ตอนที่ 1177 หมู่เมฆก่อตัว

Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ

ตอนที่ 1177 หมู่เมฆก่อตัว โดย Ink Stone_Fantasy

“นี่มัน…” แม่มดโบราณพากันสบตากัน

สุดท้ายก็เป็นพาซาร์ที่พูดขึ้นมาว่า ‘ก็อาจจะเป็นไปได้’

“ข้าขอถามพวกเจ้าหน่อย เมื่อก่อนพวกเจ้าค้นหาสายแร่หินอาญาสิทธิ์กันยังไง?” โรแลนด์ถาม

‘เมื่อพันปีก่อนไม่ทราบเหมือนกันเพคะ แต่หม่อมฉันคิดว่าน่าจะอาศัยโชคเสียเป็นส่วนใหญ่’ เซลีนตอน ‘หลังเข้าสู่ยุคสมัยสมาพันธ์แล้ว สถาบันค้นคว้าศาสตร์ลึกลับก็ถูกก่อตั้งขึ้นมา และหนึ่งในงานหลักของพวกหม่อมฉันก็คือค้นหาสายแร่หินอาญาสิทธิ์เพคะ’

โรแลนด์อดนึกถึงแผนที่ระบุตำแหน่งที่เชื่อมต่อระหว่างทาคิลา ห้องทดลองในป่าเร้นลับและเขตเหมืองตรงเนินทิศเหนือขึ้นมาไม่ได้ เป็นเพราะมัน ไลต์นิ่งถึงได้หาอกาธาที่ถูกแช่แข็งเจอ และประวัติศาสตร์ที่ถูกฝังไว้ก็เชื่อมต่อเข้ากับโลกให้ปัจจุบันนับแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา

‘เนื่องจากแหล่งแร่หินอาญาสิทธิ์มีสนามพลังในการปิดกั้นที่รุนแรงมาก พวกเราจึงใช้ประโยชน์จากจุดนี้ในการค้นหามัน หากเป็นเมื่อ 6 – 7 ร้อยปีก่อน แม่มดอย่างซิลเวีย ไนติงเกล ไลต์นิ่ง อิสซาเบลลาต่างก็กลายเป็นนักสำรวจได้ ปกติแล้ว แม่มดที่ออกทำการสำรวจจะมีมากถึง 100 คน จากนั้นก็ค้นพบแหล่งแร่อยู่ 6 แห่ง ในนั้นมีอยู่ 3 แห่งที่เหมาะจะสร้างเมืองขนาดใหญ่เพคะ’ เซลีนพูดต่อว่า ‘ต่อมาพวกหม่อมฉันก็ได้สัมผัสเทคโนโลยีทางด้านเวทมนตร์ของอารยธรรมใต้ดิน แล้วก็ได้เริ่มใช้แกนเวทมนตร์ในการค้นหา ขอเพียงปรับพลังของแกนเวทมนตร์ให้เหมาะสม ขอบเขตการรับรู้ของมันก็จะขยายออกไปได้ไกลประมาณ 100 กิโลเมตร ทางใต้ของป่าเร้นลับกับที่ราบสูงเฮอร์มีสก็คือผลลัพธ์จากการใช้แกนเวทมนตร์ เสียดายที่ตอนนั้นพระจันทร์สีแดงปรากฏขึ้นมา ปีศาจก็เลยทำลายสิ่งที่พวกเราสร้างขึ้นมาทั้งหมดเพคะ’

“แบบนี้ก็หมายความว่าการสำรวจเทือกเขาสันหลังของทวีปนั้นไม่ค่อยสำคัญสำหรับสมาพันธ์เท่าไร” โรแลนด์ค่อยๆ พูด “คนปกติไม่สามารถเข้าไปได้ อาศัยเพียงแม่มดก็ยากที่จะรับประกันความปลอดภัย แต่ว่าถ้าอยากจะตั้งเสาโอเบลิสขึ้นที่นั่นจริงๆ มันก็น่าจะเป็นเรื่องลำบากสำหรับพวกปีศาจเหมือนกัน”

“ถูกต้องเพคะ” เอดิธส์พยักหน้า “อย่างน้อยก็ไม่มีทางที่มันจะเคลื่อนพลทั้งหมดได้ แต่ถ้าต้องการที่ๆ สามารถทดแทนทาคิลาได้ แล้วก็สามารถบรรลุเป้าหมายในการบดขยี้มนุษย์ได้ ก็มีแต่ที่นี่เท่านั้นที่พอจะเป็นไปได้ นอกจากนี้ ปีศาจจะวางกำลังเอาไว้ในเทือกเขาเยอะเท่าไรมันก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกมันเตรียมตัวมานานเท่าไร ถ้าหาก ‘แผนการทางตะวันตก’ ที่อุรูคบอกนั้นมีการเตรียมแผนสำรองเอาไว้แต่แรกล่ะก็….”

“อย่างมันมันก็เริ่มตั้งแต่ครึ่งปีก่อนแล้ว” ขวานเหล็กพูดเสียงคร่ำเครียด “ฝ่าบาท…!”

“ข้ารู้แล้ว” โรแลนด์มองไปทางทุกคน ไม่ว่าสมมติฐานของเอดิธส์จะถูกต้องหรือไม่ นี่ก็ล้วนแต่เป็นข้อมูลที่จำเป็นต้องทำการยืนยัน เพราะว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวพันถึงสามอาณาจักรใหญ่ที่เหลือและทิศทางกลยุทธ์ในอีก 100 ปีข้างหน้า หากศัตรูวางแผนจากบุกเข้ามายังดินแดนของมนุษย์ทางสันหลังของทวีปเหมือนอย่างที่อีกฝ่ายคาดเดาไว้จริงๆ แต่เมืองเนเวอร์วินเทอร์มัวแต่ไปทุ่มทรัพยากรในการสร้างแนวป้องกันอยู่บนที่ราบลุ่มบริบูรณ์ แบบนั้นจะต้องเป็นหายนะอย่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอน “ทุกคนฟังคำสั่งข้า!”

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!” ไม่ว่าจะเป็นแม่มดหรือว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเนเวอร์วินเทอร์ต่างก็ตอบออกมาพร้อมเพรียงกัน

“เวนดี้ เจ้าไปแจ้งให้ไลต์นิ่งกับเมซี่ที่ยังอยู่แนวหน้ารีบกลับมายังเนเวอร์วินเทอร์โดยเร็วที่สุด”

“เพคะฝ่าบาท หม่อมฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละเพคะ”

“ขวานเหล็ก แผนการอพยพยิ่งเสร็จเร็วยิ่งดี ต่อให้ต้องใช้กำลังก็ไม่เป็นไร”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

“สุดท้ายข้าต้องการแกนเวทมนตร์เครื่องหนึ่งจากทาคิลา” เขาหันไปพูดกับพาซาร์ “การสอดแนมทางอากาศอาจจะมีช่องโหว่ได้ ถ้าอยากจะกำจัดปัญหาให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องพึ่งพวกเจ้าด้วย”

“เชิญรับสั่งมาได้เลยเพคะ ฝ่าบาท”

ในตอนที่ทุกคนรับคำสั่งและเดินออกไปแล้ว เซลีนได้เรียกโรแลนด์ไว้

“หม่อมฉันมีของบางอย่างอยากจะให้พระองค์ทอดพระเนตรเพคะ”

หลังเดินตามอีกฝ่ายมายังห้องทดลองใต้ดิน เขาก็ต้องตกใจทันที บนโต๊ะในห้องผนังตะกั่วมีก้อนหินสีเหลืองวางอยู่สี่ก้อน ดูแล้วคล้ายๆ กับลูกบาศก์เวทมนตร์

“เจ้าสร้างลูกบาศก์เวทมนตร์ออกมาสี่อันแล้วเหรอ?”

เขารีบเดินเข้าไป ก่อนจะหยิบเอาหินก้อนหนึ่งขึ้นมา เมื่อเทียบกับตัวอย่างที่ถูกพบในวิหารต้องสาปแล้ว ลูกบาศก์เวทมนตร์ที่สร้างเลียนแบบขึ้นมานั้นดูมีความใหม่และมีลวดลายที่ชัดเจนกว่ามาก

‘ใช่เพคะ แต่ประสิทธิภาพของพวกมันมีความแตกต่างกันนิดหน่อย หม่อมฉันคิดว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะวัตถุดิบที่ใช้สร้างมันขึ้นมา บางทีในตอนที่เผ่ากัมมันตรังสีสร้างตัวอย่างนี้ขึ้นมา มันอาจจะใส่อะไรบางอย่างเพิ่มเข้าในข้างในก็ได้ ทว่าความแตกต่างตรงนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อการใช้งาน หม่อมฉันใช้ทดลองใช้มันกับไก่แล้วเพคะ’

“แตกต่างกันสิถึงจะดี” โรแลนด์ไว้ทุกข์ให้ไก่ไปหนึ่งวินาที “เพราะว่าสิ่งที่จำเป็นในการต้มน้ำเดือดก็คือความต่อเนื่อง ไม่ใช่ความรุนแรง หลังจากนี้เจ้าก็วิจัยไปตามทิศทางนี้นี่แหละ”

‘ไม่มีปัญหาเพคะ อย่างนั้นลูกบาศก์พวกนี้พระองค์ยังต้องการอยู่หรือเปล่าเพคะ?’

“เอาสิ! นี่คือแสงแรกของแหล่งพลังงานใหม่เลย!” เขาพูดชมเชยต่อทันทีว่า “เจ้าสิ่งนี้มันมีความสำคัญอย่างมาก เพียงแค่ความสำเร็จตรงนี้ก็เพียงพอจะให้เจ้าถูกคนรุ่นหลังจดจำแล้ว!”

หลังจากนี้ก็จะเป็นการออกแบบอุปกรณ์ที่จะเปลี่ยนพลังงานความร้อนที่ปล่อยออกมาจากลูกบาศก์ให้กลายเป็นพลังงานจลน์ ถ้าสำเร็จล่ะก็ อุตสาหกรรมของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ก็จะพลิกโฉมไปจากเดิมทันที!

เมื่อคิดถึงตรงนี้โรแลนด์ก็มองไปยังร่างกายที่เป็นก้อนเนื้อของเซลีนด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย “ความจริงเจ้าควรจะขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีตรงลานเมือง และได้รับเสียงโห่ร้องและความชื่นชมจากชาวเมือง อีกทั้งบนรายชื่อผู้ทำความดีความชอบยอดเยี่ยมของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ก็ควรจะมีชื่อของเจ้า…”

‘ไม่มีอะไรต้องเสียดายเพคะ ฝ่าบาท ในวันที่ตัดสินใจจะกลายเป็นร่างต้นแบบ หม่อมฉันก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้วเพคะ’ เซลีนพูดยิ้มๆ ‘นี่เป็นงานที่หม่อมฉันควรจะทำเพคะ ยิ่งไปกว่านั้นพระองค์ก็ได้ทำความฝันของหม่อมฉันให้เป็นจริงในโลกแห่งความฝันแล้วเพคะ’

……

ไม่นานคำสั่งขอโรแลนด์ก็กลายเป็นเป้าหมายของอาณาจักร จากเนเวอร์วินเทอร์กระจายไปยังที่ต่างๆ ทั่วอาณาจักร

ด้านบนของปราสาท ทุกวันจะมีนกบินออกไปสิบกว่าตัวเพื่อเอาจดหมายลับไปส่งยังตะวันออกเฉียงเหนือ ท่าเรือทุกแห่ง กองเรือทุกกองล้วนแต่กลายเป็นกำลังให้กับงานอพยพประชากรครั้งนี้

กองทัพที่หนึ่งแบ่งกำลังทหารแยกย้ายกันขึ้นเรือกลไฟมุ่งหน้าไปยังท่าเรือเคลียวอเทอร์ ซีวินด์เชียร์และเมืองท่าอื่นๆ หลังจากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นเรือเดินสมุทรและมุ่งหน้าไปยังทิศเหนือ

ถึงแม้ในตอนนี้จะยังไม่มีแม้แต่แผนที่แน่ชัด นายทหารส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไร แต่หลังจากคำสั่งออกมา พวกเขาก็พาทหารที่พักร้อนเสร็จเรียบร้อยกลับเข้ามายังกองทัพและมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรเพื่อนบ้าน

เมืองกลอรี อาณาจักรดอว์น

หลังฮอฟอร์ด ควินน์ได้รับจดหมายจากฮิลล์ ฟอกซ์ เขาก็รีบเรียกลูกชายของตัวเองมาทันที “เจ้ารีบไปยังบีชเบย์และดรากอนคาสเซิล แล้วไปบอกให้ผู้ปกครองที่นั่นเตรียมให้การสนับสนุนกองเรือที่มาจากเกรย์คาสเซิล แล้วก็ให้เตรียมท่าเรือเอาไว้ให้พวกเขาเป็นการเฉพาะอย่างน้อยหนึ่งแห่ง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางราชวังจะเป็นคนรับผิดชอบเอง!”

“ท่านพ่อ ท่านแน่ใจเหรอ?” ฮอว์นขมวดคิ้ว “นี่มันเงินก้อนใหญ่เลยนะท่านพ่อ! ยิ่งไปกว่านั้นการท่าเรือขึ้นมาต่างหากมันจะกระทบต่อการขนสินค้าของเรือสินค้าลำอื่นๆ ….”

“พอได้แล้ว!” ฮอฟอร์ดพูดตัดบทลูกชายของตัวเอง “เจ้าแค่ทำตามที่ข้าสั่งก็พอแล้ว!”

อีกฝ่ายกัดริมฝีปาก สุดท้ายจึงก้มหน้าลงไป “ขอรับ ท่านพ่อ”

ในตอนที่เดินไปถึงปากประตู เขาถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงน้อยใจว่า “อย่างน้อยท่านบอกข้าหน่อยไม่ได้เหรอว่าเกรย์คาสเซิลอยากจะทำอะไรกันแน่?”

แต่ด้านหลังเขาก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา

กระทั่งประตูปิดลงไป ฮอฟอร์ดจึงถอนใจออกมา

เขาลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง ก่อนจะทอดสายตามองไปทางอาณาจักรเพื่อนบ้าน “ระเบียบของโลกนี้…กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว”

ขณะเดียวกัน ในถ้ำใต้ดินที่อยู่ด้านนอกเมืองกลอรี

แบร์ริช โลธานั่งอยู่บนเก้าอี้เข็นพร้อมมองดูนักรบแห่งความเงียบจำนวน 200 กว่าคนที่ยืนตัวตรง และผู้ดูแลที่สวมหน้ากากอีก 20 คน นี่คือกองกำลังที่เขาสะสมเอาไว้ในช่วงหลายสิบปีมานี้ แล้วก็เป็นฐานที่ทำให้เขายืนอยู่ในหอการค้า ‘แบล็คมันนี่’ ได้

“หลายปีมานี้ พวกเราลงทุนในวูล์ฟฮาร์ทและอีเทอร์นอลวินเทอร์ไปไม่น้อย ตอนนี้ถึงเวลาที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์แล้ว” หลังจ้องมองอยู่ครู่ใหญ่ แบร์ริสก็พูดด้วยเสียงแหบแห้งออกมา “จากรายงานข่าวที่เชื่อถือได้ หลังจากนี้ไม่นานกองกำลังของเกรย์คาสเซิลจะเข้ามาในดินแดนของทั้งสองอาณาจักร ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร หน้าที่ของพวกเจ้าก็คือพยายามให้ความช่วยเหลือพวกเขาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเงิน เสบียงอาหาร ข้อมูล ทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการ แบล็คมันนี่ต้องพายามทำให้พวกเขาพึงพอใจให้มากที่สุด เข้าใจไหม?”

“ขอรับ นายท่าน!”

“ดีมาก ไปได้แล้ว”

ไม่มีคำถามใดๆ ทุกคนโค้งตัวก่อนจะหายตัวไปในถ้ำอย่างรวดเร็ว

แบร์ริชล้วงเอาขวดดินเผาเปล่าๆ ใบหนึ่งออกมาจากในอก นับตั้งแต่ที่ช่วยท่านเทพกำจัดอัลเบน โมยาไป นี่ก็เป็นยาขวดที่ 5 ที่พวกเขาส่งมาให้เขาแล้ว

ยังเหลืออีก 1 ขวด….ยังเหลืออีก 1 ขวด ท่านเทพก็จะทำให้เขากลายเป็นอมตะ!

เขากำขวดเอาไว้แน่น ก่อนจะพร่ำบ่นอยู่ในใจ

ได้โปรดวางใจขอรับท่านเทพ ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง

…………………………………………………………………