ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล


เฟอร์กูสันสิ้นไร้หนทาง สุดท้ายจึงต้องไปพบหลินมู่เสวี่ย อย่างไรเสียทั้งสองก็มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เฟอร์กูสันเคยฝึกฝนให้มู่เสวี่ยจนมู่เสวี่ยก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวเขาเองก็ได้ประโยชน์จากการศึกษาพลังเวทของเอกวินน์

ทว่าเรื่องราวกลับไม่เหมือนดังที่เซียวอวี๋คาดคิด หลินมู่เสวี่ยเป็นสตรีที่ดีงาม นางเห็นด้วยโดยไม่มีท่าทางไม่พอใจแม้แต่น้อย ซ้ำยังดูยินดีอีกด้วย

ไฉนนางจึงรู้สึกยินดี?

นางไม่ได้เพียงแค่เห็นด้วย หากแต่ยังกล่าวว่าจะให้องค์หญิงผู้นั้นอยู่ในฐานะราชินีอีกด้วย ส่วนตัวนางจะอยู่ในตำแหน่งรองลงมา แต่เซียวอวี๋ไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้

องค์หญิงผู้นั้นเป็นใครมาจากไหนกัน? หลินมู่เสวี่ยเป็นภรรยาของเขา แม้ว่าตัวเขาจะมีอนุและทาสสาวอยู่บ้าง กระนั้นก็ยังมีภรรยาเพียงคนเดียว และเขาจะไม่เปลี่ยนตัวภรรยาอย่างเด็ดขาด

ทว่ากลับเป็นหลินมู่เสวี่ยที่เวลานี้กลับมาเป็นฝ่ายเกลี้ยมกล่อมเซียวอวี๋ซะเอง นี่เป็นเรื่องความชอบธรรม หากว่าเซียวอวี๋กลายเป็นราชบุตรเขยของราชวงศ์พยัคฆ์คำรน เขาก็จะมีเปรียบอย่างมากในการขึ้นปกครองทวีป

นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าความชอบธรรม เมื่อได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความชอบธรรม เรื่องราวก็จะราบรื่น เมื่อเป็นเช่นนั้น เซียวอวี๋ก็จะได้สืบราชบัลลังก์ จะไม่มีผู้ใดสามารถคัดค้านได้อีก

กระนั้นเซียวอวี๋ก็ยังไม่เห็นด้วย ไม่ว่าอย่างไร หลินมู่เสวี่ยจะดำรงตำแหน่งภรรยาหลวงของเขา เขาจะยอมรับเรื่องที่จะให้นางลดตำแหน่งไปเป็นอนุภรรยาอย่างเด็ดขาด

ได้เห็นการแสดงออกของเซียวอวี๋ หลินมู่เสวี่ยก็โมโห นางไม่ยอมพูดยอมจากับเซียวอวี๋อยู่หลายวัน ทั้งยังขู่ว่าจะหย่ากับเซียวอวี๋ นางยังยืนกรานคำเดิม เซียวอวี๋จะต้องยกตำแหน่งราชินีให้กับองค์หญิงผู้นั้น

เซียวอวี๋ตามง้อนางอยู่หลายวัน แต่นางก็ไม่สนใจ สุดท้ายเขาจึงจำต้องตกปากรับคำไปก่อน เอาไว้ค่อยพูดเรื่องนี้กันภายหลัง

เซียวอวี๋ยังไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำว่าองค์หญิงผู้นี้หน้าตาเป็นอย่างไร เขาขี่มังกรน้อยออกไปสังเกตการณ์ที่แนวหน้าทุกวันเพื่อทำความเข้าใจ สถานการณ์ อย่างไรเสีย เวลานี้เขายังไม่ใช่ราชาของทวีป ดังนั้นจึงยากจะพูดถึงเรื่องราชินี

เซียวอวี๋รออยู่ไม่นาน ไฟสงครามก็ลามมาถึงดินแดนไลอ้อน

วันนั้นทหารยังคงลาดตระเวนตามแนวชายแดนตามปกติ แต่จู่ๆพวกเขาก็ถูกทหารทมิฬซุ่มโจมตี โชคดีที่ฉินเช่อตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เขาได้ส่งสัญญาไปยังแนวป้องกันและถอยร่นกลับมายังแนวป้องกันที่สองในทันทีเพื่อลดการสูญเสีย

ทุกคนต่างก็สงสัยในเรื่องเดียวกัน ทหารทมิฬพวกนี้มาจากไหน?

ไม่นานข่าวระลอกใหม่ก็ถูกส่งมาจากชายแดน จู่ๆก็มีทหารทมิฬจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นในดินแดนของร็อบและยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ไปในชั่วเวลาเพียงข้ามคืน ทางกูดาลที่ไม่ทันระวังเองก็ประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก

ทางด้านนิโคลัสเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ดินแดนในครอบครองของเขาก็ถูกรุกรานและมีหทารบาดเจ็บล้มตายไม่น้อย

ทหารทมิฬบางส่วนก็หลุดรอดผ่านมาได้ และพวกทหารทมิฬที่ปรากฏขึ้นที่ชายแดนของดินแดนไลอ้อนก็เป็นส่วนที่หลุดรอดมานี้เอง

นิโคลัสได้ส่งทูตไปเจรจากับกูดาลเรื่องการร่วมมือกันต้านทานพวกทหารทมิฬอย่างเร่งด่วน ในสถานการณ์ตอนนี้ ขุมกำลังเพียงฝ่ายเดียวไม่อาจรับมือการโจมตีของพวกทหารทมิฬได้อีกแล้ว

แม้จะทราบว่าการร่วมมือกับกูดาลที่หน้าเนื้อใจเสือนั้นอันตราย แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

ตอนนี้พื้นที่ด้านตะวันตกนั้นเป็นของนิโคลัส ตรงกลางเป็นของกูดาล และตะวันออกนั้นเป็นของเซียวอวี๋ ดังนั้นนิโคลัสจึงไม่อาจไปรวมกำลังกับเซียวอวี๋

ดังนั้น พวกเขาจึงจำต้องร่วมมือกับกูดาล

ยังมีอีกหนึ่งขุมกำลังที่อยู่ทางตอนเหนือของดินแดนไลอ้อน นั่นก็คือฝ่ายอันเดดที่นำโดยอาร์ทัส

ขณะที่พื้นที่ทางตอนเหนือแทบทั้งหมดนั้นถูกพวกทหารทมิฬเข้ายึดครองไว้แล้ว มีเพียงพื้นที่ที่มีอันเดดเท่านั้นที่พวกมันไม่อาจยึดครอง พวกอันเดดแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทหารทมิฬไม่มีหนทางเอาชนะได้เลยพวกมันเคยพยายามโจมตีพวกอันเดด แต่สุดท้ายก็ต้องสูญเสียกลับไป ซ้ำร้ายยังเป็นการเพิ่มทหารให้ฝ่ายศัตรู สุดท้ายพวกมันจึงได้แต่หลบเลี่ยงการปะทะกับพวกอันเดด

เซียวอวี๋ไม่ได้กังวลต่อพวกทหารทมิฬแม้แต่น้อย อย่างไรเสียเขาก็เตรียมการไว้พรักพร้อมแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถอาศัยโอกาสนี้เพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับเหล่ายูนิตจากระบบ

เรื่องใหญ่ที่สุดในเวลานี้คงเป็นเรื่องการจับมือกับนิโคลัสและกูดาล

ด้วยเหตุนั้น เซียวอวี๋จึงได้จัดส่งคณะทูตไปเจรจากับทั้งสองฝ่าย ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทุกฝ่ายต่างก็มีเป้าหมายเดียวกันคือการจัดการกับทหารทมิฬ ดังนั้นทั้งสามฝ่ายจึงตกลงก่อตั้งพันธมิตรไตรภาคีขึ้นเพื่อกำจัดพวกทหารทมิฬอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่พันธมิตรถูกก่อตั้งขึ้น พันธมิตรไตรภาคีก็เปิดฉากโจมตีทันที กองทัพพันธมิตรได้รุกคืบและผลักดันให้พวกทหารทมิฬต้องถอยร่นกลับขึ้นเหนือ จากนั้นจึงก่อตั้งแนวป้องกันขึ้น จากนั้นพันธมิตรจึงร่วมมือกันเสริมแกร่งแนวป้องกันนี้ และใช้ปนวป้องกันเป็นจุดหยั่งเท้าในการตอบโต้กลับไป

ซึ่งแนวคิดนี้เป็นเซียวอวี๋ที่เสนอขึ้นมา โดยมาจากประสบการณ์การต่อสู้กับพวกทหารทมิฬมาแล้วหลายครั้ง เซียวอวี๋ทราบดีว่าการจัดการกับพวกทหารทมิฬนั้นไม่อย่างรีบเร่งไป พวกเขาจะต้องตั้งรับให้มั่นก่อน จากนั้นจึงตอบโต้อย่างค่อยเป็นค่อยไป

ในระยะแรก ทุกเรื่องราวดำเนินไปอย่างราบรื่น แนวป้องกันค่อยๆถูกเสริมสร้างขึ้นทีละชั้น อย่างไรก็ตามกลับมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นแทรก

ขณะที่กำลังซ่อมสร้างแนวป้องกันกันอยู่นั้น เซียวอวี๋และคนอื่นๆก็พบว่าจู่ๆกองทัพออร์คของกูดาลก็หลบหนีหายไป ทิ้งหน้าที่ป้องกันแนวป้องกันให้กับกองกำลังของเซียวอวี๋และนิโคลัส

“มารดามันเถอะ! เจ้าจิ้งจอกเฒ่าบัดซบ” เซียวอวี๋สบถอย่างเดือดดาล