ตอนที่ 346 งานเลี้ยงใหญ่ (2)

เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก

เฉินเยี่ยนคิด ส่วนเฟิ่งฮวงนี่ช่างเถอะ 

 

 

“ก็ได้ ถือว่าเป็นพระจันทร์ก็ได้” 

 

 

ซุนหม่านเซียงคิดอยู่นานรู้สึกว่าเฉินเยี่ยนพูดก็ถูก คนชื่อเฟิ่งมีเยอะมากจริงๆ แน่นอนชื่อเยว่ก็ไม่น้อย แต่ชื่อหรูเยว่นั้นไม่เยอะ 

 

 

แบบนี้เด็กทั้งสองคนก็มีชื่อเรียบร้อย 

 

 

เฉินเยี่ยนกินข้าวเสร็จ ถึงแม้จะยังเจ็บอยู่ แต่เธอไม่ได้นอนอีก แค่พิงไปกับหัวเตียง 

 

 

เธอเพิ่งพิงไป เสียงร้องอุแว๊ของลูกก็เตือนแม่ว่า แม่กินอิ่มแล้ว พวกเรายังไม่ได้กินเลย 

 

 

“ป้อนหลานฉันก่อน” 

 

 

ซุนหม่านเซียงอุ้มซินเช่อมาไว้ในอ้อมกอดเฉินเยี่ยน 

 

 

ยังไม่ทันที่เฉินเยี่ยนจะป้อน ฝั่งนั้นซินหรูเยว่ก็ร้องขึ้นมาเช่นกัน เหมือนรู้ว่าของกินตัวเองโดนแย่งไปแล้ว 

 

 

“คุณช่วยอุ้มเยว่เยว่มาหน่อยค่ะ” 

 

 

เฉินเยี่ยนทนฟังเสียงลูกสาวร้องไห้ไม่ได้ ก็ป้อนพร้อมไปเลยแล้วกัน 

 

 

ซินห้าวช่วยแบบนี้ เฉินเยี่ยนเริ่มป้อนลูกทั้งสองคน 

 

 

เพิ่งเริ่มเป็นคุณแม่ รู้สึกถึงแรงดูดของเด็กสองคน รู้สึกถึงชีวิตของพวกเขา ในใจเฉินเยี่ยนรู้สึกอิ่มเอิบมีความสุข 

 

 

จนลูกสองคนกินอิ่มนอนหลับ จิตใจเฉินเยี่ยนยังอยู่ที่เด็กสองคน เธอรู้สึกว่าลูกนั้นช่างน่ารักเหลือเกิน มองยังไงก็มองไม่พอ 

 

 

“มีพอกินไหม? หลานชายฉันกินอิ่มหรือเปล่า” 

 

 

ซุนหม่านเซียงถาม 

 

 

เฉินเยี่ยนพยักหน้า น่าจะพอกิน 

 

 

“งั้นก็ดี” 

 

 

ซุนหม่านเซียงพูดจบก็เหลือบมองเฉินเยี่ยน แล้วพูดขึ้นมาอีก “ดูไม่ออกเลย เธอก็ไม่อ้วน นมมีพอกิน เธอต้องกินบำรุงให้มากหน่อย ปล่อยให้ลูกหิวไม่ได้” 

 

 

ตอนนี้ทั้งใจของซุนหม่านเซียงอยู่ที่หลาน ทำอะไรก็คิดถึงแต่หลานชาย 

 

 

“แม่ วางใจได้ เยี่ยนจื่อเธอรู้ดี” 

 

 

ซินห้าวตอบแทนเฉินเยี่ยน นี่คือลูกชายและลูกสาวของเขาและเฉินเยี่ยน จะไม่ดูแลดีได้ยังไง 

 

 

จนกินข้าวเย็นเสร็จ ทุกคนต่างไปที่บ้านเก่าฝั่งนั้น เหลือแค่ซินห้าว เฉินเยี่ยน และลูกสองคน 

 

 

เดิมทีซุนหม่านเซียงจะอยู่ฝั่งนี้ต่อ ตอนแรกเฉินเยี่ยนไม่มีปัญหา ให้ซินห้าวไปปูเตียง ต่อมาซุนหม่านเซียงบอกว่าเธอจะอุ้มซินเช่อไปด้วย เธอจะกอดตอนนอน เฉินเยี่ยนไม่ยอม 

 

 

ไม่ต้องพูดถึงลูกที่ต้องกินนมตอนกลางคืน เธอไม่คิดจะให้ซุนหม่านเซียงเลี้ยงลูก  

 

 

ซุนหม่านเซียงเป็นคุณย่า อยากดูหลาน อยู่กับหลาน เธอไม่มีปัญหา แต่ไม่สามารถให้ซุนหม่านเซียงเลี้ยงหลานได้ ตอนกลางคืนก็ไม่สามารถให้ไปนอนกับซุนหม่านเซียง 

 

 

ต่างบอกว่าเด็กนอนกับใคร ก็จะใกล้ชิดกับคนนั้น เฉินเยี่ยนอยากให้ลูกเธอใกล้ชิดกับเธอ 

 

 

อีกอย่าง ซุนหม่านเซียงนิสัยแบบนั้น เอาลูกให้เธอเลี้ยง เฉินเยี่ยนไม่ไว้ใจ 

 

 

ซินชานรู้ความคิดลูกชายและลูกสะใภ้ ซินเหลยโดนเลี้ยงจนเป็นแบบนั้น เขาก็ไม่สามารถให้ซุนหม่านเซียงเลี้ยงเด็กได้อีก ดังนั้นเขาเลยดึงซุนหม่านเซียงไป 

 

 

คืนแรกที่เป็นแม่ เฉินเยี่ยนไม่ได้รู้สึกลำบากมาก ลูกร้องไห้ เธออุ้มแล้วป้อนนมก็ได้แล้ว ป้อนครั้งหนึ่งก็อยู่ได้ประมาณสี่ชั่วโมง 

 

 

ส่วนระหว่างนั้นที่ร้องไห้อีก ส่วนมากก็จะเป็นฉี่ เรื่องนี้ซินห้าวเป็นคนจัดการ 

 

 

จนวันรุ่งขึ้นเฉินเยี่ยนนอนอิ่มตื่นขึ้นมา เห็นซินห้าวขอบตาดำ 

 

 

“นอนไม่พอหรือ?” 

 

 

เฉินเยี่ยนคิดไม่ถึงว่าซินห้าวจะอ่อนเพลียขนาดนี้ 

 

 

“คืนหนึ่งเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกสองคนยี่สิบรอบได้ แทบจะไม่ได้นอน แต่ผมนอนตอนกลางวันได้ คุณไม่ต้องเป็นห่วง” 

 

 

ซินห้าวคิดไม่ถึงว่าเลี้ยงลูกจะเหนื่อยขนาดนี้ สักพักลูกก็ฉี่ เขาอยากให้เฉินเยี่ยนได้พักผ่อน ดังนั้นเป็นเขาที่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ 

 

 

“งั้นเดี๋ยวคุณไปนอนพักเถอะ” 

 

 

เธอลูบตาซินห้าว เฉินเยี่ยนสงสารมาก 

 

 

อาหารเช้าคือโจ๊ก น้ำตาลทรายแดง แล้วยังมีไข่ไก่ เฉินเยี่ยนกินไปเยอะมาก ขอแค่เธอกินมาก น้ำนมก็จะเพียงพอ เด็กสองคนถึงได้กินอิ่ม 

 

 

จนกินข้าวเสร็จ ซินห้าวไปนอนอีกห้องหนึ่ง ไป๋ซิ่วเหมยอยู่เป็นเพื่อนเฉินเยี่ยน ซินต้าฉุย ซินชานต่างดูเด็กอยู่ข้างนอก 

 

 

“นี่เหลนชายข้า ตัวไม่เล็กกว่าเด็กคนอื่นเลย หน้าตาดี เหมือนซินห้าว เป็นทายาทตระกูลซินของเรา” 

 

 

ซินต้าฉุยอดไม่ได้อยากจะอุ้มเด็กมาไว้ในอ้อมกอด แต่เขาก็รู้ว่าเขาแก่แล้ว อุ้มเด็กไม่ไหว เขาดูก็พอแล้ว แต่มองดูก็มีความสุขแล้ว 

 

 

ซินชานดูหลานสาว ทุกคนต่างห้อมล้อมซินเช่อ ปล่อยให้ซินหรูเยว่เหงา ในใจเขา หลานชายกับหลานสาวเหมือนกัน ต่างเป็นรุ่นหลังของเขาทั้งคู่ เขาชอบหมด 

 

 

แต่ซินชานไม่กล้าอุ้ม เขากลัวว่าพลั้งมือไปทำเด็กหล่น 

 

 

จนพวกเขาชื่นชมจนพอแล้ว ซุนหม่านเซียงและไป๋ซิ่วเหมยอุ้มเด็กเข้าไป ให้เฉินเยี่ยนป้อนนม 

 

 

ส่วนห้องที่เฉินเยี่ยนอยู่เดือน นอกจากผู้หญิง นอกจากซินห้าวแล้ว ผู้ชายคนอื่นเข้ามาไม่ได้ ดังนั้นตอนที่พวกเขาอยากดูเด็ก เลยต้องอุ้มเด็กออกมาให้ดู 

 

 

ซินชานไปทำงานแล้ว คนที่เหลือก็อยู่ต่อ 

 

 

ซุนหม่านเซียงตัดสินใจจะอยู่ที่นี่แล้ว แบบนี้เธอจะได้เห็นหลานชายคนโตของเธอทุกวัน เธอไม่อยากกลับไปในเมือง ถึงแม้ในเมืองจะสะดวกสบายกว่าที่นี่ แต่ในเมืองไม่มีหลานชาย ตอนกลางวันเธอต้องอยู่เหงาหงอยคนเดียวทุกวัน สู้อยู่ที่นี่ดีกว่า 

 

 

อีกอย่าง อยู่ที่นี่ไป๋ซิ่วเหมยทำอาหารทุกวัน เธอแค่อุ้มหลาน ตัวเองไม่ต้องออกแรง อาหารก็ไม่แย่ ในชั่วขณะหนึ่งเธอไม่รู้สึกรังเกียจหมู่บ้านเกษตรกรเลย 

 

 

เธอยอมอยู่ที่นี่ ใครก็ไล่เธอไปไม่ได้ 

 

 

ทุกคนก็ไม่คิดจะไล่เธอไป 

 

 

ต่างกำลังปรึกษากันเรื่องงานเลี้ยงกินเส้นก๋วยเตี๋ยว สุดท้ายกำหนดว่าเป็นวันที่เด็กคลอดวันที่หก 

 

 

จัดงานเลี้ยงใหญ่ตามที่ซินต้าฉุยต้องการ ขอแค่คนที่ยินดีมา ก็ให้มา ไม่ว่าจะเป็นญาติที่ห่างไกล แค่ไม่ได้มามือเปล่า ไม่สนว่าของที่เอามาจะไม่มีค่าอะไร ก็จะเลี้ยงต้อนรับ 

 

 

คนที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร เมื่อก่อนไม่มีฐานะ ดังนั้นเวลาจัดงานเลี้ยงก็จะกระมิดกระเมี้ยน มีอาหารไม่กี่อย่าง กลัวว่าคนจะมาเยอะ ไม่พอกิน 

 

 

ตอนนี้ที่บ้านมีฐานะแล้ว แล้วยังมีเรื่องน่ายินดีที่เฉินเยี่ยนคลอดครั้งหนึ่งได้ลูกสองคน จัดงานใหญ่หน่อยก็ได้ จ่ายเงินมากหน่อยก็ไม่เป็นไร สามารถหาใหม่ได้ 

 

 

อีกอย่าง พวกเขาจัดงานเลี้ยงใหญ่โต ถึงเวลาบ้านครอบครัวเฉินเยี่ยนมาก็จะได้มีหน้ามีตา 

 

 

ดังนั้นซินต้าฉุยเลยกำชับ ซินฉุ่ยเลยรับตั๋วต่างๆ และเงินที่ซินห้าวให้มาไปจัดการ 

 

 

ซื้อเนื้อหมู ตั๋วเนื้อมีไม่มาก ซื้อไม่ได้จะทำยังไง? 

 

 

ไม่เป็นไร ในหมู่บ้านมีคนเลี้ยงหมู ซื้อหมูมาตัวหนึ่งเลย หาคนฆ่า แม่หมูตัวหนึ่ง ยังไงก็พอกิน 

 

 

ผัก ที่สหกรณ์มีไม่พอ ไม่เป็นไร ในตลาดมีขายเยอะ ไม่ต้องกลัวว่าจะซื้อไม่ได้ 

 

 

ทุกวันซินฉุ่ยจะซื้อนี่ซื้อนั่นมาที่บ้าน ยุ่งไม่หยุด 

 

 

ที่บ้านก็ดีใจ ซื้อของมากมายขนาดนี้ งานเลี้ยงที่จัดต้องมีอาหารมากมายแน่นอน ถึงเวลากินไม่หมด พวกเขาก็ยังเอากลับไปได้ เป็นเรื่องที่ดี 

 

 

ซื้อของครบแล้ว หาพ่อครัวมาทำอาหารแล้ว จนมาถึงวันฉลองกินเส้นก๋วยเตี๋ยว 

 

 

เพราะเฉินเยี่ยนยังไม่ออกเดือน ถึงแม้เธอจะลงจากเตียงมาเดินแล้ว และสามารถทำอะไรในห้องได้แล้ว แต่ไม่ให้เธอออกไป กลัวว่าจะโดนลมแล้วไม่สบาย 

 

 

คุณย่าและป้ารองยังให้เฉินเยี่ยนใส่หมวก เฉินเยี่ยนไม่ใส่ เธอไม่เคยชิน สุดท้ายพวกเธอเลยตามใจเฉินเยี่ยน 

 

 

เช้าตรู่วันงานเลี้ยง ที่ลานบ้านมีคนไม่น้อยเลย ส่วนใหญ่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันหรือคนในครอบครัวมาช่วยงาน 

 

 

พ่อครัวเริ่มเตรียมทำอาหารแล้ว เจ้าของงานซื้อของมาเยอะ เขาก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ 

 

 

เขากล้ารับประกัน วันนี้ทุกโต๊ะจะได้กินเนื้อชามโตกันอย่างเพียงพอ 

 

 

ของทอดก็เพียงพอ น้ำแกงลูกชิ้นก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้กิน 

 

 

คิดดูแล้ว เขายังไม่เคยเห็นเจ้าของงานที่ใจกว้างขนาดนี้เลย ใจกว้างจริงๆ ได้ทำครั้งนี้ เขาสามารถกลับไปคุยอวดกับคนอื่นได้แล้ว 

 

 

จนเวลาสิบโมงกว่าแขกก็เริ่มมาแล้ว 

 

 

คนที่มาล้วนเป็นญาติบ้านซิน 

 

 

ซินหงมาเช้ามาก ถือว่าเธอเป็นคุณอาของเด็ก ไม่เพียงแต่เอาไข่มา ยังทำรองเท้าหัวสิงโตให้เด็กด้วย มีน้ำใจมาก 

 

 

อีกอย่างเธอยังให้พวงเงินกับเด็กด้วย 

 

 

พวงเงินที่ว่า นั่นคือใช้เชือกร้อยเป็นเงินคล้องไว้บนคอเด็ก ความหมายดีมาก สร้อยจี้เงินจี้ทองในยุคหลังก็พัฒนามาจากตรงนี้