ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล


ลูกไฟนับไม่ถ้วนพุ่งตกลงจากฟ้าราวกับวันโลกาวินาศ และยามที่ลูกไฟเหล่านั้นลงสู่พื้น ลูกไฟเหล่านั้นก็กลายเป็นปีศาจที่มีไฟลุกท่วมีร่าง

ปีศาจที่ดูชั่วร้ายตัวแล้วตัวเล่าหยัดยืนลุกขึ้นก่อนที่พวกมันจะโถมเข้าหาพวกเซียวอวี๋พร้อมเพลิงบนร่าง

ลูกไฟยังคงร่วงหล่นจากท้องฟ้าต่อเนื่องไปอีกราวครึ่งชั่วโมงจึงหยุดลง ไม่ทราบมีปีศาจมากเพียงใดที่มาพร้อมกับเหตุการณ์นี้ ยามสิ้นเสียงหนักทึบเสียงสุดท้าย เงาร่างขนาดใหญ่ที่มีเพลิงลุกท่วมอย่างน่าครั่นคร้านก็ปรากฏตัว เพียงรูปลักษณ์ก็ทำให้ผู้พบเห็นต้องสะท้านไปถึงวิญญาณ

“ซาแกรลาส” เซียวอวี๋มองดูร่างอันใหญ่โตที่คุ้นตานั้นพลางพึมพำออกมา

สิ่งที่เขาคาดเดานั้นเป็นจริง ผู้ที่คอยชักใยอยู่ในเงามืดคือ ซาแกรลาส

“ช่างเป็นการกระทำอันสูญเปล่า พวกเจ้ามีชะตาที่ต้องถูกทำลาย” ซาแกรลาสหัวเราะขณะกวาดตามองดูมวลมนุษย์อย่างเหยียดหยามดูแคลน

เซียวอวี๋เป็นเพียงผู้เดียว ณ ที่แห่งนี้ที่ทราบว่าซาแกรลาสแข็งแกร่งและยากที่จะต่อสู้เพียงใด

ในประวัติศาสตร์ของโลกวอคราฟ ซาแกรลาสไม่เคยถูกสังหาร มันไร้เทียมทาน ทว่าในบันทึกมันกลับถูกปลิดปลงโดยเอกวินน์ และดวงวิญญาณของมันก็ถูกผนึกไว้ในร่างของเอกวินน์นั้นเอง ซึ่งนั่นได้ส่งผลต่อโชคชะตาของเมดีฟหลังจากนั้น

ในเวลาต่อมา โลธาร์ แค็ดการ์ และคนอื่นๆได้ร่วมมือกันต่อสู้กับเมดีฟ และขับไล่วิญญาณของซาแกรลาสสู่ห้วงมิติแห่งความว่างเปล่า

หากแต่ความไม่สมเหตุสมผลกลับอยู่ที่นี่เอง เป็นไปได้หรือที่ซาแกรลาสจะถูกสังหารลงด้วยพลังของเอกวินน์? ต้องทราบก่อนว่า ซาแกรลาสนั้นคือผู้ที่ทรงพลังที่สุดในหมู่ไททัน นี่จะเป็นไปได้จริงหรือ?

และหากวัดจากในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหมด ไม่มีเผ่าพันธุืใดจะเหนือไปกว่าเผ่าพันธุ์ผู้สร้างอย่างไททันอีกแล้ว กล่าวก็คือ ซาแกรลาสนั้นไร้ผู้ต้าน หรือกระทั่งต่อให้มีผู้ที่สามารถสังหารซาแกรลาสลงได้อยู่จริง นั่นก็สมควรเป็นเผ่าพันธุ์ไททันตนอื่น ไม่ใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์

ด้วยเหตุนี้ เซียวอวี๋จึงสงสัยว่าเรื่องที่ซาแกรลาสถูกสังหารนั้น ความจริงคือ ซาแกรลาสที่ถูกสังหารไปเป็นเพียงร่างจำแลง หาใช่ร่างจริงไม่

สำหรับการเดินทางมายังดาวดวงนี้ของเบิร์นนิ่งลีเจี้ยน พลังเวทมนตร์คือสิ่งจำเป็น ในอดีต สาเหตุที่เบิร์นนิ่งลีเจี้ยนเดินทางมาได้ก็เพราะเวทมนตร์ของเอลฟ์ และพลังจากบ่อแห่งนิรันดร์

จะเห็นได้ว่าการเดินทางมายังดาวดวงนี้ของพวกปีศาจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะพวกปีศาจที่ทรงพลัง

สำหรับข้อจำกัดนี้ กระทั่งซาแกรลาสก็ยังไม่อาจฝ่าฝืน

ดังนั้น หากซาแกรลาสคิดจะเดินทางมายังดาวเคราะห์ดวงนี้ พลังที่ต้องใช้ก็ย่อมต้องมหาศาล และบางที กระทั่งพลังจากบ่อแห่งนิรันดร์ก็ยังไม่เพียงพอที่จะนำซาแกรลาสมาที่นี่

ด้วยเหตุนั้น การที่ซาแกรลาสจะเดินทางมาที่นี่ได้จึงมีเพียงการส่งร่างจำแลงมา

สำหรับร่างจริงของซาแกรลาส แน่นอนว่าย่อมไม่ได้รับความเสียหาย และการกลับมาครั้งนี้ของมัน เป้าหมายคงไม่พ้นการทำลายล้างทวีป

เทพปีศาจผู้นี้ไม่เคยละทิ้งความพยายามเลยจริงๆ

ปีศาจตนนี้เคยถูกเอกวินน์โค่นล้มลง หากทว่าเอกวินน์กลับไม่อยู่แล้ว นี่จะทำอย่างไร? ยังมีผู้ใดสามารถเอาชนะซาแกรลาสได้อีก? แม้ว่านี่จะเป็นเพียงร่างจำแลงของมันก็ตาม

เซียวอวี๋กลัดกลุ้มใจ ความแข็งแกร่งที่ซาแกรลาสครอบครองทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวัง

เซียวอวี๋เคยเอาชนะบอสต่างๆมาแล้วมากมาย กระนั้นกลับไม่มีบอสตัวใดเลยที่มีพลังเทียบเท่าซาแกรลาส แล้วนี่เขาจะจัดการเทพปีศาจที่แข็งแกร่งสุดโต่งตนนี้ได้อย่างไรกัน?

ในตอนนั้นเอง เหล่าปีศาจเริ่มเข้ารายล้อมซาแกรลาส และค่อยๆเคลื่อนทัพเข้าหาฝ่ายมนุษย์

สงครามครั้งสุดท้าย…. นี่คือสงครามครั้งสุดท้าย และเป็นสงครามที่ยากจะเอาชนะที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์

ทางฝ่ายมนุษย์ ยอดฝีมือทั้งหมดต่างมารวมกันรอบกายเซียวอวี๋เพื่อเตรียมเผชิญหน้ากับซาแกรลาส

“เหล่ามดปลวกที่สมควรถูกกวาดล้างไปเนิ่นนานแล้วทั้งหลาย ให้ข้า ซาแกลาสผู้ยิ่งใหญ่ได้ช่วยกำจัดพวกเจ้ารวมทั้งทำลายโลกใบนี้เถิด” ราวกับทราบว่าเซียวอวี๋คือผู้นำแห่งมวลมนุษย์ มันหันไปจ้องมองเซียวอวี๋พลางยิ้มออกมา

เซียวอวี๋กลอกตาก่อนจะกล่าวว่า “เช่นนั้นบิดาผู้นี้ก็ขอพูดบ้างแล้วกัน ต้องการจะทำลายโลก? แล้วเจ้าเคยทำสำเร็จหรือ? ไม่ใช่ว่าสุดท้ายก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า? ข้าล่ะยอมรับนับถือเจ้าซะจริงๆ หัวจิตหัวใจที่สามารถแบกรับความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าของเจ้า น่าเสียดายที่สิ่งที่เจ้ากล่าวนั้นเป็นคำพูดคุยโวโอ้อวด คิดหรือว่าเจ้าจะสามารถทำลายพวกเราได้ด้วยร่างจำแลงอ่อนแอนั่น? หากว่าเป็นร่างจริงก็พอจะเป็นไปได้อยู่หรอก แต่น่าเสียดายที่ร่างของเจ้า มา ยัง โลก นี้ ไม่ ได้!”

เซียวอวี๋ทราบว่าในเวลาเช่นนี้ ขวัญกำลังใจถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เขาไม่อาจปล่อยให้มนุษย์คิดว่าไม่อาจเอาชนะซาแกรลาส

แม้ว่าลึกๆลงไปแล้ว เซียวอวี๋จะคิดเช่นนั้นก็ตาม

“ฮึ่ม เจ้ามดปลวก คิดว่าพวกเจ้าคู่ควรให้ข้าต้องเดินทางมาด้วยร่างจริงหรือ? ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อทำลายโลกของพวกเจ้าคลายความเบื่อหน่ายเท่านั้น ในสายตาของข้าแล้ว พวกเจ้าที่อยู่ที่นี่ก็เป็นเพียงของเล่นฆ่าเวลา หืม….กลิ่นอายที่คุ้นเคยนัก เอกวินน์งั้นหรือ? หรือว่าเด็กน้อยนั่นคือเอกวินนน์ ฮ่าฮ่า….น่าสนใจเสียจริง คิดถึงยามที่ได้พบเด็กน้อยผู้นั้น เพียงเพราะความสนุก ข้าจึงปล่อยให้นางสังหารข้า จากนั้นก็ครอบงำบุตรของนาง คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะพลาดท่าเพราะความประมาท ฮ่าฮ่า…ครั้งนี้ ข้าจะไม่เล่นเช่นนั้นอีกแล้ว ข้าจะเปลี่ยนการละเล่น”

สายตาของซาแกรลาสจับจ้องมองไปยังมู่เสวี่ยพลางกล่าวออกมา

“เพ้ย เลิกพล่ามไร้สาระซะ ครั้งนึงเจ้าเคยถูกขับไล่ไป วันนี้บิดาก็จะขับไล่เจ้าอีกครั้ง คิดว่าตนเองแข็งแกร่งไร้เทียมทานนักหรือ ผ่านมาเนิ่นนานขนาดนี้ เจ้าคิดว่าพวกเรายังเป็นเหมือนเดิมหรือ? พวกเรามีความสามารถที่จะสังหารเจ้าได้ จงคอยดูเถอะ”

เซียวอวี๋ย่อมไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายกล่าวทำลายขวัญกำลังใจของฝ่ายตนอยู่ถ่ายเดียว ดังนั้นจึงกล่าวออกไปด้วยท่าทางเปี่ยมความมั่นใจเพื่อซื้อเวลาขบคิดหาวิธี

“ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างเป็นเด็กน้อยที่ตลกขบขันนัก ต่อให้มีแค่ข้า คิดหรือว่าพวกเจ้าสามารถเอาชนะได้? ข้าคือเทพแห่งสงคราม ข้าคือเทพผู้ไร้พ่าย ไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะข้าได้ในสนามรบ วันนี้ ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมดเสียที่นี่ จากนั้นจึงค่อยทำลายโลกของพวกเจ้าตามไป” ดวงตาของซาแกรลาสมีเพลิงลุกโชน จากนั้นจึงตะโกนสั่งการให้พวกปีศาจทั้งหมดโจมตี

“บัดซบ มันไม่หลงกล” เซียวอวี๋มองดูซาแกรลาส ปีศาจบรรพกาลผู้นี้ไม่สนใจสิ่งใดและเปิดฉากโจมตีทันที

ถึงตอนนี้ก็ไม่มีสิ่งใดต้องว่ากล่าวกันอีก มีเพียงสงครามเท่านั้นที่เป็นทางออก…….