ซาแกรลาสตายแล้ว เซียวอวี๋ขี่มังกรน้อยบินอยู่บนท้องฟ้าพลางมองดูสนามรบที่เต็มไปด้วยความพินาศที่เบื้องล่าง ในใจของเขารู้สึกสับสน สงครามจบแล้ว มันจบแล้ว
เรื่องราวเป็นดั่งในคำพยากรณ์ เขาเอาชนะซาแกรลาส ปกป้องโลกไว้ได้สำเร็จ และเขากำลังจะได้ขึ้นเป็นราชาแห่งราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด
เซียวอวี๋ออกคำสั่งให้อาร์ทัสล่าถอยไปพร้อมกับกองทัพอันเดดอย่างเงียบๆ ดังนั้นที่เบื้องล่างจึงเหลือเพียงกองทัพพันธมิตรมนุษย์ที่ไล่ล่าพวกปีศาจซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ๆ
กูดาลไม่อาจคุกคามใดๆได้อีกต่อไป หลังจากสงครามครั้งนี้สิ้นสุดลง ความแข็งแกร่งของเซียวอวี๋ก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี เทียบกับกองทัพใต้บัญชาของเซียวอวี๋แล้ว กองทัพของกูดาลนั้นอยู่คนละระดับกันอย่างสิ้นเชิง
ไม่นานหลังจากนั้น ผู้คนต่างก็เดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อมาร่วมเฉลิมฉลองให้กับผู้ปกครองคนใหม่ของทวีป ทั้งยังเป็นสักขีพยานการถือกำเนิดของราชวงศ์ใหม่
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นราวกับทุกกระบวนการล้วนถูกลิขิตเอาไว้
กระนั้นมันกลับให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาด ราวกับทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงความฝัน….
……………………………………..
สามปีต่อมา……
สถานการณ์บนทวีปใหญ่เริ่มมั่นคง กูดาลได้นำกองทัพออร์คของเขาไปยังบึงตะวันลับและไม่เคยกลับออกมาอีก อาร์ทัสเองก็ได้นำกองทัพอันเดดของเขาเข้าไปอาศัยอยู่ที่นครใต้พิภพ และไม่เคยปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน
ในที่วันที่อาร์ทัสต้องจากไป เซียวอวี๋ได้เข้าพูดคุยกับอาร์ทัส เขาสวมกอดอาร์ทัสไว้แน่นพลางหลั่งน้ำตาด้วยความรู้สึกผิด
อาร์ทัสที่เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดของเขาจะต้องไปแล้ว
นับตั้งแต่วันที่เขาอัญเชิญอาร์ทัสออกมา เซียวอวี๋ก็มีความหวาดระแวงต่ออาร์ทัส และพยายามกีดกันไม่ให้อาร์ทัสเติบโตมาโดยตลอด แม้กระนั้น อาร์ทัสก็ไม่เคยปริปากบ่นและจงรักภักดีต่อเขาตลอดมา อีกทั้งในช่วงศึกสุดท้าย อาร์ทัสยังปรากฏตัวออกมากอบกู้โลกเอาไว้
ไม่มีผู้ใดทราบสาเหตุที่จู่ๆกองทัพอันเดดก็มาและจากไปอย่างเงียบเชียบ
มีเพียงเซียวอวี๋เท่านั้นที่ทราบว่าอาร์ทัสได้เสียสละมากมายเพียงใดเพื่อทวีปแห่งนี้……
การสถาปนาราชวงศ์ใหม่ การก่อตั้งนครหลวง สิ่งเหล่านี้เซียวอวี๋ไม่จำเป็นต้องกังวลแม้แต่น้อย แน่นอนว่าย่อมต้องมีคนรับเอาเรื่องเหล่านี้ไปจัดการแทนเขา ที่เขาต้องทำก็แค่รอเข้าร่วมพิธีขึ้นครองราชย์เพียงเท่านั้น
จักรพรรดิองค์ก่อนแห่งราชวงศ์พยัคฆ์คำรนได้ประกาศสละราชบัลลังก์ให้กับเซียวอวี๋อย่างเต็มใจ ทั้งยังส่งตัวราชธิดาให้อภิเษกสมรสกับเซียวอวี๋ โดยหวังว่าสายโลหิตของตนจะคงอยู่สืบไป
ในวันที่เซียวอวี๋ขึ้นครองราชย์ ทั่วทั้งทวีปต่างก็เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง เหล่าผู้ที่เดินทางมาไม่ได้ล้วนส่งคำอวยพรหรือตัวแทนมา
การถือกำเนิดของราชวงศ์ใหม่ได้ถูกบันทึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ในนั้นกล่าวสรรเสริญเซียวอวี๋เอาไว้เสียยาวเหยียด ภาพลักษณ์อันธพาลของเซียวอวี๋ถูกลบออกจนเกลี้ยงเกลาและแทนที่ด้วยความสูงส่งสง่างาม ความทรงปัญญา ทั้งยังกล้าหาญ ถือเป็นสุดยอดวีรบุรุษแห่งยุค
เซียวอวี๋ที่ได้อ่านบันทึกนี้ก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
แม้ว่าทุกคนจะคัดค้านอย่างหนักเรื่องที่เซียวอวี๋จะแต่งตั้งหลินมู่เสวี่ยเป็นราชินี และให้สตรีคนอื่นๆรวมถึงราชธิดาของจักรพรรดิองค์ก่อนเป็นสนม กระนั้นมันก็ไม่มีอุปสรรคมากนัก เพราะสุดท้ายแล้วหลินมู่เสวี่ยก็คือผู้พิทักษ์คนใหม่ของทวีป เสียงคัดค้านจึงค่อยๆเบาบางลง
ดังนั้น หลังจากพิธีขึ้นครองราชย์ พระราชพิธีอภิเษกสมรสก็ถูกจัดขึ้นในท้องพระโรงอย่างยิ่งใหญ่
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสมบูรณ์แบบราวกับเรื่องราวในนิทาน
นับแต่นั้น เซียวอวี๋ก็ดำรงตำแหน่งผู้ปกครองสูงสุดของทวีปและใช้ชีวิตอย่างสุขสมกับหลินมู่เสวี่ย ซึเหวิน สกาเล็ต ลีอา และสตรีคนอื่นๆรวมถึงอดีตพี่สะใภ้ของเขา ไม่มีผู้ใดตำหนิต่อเซียวอวี๋ในเรื่องนี้ กลับกัน ผู้คนต่างสรรเสริญว่าเซียวอวี๋นั้นเก่งกล้าทั้งบุ๋นและบู๊ จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะเป็นที่หมายปองของสตรีมากมาย
หลังจากนั้นสองสามปี มิรันด้าและมัลฟูเรี่ยนก็นำชาวเอลฟ์มากล่าวลาต่อเซียวอวี๋ พวกเขาต้องการจะเดินทางไปก่อตั้งถิ่นฐานในป่าลึกเพื่อสถาปนาราชวงศ์เอลฟ์ขึ้นมาใหม่
ไม่นานหลังจากนั้น กรอมและทอร์ลก็เตรียมนำเผ่าพันธุ์ออร์คไปหาพื้นที่สร้างอาณาจักรออร์ค
คาเอลธาสเองก็มาบอกลาและนำชาวบลัดเอลฟ์ไปตั้งรกรากใหม่ แต่นั่นก็ไม่ได้ไกลจากดินแดนไลอ้อนนัก พวกเขาเพียงค้นหาสถานที่ที่เหมาะสมต่อการศึกษาเวทมตร์ ซึ่งที่แห่งนั้นก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลจากอาณาจักรของมนุษย์สักเท่าใด พวกเขาสามารถไปเยี่ยมเยือนกันได้ตลอดเวลาที่ต้องการ
ชนเผ่าคนแคระที่นำโดยมูราดินเองก็นำคนไปตระเตรียมที่จะสร้างอาณาจักรคนแคระ ซึ่งที่ตั้งก็ไม่ได้อยู่ไกลจากอาณาจักรของมนุษย์ พวกเขาจะคอยผลิตอุปกรณ์เพื่อมาค้าขายกับมนุษย์ต่อไป ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ก็เป็นที่นิยมอย่างมาก
เซียวอวี๋ได้มอบเหรียญทองและวัตถุดิบต่างๆให้กับเผ่าพันธุ์ต่างๆไปมากมายโดยหวังว่าพวกเขาจะมีชีวิตที่ดี ทั้งยังออกกฏหมายห้ามล่าเผ่าพันธุ์ออร์คและเอลฟ์ มิเช่นนั้นจะมีความผิดอย่างร้ายแรง
อูเธอร์ในที่สุดก็ได้ขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ของศาสนจักรแห่งแสง เขาได้เผยหลักคำสอนใหม่ให้เป็นไปอย่างถูกครรลองครองธรรม เซียวอวี๋ก็ได้จัดสร้างนครศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นของขวัญ ทั้งยังตั้งศาสนาของอูเธอร์เป็นศาสนาหลักของอาณาจักร
แอนโทนีดาสได้ดำรงตำแหน่งปราชญ์เวทแห่งราชสำนัก โดยจะคอยเป็นที่ปรึกษาของเซียวอวี๋
เหล่ามิตรสหายเก่าล้วนแยกย้ายกันไป เซียวอวี๋ได้ดำรงตำแหน่งจักรพรรดิสมดังใจ
ทุกคนต่างชื่นชมในสติปัญญาของเซียวอวี๋ ทั้งยังยกย่องเขาเป็นอย่างสูงในฐานะที่เป็นผู้กอบกู้ทวีปและมวลมนุษยชาติ
ในบางครั้ง สหายเก่าดังเช่นโถวปาหงก็จะเดินทางมาพักผ่อนและเล่นหมากรุกเป็นเพื่อนเซียวอวี๋ นี่ทำให้เซียวอวี๋ดีใจมาก ทุกครั้งคราเขาล้วนถ่วงรั้งโถวปาหงเอาไว้เป็นนาน ไม่ยอมให้โถวปาหงจากไป
อาวุโสสามจ้าวมนตราเองก็ค่อยๆสิ้นอายุขัยไปทีละคนเพราะผลจากการใช้พลังเกินขีดจำกัด
ก่อนที่ธีโอดอร์จะจากไป เขาได้มอบกล่องใบหนึ่งให้กับเซียวอวี๋ และบอกว่า หากวันหนึ่งจิตใจของเขารู้สึกเคว้งคว้างว่างเปล่า และรู้สึกว่าโลกใบนี้นั้นเป็นเพียงแค่ความฝัน ถึงตอนนั้นก็จงเปิดกล่องออกดู
กล่องใบนี้คือจะมีคำตอบที่เขาต้องการ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเซียวอวี๋ก็ไม่กล้าที่จะเปิดกล่องใบนี้
อำนาจและความมั่งคั่ง นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันจะครอบครองหรอกหรือ? เวลานี้เซียวอวี๋มีทุกสิ่งอย่าง ตัวเขาควรจะมีความสุขเกินกว่าผู้ใด ทว่าเขากลับพบว่าตนยังคงขาดสิ่งที่เรียกว่าความสุข
นั่นก็เพราะว่าในใจของเขามักมีความรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติตลอดมา แต่ผิดปกติตรงที่ใด ตัวเขากลับบอกไม่ได้
หลังจากนั้นอีกสิบปี ชีวิตของเซียวอวี๋แทบจะเป็นไปด้วยความสมบูรณ์ ขาดก็แต่ว่าเขานั้นไม่เคยมีทายาท นี่นับเป็นความเสียใจที่สุดของเขา
เขาวาดหวังว่าจะมีบุตรธิดาให้อุ้มชูมาโดยตลอด ไม่ใช่เพียงเพื่อสืบทอดราชบัลลังก์ หากแต่เพื่อปลอบโยนดวงวิญญาณของเขา กระนั้นสวรรค์กลับไม่ยอมให้เขาสมมาดปรารถนาในเรื่องนี้
หลังจากนั้นอีกสิบปี เซียวอวี๋นั้นอยู่ที่โลกนี้มานานเท่าใดแล้วตัวเขาก็ไม่ทราบ แต่เขาเริ่มคิดถึงเรื่องราวเมื่อวันวาน วันวานที่เขาบุกตะลุยโจรกลุ่มต่างๆไปพร้อมกับกรอมและลีอา ช่วงเวลานั้นนับเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขและตื่นเต้นเร้าใจมาก
หากแต่ในปัจจุบัน เขากลับหาความสุขแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว
เซียวอวี๋คิดถึงผู้คนที่เคยพบพาน สหายเก่าต่างๆ เมื่อถึงวันครบรอบวันเกิดของเซียวอวี๋ สหายจากที่ต่างก็จะเดินทางมาร่วมฉลองงานวันเกิดกับเขา ทั้งอาณาจักรเต็มไปด้วยเทศกาลและงานฉลอง แม้จะผ่านมานานหลายปี ชื่อเสียงของเขาก็ยังคงยิ่งใหญ่ไม่เสื่อมคลาย
เซียวอวี๋ต้องการจะรั้งสหายเหล่านั้นให้อยู่กับเขา แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องแยกจากกันเมื่อถึงเวลา
เซียวอวี๋รู้สึกว่าตนเองชราแล้ว เขาแก่ชรามากแล้ว
ซึ่งความจริง ร่างกายของเขายังไม่ชรา ที่ชรานั้นคือจิตใจของเขา
เมื่อเซียวอวี๋อายุถึงห้าสิบห้าปี ตัวเขาก็ยังคงไร้ทายาทสืบสกุล ซึ่งเขารู้ดีว่าคงถึงเวลาที่ต้องแต่งตั้งองค์รัชทายาทแล้ว มิเช่นนั้นอาณาจักรที่เขาฟูมฟักมาคงจะเกิดความวุ่นวายในยามเมื่อเขาจากไป
ดังนั้น เซียวอวี๋จึงแต่งตั้งฉินเช่อเป็นรัชทายาท โดยหวังว่าฉินเช่อจะสามารถนำพาอาณาจักรไปสู่ความรุ่งโรจน์สืบไป
ในช่วงสงคราม ฉินเช่อนั้นมีความสำเร็จมากมายมหาศาล และหลังจากจบสงคราม เขาก็ยังดำรงตำแหน่งเป็นขุนนางในราชสำนัก เขาได้เสนอนโยบายที่ยอดเยี่ยมออกมาจนได้รับการแซ่ซ้องสรรเสริญจากปวงชน
สุดท้าย หลังจากแต่งตั้งฉินเช่อเสร็จแล้ว เซียวอวี๋ก็ไปยังห้องที่เก็บกล่องซึ่งธีโดอร์มอบไว้ให้โดยลำพัง เขาต้องการจะเปิดกล่องและดูว่ากล่องใบนี้จะให้คำตอบเช่นไรแก่เขา
หลังจากรวบรวมความกล้าอยู่นานราวกับนี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต เซียวอวี๋ก็เอื้อมมืออันสั่นเทาไปหยิบกล่องและเปิดมันออกอย่างช้าๆ
ประกายแสงสีขาวจนเสียดแทงตาได้เข้ากลืนกินทัศน์วิสัยทั้งหมดของเซียวอวี๋
เขาค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นและพบว่าตนกำลังอยู่ในโลกที่ดูแปลกตา ไม่ถูกต้อง ต้องบอกว่าเป็นห้องที่ดูแปลกตาจึงจะถูก
ห้องที่เขาอยู่ไม่ใช่ห้องในพระราชวังที่งดงามหรูหราอีกต่อไป หากแต่เป็นห้องที่เขาเคยพบเห็นในชีวิตก่อน
อีกทั้งศีรษะของเขายังรู้สึกปวดอย่างประหลาด
ตอนนั้นเอง เงาร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้อง เงาร่างนั้นคลี่ยิ้มให้กับเซียวอวี๋และกล่าวขึ้นว่า “คุณผู้ทดสอบ ในที่สุดคุณก็ฟื้นแล้วสินะ เป็นอย่างไรบ้าง? นี่เป็นรางวัลที่คุณชนะเลิศในงานวอร์คราฟแชมป์เปี้ยนชิป เกมจำลองเสมือนจริง นี่เป็นผลิตภัทฑ์ใหม่ล่าสุดของบริษัทของเราเลยนะ คุณถือเป็นคนแรกที่ได้สัมผัสประสบการณ์นี้ โชคดีสุดๆเลยล่ะ”
“ผู้ทดสอบ? เกม?” เซียวอวี๋ลุกขึ้นยืนอย่างตกตะลึงก่อนจะยกมือขึ้นจับศีรษะ ซึ่งบนศีรษะของเขาในเวลานี้กำลังสวมใส่หมวกใบหนึ่งอยู่ จากนั้นเขาจึงหันไปมองทางด้านหลัง และพบว่ามันเป็นเตียงอัลลอยด์ที่มีสายระโยงระยางอยู่เต็มไปหมด
ทันใดนั้น เซียวอวี๋ก็เหมือนจะเข้าใจบางสิ่ง
เป็นว่าเรื่องราวทั้งหมดนี่เป็นเพียงแค่ความฝันงั้นเหรอ? กรอม ทอร์ล อาร์ทัส หลินมู่เสวี่ย ลีอา…..ก็ด้วยงั้นเหรอ?
เซียวอวี๋รู้สึกเจ็บปวดใจราวกับถูกมีดกรีดแทง เขาพลันทรุดฮวบลงไปกับพื้น โลหิตสีแดงเริ่มไหลออกจากมุมปากของเขา ขณะที่เจ้าหน้าที่โดยรอบรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของเขาอย่างตื่นตระหนก
ในชั่ววินาทีนั้น เซียวอวี๋ที่นอนอยุ่บนพื้นกำลังหลั่งน้ำตาจนตาพร่ามัว เขารู้สึกราวกับเด็กที่ถูกผู้ใหญ่พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากชีวิต…….
ตอนต่อไป →