

 

‘หรือว่า…มันรู้ว่าข้าคือนักรบมังกร?’

 

สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่คิดถึงเรื่องนี้ และเขาคิดว่ามันมีโอกาสสูงที่สุด

 

เพราะหากคู่ต่อสู้รู้ว่าเกล็ดมังกรคืออะไร นั่นหมายความว่ามันต้องรู้ว่าเขาคือนักรบมังกร อีกทั้งยังเป็น ‘นักรบมังกร 9 กรงเล็บ’

 

นักรบมังกร 9 กรงเล็บนั้นจากที่ผู้เฒ่าหั่วบอก กระทั่งระนาบเทวโลกยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดั่งมังกรเทพยดาเห็นหัวไม่เห็นหาง!

 

ปกติแล้วการที่นักรบมังกร 9 กรงเล็บจะถือกำเนิดได้ มีเพียงต้องให้มังกรเทพยดา 9 กรงเล็บถ่ายทอดพรสวรรค์มังกรแปลงให้เท่านั้น!

 

‘มันคิดว่าข้ามีมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บหนุนหลังอยู่งั้นสินะ?’

 

พอคิดถึงเรื่องนี้ ใจต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดแปลบ

 

หากเขามีมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บหนุนหลังอยู่จริง ไหนเลยเขาต้องลำบากดิ้นรนหาหนทางช่วยเค่อเอ๋อด้วย…เพียงปล่อยให้มังกรเทพยดา 9 กรงเล็บลั่นวาจาสักคำ ลัทธิบูชาไฟยังไม่รีบส่งตัวเค่อเอ๋อคืนมาอีกหรือ?

 

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนรู้ดีว่านี่เป็นเพียงเขาเท่านั้นที่ล่วงรู้ คนอื่นย่อมไม่คิดเช่นนั้น

 

ยอดฝีมือที่แลดูร้ายกาจจากภูมิภาคเบื้องบนคนนี้ เห็นได้ชัดว่ามันหวาดกลัวไม่น้อย หาไม่แล้วคงไม่กล่าววาจาขู่ข่มอะไรเช่นนั้นออกมา!

 

“เทียนเอ๋อ”

 

เสียงขู่ข่มของชายวัยกลางคนดังจบคำไม่ทันไร ต้วนหรูเฟิงกับกู่มี่และหรงหยวนก็วูบร่างมาถึงเรียบร้อย ทั้ง 3 มองไปยังต้วนหลิงเทียนที่ถูกเซี่ยวหลันกับปี้เหยาพยุงด้วยสายตาตึงเครียด

 

“เทียนเอ๋อ เจ้าเป็นอะไรมากหรือไม่?”

 

เห็นสีหน้าซีดเซียวของต้วนหลิงเทียน ต้วนหรูเฟิงอดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกมา ส่วนเรื่องที่ไฉนร่างต้วนหลิงเทียนกลับเต็มไปด้วยเกล็ดมังกรนั้น ต้วนหรูเฟิงไม่คิดใส่ใจ ห่วงก็แต่ความปลอดภัยของต้วนหลิงเทียนเท่านั้น

 

“ท่านพ่อ ข้าสบายดี”

 

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา แม้จะได้รับบาดเจ็บไม่น้อย แต่ด้วยความแข็งแกร่งของร่างนักรบมังกรรวมถึงผลของโอสถรักษาระดับเซียนที่รับประทานไป กระดูกทั้งกล้ามเนื้อทั่วร่างก็กำลังฟื้นตัวด้วยความเร็วสูง

 

ฟุ่บ!

 

ทันใดนั้นเอง คล้ายมีสายลมหนึ่งพุ่งพัดผ่านร่างต้วนหรูเฟิง เป็นชายชราร่างผอมที่ยืนอยู่ข้างต้วนหรูเฟิงที่ไม่อาจทนได้ไหวสืบไป! มันพุ่งร่างทั้งลงมือด้วยความเกรี้ยวกราดหมายเข่นฆ่าสังหารผู้บุกรุกให้สิ้น!!

 

“ตำหนักเมฆาคราม ไม่ใช่ที่ๆเจ้าจะมาวางท่าโอหังได้!”

 

กู่มี่คำรามออกอย่างดุร้ายขณะปลดปล่อยกระบวนท่าสังหารไม้ตายออกไปทันที เถาไม้ประหลาดนับหมื่นพันงอกเงยออกจากความว่าง! ทิ่มแทงไปยังชายวัยกลางคนด้วยอำมหิต!!

 

“อาวุโสกู่อย่าได้!!”

 

หน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนสีไปทันใด เขาเร่งตะโกนกล่าวเตือนออกมาอย่างร้อนใจ ด้วยไม่คิดเลยว่ากู่มี่จะหุนหันลงมือใส่ชายวัยกลางคนทันทีแบบนี้!

 

ในฐานะคนที่ถูกชายวัยกลางคนซัดทำร้าย ต้วนหลิงเทียนไหนเลยจะไม่ทราบถึงความแข็งแกร่งอีกฝ่าย…พลังฝึกปรือของชายวัยกลางคนผู้นี้สมควรอยู่เหนือขอบเขต เซียนนภา แน่นอน!

 

ไม่ต้องกล่าวถึงกู่มี่ เกรงว่ากระทั่งบิดาเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย!

 

ปงงง!!

 

เสียงสนั่นลั่นดังขึ้นเหนือฟ้า ร่างกู่มี่ที่ปะทุพลังลงมืออยู่ดีๆก็นิ่งงัน เถาไม้ทั้งหมดคล้ายถูกลบหายไปในอากาศ ครู่ต่อมาร่างกู่มี่ก็ระเบิดออกดั่งพลุไฟ คนทั้งคนกลับกลายเป็นหมอกโลหิตอันตรธานหายไปในสวรรค์และโลก…

 

“เฒ่ากู่!”

 

สีหน้าหรงหยวนเปลี่ยนไปมหันต์ มันไม่คิดเลยว่าสหายที่รู้จักกับมันมานานปีกลับต้องมาตกตายต่อหน้าต่อตามันแบบนี้!

 

“อาวุโสกู่…”

 

หน้าต้วนหรูเฟิงก็เปลี่ยนสีไปเช่นกัน

 

ตั้งแต่ที่มันขึ้นแท่นรับตำแหน่งจ้าวตำหนักเมฆาคราม กู่มี่กับหรงหยวนก็เหมือนมือขวามือซ้ายคอยจัดการเรื่องราวให้มากมาย จึงไม่ได้เห็นกู่มี่เป็นคนนอกมานานแล้ว

 

ทว่าตอนนี้กู่มี่กลับต้องมาตกตายลงต่อหน้าต่อตา!

 

ยังถูกใครก็ไม่รู้ฆ่าตาย!

 

จังหวะนี้สองตาต้วนหรูเฟิงถึงกับแดงก่ำไปทันที

 

ทันใดทั่วร่างต้วนหรูเฟิงก็ปลดปล่อยกลิ่นอายพลังอันน่ากลัวออกมาดั่งเพลิงไฟลุกโชน! เป็นไอมารมืดดำเปี่ยมล้นไปด้วยกลิ่นอายอำมหิต!!

 

ถึงแม้จะไม่ได้ตกเป็นเป้าหมายของจิตสังหาร ทว่าต้วนหลิงเทียนเซี่ยวหลันและปี้เหยา ก็รู้สึกอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก!

 

ไอมารมืดดำนี้ยังคงพวยพุ่งออกมาไม่หยุด!

 

สนามพลังรอบกายต้วนหรูเฟิงยิ่งมาก็ยิ่งแกร่งกล้าน่ากลัวมากขึ้นทุกขณะ!

 

“ท่านพ่อ อย่า!”

 

เมื่อต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ว่าบิดาวูบร่างหายไปจากข้างกาย สีหน้าอดไม่ได้ที่จะแปรเปลี่ยนไป รีบร้องตะโกนออกมาเสียงดังอีกครั้งทันที เพราะไม่คิดว่าบิดาจะวู่วามลงมือล้างแค้นให้กู่มี่ทันทีแบบนี้!

 

พลังฝีมือของชายวัยกลางคนนั่น มันสูงเกินไป!

 

“หืม? เป็นเพียงผู้ฝึกตนเซียนปฐพีขั้นสูงสุดแท้ๆ แต่กลับมีพลังทัดเทียมกับเซียนนภาขั้นต้นเช่นนั้นหรือ…ไม่เลวเลยทีเดียว น่าเสียดายอย่าว่าแต่เซียนนภาขั้นต้น ให้เจ้าบรรลุเซียนภาขั้นสูงสุดก็ไม่ใช่คู่มือของข้า!”

 

เสียงไร้แยแสของชายวัยกลางคนดังขึ้น จากวาจาที่มันกล่าว…ตีความได้ว่าพลังฝึกปรือของมันเป็นอะไรที่อยู่เหนือขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุดขึ้นไปอีก!

 

ขณะเดียวกันกับที่มันกล่าว มันก็ลงมือทันที

 

“ไม่!”

 

สีหน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนไปร้ายแรง เมื่อเห็นว่าชายวัยกลางคนกำลังจะลงมืออีกครั้ง!

 

“ไม่นะ!”

 

หน้างามของเซี่ยวหลันกับปี้เหยาก็เปลี่ยนสีไปเช่นกัน ลูกตาของพวกนางยังเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

 

สำหรับหรงหยวนนั้น มันปะทุพลังชั่วชีวิตพุ่งร่างตามต้วนหรูเฟิงไปแต่แรก ด้วยหมายช่วยเหลือต้วนหรูเฟิง ถึงแม้จะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่อะไรที่มันจะต่อกรด้วยได้!

 

แต่หากชีวิตนี้ของมันสามารถตายเพื่อจ้าวตำหนักได้ มันก็ไม่เสียใจแล้ว!

 

ปง! ปง!

 

เสียงพลังปะทุระเบิดดังขึ้นสองครั้งติด พร้อมกันนั้นร่างต้วนหรูเฟิงกับหรงหยวนก็ถูกชายวัยกลางคนซัดจนปลิวกระเด็นออกมาอย่างพร้อมเพรียง ต่างปลิดปลิวละลิ่วไปไม่ต่างว่าวสายป่านขาด!

 

หลังกระเด็นไปไกล ในที่สุดต้วนหรูเฟิงที่สภาพไม่ค่อยสู้ดีก็หยุดร่างได้

 

สำหรับหรวงหยวนนั้น มันไม่อาจหยุดร่างตัวเองได้ จำต้องร่วงกระแทกกลิ้งไปกับพื้น…สภาพเป็นตายเท่ากัน!

 

เรื่องนี้ไม่น่าแปลกอะไร เพราะความแข็งแกร่งของมันอ่อนด้อยกว่าต้วนหรูเฟิงมาก

 

อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าการลงมือครั้งนี้ของชายวัยกลางคนได้ออมรั้งยั้งมือไว้แล้ว ไม่ได้อำมหิตเหมือนยามฆ่ากู่มี่!

 

หาไม่แล้วต้วนหรูเฟิงกับหรงหยวนคงไม่รอด!

 

ฟุ่บ!

 

ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนพลันได้ยินเสียงแหวกฝ่าสายลมดังขึ้นอีกครั้ง ครู่ต่อมาก็ปรากฏร่างหนึ่งขึ้นตรงหน้า อีกฝ่ายอยู่ห่างเขาไปไม่กี่ก้าวเท่านั้น ไม่ใช่ใครที่ไหน…

 

เป็นชายวัยกลางคน!

 

หลังจากแผ่พุ่งพลังปัดร่างเซี่ยวหลันกับปี้เหยาจนปลิวกระเด็นไปแล้ว มันก็ยกขาถีบกลางอกต้วนหลิงเทียนจนปลิวไปทันที

 

ต้วนหลิงเทียนที่แต่เดิมก็ยังบาดเจ็บสาหัส มาถูกถีบซ้ำอีกครั้ง คราวนี้จึงไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีก

 

เห็นภาพนี้เซี่ยวหลันกับปี้เหยาที่ถูกชายวัยกลางคนซัดปลิวไปก่อนหน้าก็ทนไม่ไหว ชักอาวุธพุ่งเข้ามาอีกครั้งทันทีแม้จะรู้ดีว่าไม่ใช่คู่มือของชายวัยกลางคนก็ตาม

 

“ตั๊กแตนคิดหยุดรถม้า!”

 

กล่าวออกคำหนึ่งด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น ชายวัยกลางคนที่ไม่ได้กระดิกแม้แต่นิ้วเดียว ร่างเซี่ยวหลันกับปี้เหยาก็ปลิวกระเด็นไปอีกครั้ง

 

ตึงงง!

 

ชายวัยกลางคนที่ย่างสามขุมมาหยุดตรงร่างต้วนหลิงเทียน พลันยกเท้าขึ้นมาก่อนจะกระทืบซ้ำลงไปกลางอกต้วนหลิงเทียน เหลือบมองลงมาด้วยสายตาเยียบเย็น “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่าได้ทดสอบความอดทนของข้า!”

 

“เจ้ากลัวงั้นสิ…”

 

ถูกชายวัยกลางคนย่ำเหยียบกลางอกเอาไว้ ต้วนหลิงเทียนกลับไม่ได้หวาดกลัวอะไร แสยะยิ้มเปื้อนเลือดออกมาอย่างประหลาด

 

“กลัว?”

 

ได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน ร่างชายวัยกลางคนสะท้านไปทันใด หากแต่มันยังปากแข็ง “ข้ากลัวหรือ? เหลวไหลสิ้นดี! อย่างข้ายังมีอะไรต้องกลัว!”

 

“มังกรเทพยดา 9 กรงเล็บ!”

 

ต้วนหลิงเทียนจ้องตาชายวัยกลางคนพร้อมกล่าวออกเสียงเย็น มุมปากที่เลือดยังไหลย้อยค่อยๆแสยะยิ้มกว้างขึ้น

 

มังกรเทพยดา 9 กรงเล็บ!

 

ทันทีที่วาจาประโยคนี้ดังเข้าหูชายวัยกลางคน มันรู้สึกเสมือนมีอัสนีผ่าเปรี้ยงลงมากึกก้อง

 

เพราะต้วนหลิงเทียนเดาได้ถูกเผง!

 

เป็นเช่นนั้นจริงๆ…

 

แรกเริ่มเดิมทีชายวัยกลางคนคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตาย หมายชิงตราผนึกมาร

 

อย่างไรก็ตามพอมันเห็นร่างต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนแปลงเป็นนักรบมังกร มันก็จดจำได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนคือนักรบมังกร และพอพบว่ามือแต่ละข้างของต้วนหลิงเทียนกลับมีกรงเล็บถึง 9 กรงเล็บ ไม่ใช่ 7 กรงเล็บหรือ 8 กรงเล็บ! มันก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่ง…

 

ต้วนหลิงเทียนเป็น นักรบมังกร 9 กรงเล็บ!

 

หากมนุษย์คิดแปลงร่างเป็นนักรบมังกร จำต้องได้รับการถ่ายทอดพรสวรรค์มังกรแปลงของมังกรเทยดา 7 กรงเล็บขึ้นไปเสียก่อน โดยทั่วไปแล้วผู้ที่ได้รับถ่ายทอดจากมังกรเทพยดา 7 กรงเล็บก็จะกลายเป็นนักรบมังกร 7 กรงเล็บ

 

ผู้ที่ได้รับถ่ายทอดจากมังกรเทพยดา 8 กรงเล็บ ก็จะกลายเป็นนักรบมังกร 8 กรงเล็บ!

 

และในประวัติศาสตร์ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า นักรบมังกรที่มันเคยได้ยินมา มากที่สุดก็มีแค่ 8 กรงเล็บเท่านั้น!

 

นักรบมังกร 8 กรงเล็บ ก็คือตัวตนที่ดำรงอยู่แต่ในตำนานของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแล้ว!

 

แต่วันนี้มันกลับได้เห็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บกับตา!

 

นักรบมังกร 9 กรงเล็บกล่าวไปแล้วก็คือผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดพรสวรรค์มังกรแปลงจากมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บ! สิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า!

 

อย่างน้อยๆเท่าที่มันรู้ ก็ไม่มีบันทึกประวัติศาสตร์ม้วนใด ปรากฏว่าเคยพบเห็นมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บมาก่อน!

 

และโดยปกติทั่วไปแล้ว นักรบมังกรนั้น ก็มักจะเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์ชิดใกล้สนิทสนมกับมังกรเทพยดาที่ถ่ายทอดพรสวรรค์มังกรแปลงให้

 

มันย่อมไม่กล้าเสี่ยงลงมือผลีผลาม เพราะเกิดมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บรู้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ล่ะก็ ชายวัยกลางคนรู้ตัวดีว่ามันตายแน่! ขุมพลังมันก็ไม่มีทางช่วยเหลือมันได้เลย! มันจึงไม่กล้าลงมือสังหารต้วนหลิงเทียน!!

 

หากก่อนหน้ามันยั้งมือไม่ทัน ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บก็ต้องตาย!

 

“เจ้าฉลาดนัก!”

 

เช่นนั้นแล้ว หลังได้ยินต้วนหลิงเทียนกล่าวถึง ‘มังกรเทพยดา 9 กรงเล็บ’ หน้าชายวัยกลางคนก็ถอดสีไปทันที สุดท้ายก็ไม่คิดปฏิเสธเพียงยอมรับ และกล่าวชมต้วนหลิงเทียนแทน

 

“อย่างไรก้ตามข้ายังยืนยันคำเดิม เจ้าจงส่งมอบตราผนึกมารมาให้ข้าเสีย! ถึงแม้ข้าจะไม่กล้าฆ่าเจ้ากับคนใกล้ชิดของเจ้าเพราะกริ่งเกรงมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บเบื้องหลังเจ้า…แต่สำหรับคนอื่นข้าอยากให้ตายก็ง่ายดายนัก!”

 

ชายวัยกลางคนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “หากเจ้ามิอยากให้ตำหนักเมฆาครามเจิ่งนองไปด้วยธารโลหิต…เช่นนั้นก็รีบส่งตราผนึกมารมาเสีย!”

 

“เจ้า…เจ้ากล้า!?”

 

ต้วนหลิงเทียนคิดว่าอีกฝ่ายจะเลิกราแต่โดยดี แต่ไม่คิดเลยว่าจะยังขู่เขาแบบนี้!

 

ให้ตำหนักเมฆาครามเจิ่งนองไปด้วยสายธารโลหิตงั้นหรือ…

 

“อย่าได้คิดสงสัยวาจาข้าอีก ข้ากล่าวอันใดข้าก็ทำเช่นนั้น!”

 

ชายวัยกลางคนกล่าวออกอย่างไร้แยแส แววตาของมันยามกล่าวยังดุร้ายปานจะกลืนกินเลือดเนื้อผู้คน

 

มันรู้ดีถึงอัตตาของมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บ ขอแค่มันไม่ฆ่านักรบมังกร 9 กรงเล็บ หรือบุคคลที่ใกล้ชิดอีกฝ่าย เป็นไปไม่ได้เลยที่ตัวตนระดับนั้นจะลงมือเพราะมันปล้นยอดศาสตราเซียนแบบนี้

 

เผชิญหน้ากับชายวัยกลางคนที่ใจอำมหิตดั่งเดรัจฉานเลือดเย็น ต้วนหลิงเทียนก็รู้ดีว่ายากจะต่อรองได้ สุดท้ายเขาก็ทำได้แต่ยอมลง ส่งมอบตราผนึกมารให้อีกฝ่ายแต่โดยดี

 

เพราะเขาไม่อยากให้ตำหนักเมฆาครามต้องเกิดเรื่อง

 

หลังได้รับตราผนึกมาร ชายวัยกลางคนก็แสยะยิ้มออกมา “ฮึ่ม…เจ้ามันไร้เดียงสานัก จริงอยู่ที่ข้ากริ่งเกรงมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บเบื้องหลังเจ้าจนไม่กล้าฆ่าเจ้าหรือคนใกล้ชิดของเจ้า แต่มิได้หมายความว่าข้าไม่กล้าฆ่าคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า!”

 

“ที่ข้าพูดไปเมื่อครู่ล้วนแค่หลอกเจ้า…เจ้าเชื่อหรือไม่เล่า!”

 

“หากข้าไม่พอใจอะไรข้าไม่เคยคิดทน วันนี้ข้าจะละเลงเลือดที่นี่เสีย!”

 

สิ้นคำ หลังชายวัยกลางคนที่เก็บตราผนึกมารไว้ดีแล้ว จิตสังหารมันก็เริ่มเอ่อล้นออกมาทั่วร่าง

 

“เจ้ากล้า!?”

 

ลูกตาต้วนหลิงเทียนกลายเป็นดุร้าย เขาไม่คิดเลยว่าชายวัยกลางคนจะกลับคำพูดหลังได้รับตราผนึกมารไปแล้วแบบนี้

 

จังหวะนี้เขารู้สึกเหมือนโทสะในใจเจียนระเบิดออก!

 

“ชีวิตนี้หากข้าต้วนหลิงเทียนไม่ฆ่าเจ้าให้ตาย ข้าไม่ขออยู่เป็นคน!”

 

ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ลูกตาต้วนหลิงเทียนกลายเป็นแดงฉาน จิตสังหารพลันเอ่อล้นออกมาท่วมร่างเขาเช่นกัน

 

เขาไม่ได้มีโมโหขนาดนี้มานาน

 

ยังเนิ่นนานมากแล้วที่รู้สึกอยากฆ่าใครสักคนให้ตายแบบนี้!