เล่มที่ 23 เล่มที่ 23 ตอนที่ 674 เขาเมฆา เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

อวิ๋นจิ่นเดินไปที่หน้าต่าง พลางชี้ไปทางเทือกเขาสีดำทะมึนที่อยู่ไกลออกไป “พระชายา ที่นั่นคือเทือกเขาวิญญาณดวงดารา ทะเลอู๋ว่างตั้งอยู่ที่นั่น”

แม้จะดูห่างไกล ทว่าหากขี่ม้าไป คงใช้เวลาเดินทางเพียงวันเดียว อย่างไรก็ตาม ซูจิ่นซีรู้ดีว่าเรื่องไม่ง่ายอย่างที่เห็นแน่นอน

นางขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าปรากฏคำถาม

อวิ๋นจิ่นพูดต่อ “มีแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ระหว่างเขตแดนไร้เวลากับเทือกเขาวิญญาณดวงดารา เรียกว่าแม่น้ำฉางซือ ในสามโลกเจ็ดดินแดนนั้น ตัวตนและฐานะที่สูงส่งกว่าสามัญชน เช่น เซียน มาร ปีศาจ ไม่เพียงพอที่จะฝังไว้ในทะเลอู๋ว่าง ดังนั้นหลังความตาย พวกเขาจะถูกฝังไว้ในโลงศพเฉินมู่ และนำไปถ่วงลงในแม่น้ำฉางซือ นอกจากนั้น วิญญาณหลังความตายที่อยู่ในสามโลกเจ็ดดินแดนจะไม่สามารถเข้าสู่วัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดได้ในทันที แต่จะต้องวนเวียนอยู่ในดินแดนสวรรค์และโลกตามระยะเวลาที่กำหนด จากนั้น ดวงวิญญาณจึงจะสามารถฝังร่างไว้ในแม่น้ำฉางซือ ในระยะแรก แม่น้ำฉางซือกับทะเลอู๋ว่างเป็นสถานที่เช่นเดียวกัน คือมีไว้ฝังดวงวิญญาณของผู้วายชน ทว่าเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า จึงกลายเป็นแนวป้องกันเพื่อปกป้องเทือกเขาวิญญาณดวงดาราและทะเลอู๋ว่าง”

“แนวป้องกันหรือ? หากคิดจะข้ามแม่น้ำฉางซือ ต้องมีเงื่อนไขอันใดบ้าง” ซูจิ่นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ผู้ที่สามารถข้ามแม่น้ำฉางซือ ต้องได้รับอนุญาตจากท่านเทพเหยาฉือ หรือมีป้ายคำสั่งของผู้นำโลกเขตแดน มนุษย์ที่สามารถข้ามแม่น้ำฉางซือได้ ต้องมีสถานะสูงศักดิ์ และเป็นดวงวิญญาณที่ตายแล้ว”

ดังนั้น ด้วยสถานะปัจจุบันของซูจิ่นซีและอวิ๋นจิ่น ไม่ว่าอย่างไรย่อมไม่อาจผ่านไปได้แน่นอน

ซูจิ่นซีหลับตาครุ่นคิด

เป็นไปไม่ได้หากจะรอให้ท่านเทพเหยาฉืออนุญาต

ตอนนี้ พวกเขาทั้งสองยังไม่ตาย นอกจากนั้น ด้วยสถานะวิญญาณบนโลกมนุษย์ของพวกเขา ก็ไม่อาจข้ามแม่น้ำฉางซือได้

เช่นนั้น… คงมีเพียงหนทางเดียว…

“มีวิธีตามหาป้ายคำสั่งของผู้นำโลกเขตแดนหรือไม่? ”

อวิ๋นจิ่นนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายศีรษะเล็กน้อย “ไม่ต้องพูดถึงว่า พระองค์กับกระหม่อมไม่รู้ว่าป้ายคำสั่งของโลกเขตแดนที่ใช้ข้ามแม่น้ำฉางซือมีลักษณะอย่างไร ต่อให้หาป้ายมาได้ ทว่าเมื่ออยู่บนเรือข้ามฟากแม่น้ำฉางซือ พระชายาและกระหม่อมย่อมไม่อาจปิดบังลมหายใจของมนุษย์ได้ ถึงเวลานั้น พวกเราอาจถูกดวงวิญญาณนับหมื่นนับพันที่อยู่ในแม่น้ำลากลงไป ไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกเลย”

นี่ก็ไม่ได้ผล นั่นก็ไม่ได้ผล ควรทำอย่างไรดี?

หรือว่าไม่มีทางให้ข้ามแม่น้ำฉางซือได้แล้วจริงๆ ?

เมื่อครุ่นคิดดูแล้ว ต้นฤดูหนาวใกล้เข้ามาทุกที จากคำบอกเล่าของหญิงชราผู้หยั่งรู้ หากไม่สามารถนำหญ้าเสินเซียนมาได้ทันเวลา วิญญาณของนางจะแตกสลาย

โลกนี้ยังมีอนาคตอันสวยงามอีกมากที่นางไม่เคยได้สัมผัส ทั้งยังมีความกังวลอีกมากที่ยังไม่ได้แก้ไข สิ่งสำคัญที่สุดคือ ยังมีคนสองคนที่สำคัญที่สุดสำหรับนาง นางติดหนี้บุญคุณพวกเขานับพันปีและยังไม่ได้ชดใช้ นางไม่ต้องการจากไปจริงๆ

ไม่ต้องการเลยจริงๆ …

แววตาของซูจิ่นซีนิ่งขรึม นางครุ่นคิดอย่างหนัก ผ่านไปครู่ใหญ่จึงพูดว่า “แม้ไม่เคยทดลอง แต่ข้าคิดว่าคงมีวิธีที่สามารถปกปิดลมหายใจของมนุษย์ได้ อวิ๋นจิ่น พวกเราไปดูที่แม่น้ำฉางซือสักครั้งเถิด! บางทีอาจค้นพบอันใดบางอย่าง”

“พ่ะย่ะค่ะ! ” อวิ๋นจิ่นตอบรับโดยไม่ลังเล

ในช่วงพลบค่ำ ซูจิ่นซีสวมเสื้อคลุมสีดำที่อวิ๋นจิ่นนำติดตัวมาด้วย และไปเยือนริมฝั่งแม่น้ำฉางซือพร้อมกับอวิ๋นจิ่นที่สวมชุดดำเช่นเดียวกัน

ขณะที่อยู่ห่างจากแม่น้ำฉางซือเพียงสองกิโลเมตร ซูจิ่นซีสามารถสัมผัสได้ถึงพลังหยินเข้มข้นที่มาจากแม่น้ำฉางซือ

ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้แม่น้ำฉางซือมากขึ้น พลังหยินที่ปกคลุมพวกเขาก็ยิ่งหนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อระยะทางเหลือเพียงหนึ่งกิโลเมตร พลังหยินที่อยู่รอบตัวพวกเขาก็กลายเป็นพลังสีดำหนาทึบ ทำให้พวกเขามองเห็นทางข้างหน้าได้ไม่เกินห้าก้าว

อวิ๋นจิ่นรีบคว้าตัวซูจิ่นซีไว้ “พระชายา พวกเราไปต่อไม่ได้แล้ว ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถต้านทานพลังหยินที่แข็งแกร่งของแม่น้ำฉางซือ หากพลังหยินอยู่ในร่างกายนานเกินไป เกรงว่าจะทำให้ร่างกายได้รับความเสียหายและไม่สามารถฟื้นฟูได้”

เขาพูดพลางหยิบยาเม็ดสีขาวหิมะออกมาสองเม็ด เม็ดหนึ่งสำหรับทานเอง ส่วนอีกเม็ดส่งให้ซูจินซี “พระชายา นี่คือยาคุมวิญญาณที่สหายของกระหม่อมให้มา หากเสวยยานี้อาจควบคุมพลังหยินที่นี่ได้”

ในโลกนี้ มีผู้เล่นแร่แปรธาตุไม่มากนัก จนถึงตอนนี้ ซูจิ่นซีก็รู้จักเพียงคนเดียวคือ จิ่วหรง

เมื่อนึกถึงจิ่วหรง ซูจิ่นซีจึงมองอวิ๋นจิ่นอย่างลึกซึ้งมากขึ้นเล็กน้อย ทว่านางพยายามควบคุมสิ่งที่ปั่นป่วนหัวใจไว้ในส่วนลึก และไม่แสดงออกมากเกินไป

นางหยิบเม็ดยาจากมืออวิ๋นจิ่นมาทานโดยไม่ลังเล

จากนั้น ซูจิ่นซีก็มองไปรอบๆ อย่างละเอียด

“พระชายา พระองค์กำลังมองหาสิ่งใด กระหม่อมจะช่วยตามหา! ”

“สิ่งที่เรียกว่าดีร้ายย่อมพึ่งพาอาศัยกัน ข้าคิดว่าริมฝั่งแม่น้ำฉางซือต้องมีสมุนไพรที่สามารถซ่อนลมหายใจของมนุษย์ได้”

ใช้สมุนไพรปกปิดลมหายใจมนุษย์หรือ?

ไม่คิดว่าซูจินซีจะคิดวิธีการเช่นนี้ได้ มันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะนึกถึง ครู่หนึ่ง อวิ๋นจิ่นมองไปที่ซูจิ่นซี แววตาของเขาปรากฏความซับซ้อนเล็กน้อย

หลังจากนิ่งเงียบไปชั่วครู่ อวิ๋นจิ่นจึงถามซูจิ่นซีอีกครั้งว่า “พระชายา สมุนไพรนั้นมีลักษณะอย่างไร? ”

“ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน มันเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น ข้าค้นหาตามความรู้สึกของตนเอง”

จากนั้น อวิ๋นจิ่นจึงตามไปช่วยซูจิ่นซีค้นหาอีกแรง

สมุนไพรบางต้น ซูจิ่นซีหยิบขึ้นมาดูอย่างละเอียด แต่ไม่นานก็โยนทิ้ง

สมุนไพรบางต้น หลังจากวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว ซูจิ่นซียังทดลองชิมด้วยตนเอง ทว่าแววตาของนางยังปรากฏความผิดหวัง ก่อนจะหยิบยาถอนพิษออกมาจากระบบถอนพิษและทานลงไป

ซูจิ่นซีวิเคราะห์ทีละต้น ค้นหาทีละต้น จนกระทั่งพลังหยินรอบตัวพวกเขาหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ อวิ๋นจิ่นรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาเตือนซูจิ่นซีว่าถึงเวลาต้องกลับแล้ว ซูจิ่นซีมองสมุนไพรต้นหนึ่งที่เพิ่งหยิบขึ้นมาด้วยใบหน้าเบิกบาน

“พบแล้ว! อวิ๋นจิ่น ข้าหาพบแล้ว! สมุนไพรต้นนี้”

ดวงตาของอวิ๋นจิ่นทอประกาย เขาเดินไปหาซูจิ่นซี “ยินดีด้วย พระชายา”

ซูจิ่นซีเพิ่งตระหนักได้ว่าพลังหยินรอบตัวนางหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ท่าทางของนางเปลี่ยนไปในทันที นางรีบโน้มตัวลงไปหยิบสมุนไพรสองสามต้นที่มีลักษณะเหมือนต้นที่อยู่ในมือของนาง จากนั้นจึงคว้ามืออวิ๋นจิ่นและเดินกลับด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “อวิ๋นจิ่น รีบไป! พวกเราอยู่ที่นี่นานไม่ได้! ”

อวิ๋นจิ่นมองมือของตนและซูจิ่นซีด้วยใบหน้าซับซ้อน มุมปากพลันปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน

หลังจากถอยไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ซูจิ่นซีจึงปล่อยมืออวิ๋นจิ่น และจัดการสมุนไพรในมืออย่างระมัดระวัง นางไม่ทันสังเกตเห็นใบหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา

ในจุดที่ไม่มีผู้ใดมองเห็น อวิ๋นจิ่นมองซูจิ่นซีด้วยแววตาลึกซึ้ง ผ่านไปครู่หนึ่ง สายตาของเขามองลงไปยังมือที่ซูจิ่นซีเคยกุมไว้ นิ้วมือของเขาค่อยๆ ประสานเข้าด้วยกัน พร้อมกับรอยยิ้มอันอ่อนโยน

เมื่อกลับมาถึงโรงเตี้ยม จิตของซูจิ่นซีก็เข้าสู่ระบบถอนพิษ นางเพิ่มส่วนผสมสมุนไพรอื่นๆ อีกสองสามชนิด รวมกับสมุนไพรที่เก็บมาเมื่อครู่ เพื่อทำเป็นยาเม็ด จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น จึงออกมาจากระบบถอนพิษ

ในช่วงเวลานั้น อวิ๋นจิ่นเฝ้าดูแลอยู่ข้างกายซูจิ่นซี ไม่จากไปไหน

แม้จะมีสมุนไพรที่ซ่อนลมหายใจของมนุษย์ ทว่ายังไม่พอ พวกเขายังต้องการป้ายคำสั่งที่ทำให้คนข้ามฟากพาพวกเขาข้ามแม่น้ำฉางซือ หากต้องการป้ายคำสั่ง พวกเขาต้องไปเยือนโลกเขตแดน

“อวิ๋นจิ่น เจ้ารู้ทางไปโลกเขตแดนหรือไม่? ”

อวิ๋นจิ่นพยักหน้าด้วยท่าทางจริงจัง “เทือกเขาวิญญาณดวงดาราเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับโลกเขตแดน ดังนั้น เส้นทางจากโลกมนุษย์ไปยังทางเข้าโลกเขตแดนจึงไม่ไกลจากที่นี่นัก”

“อยู่ที่ใด”

“เขาเมฆาไม่หวนคืน! ”