เมืองหลวงประเทศอู่อาน

บ้านเกิดของจักรพรรดิอู่ผู้ก่อตั้งประเทศอู่อาน เมืองหลักของหนึ่งแสนแปดพันเขต เรียกว่าเมืองหลวง!

เมืองนี้สร้างขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการก่อตั้งประเทศอู่อาน โดยจักรพรรดิอู่สั่งการด้วยตัวเอง ให้มนุษย์เผ่ามังกร เผ่าทรงพลัง และเผ่าเขาหมั่งซานสร้างขึ้น

คูเมืองครอบคลุมพื้นที่ประมาณสองสามล้านลี้ มองไม่เห็นขอบเขต

เป็นเวลาหลายพันปี ผู้ปกครองประเทศอู่อานแต่ละยุค ขยายเมืองหลวงอย่างต่อเนื่อง จนเป็นเมืองหลวงในทุกวันนี้ กว้างใหญ่ขึ้นหลายเท่าเมื่อเทียบกับพันปีที่ผ่านมา

คูเมืองขนาดใหญ่มหึมา ถึงขั้นที่กว้างกว่าเมืองเล็กๆ บางส่วนด้วยซ้ำ ประชากรเกินพันล้านคน ถ้าไม่มาเมืองหลวง คงไม่มีทางรู้ความหมายของคำว่าเจริญรุ่งเรือง

กำแพงเมืองหลอมจากหินอุกกาบาต ไม่รู้สูงตั้งเท่าไร

ประตูแบ่งเป็นแปดประตู จากใต้สู่เหนือ แบ่งตามลำดับเป็น ประตูอู่เซิ่ง ประตูอู่เซวียน ประตูอู่เต๋อ ประตูอู่ก่วง ประตูอู่เฉิง ประตูอู่เซิง ประตูอู่ตี้ และประตูอู่เทียน

ประตูหลักคือประตูอู่เซิ่ง ประตูอู่เซวียน ประตูอู่เต๋อ และประตูอู่ก่วง

ประตูสูงเสียดฟ้า มีรูปปั้นจักรพรรดิตั้งอยู่สี่องค์

หนึ่งในนั้นคือหน้าประตูอู่เซิ่ง คือรูปปั้นของจักรพรรดิอู่ ผู้ก่อตั้งประเทศอู่อาน

ตอนนี้ในที่สุดพวกลู่ฝานก็เดินมาถึงหน้าประตูอู่เซิ่ง

เมื่อมาถึงตรงนี้ เพิ่งรู้สึกตัวว่ามีคนเดินไปมามากมาย

คนประหลาดเผ่าต่างๆ สัตว์อสูรหลากหลายชนิด พ่อค้าต่างๆ พากันเบียดมาที่ประตูเมือง

ประตูเมืองทั้งสองด้าน มีองครักษ์เผ่าทรงพลังยืนอยู่

สวมเกราะสีทอง ถือมีดยาวในมือ ทหารเผ่าทรงพลังทุกคน ส่วนสูงเกินสามร้อยกว่าเมตร ยืนอยู่ตรงนั้นราวกับเทพเจ้า

ประตูเมืองสร้างจากเหล็กบริสุทธิ์ ดูจากภายนอกเห็นเป็นสีดำขลับ

แต่มองนานไม่ได้ เพราะด้านบนสลักอักษรยันต์ไล่สิ่งชั่วร้ายเอาไว้ ถ้าคนทั่วไปมองนานๆ จะรู้สึกมึนศีรษะ ถ้าผู้ฝึกชั่วร้ายเห็นประตูนี้ ทำได้เพียงวิ่งหนีอย่างตื่นตระหนกเท่านั้น

“นี่คือเมืองหลวง นี่คือเมืองหลวงสินะ พี่ลู่ฝาน ฮ่าๆ เห็นผู้หญิงเผ่าเงือกตรงนั้นไหม เกล็ดปลานั่นงดงามจนน่าตกใจจริงๆ! อีกทั้งผู้หญิงเผ่าจิ้งจอกนั่นอีก เธอสวมเสื้อผ้าไหม ต้นขานั่นฉันสามารถเล่นได้ทั้งคืน!”

หยวนเลี่ยตื่นเต้นจนพูดจาสะเปะสะปะไปหมดแล้ว

เฝิงอิ่งเป็นคนตบให้เขากลืนคำพูดที่เหลือลงคอไป เพราะสาวงามเผ่าจิ้งจอกที่อยู่ข้างๆ หันมามองแล้ว

แต่สาวงามคนนี้ไม่ได้โกรธ เธอสะบัดหาง กะพริบตา แล้วก็ส่ายหน้าอก ไม่คิดเลยว่าจะส่งสายตาหวานให้หยวนเลี่ย

จู่ๆ หยวนเลี่ยรู้สึกว่าหัวใจตัวเองถูกจู่โจม เขากุมหน้าอกแล้วพูดว่า “เฝิงอิ่ง รอเธอกลับเขตเยี่ยน อย่าลืมเอาจดหมายไปให้ที่บ้านฉันด้วย ฉันขอไม่กลับไปชั่วคราว”

เฝิงอิ่งขี้เกียจสนใจเขา เดินตรงเข้าไปด้านใน

“ชื่อสกุล ชนชาติ บ้านเกิด จุดประสงค์ที่มาเมืองหลวง”

ชายวัยกลางคนนั่งอยู่หน้าประตูเมือง สอบถามกลุ่มคนที่เข้าเมืองทีละคน คนอ้วนที่ถือค้อนปอนด์ขนาดใหญ่ในมือ พูดเสียงดังว่า “ฉันบอกไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ฉันออกจากเมืองไปตกปลา ทำไมต้องพูดอีกรอบเนี่ย”

เจ้าอ้วนสะบัดปลาตัวใหญ่บนไหล่ บอกว่าเป็นปลา ลู่ฝานคิดว่านั่นเป็นสัตว์อสูรตัวหนึ่งมากกว่า

อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยเห็นปลามีขา แถมยังมีฟันโผล่มาข้างนอก มีตาสิบดวงด้วย

ชายวัยกลางคนพูดแบบไม่เงยหน้าขึ้นมา “ใกล้เทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีแล้ว เพื่อความปลอดภัย เบื้องบนต้องการให้เราตรวจอย่างละเอียด ฉันก็จนปัญญา ค้อนของนายลงทะเบียนแล้วยัง ถ้ายังไม่ลงทะเบียนอย่าลืมลงทะเบียนด้วย”

เจ้าอ้วนใบหน้าเหนื่อยใจ โยนค้อนลงบนโต๊ะ

“ลงทะเบียนสิๆ ลงทะเบียนค้อนเนี่ยนะ จริงๆ เลย”

ลู่ฝานฟังอยู่ด้านหลัง เขาถอนหายใจเบาๆ นับวันดูแล้ว เหมือนใกล้ถึงเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีแล้วจริงด้วย

คงเป็นครั้งแรกที่เขาฉลองเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีที่อื่น คิดแล้วเศร้าเล็กน้อย

ในที่สุดก็มาถึงพวกลู่ฝาน ชายวัยกลางคนเงยหน้ามองพวกหยวนเลี่ยแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า “มาจากไหน มาทำอะไร รีบพูดมา”