เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 923
เวลาของการเดินทางผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ เพียงพริบตาก็หนึ่งเดือนแล้ว ผ่านไปอย่างเงียบๆ

“พี่ลู่ฝาน เราใกล้ถึงเมืองหลวงแล้ว ฮ่าๆ ฉันตื่นเต้นมาก ในที่สุดก็จะได้เห็นเมืองยิ่งใหญ่ของประเทศในตำนานแล้ว เฝิงอิ่งตอนถึงเธอต้องเอากระจกจำภาพออกบันทึกไว้ให้ดีนะ รอเรากลับมาเขตเยี่ยน ต้องเอาให้คนในตระกูลดู”

หยวนเลี่ยตื่นเต้นจนวิ่งไปมาบนรถ ลู่ฝานบีบลูกแก้วอยู่ในมือหนึ่งเม็ด บันทึกภาพที่ปรากฏด้านหน้าเขาเอาไว้สักหน่อย

นิ้วเคลื่อนไหวไปมาอยู่บนภาพ ลู่ฝานมองเส้นทางที่พวกเขาผ่านมา หัวเราะแล้วพูดว่า “ใกล้ถึงเมืองหลวงแล้วจริงๆ”

ลู่ฝานเก็บลูกแก้ว แล้วเพ่งมองไปไกลๆ ตรงสุดสายตามีส่วนเว้าลึกลงไปขนาดใหญ่

อุโมงค์ข้ามมิตินับไม่ถ้วน รวมตัวกันอยู่ตรงสุดสายตา หลังจากนั้นไหลลงไปในส่วนเว้าลึก

ตรงนั้นเหมือนหลุมยุบ ทำให้อุโมงค์ข้ามมิติทั้งหมด ไหลลงไปเหมือนน้ำตก ไม่รู้ว่าหายไปไหน

ปรากฏการณ์ที่งดงามแบบนี้ ทำให้ลู่ฝานยิ้มอย่างมีความสุข

สิบสามที่ขี่รถม้ามาตลอด ตอนนี้เขาลุกขึ้นยืน มองไปไกลๆ

เจ้าดำวิ่งไปมาบนไหล่ลู่ฝาน เห็นได้ชัดว่าตื่นเต้นมาก

ผ่านการเดินทางที่น่าเบื่อมาหนึ่งเดือน พวกเขาใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว หนึ่งเดือนนี้ลู่ฝานกับสิบสามยังพอได้อยู่ ฝึกฝนทุกวันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

แต่สำหรับคนที่นั่งไม่ติดอย่างหยวนเลี่ย เกือบตายได้จริงๆ

ตอนนี้ใกล้บอกลาช่วงเวลาแบบนี้แล้ว!

“ทุกคนเตรียมตัว เราจะออกจากอุโมงค์ข้ามมิติ พุ่งไปยังเมืองหลวงแล้ว ทุกคนเตรียมพร้อมหรือยัง”

หยวนเลี่ยตะโกนเสียงดัง จากนั้นเขาปล่อยพลังปราณของตัวเองออกมา

ลู่ฝานพยักหน้าให้สิบสาม ทันใดนั้น สิบสามก็ปล่อยพลังปราณของตัวเองออกมาเช่นกัน ควบคุมรถม้ามิติเอาไว้อย่างสมบูรณ์

เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงหลุมอากาศเวิ้งว้างแล้ว หยวนเลี่ยนหัวเราะแล้วพูดว่า “สาวงามแห่งเมืองหลวง ฉันมาแล้ว”

ด้านหลัง เฝิงอิ่งเคาะหัวหยวนเลี่ยอย่างแรงไปหนึ่งที แล้วพูดว่า “บังคับให้ดีๆ อีกเดี๋ยวถ้าพุ่งออกไปไม่ได้ ฉันจะตีหัวนายให้แตกเลย”

หยวนเลี่ยลูบหัวแล้วบ่นสองสามครั้ง หลังจากนั้นเรือลำใหญ่ข้างล่างพวกเขา เร่งความเร็วพุ่งไปข้างหน้าทันที

สิบสามรีบบังคับรถม้าตามไป สิ่งที่เดินทางผ่านมิติของทั้งสองฝ่ายเร็วขึ้นเรื่อยๆ เข้าใกล้หลุมด้านหน้าขึ้นเรื่อยๆ

หยวนเลี่ยหัวเราะเสียงดัง “ไปแล้วนะ!”

ทันใดนั้นเรือลำใหญ่ปล่อยแสงสว่างแสบตาออกมา หลังจากนั้นมิติรอบๆ เริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แสงสว่างสีเงินปรากฏออกมา

รถม้ามิติที่สิบสามบังคับอยู่ ก็ปล่อยแสงสว่างแสบตาออกมาเหมือนกัน แสงสีเงินเหมือนเม็ดฝนผ่านตัวลู่ฝานไป

จู่ๆ รถม้าหายไปในอุโมงค์ข้ามมิติ พวกหยวนเลี่ยก็หายไปด้วย

ตอนนี้ในท้องฟ้าสีคราม มีรอยแตกสีดำขลับสองรอย ทันใดนั้นรถม้ากับเรือลำใหญ่พุ่งออกมา

ภาพด้านหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ฟ้าครามเมฆขาว อาทิตย์สีแดงลมพัดเบาๆ!

“ออกมาแล้ว!”

ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ

ส่วนข้างๆ พวกหยวนเลี่ยตะโกนเสียงดัง “โอ๊ย!”

ต่อมาลู่ฝานสังเกตเห็นพวกเขาร่วงลงมาจากบนฟ้าสูงทันที

จู่ๆ ลู่ฝานหัวเราะเสียงดัง เขายกมือขึ้นจับรถม้า แล้วพูดกับสิบสามว่า “ดึงฉันไว้!”

สิบสามได้ยินก็รีบดึงแขนเสื้อลู่ฝานเอาไว้ หลังจากนั้นลู่ฝานยื่นมือไปทางพวกหยวนเลี่ย

คว้าฝ่ามือกลางอากาศ พลังฟ้าดินดันเรือลำใหญ่มาข้างตัวลู่ฝาน

ใช้ฝ่ามือจับเรือลำใหญ่ไว้ ลู่ฝานปล่อยปราณชี่ออกมาทั้งตัว

ห้าธาตุกลายเป็นสายลม ปรากฏ!

ลมเย็นพัดมาวูบหนึ่ง โอบอุ้มรถม้ากับเรือเอาไว้อย่างมั่นคง