ตอนที่ 1684 โทรศัพท์

Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง

ร้านขายสัตว์เลี้ยงไม่นับว่าเล็กมาก สภาพแวดล้อมชั้นล่างสลับซับซ้อน ชั้นวางสินค้าและตู้โชว์วางเรียงกันเป็นแถว พยายามใช้พื้นที่ว่างทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ปกติไม่นับว่าเป็นข้อเสีย แต่หลังจากไฟดับ ตรงที่ไฟฉายและไฟฉุกเฉินส่องไม่ถึงก็มืดสลัวมาก มองไม่ถนัดเลยสักจุด

 

 

เสียงฟ้าร้อง เสียงฝน และเสียงลมดังมากเกินไป พวกภูตสัตว์เลี้ยงก็นอนไม่หลับ ได้แต่หาวอย่างเบื่อหน่าย

 

 

พวกลูกแมวและลูกสุนัขมีความรู้สึกไวต่อเสียงฟ้าร้องครั้งแล้วครั้งเล่า มักจะหวาดกลัวฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหวเสมอ

 

 

จางจื่ออันถือโทรศัพท์มือถือเดินสังเกตชั้นล่างอย่างละเอียดรอบหนึ่ง จากนั้นก็ขึ้นไปหาบนชั้นสอง ความรู้สึกสงสัยได้รับการยืนยันแล้ว ภูตสัตว์เลี้ยงตัวอื่นอยู่ครบ มีเพียงวลาดิเมียร์ที่หายไป

 

 

ที่จริงแผลของวลาดิเมียร์สมานกันดีแล้ว ไม่ต้องพันผ้าพันแผลอีก แต่ร่างกายยังไม่ได้ฟื้นคืนสู่สภาพแข็งแรงดีเหมือนก่อนหน้านี้ จางจื่ออันจึงให้มันออกไปข้างนอกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอร่างกายแข็งแรงดังเดิมแล้วค่อยว่ากัน ถึงอย่างไรร่างกายก็เป็นต้นทุน

 

 

ตอนเช้าพวกพนักงานร้านไม่อยู่ เขาก็มัวยุ่งอยู่กับการดูแลลูกค้า จำได้ว่าเห็นวลาดิเมียร์อยู่ ตอนเช้ามันควรจะอยู่ในร้าน แต่ต่อมาเพราะไต้ฝุ่นมาถึงอย่างกะทันหัน รวมถึงการเล่นลูกไม้ที่แทรกเข้ามาของสวี่จ้วงจ้วง เขาจึงไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น แต่ถ้ามันออกไปจากประตูชั้นล่าง เขาก็น่าจะเห็น

 

 

“พาย นายเห็นวลาดิเมียร์ไหม?” เขาถามพายที่อยู่บนชั้นสองตลอด

 

 

“เจี๊ยกๆ”

 

 

พายพยักหน้า ก่อนจะชี้ไปที่หน้าต่างแล้วทำมือ ความหมายคือมันเห็นวลาดิเมียร์กระโดดออกไปจากหน้าต่าง เป็นตอนที่มีข่าวว่าไต้ฝุ่นจะมาอย่างกะทันหัน

 

 

จางจื่ออันเข้าใจแล้ว วลาดิเมียร์อาจจะช่วยพวกแมวจรจัดหลบภัยไปแล้ว มันทนอยู่ในสถานที่ปลอดภัยเพียงคนเดียว แล้วปล่อยให้พวกแมวจรจัดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ข้างนอกไม่ได้ สมกับเป็นมันจริงๆ

 

 

เรื่องมาถึงตรงนี้ เขาไม่มีทางอื่นแล้ว ออกไปตามหามันท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายแบบนี้คงเป็นไปไม่ได้ พายุฝนกำจัดกลิ่นและรอยเท้าทุกอย่างไปหมดแล้ว ไม่มีทางตามรอยได้ และเขาเชื่อว่าวลาดิเมียร์ดูแลตัวเองได้ ผู้นับถือลัทธิเหมียวเหมียวที่กล้าต่อกรกับสวรรค์ไม่กลัวพายุฝนหรอก

 

 

ไม่เพียงวลาดิเมียร์และพวกแมวจรจัด ตอนนี้เสี่ยวไปกับพวกสุนัขจรจัดก็กำลังพยายามเอาตัวรอดจากไต้ฝุ่นอยู่แน่นอน น่าเสียดายที่เขาอยากจะช่วยก็ช่วยไม่ได้ หวังแค่ว่าพวกมันจะโชคดี

 

 

เขากลับมาชั้นล่างอีกครั้ง หวางเฉียนกับหลี่คุนยังเล่นไพ่นกกระจอกตามแผน ส่วนหลู่อี๋อวิ๋นกับเจี่ยงเฟยเฟยกำลังเล่นโทรศัพท์มือถือทั้งคู่

 

 

อินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือความเร็วต่ำ เล่นเกมต้องถูกทีมด่าอย่างเจ็บแสบและขาดช่วงแน่นอน ออนไลน์ยังพอจะทำได้ แต่อีกสักพักอินเทอร์เน็ตก็อาจจะขาดหาย

 

 

“อาจารย์ ไพ่นกกระจอกล่ะครับ? ในบ้านอาจารย์เนี่ยแม้แต่ไพ่นกกระจอกก็ไม่มีเหรอ ตอนนี้ว่างมาก เล่นเกมก็ไม่ได้ พวกเราควรจะเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกันสักตาจริงๆ นะครับ!” หวางเฉียนกับหลี่คุนส่งเสริม

 

 

จางจื่ออันไม่มีอารมณ์ “พวกนายเล่นไปเถอะ ฉันยังมีธุระ”

 

 

“ฉันขอผ่าน ฉันเล่นไม่เป็น” หลู่อี๋อวิ๋นโบกมือ

 

 

เจี่ยงเฟยเฟยไม่ได้ปฏิเสธ แต่เล่นกันสามคนไม่ได้อยู่แล้ว และตอนนี้ก็ไม่มีแม้แต่ไพ่นกกระจอกด้วยซ้ำ

 

 

หวางเฉียนกับหลี่คุนวุ่นวายไม่หยุด “อากาศแย่แบบนี้อาจารย์ยังมีธุระอะไรอีกครับ? อาจารย์ช่วยพวกผมหาไพ่นกกระจอกก่อนเถอะ!”

 

 

พายไม่ต้องการโทรศัพท์มือถือของเขาเป็นฮอตสปอตเพื่อออนไลน์แล้ว เมื่อครู่เข้าลงมาจากชั้นสอง และถือโอกาสถือโทรศัพท์มือถือลงมาด้วย ก่อนจะโบกมือบอกให้พวกเขาหุบปาก แล้วพูดกับเสี่ยวฉินไช่ “เสี่ยวฉินไช่ เบอร์โทรศัพท์แม่เธอคืออะไร? จำได้ไหม?”

 

 

เสี่ยวฉินไช่พยักหน้า แม้เธอจะไม่มีโทรศัพท์มือถือ แต่แม่เคยให้เธอท่องเบอร์โทรศัพท์มือถือของตัวเองแล้ว เผื่อมีเรื่องอะไรต้องโทรศัพท์

 

 

“โทรฯ หาแม่เธอสักหน่อยเถอะ บอกเธอว่าอยู่ที่นี่” จางจื่ออันเปิดหน้ากดเบอร์โทรศัพท์ “ฉันจะช่วยเธอโทรฯ เอง”

 

 

เสี่ยวฉินไช่พูดเบอร์โทรศัพท์มือถือ หลังจากเขาต่อสาย เขาก็ถือโทรศัพท์มือถือไว้ที่ข้างแก้มของเธอ

 

 

ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด

 

 

ปลายสายมีเสียงดังขึ้นมาสองสามครั้ง จากนั้นก็มีคนรับสาย

 

 

“ฮัลโหล? ต้องการพูดกับใครคะ?”

 

 

เสียงผู้หญิงที่ไม่คุ้นเคยพูดอย่างกระหืดกระหอบ เสียงของเธอเป็นกังวลและห้วนมากอย่างเห็นได้ชัด น่าจะเป็นเพราะเบอร์แปลกๆ โทรศัพท์มา เธอจึงคิดว่าเป็นการโทรศัพท์ผิด

 

 

ปลายสายมีเสียงดังอื้ออึงมาก เธออยู่ข้างนอกแน่นอน ถึงอยู่อีกด้านของโทรศัพท์ก็ยังได้ยินเสียงฟ้าร้องดังกระหึ่ม

 

 

จางจื่ออันคิดว่าหลังจากเธอได้ยินโทรศัพท์มือถือส่งเสียงดัง เธอก็จะหาสถานที่หลบฝนรับสายก่อน เพื่อกันไม่ให้น้ำเข้าโทรศัพท์มือถือ และอาจจะยังสงสัยว่าควรรับเบอร์แปลกๆ สายนี้ไหม

 

 

“แม่!” เสี่ยวฉินไช่พูดเสียงดัง “หนู…”

 

 

เพิ่งพูดขึ้นต้นประโยคไป เสี่ยวฉินไช่ก็แทบจะเจอกับเสียงกรีดร้องทันที “เสี่ยวฉินไช่! ลูกไปเที่ยวเล่นที่ไหน? แม่เป็นห่วงจะตายอยู่แล้ว!”

 

 

น้ำเสียงของแม่ทำให้เสี่ยวฉินไช่กลัวตัวสั่นจนพูดไม่ออก แต่ยิ่งเธอไม่พูด แม่ของเธอก็จะยิ่งเป็นห่วง

 

 

“ลูกพูดสิ! ลูกอยู่ที่ไหนกันแน่?”

 

 

“ฮัลโหลครับ” จางจื่ออันถือโทรศัพท์มือถือไว้ข้างๆ หูตัวเอง “สวัสดีครับ คือว่า…แม่ของเสี่ยวฉินไช่ใช่ไหมครับ? ลูกสาวของคุณหลบไต้ฝุ่นอยู่กับผม คุณวางใจได้ครับ เธอสบายดี ไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน ถ้าคุณสะดวกละก็ จะมารับเธอก็ได้นะครับ แต่ถ้าสภาพอากาศแย่มาก คุณ…”

 

 

เขายังพูดไม่จบ อีกฝ่ายก็ขัดจังหวะขึ้นมา “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ คุณอยู่ที่ไหนคะ?”

 

 

จางจื่ออันบอกที่อยู่ของตัวเอง แล้วแนะนำว่า “คุณอย่าฝืนเด็ดขาดเลยนะครับ ฉินเสี่ยวไช่อยู่ที่นี่ปลอดภัยดี ผมแนะนำให้คุณอยู่รอพายุฝนผ่านไปก่อนค่อยมาดีกว่า ตอนนี้ข้างนอกอันตรายมาก ถ้าคุณบาดเจ็บ…”

 

 

เสี่ยวฉินไช่ก็พูดเสียงดังอย่างเป็นห่วง “แม่คะ! หนูสบายดี ที่นี่มีพี่ชายกับพี่สาวอยู่กับหนูหลายคน แม่ไม่ต้องรีบมา…”

 

 

“ไม่ต้องพูดแล้ว แม่จะไปเดี๋ยวนี้! เสี่ยวฉินไช่ก็อย่าไปไหนนะ เป็นเด็กดีรออยู่ที่นั่นแหละ!”  แล้วอีกฝ่ายก็วางสายไป

 

 

“ขอโทษค่ะ ปกติแม่ของหนูไม่ได้เป็นแบบนี้…” เสี่ยวฉินไช่ขอโทษพร้อมท่าทางน่าสงสาร

 

 

“ฉันรู้ ไม่เป็นไรหรอก”

 

 

น้ำเสียงของอีกฝ่ายมุทะลุและฉุนเฉียว แต่จางจื่ออันเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายจริงๆ น่าสงสารใจพ่อแม่ทั่วโลก ลูกสาวตัวน้อยของตัวเองหลบภัยอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยกับคนแปลกหน้าหลายคนในสภาพอากาศเลวร้ายแบบนี้ คนเป็นแม่ที่ไหนจะไม่ร้อนใจบ้างล่ะ? ยิ่งร้อนใจ ก็ยิ่งพิสูจน์ว่าเธอเป็นห่วงความปลอดภัยของเสี่ยวฉินไช่

 

 

เขาเจตนาดีแนะนำให้เธออย่าเพิ่งมา เพราะเดินทางด้วยสภาพอากาศแบบนี้อันตรายเกินไป เสี่ยวฉินไช่ปลอดภัยดี แต่ตัวเธอเองอาจจะบาดเจ็บได้ แบบนั้นก็ไม่คุ้มกัน

 

 

เธอปฏิเสธเจตนาดีของเขา ระหว่างความปลอดภัยของลูกสาวกับความปลอดภัยของตัวเอง เธอเลือกข้อแรก เธอไม่เห็นสถานการณ์ของเสี่ยวฉินไช่ด้วยตาของตัวเอง จึงไม่วางใจ

 

 

บางทีพายุฝนอ่อนกำลังลงแล้วค่อยโทรศัพท์หาเธออาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะรับประกันความปลอดภัยได้ทั้งสองฝ่าย แต่พอถึงตอนนั้นเธออาจจะร้อนใจจนเป็นบ้าไปแล้วก็ได้ หลังจากจางจื่ออันช่างน้ำหนักดูแล้ว เขาก็ตัดสินใจโทรศัพท์หาเธอตอนนี้ และให้เธอเป็นฝ่ายเลือกเอง

 

 

เธออยากเจอเสี่ยวฉินไช่ใจแทบขาด เขาจึงไม่มีเวลาอธิบายมากพอ ถึงเขาโทรศัพท์หาเธออีกครั้ง เธอก็คงจะไม่รับสาย และรับสายท่ามกลางพายุฝนก็อันตรายมาก

 

 

ช่วยไม่ได้ ตอนนี้ทำได้แค่รอแล้ว