ตอนที่ 779 รับผิดชอบข้า

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

“อย่าคิดว่าข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า เจ้าถึงได้อวดดีเช่นนี้ ข้าจะบอกอะไรให้ นะ เจ้าอย่าได้คิดจะแตะแม้ผมสักเส้นของซีเอ๋อร์” หลิงที่ป่วยอยู่บนเตียงกล่าวข่มขู่อย่างดุเดือด

พูดราวกับแม่สามีที่กีดกันไม่ให้รักกัน มู่เฉียนซียกมุมปากขึ้นเล็กน้อย นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่?

แต่ในที่สุดจิ่วเยี่ยก็โอบมู่เฉียนซีเข้ามากอดไว้และกล่าวว่า “ทั้งตัวซีเป็นของข้า ผมทุกเส้นก็ล้วนเป็นของข้า ข้าจะแตะต้องหรือทำอะไรแล้วเจ้าจะทำไม?”

“เจ้า…” หลิงแทบจะพุ่งเข้าไปหาจิ่วเยี่ย

แคว่ก… ทำให้บาดแผลฉีกขาด

มู่เฉียนซีรีบวิ่งเข้าไปหาและกล่าวว่า “อารอง ท่านอย่าวู่วาม!”

“อยู่ให้ห่างจากเขา!” หลิงกล่าว

ตอนนี้หลิงกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จิ่วเยี่ยก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ มู่เฉียนซีเองก็จนปัญญา ทำได้แต่คิดหาวิธีด้วยตัวเอง

“เอ่อ… อารอง…”

“ที่จริงแล้วเป็นข้าที่ชอบความงดงามของจิ่วเยี่ย จากนั้นข้ากับเขายัง…”

มู่เฉียนซีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำลายภาพลักษณ์ของตัวเอง เพื่อให้บรรยากาศระหว่างพวกเขาไม่เต็มไปด้วยจิตสังหารเช่นนี้

“คนตระกูลมู่ของเราเป็นคนที่มีความรับผิดชอบใช่ไหม? ดังนั้นอารองอย่าโกรธเลยนะ!”

“โกรธ อารองอย่างข้าจะไม่โกรธได้อย่างไรเล่า เป็นเพราะข้าไม่ได้อยู่ปกป้องซีเอ๋อร์ ทำให้เจ้าถูกเจ้าหมอนี่ทำให้สับสน…”

แม้ว่าจะพูดทำลายภาพลักษณ์ของตนเองไปอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้หลิงไม่โกรธได้

มู่เฉียนซีถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ท่านอารอง ท่านรักษาอาการบาดเจ็บให้หายดีก่อน ข้าหาตัวกระบี่เจอแล้ว เพียงรอให้ท่านอารองหายดีแล้วเอาตัวกระบี่กับปลายกระบี่มาหลอมเข้าด้วยกัน!”

“ตอนนี้ข้าสามารถหลอมอาวุธได้แล้ว!”

“ข้าไม่อยากเป็นกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บ! อารองควรหายดีก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

เรื่องนี้ แม้ว่าจะเป็นอารองของนางแต่มู่เฉียนซีก็จะไม่ยอม

ในที่สุดหลิงก็ถูกหลานสาวของเขาสั่งให้พักรักษาตัว และห้ามไม่ให้โกรธ!

หลังจากสงบศึกปราศจากการต่อสู้ จิ่วเยี่ยจ้องมองมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “ซีบอกว่าจะรับผิดชอบข้า”

“ข้าเพียงพูดเพื่อโกหกอารอง เจ้าก็เชื่อ!”

เขากอดมู่เฉียนซีแน่นแล้วกล่าวว่า “ข้าเชื่อ!”

“ได้ครอบครองตัวข้าและเข้ามาสู่หัวใจของข้าแล้ว จะไม่รับผิดชอบข้าไม่ได้เด็ดขาด!”

“เจ้าคือราชาจิ่วเยี่ย สาวน้อยอย่างข้าต้องรับผิดชอบ… อุบ…”

ไม่ทันเปิดโอกาสให้มู่เฉียนซีได้โต้แย้งหรือปฏิเสธ จิ่วเยี่ยก็จูบเพื่อปิดปากทันที ใครใช้ให้วิธีนี้ได้ผลดีที่สุดกันเล่า

“จิ่วเยี่ย เจ้าพอแล้ว!”

“ซีบอกแล้วว่าจะรับผิดชอบข้า ตอนนี้ข้าเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าจะไม่รับผิดชอบหรือ?”

“……”

การหลอกอารองไม่ได้ผล ทั้งยังถูกจิ่วเยี่ยจับมาเป็นจุดอ่อนอีก

ทุกครั้งที่ต้องการจะปฏิเสธการพัวพันของเขา เขาก็จะพูดขึ้นทันทีว่าให้นางรับผิดชอบ มู่เฉียนซีนั้นอยากจะกระอักเลือดออกมาเสียจริง!

ในที่สุดอาการบาดเจ็บของหลิงก็หายดีแล้ว หลังจากหายดีแล้ว เขาไม่สนใจว่าจิ่วเยี่ยจะแข็งแกร่งแค่ไหน ต้องสู้กันเสียก่อนแล้วค่อยว่ากัน

มู่เฉียนซียิ้มอย่างจนปัญญาและกล่าวว่า “ท่านอารอง การหลอมกระบี่สำคัญที่สุด”

หลิงถูกมู่เฉียนซีดึงเอาไว้ จึงไม่ได้ก่อเรื่องราวใหญ่โต

เมื่อเห็นปลายกระบี่และตัวกระบี่ที่ขึ้นสนิมนั่น หลิงก็ขมวดคิ้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะซีเอ๋อร์บอกว่ามันเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ เขาคงไม่เชื่ออย่างแน่นอน อาวุธวิญญาณระดับต่ำก็ยังจะดีกว่าสิ่งชำรุดทรุดโทรมนี้

กระบี่ที่ซีเอ๋อร์ของเขาจะใช้นั้น ไม่เพียงแต่แข็งแกร่ง แต่จะต้องสวยงามด้วย อย่างไรเสียนางก็เป็นเด็กผู้หญิง แต่…

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ ไม่มีวิญญาณกระบี่และจิตวิญญาณกระบี่ หลังจากผ่านความทุกข์ยากลำบากมาหลายล้านปี ย่อมกลายเป็นเช่นนี้

แม้ว่าเขาจะไม่พอใจกับรูปลักษณ์ของกระบี่มังกรเพลิง แต่หลิงก็ไม่มีความสามารถในการเปลี่ยนมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ สิ่งเดียวที่เขาสามารถทําได้ดีก็คือหลอมมันเข้าด้วยกัน

หลิงพยายามอย่างดีที่สุดที่จะหลอมกระบี่ หลังจากที่ตัวกระบี่และปลายกระบี่เชื่อมต่อกันก็มีแสงเปล่งประกายออกมา

นี่สิถึงจะเป็นลักษณะของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์

“ซีเอ๋อร์!” หลังจากหลอมกระบี่เข้าด้วยกันเสร็จแล้ว หลิงก็ไปหามู่เฉียนซีด้วยความดีใจ

เมื่อมอบกระบี่ให้กับมู่เฉียนซีแล้ว หลิงก็ยังคงต้องการที่จะโจมตีจิ่วเยี่ยอย่างโหดเหี้ยม

มู่เฉียนซีจึงรีบกล่าวขึ้นมาก่อนว่า “จิ่วเยี่ย มาลองกระบี่มังกรเพลิงกับข้า!”

ถ้าหากนางไม่ลงมือ หลิงจะต้องสู้กับจิ่วเยี่ยอย่างแน่นอน

จิ่วเยี่ยพยักหน้า “ได้!”

แม้ว่าหลิงต้องการที่จะต่อสู้กับจิ่วเยี่ย แต่เขาก็ไม่สามารถแย่งคนกับมู่เฉียนซีได้ เขาทําได้เพียงยืนอยู่ตรงนั้นและมองไปที่จิ่วเยี่ยอย่างเย็นชา

“ถ้าเจ้ากล้าที่จะทําร้ายซีเอ๋อร์ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”

จิ่วเยี่ยเมินหลิงไปในทันที เขามองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “ซี มาเถอะ!”

เงาร่างสีม่วงกลายเป็นสายฟ้าและกวาดกระบี่ออกไป มู่เฉียนซีตะโกนว่า

“มังกรเพลิงพิฆาต!”

จิ่วเยี่ยหลบไปได้อย่างสบายๆ มู่เฉียนซียังคงโจมตีต่อไป สิบเจ็ดท่ากระบี่ผ่านไป กระบี่มังกรเพลิงก็ยังไม่หัก มู่เฉียนซีก็วางใจได้แล้ว

นางยิ้มแล้วกล่าวว่า “เป็นเหมือนต้นฉบับจริงๆ ในที่สุดก็ไม่หักแล้ว”

“ต่อไป ข้าจะปล่อยท่าไม้ตายออกไป” ปลายกระบี่หงายขึ้น พลังวิญญาณรวมเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง

ทันใดนั้นเปลวเพลิงก็ระเบิดออกไปราวกับดอกบัวที่เบ่งบานและพุ่งเข้าใส่จิ่วเยี่ย!

“บัวแดงพิฆาต!”

จิ่วเยี่ยโบกมือป้องและม่านพลังสีดําก็ปิดกั้นการโจมตีของมู่เฉียนซีในทันที

บึ้ม! เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วตำหนัก

จิ่วเยี่ยโอบมู่เฉียนซีที่ใช้พลังไปจนหมดสิ้นมากอดเอาไว้

หลิงระเบิดความโกรธออกมาทันที “เจ้าหนู อย่าคิดว่าจะเอาเปรียบซีเอ๋อร์ของข้าได้ง่ายๆ!”

สำหรับหลิงแล้ว คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ราชาจิ่วเยี่ยผู้ยิ่งใหญ่ที่ควบคุมคุกโลหิต แต่เป็นเพียงเจ้าเด็กขี้เหร่ที่อยากจะแย่งหลานสาวสุดที่รักของเขา

“เจ้าเด็กนี่ช่างขาดการอบรมสั่งสอนเสียจริง!” หลิงช่วยมู่เฉียนซีออกมาจากอ้อมกอดของจิ่วเยี่ย

จิ่วเยี่ยที่อ้อมกอดว่างเปล่าในตอนนี้ก็ไม่พอใจเช่นกัน ทั้งสองคนชักกระบี่และคันธนูออกมา

มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านอารอง อาการบาดเจ็บของท่านพึ่งจะหายดี ข้าไม่อยากให้ท่านบาดเจ็บอีก”

หลิงกล่าว “นี่ไม่ใช่ว่าข้าหายดีแล้วหรือไงข้าแค่อยากจะขยับเนื้อขยับตัวบ้าง?”

“ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน

จิ่วเยี่ยเข้าใจดีว่าซีไม่ต้องการให้เขาต่อสู้กับอารองของนาง ดังนั้นเขาจึงหายตัวไปทันที

เมื่ออารองที่น่ารำคาญผู้นี้จากไปแล้ว เขาจึงจะค่อยออกมาพบซีอีกครั้ง

หลิงกล่าวขึ้น “ซีเอ๋อร์ นี่ข้าก็แค่เพียงสงสัยในพลังความสามารถของราชาจิ่วเยี่ยที่มีชื่อเสียงขจรไกลมิได้หรือไงเล่า?”

“อย่าได้สงสัยเลย นี่มิใช่ว่าข้าจะทำร้ายจิตใจท่านอารอง แต่ว่าท่านมิใช่คู่ต่อสู้ของจิ่วเยี่ย”

ส่วนนางเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องฝึกบำเพ็ญไปจนถึงเมื่อไร ถึงจะสามารถตามเจ้าหมอนั่นได้ทัน จากนั้นค่อยไปคิดบัญชีกับเขา

หลิงกล่าวขึ้นอย่างช้ำใจ “ซีเอ๋อร์ เจ้ากลับไม่เชื่อมั่นในตัวอารองถึงเพียงนี้?”

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ใช่อย่างนั้น แต่นี่คือเรื่องจริง!”

“บอกอารองมาว่าเจ้าเด็กนั่นบีบบังคับเจ้าใช่ไหม?” หลิงพูดเบาๆ

“ถ้าเขาบังคับเจ้า ต่อให้เขาเป็นราชาจิ่วเยี่ย ข้าก็จะไม่ปล่อยเขาไปแน่”

มู่เฉียนซีส่ายหัว “ไม่ใช่ ท่านอารองท่านวางใจเถอะ! จิ่วเยี่ยเป็นคนดี”

เมื่อเห็นการแสดงออกของมู่เฉียนซี หลิงก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีไปอีก มันยิ่งทำให้เขาเป็นห่วง!

พี่ใหญ่ ข้าขอโทษ!

ดอกไม้ที่สวยและงดงามที่สุดที่ตระกูลของเราได้เลี้ยงดูมาจะถูกปีศาจเด็ดไปแล้ว

ในตอนนั้นเอง เสียงของอาถิงก็ดังขึ้น “นางผู้หญิงบ้า ตัวกระบี่และปลายกระบี่มารวมตัวกันแล้ว เจ้าก็อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไปนัก แม้ว่าพลังของการหล่อดาบของอารองของเจ้าจะยังพอมีดี แต่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ที่หลอมมาเช่นนี้กลับดูไม่สมบูรณ์แบบเลยแม้แต่น้อย”