แค่นิดหน่อย
ก็พอแล้ว
แต่ว่านี่มันแค่ข้อเรียกร้องง่ายๆเองนะ ……
แต่ก็ทำไม่ได้!
หยางติ่งเทียนหายใจออกมาเบาๆแล้วเอ่ย“โยวหลิง หลายปีมานี้ที่ข้านั้นติดหนี้ของเจ้า มันมากโขจริงๆเลย!”
เมื่อได้ยืนดังนั้น หลงโยวหลิง น้ำตาไหลออกมา และอดไม่ได้ที่จะกลั้นน้ำตาไว้
เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ดังนี้
ภายในใจของหยางติ่งเทียนนั้น เหมือนกับถูกคว้าบีบเอาไว้
เขานั้นอยากที่จะพูดปลอบโยนออกมาเล็กน้อย แต่ทว่ากลับไม่รู้ว่าตนเองนั้นจะควรเอ่ยอะไรออกมา
อยู่อย่างนี้สักพักหนึ่ง
ค่อนข้างเงียบสงบ
หยางติ่งเทียนนั้นค่อนข้างเกร็ง ก่อนที่จะมองไปรอบๆ แล้วค่อยกลับไปมองที่หลงโยวหลิง
ในตอนที่มอง
เขานั้นตะลึงครู่หนึ่ง
หางสายตาของหลงโยวหลิง ที่ตอนนี้ได้ค่อยๆเผยให้เห็นถึงรอยตีนกา
เมื่อเทียบกลับหญิงสาวสวยคนนั้นเมื่อปีก่อนนั้นๆนั้น เริ่มเกิดความแตกต่างกันมากมายแล้ว
ในปีนั้น
หลงโยวหลิงไม่เพียงแต่เป็นหญิงสาวสวยของตระกูลหลง อีกทั้งยังเป็นสาวสวยที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองจงโจวอีก!
อีกทั้งชื่อเสียงนั้นยังเป็นแค่รองมาจากแม่ของหยางเฟิงอีกด้วย
ตอนที่คนของตระกูลหลงมาสู่ขอ ก็ไม่รู้ว่าคนที่ไหน
แต่ว่ายังไง เธอนั้นก็มาแอบชอบตนเอง แต่ว่าตนเองนั้นกลับเป็นชายที่แต่งงานแล้ว ……
หยางติ่งเทียนจึงทำได้แค่ถอนหายใจเบาๆออกมา
เขานั้นไม่สามารถที่จะให้ความสุขแก่หลงโยวหลิงได้ แต่กลับจะทำร้ายที่ชีวิตของเธอทั้งชีวิต
“โยวหลิง หากคุณคิดว่ามาอยู่กับผม แล้วรู้สึกน้อยใจ คุณหย่ากับผมก็ได้นะ ผมนั้นจะไม่ห้ามเลยจริงๆ แล้วคุณจะมาทนทุกข์เช่นนี้
ทำไมกัน?”
ผ่านไปเนิ่นนาน
หยางติ่งเทียนก็เอ่ยขึ้นมา
“ฉัน……”
หลงโยวหลิงอยากจะเอ่ยออกมา แต่เธอนั้นกลับเอ่ยไม่ออก
เธอนั้นอยากจะเอ่ย ความสุขของเธอเองนั้นนั่นก็คือหยางติ่งเทียน
แต่ว่าเธอนั้นรู้ดี ภายในใจของหยางติ่งเทียนนั้น ตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีเธออยู่เลย!
ภายในใจของหยางติ่งเทียนนั้นตั้งแต่ต้นจนจบนั้นมีหญิงสาวอยู่แล้วหนึ่งคน
หญิงสาวคนนั้นนั่นก็คือแม่ของหยางเฟิง!
ดังเช่นนี้ ไม่ว่าหลงโยวหลิงจะพยายามเช่นไรก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้
ไม่ว่าเธอนั้นจะใช้ช่วงชีวิตวัยรุ่นหลายปีที่ผ่านมาเช่นนี้ ตั้งแต่เริ่มนั้นมันก็มีแค่ความว่างเปล่า!
สีหน้าของหลงโยวหลิง นั้นพยายามฝืนยิ้มเอ่ยออกมา “ฉันรู้แล้วล่ะ!คุณทานขนมหน่อยเถอะ ……”
เอ่ยแล้ว
เธอนั้นก็ได้หยิบขนมชิ้นหนึ่งขึ้นมา
เดิมทีหลงโยวหลิงรู้สึกว่า ขนมนั้นหวานมาก แต่เมื่อได้เอาเข้าปากแล้ว กลับรู้สึกเปรี้ยวๆขึ้นมานิดหน่อย
จมูกแสบๆ ภายในใจนั้นก็รู้สึกไม่สบายใจ
หลงโยวหลิงนั้นก้มหน้าแล้วเอ่ย “ติ่งเทียน ฉันนั้นรู้มาตลอด ว่าในใจของคุณนั้นมีแต่หรูเยียน ไม่ว่าฉันจะทำเช่นไร ก็ไม่สามารถที่จะ
ไปแทนที่ของเธอภายในใจคุณได้เลย”
“จริงๆแล้ว…… ฉันนั้นไม่เคยคิดที่จะมาแทนที่เธอ! ฉันนั้นชื่นชมเธอด้วยซ้ำ!ในปีนั้น เธอทำเพื่อคุณ เพื่อตระกูลหยาง เธอ
นั้นเลยได้ตัดสินใจครั้งใหญ่มาก ไม่อย่างงั้น ฉันก็คงไม่ได้มีโอกาสที่จะแต่งงานกับคุณ ……”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องเมื่อปีก่อน
หลงโยวหลิงสีหน้าของเธอนั้นเผยให้เห็นถึงหน้าตาที่นึกถึงความทรงจำ ……
บางครั้งเธอนั้นก็แอบคิด
หากในปีนั้น เธอนั้นคือหรูเยียน
เธอนั้นจะทำเช่นไร……
หยางติ่งเทียนไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไร
ในเวลาห้าปี แค่กะพริบตาก็เหมือนหมอกฝุ่นเมฆ
เขานั้นก็อายุมากกว่าครึ่งหนึ่งร้อยแล้ว
ครึ่งชีวิตนั้นผ่านไปแล้ว หากจะให้มาคอยคิดเอ่ยถึงเรื่องเมื่อก่อน มันจะเหนื่อยเกินไปแล้วล่ะ
หยางติ่งเทียนเอ่ยเบาๆ“ แต่งงานกับผม คุณเสียใจแล้วใช่ไหม?หากคุณนั้นเสียใจ คุณหย่าก็ได้นะ ……”
ในปีนั้น
หลงโยวหลิงนั้นได้รับความกดดันอย่างหนัก เธอนั้นแต่งงานกับผู้ชายที่เคยแต่งงานแล้ว ในตอนนั้นทำให้เมืองจงโจวนั้นสั่นสะเทือนไป
หมด
แม่แต่ภายในตระกูลของตระกูลหลง ก็ยังทำให้เกิดแรงสั่นคลอนภายในขนาดใหญ่ได้
หากไม่ใช่เพราะความดื้อรั้นของหลงโยวหลิง เกรงว่าหยางติ่งเทียนในปีนั้น คงจะถูกพวกของหลงโยวหลิงที่คอยติดตามนั้นตามฆ่าเอาส่ะ
แต่ว่าหยางติ่งเทียนนั้น ก็ได้แต่งงานกับหลงโยวหลิง แล้วก็เลยได้ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลแห่งตระกูลหยางไป
ตระกูลหยางนั้น ถึงได้กลับไปเข้าร่วมสี่ตระกูลมหาเศรษฐี
สามารถเอ่ยได้เช่นนี้
หลงโยวหลิง นั้นก็คือคนที่มีบุญคุณต่อหยางติ่งเทียน!
และก็เป็นคนที่มีบุญคุณต่อตระกูลหยางทั้งหมด !
ไม่มีเอ
กฌคงไม่มีวันนี้ และคงไม่มีตระกูลหยางที่ยิ่งใหญ่ดังเช่นนี้ !