งานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ เป็นงานยิ่งใหญ่ระดับสูงของมณฑลซีไห่ ซึ่งจัดขึ้นปีละครั้ง มันยังเป็นตัวกำหนดทิศทางเศรษฐกิจในอนาคตของมณฑลซีไห่ด้วย นักเรียนธรรมดาอย่างพวกเขาจะไปมุงดู ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น!

จู่ๆ คนจำนวนมากเริ่มถอนหายใจออกมา บรรยากาศดูหดหู่เล็กน้อย

เจี่ยงหยาวถามเสียงเบาว่า “พี่เฉินโม่ งานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ คล้ายกับงานประชุมสุดยอดของมณฑลฮ่านหยางหรือเปล่า”

เฉินโม่พยักหน้า “อืม น่าจะไม่ต่างกันเท่าไร”

“งั้นก็ไม่น่าสนใจอะไร” เจี่ยงหยาวไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ความฝันของเธอคือเมื่อโตขึ้นจะเป็นนักวิทยาศาสตร์

มองพวกนักเรียนก้มหน้าด้วยความเศร้า อานหลิงหัวยกยิ้มเย็นชาที่มุมปากอย่างได้ใจ

“ทุกคนไม่ต้องเศร้า แม้คุณสมบัติในการเข้างานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่เคร่งครัดมาก แต่ถ้าทุกคนอยากเข้าไปดูสิ่งที่น่าสนใจ ฉันมีวิธีนะ”

“อะไรนะ! คุณชายอานพูดจริงเหรอ” ชายหนุ่มที่ถามขึ้นเป็นคนแรกลุกขึ้นยืนทันที มองอานหลิงหัวด้วยใบหน้าตกตะลึง

อานหลิงหัวยิ้มบางๆ “จริงสิ”

“งั้นดีมากเลย ถ้าได้ร่วมงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่สักครั้ง กลับบ้านไปผมจะได้อวดกับเพื่อนที่โตมาด้วยกัน ที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยยานจิง! ฮ่าๆ……” ชายหนุ่มคนนั้นตื่นเต้นจนหัวเราะเสียงดังอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์ เสียมารยาทมาก

แต่ตอนนี้ไม่มีใครหัวเราะเยาะเขา เพราะทุกคนตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก

สายตาของอานหลิงหัวแอบมองมาที่เจี่ยงหยาว พบว่าเธอไม่สนใจสักนิด กำลังพูดคุยยิ้มแย้มกับเฉินโม่

อานหลิงหัวโมโหจนกำมือทั้งสองข้างแน่นอีกครั้ง ความโกรธในแววตาเพิ่มขึ้นอีก

“ไอ้หนุ่ม รอให้ถึงงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ก่อนเถอะ ฉันจะให้นายได้เห็นดี!” อานหลิงหัวแอบพูด

“คุณชายอาน พวกเราเยอะแยะขนาดนี้ ถ้าไปร่วมงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่กันหมด จะดึงดูดความสนใจหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มคนนั้นถามอย่างกังวล

อานหลิงหัวพูดว่า “วางใจเถอะ งานที่ตึกต้อนรับแขกใหญ่กว่าที่นี่เยอะ ถึงพวกเราไปกันหมดก็ไม่แออัด อีกทั้งใช่ว่าทุกคนที่นี่จะไปกันหมด”

“อืม งั้นก็ดีครับ หลักๆ เลยผมกังวลว่าถ้าไปกันเยอะเกิน เมื่อถึงตอนนั้นจะทำให้คุณชายอานลำบากใจ”

อานหลิงหัวหัวเราะร่า พูดด้วยใบหน้าได้ใจว่า “วางใจเถอะ ถึงทุกคนไปกันหมด ฉันก็มีวิธี!”

“หลังจบงานวันนี้ นักเรียนที่อยากไปมาลงชื่อกับเจ้าหยั่นจิ้ง วันมะรืนรวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยตอนเช้า ฉันจะพาทุกคนไปด้วยกัน!” อานหลิงหัวพูดเสียงดัง

“ได้!”

นัยน์ตาหลินเหม่ยหลิงฉายแววคาดหวัง เธอเป็นคนมณฑลซีไห่ ใฝ่ฝันเกี่ยวกับงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่มานานแล้ว แม้ตระกูลของหลินเหม่ยหลิงไม่ได้ขาดแคลนเงิน แต่ก็ไม่ได้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยสูงส่ง ขนาดพ่อของเธอยังไม่มีคุณสมบัติเข้างานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่เลย

ครั้งนี้อานหลิงหัวคุยโวโอ้อวดยกใหญ่ หลินเหม่ยหลิงหวั่นไหวเล็กน้อย

“หยาวหยาว เธอจะไปดูที่งานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ไหม” หลินเหม่ยหลิงถาม

เจี่ยงหยาวส่ายหน้า “ฉันไม่ไป ฉันกังวลว่าเมื่อถึงตอนนั้น อานหลิงหัวจะทำให้พี่เฉินโม่ลำบากใจ!”

“กลัวอะไร เฉินโม่เก่งขนาดนั้น จะกลัวเขาไปทำไม อีกอย่างในงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ มีบุคคลยิ่งใหญ่มากมาย ถึงเป็นอานหลิงหัว ก็ไม่กล้าสร้างความวุ่นวายหรอก!” หลินเหม่ยหลิงอยากให้เจี่ยงหยาวไปกับเธอด้วย จึงพูดกล่อมเจี่ยงหยาว

เจี่ยงหยาวมองเฉินโม่ แล้วส่ายหน้าอีกครั้ง “ช่างเถอะ ถึงยังไงฉันก็ไม่สนใจงานประชุมสุดยอดอะไรนั่นอยู่แล้ว”

หลินเหม่ยหลิงพูดอย่างประหลาดใจ “เธอไม่สนใจงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่งั้นเหรอ นั่นเป็นงานใหญ่ปีละครั้งของมณฑลซีไห่เลยนะ เมื่อถึงตอนนั้นจะได้เห็นคนมีชื่อเสียงระดับสูงสุดของมณฑลซีไห่ เธอจะไม่สนใจได้ยังไง”

หลินเหม่ยหลิงแสดงท่าทีไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก

เจี่ยงหยาวก็ไม่เข้าใจความคิดของหลินเหม่ยหลิงเหมือนกัน เธอถามอย่างสงสัยว่า “ก็แค่พวกคนรวยไม่ใช่เหรอ มีอะไรน่าดู ปกติที่เห็นในทีวียังน้อยเหรอ ถึงเห็นพวกเขาด้วยตาตัวเองแล้วยังไงเหรอ”

หลินเหม่ยหลิงหมดคำจะพูด แต่ไม่ยอมแพ้ เธอพูดกล่อมต่อ “ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เธอเห็นดาราในทีวี เหมือนกับเจอตัวจริงไหมล่ะ”

“อีกทั้งนี่ยังเป็นโอกาสดี ที่จะได้เปิดหูเปิดตา ถ้าอานหลิงหัวไม่คุยโวโอ้อวด ถึงเราเสียเงินก็ใช่ว่าจะเข้าไปได้ เธอจะพลาดโอกาสดีแบบนี้ไม่ได้นะ!”