ตอนที่ 1178 เติบโต โดย Ink Stone_Fantasy

หลังออกคำสั่งไป 2 วัน ไลต์นิ่งกับเมซี่ก็กลับมาถึงเมืองเนเวอร์วินเทอร์

ในตอนที่ทั้งสองคนเดินเข้ามาในห้องทำงาน โรแลนด์ก็ต้องรู้สึกตกตะลึงไปทันที

เมซี่นั้นเปลี่ยนแปลงไปไม่มาก เธอเพียงแต่ดูตัวใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อครึ่งปีก่อน ตอนที่ยืนอยู่บนหัวไลต์นิ่งนั้นดูไม่เหมือนนกพิราบ หากแต่ดูแล้วค่อนข้างคล้ายกับห่านมากกว่า

แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากกว่าก็คือไลต์นิ่ง

ผมของเธอยาวขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย ปลายผมห้อยยาวลงมาถึงไหล่ น่าจะเป็นเพราะต้องออกไปรับหน้าที่ในการสอดแนมเป็นเวลานาน จึงแทบจะไม่มีเวลาตัดผมตัวเอง ดูแล้วจึงค่อนข้างยุ่งนิดหน่อย ใบหน้าของเธอก็ดูมอมแมม ชุดสำหรับบินของเธอนั้นมีการเย็บปะอยู่หลายที่ ทั้งต้นขา หน้าอก แขนล้วนแต่มีเศษผ้าเก่าๆ ปะอยู่ ดูเหมือนเธอจะเป็นคนเย็บมันเอง ถึงแม้จะดูรุงรังกว่าชุดใหม่ที่ดูสวยงามในตอนแรก แต่มันกลับทำให้เธอยิ่งดูเหมือนนักสำรวจกว่าเดิม

แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดก็คือดวงตาและสีหน้าของเธอ

มันเหมือนว่าเธอไม่ใช่สาวน้อยคนก่อนนั้นอีกแล้ว

“ฝ่าบาท พระองค์ทรงเรียกหม่อมฉันมา มีเรื่องอะไรเหรอเพคะ?”

ไลต์นิ่งถวายบังคมพร้อมถามคำถาม

โรแลนด์สะกดความรู้สึกทอดถอนใจอันนั้นเอาไว้ ก่อนจะเอาเนื้อความในจดหมายของอุรูคที่ถอดใจความออกมาพร้อมกับสมมติฐานของเอดิธส์เล่าให้เธอฟังอย่างคร่าวๆ “ถ้าปีศาจมันมีแผนเช่นนั้นจริงๆ อย่างนั้นมันต้องกลายเป็นเรื่องที่เลวร้ายอย่างมากแน่นอน ดังนั้นข้าอยากจะให้พวกเจ้าสองคนไปยังเมืองอีเทอร์นอลวินเทอร์เพื่อสำรวจดูพื้นที่เทือกเขาที่ยังไม่เคยมีใครเข้าไปมาก่อนตรงนั้น ปีศาจมันจำเป็นต้องใช้หมอกแดง ถ้าพวกมันอยากจะเข้ามาในเขตภูเขาจริงๆ อย่างนั้นมันก็ต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้แน่นอน”

“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย..” ไลต์นิ่งขมวดคิ้วขึ้นมา “โชคดีที่เมซี่เจอจดหมายอันนั้น แต่ว่าฝ่าบาทเพคะ ถ้าเกิดพวกศัตรูมันลงไปใต้ดินจะทำยังไงล่ะเพคะ? ความสามารถของหม่อมฉันมีจำกัด บนท้องฟ้ามันยากจะที่จะสังเกตเห็นเป้าหมายที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดินได้นะเพคะ”

“อย่างนั้นมันก็จะเป็นสถานการณ์ที่แย่ที่สุด” เมื่อดูจากผลของปฏิบัติการคบเพลิงแล้ว ความสามารถในการขุดอุโมงค์ของพวกปีศาจยังไม่อาจสู้มนุษย์ที่มีหนอนกลืนกินได้ แต่ถ้ามองในภาพรวมทั้งหมด มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่ปีศาจซึ่งครอบครองพื้นที่กว่าครึ่งของดินแดนแห่งรุ่งอรุณและมีความรู้ในเรื่องพลังเวทมนตร์ที่ลึกซึ้งมากกว่าเราจะเจอซากอารยธรรมใต้ดินเหมือนกัน ในเมื่อสมาพันธ์ได้ร่างหนอนกลืนกินมาจากการค้นหาซากโบราณสถาน ศัตรูก็อาจจะทำเช่นนั้นได้เหมือนกัน การที่ไม่พบร่องรอยของร่างหนอนเหล่านั้นในศึกทาคิลาที่ผ่านมา มันไม่ได้หมายความว่าในสันหลังของทวีปจะไม่มี “พวกแม่มดอาญาสิทธิ์จะขนเอาแกนเวทมนตร์ไปด้วยเครื่องหนึ่ง พวกนางจะออกเดินทางจากท่าเรือน้ำตื้น ถ้าพวกเจ้าไม่เจอศัตรูจริงๆ เราก็ค่อยใช้แกนเวทมนตร์ในการค้นหา”

“อย่างนี้นี่เอง หม่อมฉันจะพยายามเต็มที่เพคะ” ไลต์นิ่งพูดพร้อมพยักหน้า

“แต่ว่าจากทางใต้ของเกรย์คาสเซิลไปถึงทางเหนือของอีเทอร์นอลวินเทอ์นั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยเดือนนึง ในระหว่างนี้พวกเจ้าอาจจะไม่มีการสนับสนุนทางด้านกำลังแล้วก็เสบียง นอกจากนี้ชาวบ้านที่นั่นน่าจะยังมีอคติกับแม่มดอยู่ ถึงแม้จะอยู่ในเมืองก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัย พวกเจ้าต้องระวังตัวด้วยนะ”

“การใช้ชีวิตอยู่ในโลกภายนอกนั้นเป็นความสามารถพิเศษของนักสำรวจอยู่แล้วเพคะ ฝ่าบาท” เธอพูดอย่างไม่ลังเล “อย่าว่าแต่เดือนนึงเลยเพคะ ต่อให้เป็นปีก็ไม่เป็นปัญหา”

“จิ๊บๆ!” เมซี่กางปีกออกเพื่อบอกว่าเห็นด้วย

“ขอโทษด้วยนะ” โรแลนด์ถอนใจออกมา “พวกเจ้าเพิ่งจะกลับมา ข้าก็ต้องให้พวกเจ้าออกเดินทางไกลอีกแล้ว…”

“ฝ่าบาท พระองค์ตรัสหนักเกินไปแล้วเพคะ…” ไลต์นิ่งเบือนหน้าไปอีกทาง เสียงของเธอฟังดูค่อนข้างเศร้า “ถ้าเทียบกับที่สละชีวิตเพื่อสู้กับปีศาจนั้นแล้ว ถ้าเทียบกับพี่แอชเชส…นี่มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเพคะ” แต่เพียงแค่ครู่เดียวสีหน้าเธอก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม “ในเมื่อเป็นการเดินทางครั้งใหม่ อย่างนั้นตามธรรมเนียม พระองค์จะทรง…”

โรแลนด์งุนงงไปเล็กน้อย จากนั้นจึงนึกขึ้นมาได้ “ได้สิ” เขาลุกขึ้นเดินออกไปจากโต๊ะทำงาน

ไลต์นิ่งยกมือขึ้นมา แต่เมื่อเห็นแขนเสื้อที่สกปรกของตัวเอง เธอก็รีบถอยหลังไปทันที “ไม่ ไม่ต้องแล้วเพคะ…หม่อมฉันลืมเปลี่ยนชุดมา บนตัวมีแต่กลิ่นแปลกๆ ไม่ต้องก็….”

แต่เธอยังไม่ทันพูดจบ โรแลนด์ก็ยื่นมือมากอดเธอเอาไว้แล้ว

“ขอบคุณเจ้ามากนะ เดี๋ยวข้าจะให้ช่างตัดเย็บทำชุดขึ้นมาให้เจ้าอีกซัก 3 – 4 ชุด เวลาอยู่ข้างนอกจะได้เปลี่ยนได้”

ไลต์นิ่งเงียบไปทันที ผ่านไปครู่ถึงเธอจึงส่งเสียงเบาๆ ออกมา “อื้อ”

“หม่อมฉันด้วยจิ๊บ” เมซี่ยื่นหัวเข้ามา

“ขอบคุณเจ้าเหมือนกัน” โรแลนด์ลูบคออวบๆ และขนลื่นๆ ของเธอ

หลังจากนั้นไนติงเกลก็เดินเข้ามากอดทั้งสองคนเอาไว้ “ระวังตัวด้วยนะ”

“แน่นอน”

กระทั่งพวกเธอออกไปจากห้องทำงานแล้ว ไนติงเกลจึงทอดถอนใจออกมา “เมื่อก่อนไลต์นิ่งไม่เคยพูดว่า ‘ความสามารถของนางมีจำกัด’ เลย”

โรแลนด์พยักหน้าเห็นด้วย หากเป็นไลต์นิ่งเมื่อก่อนนี้ เกรงว่าพอได้ยินสมมติฐานของเอดิธส์ เธอคงจะตบหน้าอกแล้วบอกว่าเดี๋ยวเธอจัดการทุกอย่างเอง

เขาได้ยินลีฟบอกว่าหลังจากที่แอชเชสตายไปพร้อมกับอุรูค ไลต์นิ่งก็ร้องไห้แทบขาดใจ แม้จะผ่านไปหลายวันก็ยังไม่ดีขึ้น แต่ดูสภาพเธอในวันนี้แล้ว เขามองไม่เห็นความโศกเสร้านั้นอยู่เลย ถึงแม้จะดูเสียใจบ้างในตอนที่พูดถึงแอชเชส แต่เห็นได้ชัดว่าความเศร้านั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการก้าวไปข้างหน้าอีก หากแต่กลายเป็นแรงขับเคลื่อนให้เธอแทน

“นางเติบโตขึ้นแล้ว” โรแลนด์ถอนใจออกมา

……

ถึงแม้การอพยพประชากรนั้นยิ่งจัดการได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี แต่ระยะทางจากเกรย์คาสเซิลไปถึงอาณาจักรวูล์ฟฮาร์ทและอีเทอร์นอลวินเทอร์นั้นต้องใช้เวลาเป็นเดือน ต่อให้สำนักบริหารกับกองทัพที่หนึ่งจะพยายามยังไง ปัญหาประชากรของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ก็ไม่สามารถจะแก้ไขได้ในระยะเวลาสั้นๆ

นี่ไม่เพียงแต่จะทำให้แผนการใหม่ๆ ยากจะเดินหน้าต่อไปได้ แต่มันยังทำให้ขนาดของอุตสาหกรรมขยายตัวได้ยากด้วย บวกกับภัยคุกคามจากปีศาจนั้นไม่ได้หายไปหลังจากที่ยึดเอาทาคิลามาได้อย่างที่คิดเอาไว้ ปัญหาต่างๆ ที่ทับถมเข้ามาสร้างความกดดันให้กับโรแลนด์ไม่น้อย

โชคดีที่การสร้างลูกบาศก์เวทมนตร์ประสบความสำเร็จ จึงทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย ขอเพียงเขามีเวลาว่าง เขาก็จะไปขลุกอยู่ในห้องทดลองตรงเนินทางเหนือของอันนาเพื่อสร้างแหล่งกำเนิดพลังงานที่ใช้ลูกบาศก์เวทมนตร์เป็นหัวใจหลัก หลังจากที่ส่งไลต์นิ่งกับเมซี่ และเรือรบโรแลนด์ที่บรรทุกแกนเวทมนตร์เอาไว้ออกเดินทางไปแล้ว เขาก็เอาเวลาส่วนใหญ่ทุ่มให้กับงานส่วนนี้

เพราะทันทีที่เครื่องจักรไอน้ำพลังเวทมนตร์ประสบผลสำเร็จ มันจะสร้างประโยชน์ให้กับเขาได้อย่างมาก

นอกจากอันนาแล้ว เซลีนเองก็ขอสมัครเข้ามาในงานวิจัยข้ามยุคสมัยนี้ด้วย เนื่องจากที่ต้องของห้องทดลองอยู่ค่อนข้างห่างไกล อีกทั้งยังมีทหารคอยเฝ้าอยู่เป็นชั้นๆ จึงทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีชาวบ้านบังเอิญมาเห็นเธอเข้า และความสามารถในการประกอบที่เธอแสดงออกมาให้เห็นนั้นก็น่าตกใจอย่างมาก หนวดหลายสิบเส้นไม่เพียงแต่จะมีเรี่ยวแรงมหาศาล แต่มันยังทำงานร่วมกันได้คล่องแคล่วกว่านิ้วมือเสียอีก ทำให้สามารถประกอบชิ้นส่วนขนาดใหญ่อย่างล้อตุนกำลังหรือลูกสูบได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยลดภาระให้กับอันนาได้อย่างมาก

ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ภาพหนึ่งชายหนึ่งหญิงหนึ่งสัตวประหลาดหนวดที่สาละวนอยู่กับเครื่องจักรได้กลายเป็นภาพชินตาของที่นี่

ไม่นาน เครื่องจักรตัวต้นแบบรูปร่างแปลกๆ เครื่องหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในห้องทำลองแห่งนี้

……………………………………………………………….