แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1083
หลังจากเฉินโม่กับหลินเหม่ยหลิงปรับความเข้าใจกัน ก็พูดมากจนหลินเหม่ยหลิงกระตือรือร้นขึ้นมา เอาแต่ถามเฉินโม่ไม่หยุด ทำให้เฉินโม่รู้สึกเสียใจที่ปรับความเข้าใจกับเธอ
เจี่ยงหยาวมองอยู่ข้างๆ แล้วหัวเราะคิกคักออกมา ทำเป็นไม่เห็นสายตาขอความช่วยเหลือที่เฉินโม่มองมาทางเธอ
เมื่อกินดื่มกันได้พอประมาณ บรรยากาศในงานคึกคักเป็นพิเศษ
จู่ๆ อานหลิงหัวลุกขึ้นยืน ยกแก้วเหล้าขึ้นมา แล้วพูดเสียงดังว่า “ทุกท่านเงียบสักครู่!”
ทุกคนหยุดพูดคุยกันทันที มองอานหลิงหัวอย่างประหลาดใจ ไม่รู้เขาจะพูดอะไร
อานหลิงหัวยิ้มบางๆ ใบหน้าดูได้ใจเล็กน้อย เมื่อทุกคนเงียบลง เขาจึงพูดเสียงดังว่า “นักเรียนทุกคน ทุกคนมาจากทั่วทุกสารทิศ แต่ในเมื่อมารวมตัวกันในมหาวิทยาลัยซีเป่ยของเรา นั่นคือโชคชะตา ไม่รู้ว่าทุกคนรู้จักมณฑลซีไห่ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยซีเป่ยดีแค่ไหน”
“มณฑลซีไห่มีดินแดนศักดิ์สิทธิ์สีแดงที่มีชื่อเสียง เป็นสถานที่บุคคลยิ่งใหญ่แห่งยุคเคยสู้รบในตอนนั้น!”
“มณฑลซีไห่มีโบราณสถานที่จิ๋นซีฮ่องเต้หลงเหลือไว้ในตอนนั้น!”
“ประชาชนมณฑลซีไห่มีชีวิตเรียบง่าย มีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์มากมาย อ้อ ผู้หญิงมณฑลซีไห่ก็หน้าตาสวยมาก”
“ฮ่าๆ……”
นักเรียนส่งเสียงหัวเราะออกมา นักเรียนหญิงที่เป็นคนมณฑลซีไห่จำนวนมาก เขินอายไม่หยุด แต่ใบหน้ากลับมีความภูมิใจผุดขึ้นมา
เจี่ยงหยาวมองเฉินโม่ จู่ๆ รู้สึกเศร้าขึ้นมา “พี่เฉินโม่ ฉันก็อยากกลับอู่โจวเหมือนกัน ไม่ได้กลับไปเยี่ยมนานแล้ว ไม่รู้พ่อแม่เป็นยังไงบ้าง”
เฉินโม่ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ใกล้จบภาคเรียนนี้แล้ว ถึงตอนนั้นก็กลับไปได้นิ”
“อืม ไม่มีอะไรหรอก แค่เศร้านิดหน่อย” เจี่ยงหยาวยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยขึ้น
บ้านคือหน่วยของประเทศที่เล็กที่สุด ประเทศคือบ้านเป็นพันหมื่น
ทุกคนมีบ้านเกิดของตัวเอง บางทีหลังจากพวกเขาโตขึ้น อาจต้องพลัดพรากจากบ้านเกิดเมืองนอนเพื่อการครองชีพ ถึงกระทั่งที่ไปปักหลักอยู่ต่างแคว้นแดนไกล
แต่พวกเขาไม่มีวันลืมผืนดินที่เลี้ยงดูพวกเขามา
แม้ห่างกันเป็นหมื่นลี้ เมื่อได้ยินข่าวของบ้านเกิด พวกเขาจะรีบติดตามทันที ถ้ามีคนเอ่ยชมบ้านเกิด พวกเขาจะรู้สึกเป็นเกียรติ ถ้ามีคนให้ร้ายบ้านเกิด พวกเขาจะออกมาปกป้องบ้านเกิดอย่างไม่ลังเล
ดังนั้นตอนนี้นักเรียนที่เป็นคนมณฑลซีไห่จำนวนมาก ต่างมีความภูมิใจผุดขึ้นบนใบหน้า
อานหลิงหัวก็ไม่ต่างกัน
แต่อานหลิงหัวมีจุดประสงค์อื่น รวมไปถึงคำถามนี้ของเขาด้วย เขาจงใจหันเหความสนใจของทุกคนไปทางอื่น
“ดูเหมือนทุกคนรู้จักมณฑลซีไห่ของเราเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ทุกคนพูดมา ล้วนเป็นเรื่องราวและทัศนียภาพของมณฑลซีไห่ ใครรู้จักงานอะไรที่ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงของมณฑลซีไห่บ้าง” อานหลิงหัวถามด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย
งานยิ่งใหญ่เหรอ มณฑลซีไห่มีงานอะไรที่ยิ่งใหญ่เหรอ
แต่นักเรียนที่เป็นคนมณฑลซีไห่ เข้าใจแจ่มแจ้งทันที
“คุณชายอาน ใกล้สิ้นปีแล้ว การประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ที่มีปีละครั้ง ใกล้จะจัดขึ้นแล้ว!” นักเรียนชายคนหนึ่งพูดเสียงดัง
“ใช่!” อานหลิงหัวชี้นักเรียนชายคนนั้น แล้วพูดเสียงดังว่า “นายพูดถูกต้องที่สุด วันมะรืนก็เป็นงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่แล้ว อีกทั้งงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ครั้งนี้ จะจัดขึ้นที่ตึกรับแขกของโรงแรมใหญ่แถวมหาวิทยาลัยซีเป่ยของเรา!”
“หา งั้นเราไปดูได้ไหม นั่นเป็นงานรวมตัวพวกคนรวยระดับสูงอันดับต้นๆ ของมณฑลซีไห่เลยนะ!” ชายหนุ่มคนนั้นมีสีหน้าเพ้อฝัน
คนจำนวนมากสีหน้าตื่นเต้น ปกติได้ยินข่าวของพวกคนรวยแค่ในทีวีและอินเทอร์เน็ต ถ้าได้เห็นตัวจริงกับตาตัวเองสักครั้ง ต้องทำให้คนตื่นเต้นแน่ๆ
แต่ไม่นานชายหนุ่มคนนั้นก็มีสีหน้าสิ้นหวัง “แต่น่าเสียดายที่คุณสมบัติในการเข้างานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ อย่างน้อยต้องมีฐานะทางสังคมหลายร้อยล้าน คนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปได้!”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา ดึงคนที่กำลังเพ้อฝันกลับสู่ความเป็นจริงทันที