“เจ้าคิดอะไรอยู่? ดูเจ้าจะคิดลึกมากเลยนะ“เสียงอันแสนนุ่มนวลดังมาจากด้านหลัง
ชิงสุ่ยรู้ได้ว่ามีคนเข้าใกล้เขา เขาจะรีบหันไปยิ้มให้กับหยวนซู เธอเป็นที่รู้จักกันในนามแพทย์ชมยามปาฏิหาริย์แห่งหอคอยจักรพรรดิ ผู้ซึ่งมีทักษะการแพทย์สูงส่งในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ
“ข้ากำลังคิดถึงโฉมงามซูของพวกเราอยู่เลย“ชิงสุ่ยยิ้ม
ความสัมพันธ์ระหว่างชิงสุ่ยและหยวนซูยังคลุมเครือ ทั้งสองคนอาจจะทำการไม่ว่าจะเป็นการก่อนการจูบมากกว่าเพื่อน แต่มันก็ยังคงสถานะเหมือนเดิมไม่คืบหน้าใด ทั้งสองคนเปรียบเสมือนเพื่อนสนิทที่พร้อมจะแบ่งปันทุกอย่างอย่างเต็มใจ
หยวนซูรับรู้ถึงสิ่งนึกคิดจึงเริ่มโอบมือพันคอชิงสุ่ย “ข้าคิดถึงเจ้าจริงๆ“ “พวกเรากลับไปที่ห้อง แล้วค่อยมาถกเถียงเรื่องรูปแบบวิธีการสร้างชีวิตจะดีกว่า“ชิงสุ่ยมองดูใบหน้าอันแสนงดงาม โดยเฉพาะริมฝีปากที่ทรงเสน่ห์ทำให้โลกนี้ดูมีสีสัน รอยยิ้มของเธอมันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกล่อลวง
“เจ้านี้มันน…..แย่ แ่ยจริงๆ” หยวนซูเม้มปากอย่างมีเสน่ห์
ชิงสุ่ยจิตใจถูกครอบงำ เขาจะออกไปข้างหน้าประกบริมฝีปากเท่ากับปากที่แสนงดงามของเธออย่างตะกละตะกลาม รสชาติอันแสนหอมหวานเข้าต่อเติมจิคใจ
หยวนซูร่างกายสั่นเครือ หัวใจเต้นระรัว เธอคิดถึงชายคนนี้เป็นอย่างมาก และต้องการให้เขาแกล้งเธอบ่อยๆ
เธอตอบรับริมฝีปากของชิงสุ่ยด้วยความงาม มันเป็นครั้งแรกที่เธอเป็นฝ่ายรุก ใช้ลิ้นค่อยๆคลอเคลียดูดดื่ม
มือของชิงสุ่ยเคลื่อนไหวอย่างชำนาญ จนกระทั่งมันไปถึงจุดที่ค่อนข้างจะเกินเลยหยวนซูจึงรีบผลักชิงสุ่ยออกด้วยใบหน้าแดงก่ำ เธอทั้งรู้สึกสบายและอึดอัดไปในเวลาเดียวกัน มันเหมือนวิญญาณกำลังเดินออกจากร่าง ร่างกายส่วนล่างเปียกชุม มันเป็นส่วนที่เธออึดอัดมากที่สุด
ดวงตาคู่โตของเธอจ้องมองชิงสุ่ยอย่างเขินอาย เธอใช้มือโอบรอบคอชิงสุ่ยอีกครั้ง ” ข้าจะรอเจ้าหน้าที่ห้อง คืนนี้ข้าจะไม่ลงกรประตู“
หลังจากที่เธอกล่าวจบ เธอหอมแก้มชิงสุ่ยและรีบจากไปอย่างรวดเร็ว
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าสักวันหนึ่งหยวนซูจะต้องกลายมาเป็นหญิงสาวของเขา เพราะทั้งสองคนสนิทกันมาก และเคยพักอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน ถ้าเธอไม่คิดอะไรกับเขา เธอจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร? แล้วทำไมเธอถึงยังไร้คู่ หากไม่ใช่เพราะชิงสุ่ย
อวี้ลู่หยาน ถานท่ายหยวน ชิงซาและองค์หญิงใหญ่อวี้ซูหนี่ก็ได้เดินทางมาที่ตระกูลชิง มันทำให้ตระกูลชิงเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวารอบกายของชิงสุ่ยเต็มไปด้วยโฉมงามนับไม่ถ้วน จนเขายุ่งวุ่นวายไปหมด
ชิงอี้มองดูลูกชายของเธอ เด็กหนุ่มผู้นี้โชคดีอย่างมากแต่เขามีความสัมพันธ์กับหญิงสาวมากเกินไป แม้แต่แม่ของเขาก็ยังไม่อาจรู้ได้เลยว่าลูกที่แสนน่ารักของเธอเกี่ยวข้องกับหญิงสาวกี่คน
หลังจากได้พบปะกับทุกคนในห้องโถงใหญ่ ชิงสุ่ยก็ขอแยกตัวและมุ่งหน้ากลับไปที่บ้านแม่ของเขา
………………….
ในคืนวันนั้น ชิงสุ่ยตรงเข้าสู่ห้องของหยวนซู ซึ่งมันก็เป็นช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปแล้ว หญิงสาวโฉมงามอยู่ในชุดราตรีกำลังนั่งพิงเตียงภายใต้แสงไฟสลัว เมื่อเห็นชิงสุ่ยเข้ามาในห้อง ใบหน้าของเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำหัวใจเต้นรัว
ชิงสุ่ยปิดประตูและนั่งลงด้านข้างหยวนซู เขารับรู้ได้ถึงเสียงเต้นของหัวใจที่ดังออกมาจากหน้าอกอย่างชัดเจน เขารู้ดีว่าเธอกำลังประหม่า
“เจ้ายังไม่พร้อม“ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
“ข้าตัดสินใจแล้ว เพียงแต่ข้ายังรู้สึกประหม่า“หยวนซูเอนตัวเข้าสู่อ้อมกอดชิงสุ่ย
มือของชิงสุ่ยชักจูงเธอให้ขึ้นไปนั่งบนตัวเขา ทั้งสองคนสวมเสื้อผ้าบางๆ หยวนซูจึงรับรู้ถึงปฏิกิริยาในตัวชิงสุุ่ย เธอซุกหน้าเอาไว้ในอ้อมกอดชิงส่ย ในขณะที่มือของเขาค่อยๆขยับไปมา ปลดเสื้อผ้าราตรีของหยวนซูออกโดยที่เธอไม่รู้ตัว หน้าอกกลมมนเหมือนยอดภูเขาหิมะสีขาวปรากฏต่อหน้าชิงสุ่ยเกือบจะแนบชิด
เมื่อมีเนื้อมันอยู่ตรงหน้า ชิงสุ่ยก็ไม่อาจระงับสัญชาตญาณดิบ เขาค่อยๆดูดดื่มยอดปทุมถันที่จ่ออยู่ที่ปาก และเริ่มใช้ทักษะเฉพาะตัว
…………………
เสียงครวญครางแสนยั่วยวนดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้อง และยังคงดังต่อไปตลอดทั้งคืน หลังจากทุกอย่างเงียบสงบลง หยวนซูเพราะเอนตัวนอนอยู่ในอ้อมกอดชิงสุ่ย “ตอนนี้ ข้าเป็นของเจ้าแล้ว“
“เจ้าเป็นของข้าตั้งแต่ข้าจูบเจ้าครั้งแรกแล้ว“
“เจ้าเป็นคนที่มีความสามารถมาก“หยวนซูยิ้มและนอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอดชิงสุ่ย
“ชิงสุ่ย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้าได้สร้างสูตรส่วนผสมการปรุงยาโบราณขึ้นมา 2 สูตร เจ้าสนใจหรือไม่?”
ชิงสุ่ยลูบหัว “เจ้าทำงานให้น้อยลงบ้างเถิด“
หยวนซูยิ้มยิ้มอย่างเชื่องช้า และค่อยๆกล่าวต่อไปว่า “ข้าหากเจ้าไม่อยากเห็น ข้าก็จะไม่ให้เจ้าดู“
“แน่นอน ข้าอยากจะเห็น ไม่ว่าจะเป็นสูตรการปรุงยาชนิดไหนก็ตามหรือของใครก็ตาม พวกเขาไม่มีทางยอดเยี่ยมได้เท่าซูซูของข้า“ชิงสุ่ยยิ้มขณะที่มือของเขายังคงเล่นซุกซนนวดคลึงยอดภูเขาคู่ขาวหิมะ
“หยุดจับได้แล้ว!!” คำพูดของชิงสุ่ย มันทำให้เธอมีความสุขอย่างมากแต่เธอก็เอามือของเขาออกและเอาแผ่นหนังสัตว์ 2 แผ่นออกมา