หยาเอ๋อ

แกร๊ก!!

แก้วผลึกด้านนอกของกุมารีแมลงแตกออกมา น้ำมันพรายไหลออกมาด้านนอก

กุมารีแมลงนั้นตัวใหญ่ขึ้นจนลูกแก้วเก็บไว้ไม่อยู่แล้ว ร่างกายของนางนั้นกลายเป็นเลือดและเนื้อแบบคนจริงๆ ผิวหนังของเธอเริ่มปรากฏออกมาพร้อมๆกับผมขนและเล็บ เพียงแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น จากกุมารีแมลงที่เป็นแค่รูปปั้นหินเล็กๆ ตอนนี้มันกลับกลายเป็นเด็กทารกคนจริงๆแล้ว

เด็กนั้นดูเป็นเด็กน้อยไร้เดียวสาเหมือนกับเด็กปรกติ แต่ถ้ามองดูดีๆ จะพบว่าหัวใจของเธอนั้นไม่ได้เต้น และเลือดของนางก็ไม่ไหลเวียน

จะบอกว่าเธอเป็นคนตายก็ได้ แต่ทุกๆอย่างของเธอเหมือนคนปรกติ มีลมปราณไหลเวียนในร่างกาย ดวงตาของเธอเปิดกว้าง เหมือนเด็กปรกติ แค่หัวใจของเธอไม่เต้น เลยยากที่จะรู้ได้ว่าเธอตายหรือยัง

ตอนที่โจวเหวินกลับมาถึงหอพัก เด็กคนนั้นก็เติบโตจนอายุประมาณ1ขวบ หลังจากนั้น เธอก็หยุดเติบโตอย่างรวดเร็ว

โจวเหวินตอนแรกคิดว่าเธอจะโตกลับกลายเป็นร่างเดิม เป็นหญิงสาวอายุ18-19 แต่ใครมันจะไปคิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้

“หรือว่าอาจจะเป็นเพราะห้วงมิติแห่งความว่างเปล่ากัน”โจวเหวินเอาเด็กคนนั้นออกมาจากนั้นก็เช็ดเนื้อตัวล้างเอาน้ำมันพรายออกจากตัวของเธอ

แต่สุดท้ายเด็กคนนั้นก็ไม่โตไปมากกว่านี้อีก เธอนั่งอยู่บนเตียงมองโจวเหวินอย่างไร้อารมณ์

โจวเหวินหยิบเสื้อผ้าที่ตอนแรกเขาซื้อมาให้ธิดาปีศาจให้ห้วงมิติแห่งความว่างเปล่า ตอนแรกเขากะจะให้ธิดาปีศาจใส่ แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ใส่เท่าไร

แต่ตัวของกุมารีแมลงนั้นเล็กกว่าธิดาปีศาจมาก ทำให้เสื้อที่ใส่มันหลวมมาก แต่นี้มันเป็นเสื้อที่ดูจะเหมาะที่สุดกับเธอในตอนนี้ที่โจวเหวินจะหาได้แล้ว โจวเหวินคงต้องไปหาซื้อเสื้อใหม่ให้ทีหลัง

“ใส่เสื้อผ้าเองได้ไหม”โจวเหวินถามแล้วมองเด็กสาว

เด็กสาวส่ายหน้า

“หรือว่ากลับไปเป็นเด็กแค่ร่างกายกันแต่ความคิดสติปัญญายังเหมือนเดิม”โจวแหวินช่วยเธอสวมชุดก่อนจะพาเธอไปนั่งบนเตียงแล้วถาม”ยังจำฉันได้ไหม”

โจวเหวินไม่รู้ว่าสถานการณ์มันเกิดอะไรขึ้นหรือเป็นอะไรบ้างแล้ว เพราะตอนนี้ที่เขารู้มาจากกู๋ฉานชุยนั้นมันไม่ตรงเอาซะเลย

ตามที่กู๋ฉานชุยบอก ถ้ากุมารีหลุดจากผนึกแล้ว วิญญาณจะกลับเข้าร่างของมัน แต่เขาไม่ได้บอกมาด้วยว่าเธอจะฟื้นคืนชีพหรือกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง กุมารีนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ การจะสร้างขึ้นมานั้นมันอันตรายมาก เพราะถ้าผิดพลาดขึ้นมา วิญญาณของเด็กนั้นจะอาฆาตและไปทำร้ายผู้คน

โจวเหวินไม่ได้อยากจะเลี้ยงกุมารีแมลงแบบเดียวกับที่เสี่ยวเทียนฟางทำ แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่านางจะเปลี่ยนกลับมาเป็นเด็กเหมือนกัน นี้เป็นสิ่งที่นอกเหนือจากที่กู๋ฉานชุยบอกเขามาไกลมากแล้ว

แต่เด็กสาวคนนั้นพยักหน้า เหมือนกับว่าจำเขาได้

“ความทรงจำยังอยู่ซินะ”โจวเหวินถอนหายใจอย่างโล่งอก

“แล้ว ตอนนี้เป็นอิสระแล้ว มีแผนว่าจะทำอะไรละ”โจวเหวินถถาม

เด็กสาวคนนั้นมองโจวเหวินแบบไม่ให้คำตอบกลับมา เหมือนกับว่าไม่เข้าใจที่โจวเหวินพูด

“แบบ อยากจะทำอะไรต่อในอนาคต หรืออยากไปไหนไรเงี่ย”โจวเหวินกลัวว่าเธอจะไม่เข้าใจเลยอธิบายเพิ่ม

เด็กสาวคนนั้นยังคงมองโดยที่ไม่พูดอะไร ไม่รู้ว่าเข้าใจด้วยรึเปล่า

“อา….เธอมีชื่อไหม”โจวเหวินอยากจะเรียกเธอ แต่เขาพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่รู้จักชื่อของเธอเลย จะให้เรียกว่ากุมารีแมลงเหมือนกับที่เสี่ยวเทียนฟางเรียกก็แปลกๆ เธอเองก็คงจะไม่ชอบเหมือนกันด้วย

รอบนี้เด็กสาวมองโจวเหวินแล้วส่ายหัว

“ไม่มีชื่องั้นเหรอ”โจวเหวินถาม

เด็กสาวพยักหน้า โจวเหวินคิดซักพักก่อนจะพูด “ถ้างั้นให้ฉันตั้งชื่อให้ไหม”

เด็กสาวพยักหน้า เป็นการบอกให้รู้ว่าเธอเข้าใจที่เขาพูด และไอคิวของเธอไม่ได้น้อยลงไปเลย แต่แค่ไม่รู้ทำไมเธอถึงยังพูดไม่ได้เท่านั้นเอง

โจวเหวินคิดซักพักใหญ่ๆก่อนจะมองเด็กสาวแล้วถาม “เอาชื่อนี้เป็นไงละ เสี่ยวลี่”

เด็กสาวไร้สีหน้าท่าทางเธอแค่หันหน้าไปข้างๆเล็กน้อย

“ไม่เอาหรอ งั้นเสี่ยวหนาละ”โจวเหวินคิดแล้วถามอีก

เด็กสาวทำแบบเดิมเหมือนกับว่าไม่ได้ยินที่โจวเหวินพูด ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วชี้นิ้วไปที่หน้าอกบนของโจวเหวิน

โจวเหวินก้มลงไปมองแล้วพบว่าตรงจุดนั้นมันมีแค่เสื้อเท่านั้น ไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย ไม่มีลวดลายหรือคำอะไร

“เดี๋ยวนะ เธอกำลังจะหมายถึงนี้เหรอ”โจวเหวินหยิบเอาสร้อยงาขึ้นมา

มันเป็นสร้อยที่หวังหมิงหยวนแกะสลักขึ้นมาให้ ว่ากันว่ามันถูกแกะสลักขึ้นมาจากเขี้ยวของมังกรขาวแห่งถ้ำหลงจิง ส่วนที่มานั้น พี่หลิวหยุนบอกมาว่าเขาขโมยมาจากในถ้ำหลงจิง แต่หวังหมิงหยวนบอกมาว่าเขาเก็บมันได้เอง

“สามารถมองเห็นทะลุได้เลยเหรอ ดูเหมือนว่าความสามารถบางอย่างของนางจะยังอยู่นะ”โจเวหวินมองดูทิศทางที่นิ้วที่ชี้ตรงมายังสร้อยไม่ว่าสร้อยจะไปไหน แปลว่าเขาเดาถูกแล้ว

“เธออยากจะให้ตั้งชื่อเธอเป็นชื่อนี้เหรอ อ้อ รู้ละ สร้อยนี้มันทำมาจากเขี้ยวมังกร ถ้างั้นฉันเรียกเธอว่าเสี่ยวหลงละเป็นไง”โจวเหวินพึ่งนึกได้

แต่เด็กสาวมองเขาก่อนจะไม่ตอบอะไร และมองอยู่อย่างงั้นโดยไม่กระพริบตาซะจนโจวเหวินเริ่มขนลุก

“เออ จะว่าไปแล้ว เสี่ยวหลงมันแปลว่าฟันน้อยนี้หว่า”โจวเหวินนึกได้แล้วรู้สึกผิด

เด็กสาวคนนั้นมองโจวเหวินแล้วพยักหน้าช้าๆ

โจวเหวินมองเธอเข้าไปในตา ก่อนจะรู้สึกได้ถึงความรู้สึกแย่ในใจ ก่อนจะคิดแล้วพูด “เสี่ยวหลงดูไม่ดีเท่าไรเนอะ มันดูไม่เหมือนชื่อผู้หญิงเลย เอางี้ ฉันเรียกเธอว่าหยาเอ๋อเป็นไง  เป็นความหมายที่แปลประมาณว่าอยากให้เธอโตไวๆเหมือนดอกไม้ที่ผลิบานด้วยไง”

เด็กสาวพยักหน้าน้อยๆ ถึงแม้ว่าจะดูพยักหน้าไม่ตื่นเต้น แต่ในแววตาของเธอก็ไม่ได้มีความหนักใจกับชื่ออีกแล้ว

“ถ้างั้นฉันเรียกเธอว่าหยาเอ๋อนะ”โจวเหวินปาดเหงื่อตัวเอง จากนั้นก็มองหยาเอ่อแล้วพูด “หยาเอ๋อเธอยังควบคุมหนอนไหมน้ำแข็งได้อยู่ไหม”

หยาเอ๋อพยักหน้า โจวเหวินเลยโล่งใจขึ้นมา ถ้าหยาเอ๋อควบคุมหนอนไหมน้ำแข็งไม่ได้ แผนของเขาก็จะล้มเหลวทันที ถึงแม้ว่าผลลัพท์มันจะเท่าเดิมก็เถอะ แต่อย่างน้อยโจวเหวินก็ไม่ค่อยชอบอะไรที่ควบคุมไม่ได้เท่าไร

“ แล้วคนอื่นจะยังมองไม่เห็นเธออยู่ไหม”โจวเหวินถาม

รอบนี้หยาเอ๋อส่ายหน้า เห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้เธอหลุดออกจากสถานะวิญญาณแล้ว

โจวเหวินเองก็ถามคำถามเกี่ยวกับหยาเอ๋อนิดหน่อย บางทีอาจจะรู้เรื่องบางอย่างที่เกี่ยวข้องก็ได้ แต่เรื่องเธอรู้นั้นมันจำกัดมาก การที่เธอพูดไม่ได้ ทำให้โจวเหวินทำได้เพียงแค่ลองถามไปเรื่อยๆเท่านั้น

ตอนนี้ที่โจวเหวินรู้คือความสามารถในการสื่อสารของหยาเอ๋อนั้นยังคงเหมือนเดิม ทั้งความทรงจำและความคิด แต่ไม่รู้ว่าทำไมร่างกายของเธอถึงมาอยู่ในร่างนี้ แล้วไม่ยอมโตไปมากกว่านี้ก็ไม่รู้

“จะว่าไปแล้วเธอยังมีชีวิตอยู่ไหมนะ”โจวเหวินตอนนี้คาดเดาสถานการณ์ของหยาเอ๋อไม่ได้เลย เขาเลยถาม “แล้วตอนนี้อยากทำอะไรละ”

“ฆ่า” หยาเอ๋อพูดคำๆเดียวออกมา

“อ้าวพูดได้เหรอ”โจวเหวินมองด้วยสีหน้าอึ้งๆ เขาก็พูดอยู่คนเดียวมาตั้งนาน ตลอดที่ผ่านมานั้น หยาเอ๋อสามารถพูดได้มาโดยตลอด