เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 922
ลู่ฝานได้ยินคำว่าผลึกมิติ ก็ดีใจเป็นอย่างมาก

“ฮ่าๆ ลุงชาง คุณได้สิ่งนี้มาจริงด้วย!”

ลุงชางลูบจมูกแล้วพูดว่า “จริงๆ ฆ่าหนอนไม่ได้อะไรหรอก แต่ปู้เฟย ราชากระบี่ใต้ร่ำรวยจริงๆ นี่คือของสะสมของเขา ฉันเห็นเลยเอามาให้น้องลู่ฝาน ใครใช้ให้ฉันพูดว่าถ้ามีก็จะให้น้องลู่ฝานล่ะ”

ลู่ฝานรับผลึกมิติมาอย่างไม่เกรงใจ

แค่สิ่งนี้สิ่งเดียว ก็ไม่รู้มูลค่าเท่าไรแล้ว ผลึกมิติเทียบกับแก้วหินมิติทั่วไป มีมูลค่าสูงกว่าเยอะมาก

ไม่เพียงแต่เป็นวัสดุชั้นดีในการทำสิ่งที่เดินทางผ่านมิติ ยังนำมาทำสิ่งอากาศธาตุ อีกทั้งยังช่วยให้นักบู๊ทำความเข้าใจพลังแห่งมิติด้วย

แค่ข้อสุดท้าย ก็ทำให้ของชิ้นนี้มีมูลค่าไม่สิ้นสุดแล้ว

ลุงชางให้เขาแบบตามใจชอบ ทำให้ลู่ฝานประเมินลุงชางสูงขึ้นอีก

นี่เป็นคนที่คู่ควรแก่การทำความรู้จัก!

ไม่ต่างกัน ลุงชางก็ประเมินลู่ฝานสูงขึ้นเช่นกัน

ไม่ทันไรก็ผ่านไปอีกสองสามวัน ใกล้ถึงจุดเสริมที่สองแล้ว

เมื่อถึงที่นี่ เป็นตอนที่ลู่ฝานกับพวกลุงชางแยกทางกัน จุดหมายปลายทางของลู่ฝานคือเมืองหลวง ส่วนพวกลุงชางแค่ผ่านจุดเสริม เพื่อทำการซื้อขายสินค้า เป็นธุรกิจเล็กๆ เท่านั้น

ด้านนอกจุดเสริม ลู่ฝานกับลุงชางต่างคารวะกันและกัน จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงบอกลา

กลุ่มนักบู๊โบกมือให้ลู่ฝานอย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้ยังมีคนตะโกนเสียงดังว่าจะฝากตัวเป็นศิษย์ลู่ฝาน แต่ลู่ฝานปฏิเสธทั้งหมด

ลู่ฝานนั่งบนรถม้า หันมาพูดกับสิบสามว่า “ไปกันเถอะ ต้องรีบไป ไม่เดินเล่นที่จุดเสริมแล้ว”

สิบสามพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นนั่งตรงหัวรถม้า

จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกว่าสิบสามใช้พลังปราณของตัวเองบังคับรถม้า ลู่ฝานพูดอย่างประหลาดใจว่า “สิบสาม นายจะควบคุมรถม้าเหรอ”

สิบสามพยักหน้าพูดว่า “ผมรู้!”

พูดจบ ลู่ฝานรู้สึกว่ารถม้าเลี้ยวหัวอย่างสวยงาม กลับเข้ามาในอุโมงค์ข้ามมิติ จากนั้นเคลื่อนตัวในอุโมงค์ข้ามมิติ ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าปกติมาก

ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าช่วงนี้ นายก็เรียนรู้อะไรได้ไม่น้อยเลยนะ!”

จู่ๆ ลู่ฝานนึกขึ้นได้ สองสามวันนี้สิบสามอยู่กับพวกถูซางตลอด ลู่ฝานเห็นสิบสามพูดคุยอยู่หลายครั้ง เขากำลังเรียนรู้อยู่จริงๆ!

ในเมื่อสิบสามเต็มใจบังคับรถม้า งั้นลู่ฝานจึงตัดสินใจจะพักผ่อน

แต่ขณะนั้น มีเสียงตะโกนดังขึ้นด้านหลัง

เมื่อเดินออกมาจากตัวรถ หันหน้าไปมอง เห็นพวกหยวนเลี่ยตามมา

ลู่ฝานส่งสัญญาณให้สิบสามลดความเร็วลง เอาสองมือไพล่หลังมองหยวนเลี่ยด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “พวกนายไม่ไปเดินเล่นที่จุดเสริมใหม่เหรอ”

หยวนเลี่ยหัวเราะร่า แล้วพูดว่า “ไม่มีเงิน จะเดินเล่นไปทำไม”

เหตุผลนี้ ลู่ฝานเถียงไม่ได้จริงๆ

ขณะนั้นเฝิงอิ่งเดินออกมาทางด้านหลังหยวนเลี่ย แล้วพูดว่า “คุณชายลู่ฝาน พวกเรายังเดินทางไปกับนายได้ไหม”

ลู่ฝานมองความคาดหวังบนใบหน้าทั้งสามคน จากนั้นยิ้มบางๆ

เซี่ยงจู้รีบพูดว่า “คุณชายลู่ฝานวางใจได้เลย เราไม่รบกวนคุณฝึกฝนแน่นอน เราแค่อยากเดินทางไปด้วยเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ เราสามคนยอมปรนนิบัติคุณ”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องปรนนิบัติหรอก ไปทางเดียวกันอยู่แล้ว งั้นก็ไปด้วยกันต่อเถอะ”

พวกหยวนเลี่ยกระโดดขึ้นมาทันที และยิ้มอย่างมีความสุข

ลู่ฝานเดินกลับมาในรถม้า พูดกับสิบสามว่า “ฉันมีแรงดึงดูดใจขนาดนั้นเลยเหรอ”

สิบสามตอบอย่างไม่ต้องคิดว่า “มีครับ!”

ลู่ฝานหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “ฝีมือการประจบของนายจะไม่ต่างจากไอ้เก้าแล้วนะ รีบขี่เถอะ จะได้ถึงเมืองหลวงเร็วๆ”

ใบหน้าสิบสามเต็มไปด้วยความสงสัย ไอ้เก้าคือใครเหรอ