บทที่ 1674 การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1674 การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด

 

การแข่งขันสิ้นสุดลงแล้ว ผลลัพธ์ทําให้ทุกคนประหลาดใจ คนที่กลายเป็นเทพธิดาเงือกคือเซี่ยหลิน

 

วังเทพธิดาส่องประกายสว่างไสว คนรับใช้กําลังวิ่งไปรอบๆ

 

เซี่ยหลินเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นางอยู่ในชุดสีขาวขณะที่หางปลาของนางวางอยู่บนก้อนเมฆ

 

นางเปิดหน้าต่างและมองไปที่ลานกว้าง แต่ปะการังที่งดงามเหล่านั้นไม่สามารถดึงดูดความสนใจของนาง

 

นางคิด “หลายวันผ่านไปแล้ว ท่านชูไม่ปรากฏตัวอีก เมื่อใดเขาจะกลับมา?”

 

“ท่านหญิง พี่สาวของท่านมาเยี่ยม” เป็นเพียงเวลานี้ที่สาวใช้เดินเข้ามากล่าวรายงาน

 

เซี่ยหลินขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ “เชิญนางเข้ามา”

 

จ้าวลู่พี่สาวของเซี่ยหลินเดินเข้ามา

 

นางเป็นเพียงพี่สาวในนามของเซี่ยหลิน แต่หลังจากฟางหยวนดัดแปลงความทรงจําของนาง พี่สาวผู้นี้ก็ไม่สงสัยในตัวตนของเซี่ยหลินอีก

 

“น้องเล็ก คิดทบทวบคํากล่าวของข้าเมื่อสองสามวันก่อนหรือยัง?” จ้าวลู่กล่าวเป้าหมายของนางออกมาโดยตรง

 

เซี่ยหลินหัวเราะ “ข้าขอโทษจริงๆ ข้าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตําแหน่งเทพธิดาเงือกไม่เคยเป็นเป้าหมายของข้า หากเป็นไปได้ ข้าก็ไม่ต้องการเป็นเทพธิดาเงือก”

 

จ้าวลู่หัวเราะด้วยน้ําเสียงเย้ยหยันและอิจฉา

 

นางพ่ายแพ้ให้กับซูอี้โดยไม่คาดคิด จากนั้นเซี่ยหลินก็ปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่าและได้รับการสนับสนุนจากกองกําลังที่อยู่เบื้องหลังนาง แต่พวกเขาไม่คิดว่าเซี่ยหลินจะประสบความสําเร็จจริงๆ

 

กองกําลังที่อยู่เบื้องหลังจ้าวลู่ต้องการให้เซี่ยหลินเป็นตัวแทนของพวกเขาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์

 

แต่ก่อนที่ฟางหยวนจะจากไป เขาสั่งให้เซี่ยหลินปฏิเสธการมีส่วนร่วมทางการเมืองทั้งหมด

 

ดังนั้นเซี่ยหลินจึงปฏิเสธจ้าวลู่เมื่อไม่กี่วันก่อน

 

จ้าวลู่ไม่พอใจ

 

ประการแรก น้องสาวที่หายตัวไปของนางปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน นอกจากความเกี่ยวข้องทางสายเลือด นางไม่รู้จักน้องสาวผู้นี้แม้แต่น้อย

 

ประการที่สอง นางทํางานหนักมานาน แต่สุดท้ายเซี่ยหลินกลับคว้าตําแหน่งเทพธิดาเงือกไป นี่เหมือนกับการขโมยความฝันทั้งชีวิตของนาง

 

ประการสุดท้าย กองกําลังที่อยู่เบื้องหลังจ้าวลู่ยังให้นางออกมาชักชวนและผูกมัดเชียหลิน แต่เซี่ยหลินกลับปฏิเสธ

 

ทั้งหมดทําให้อารมณ์ของจ้าวลู่ไม่ดีนัก

 

“เซี่ยหลิน หากเจ้าไม่ต้องการเป็นเทพธิดาเงือก เหตุใดเจ้าถึงเข้าร่วมการแข่งขัน? เราทั้งคู่ต่างเข้าใจสถานการณ์นี้ บอกข้ามาว่าเจ้ามีคําขอใด เราสามารถเติมเต็มความต้องการของเจ้า!” จ้าวลู่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา

 

เซี่ยหลินขมวดคิ้ว นางรู้ว่าจ้าวลู่ไม่ใช่พี่สาวที่แท้จริงของนาง ทั้งหมดเป็นเพียงการจัดเตรียมของท่านชู

 

ตอนนี้เมื่อนางได้ยินถ้อยคําเหล่านี้จากจ้าวลู่ ความรู้สึกที่นางมีต่อจ้าวลู่จึงแย่ลงอย่างมาก

 

“ท่านพี่” เซี่ยหลินกล่าวเบาๆ “ข้าขอโทษจริงๆ ข้าไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ท่านมั่นใจได้ว่าข้าจะไม่ร่วมมือกับฝ่ายอื่นเช่นกัน”

 

ดวงตาของจ้าวลู่เบิกกว้าง “เซี่ยหลิน เจ้าช่างไร้เดียงสานัก เจ้าคิดเช่นนี้จริงๆงั้นหรือ? ข้าคิดว่าเจ้ากําลังรอราคาที่เหมาะสม เห้อ…ข้าประเมินเจ้าสูงเกินไป หากเป็นกรณีนี้ข้าจะอธิบายให้ชัดเจน เจ้าจะตายหากเจ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากเรา เข้าใจหรือไม่?”

 

เซี่ยหลินตะลึง “อย่าบอกข้าว่า…”

 

จ้าวลู่สายศีรษะ “อย่าคิดบ้าๆ เราไม่มีเจตนาทําร้ายเจ้าแม้เจ้าจะไม่ร่วมมือกับเรา เจ้าคือเทพธิดาเงือก ไม่มีผู้ใดกล้าทําร้ายเจ้าอย่างเปิดเผย มิฉะนั้นพวกเขาจะพบกับความตายอันน่าสยดสยอง”

 

“เทพธิดาเงือกทุกคนมีหน้าที่สําคัญ นั่นคือการไปที่ทะเลปีศาจร่ําไห้และร้องเพลงเป็นเวลาสามวันสามคืนเพื่อกําจัดกลิ่นอายปีศาจ นี่เป็นงานอันตรายและมีโอกาสรอดชีวิตต่ํามาก เทพธิดาเงือกหลายคนเสียชีวิตในทะเลปีศาจร่ําไห้ บางคนที่สามารถกลับมาก็จะกลายเป็นคนบ้า แม้ตำแหน่งเทพธิดาเงือกจะดูดี แต่มันก็มีความเสี่ยงและอันตรายมาก”

 

“มีเรื่องเช่นนี้งั้นหรือ?” เซี่ยหลินประหลาดใจ

 

จ้าวลู่หัวเราะ “เจ้าคิดว่าข้าหลอกเจ้างั้นหรือ? ข้อมูลนี้อาจถูกซ่อนจากคนทั่วไป แต่มันไม่ใช่ความลับที่ยิ่งใหญ่ เจ้าสามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดายด้วยสถานะของเจ้าในปัจจุบัน”

 

“ท่ามกลางทะเลที่อยู่ภายใต้การปกครองของเผ่ามนุษย์เงือก ทะเลที่อันตรายที่สุดคือทะเลปีศาจร่ําไห้ มันเป็นเขตต้องห้าม! ตามตํานานเทพอมตะสวรรค์พิภพผนึกปีศาจอมตะที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดเอาไว้ที่ทะเลแห่งนี้ เทพอมตะสวรรค์พิภพใจดีเกินกว่าจะสังหารปิศาจอมตะ ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีผนึกปีศาจตนนี้เอาไว้และพยายามทําให้ปีศาจกลับใจ นั้นเป็นที่มาของเสียงโหยหวน ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในทะเลปีศาจร่ําไห้ แต่ปีศาจตนนี้แข็งแกร่งเกินไป กลิ่นอายปีศาจของมันจะค่อยๆสะสมและทําให้สิ่งมีชีวิตในทะเลดุร้ายและแข็งแกร่งขึ้น”

 

“ภารกิจของเทพธิดาเงือกคือการไปที่จุดศูนย์กลางของทะเลปีศาจร่ําไห้และร้องเพลงอย่างสุดกําลังเพื่อปัดเปากลิ่นอายปีศาจ มิฉะนั้นเมื่อเวลาผ่านไปทะเลปีศาจร่ําไห้จะกลืนกินทุกสิ่งและขยายอาณาเขตออกไปเรื่อยๆ”

 

เซี่ยหลินเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อได้ยินความลับนี้ “กระทั่งเทพธิดาเงือกที่ได้รับการสนับสนุนและเตรียมตัวอย่างเพียงพอยังต้องเผชิญหน้ากับอันตราย หากข้าไปที่นั่นเพียงลําพังโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือ มันไม่ใช่การรนหาที่ตายงั้นหรือ?”

 

“แน่นอน!” จ้าวลู่ตอบอย่างจริงจัง

 

นางคาดหวังว่าเรื่องนี้จะทําให้นางสามารถเกลี้ยกล่อมเซี่ยหลิน แต่นางไม่ได้คาดหวังว่าเซี่ยหลินจะปฏิเสธ “ถึงกระนั้นข้าก็จะไม่ร่วมมือ”

 

“แม้มันจะทําให้เจ้าตายงั้นหรือ?” การแสดงออกของจ้าวลู่กลายเป็นยิ่งเย็นชา

 

ไม่ใช่ว่าเซี่ยหลินไม่รู้สึกลังเล แต่ภาพของฟางหยวนในใจของนางทําให้นางยืนกรานที่จะทําตามคําสั่งของเขา

 

“ถูกต้อง ข้าแน่ใจ แม้ข้าจะตาย”

 

จ้าวลู่โกรธมาก นางหัวเราะ “หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอให้เจ้าโชคดี!”

 

พี่สาวและน้องสาวแยกทางกันอย่างไร้เยื่อใย

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดมันก็ปรากฏ!” หน้าหอคอยเกียรติยศ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

ภารกิจใหม่ปรากฏขึ้นบนหอคอยเกียรติยศ มันคือภารกิจช่วยเทพธิดาเงือกทําภารกิจของนางให้สําเร็จ

 

มันไม่ได้อธิบายรายละเอียดใดๆ หากเป็นคนนอก พวกเขาจะไม่รู้ว่ามันคือภารกิจใด

 

แต่ฟางหยวนรู้ ภารกิจของเทพธิดาเงือกคือการชําระล้างกลิ่นอายปีศาจในทะเลปีศาจร่ําไห้

 

นี่คือโอกาสที่ฟางหยวนจะสามารถเข้าสู่ทะเลปีศาจร่ําไห้

 

เดิมทีฟางหยวนไม่แน่ใจว่าภารกิจนี้จะปรากฏขึ้นหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงต้องสนับสนุนเทพธิดาเงือกที่ไร้กําลังและไม่มีผู้ใดให้พึ่งพา

 

ด้วยวิธีนี้เทพธิดาเงือกจะไม่สามารถทําภารกิจดังกล่าวและต้องการความช่วยเหลือ

จากคนนอก

 

ในถ้ําสวรรค์แห่งนี้ไม่มีผู้อมตะท้องถิ่นนอกจากปีศาจอมตะที่ถูกผนึกไว้ในทะเลปีศาจ ให้กลิ่นอายปีศาจเป็นสิ่งอันตราย ถ้ําสวรรค์ต้องคัดเลือกเทพธิดาเงือกและให้นางกําหราบมัน

 

ภารกิจนี้มีความสําคัญมาก หากไม่มีเทพธิดาเงือกนานเกินไป กลิ่นอายปีศาจจะกระจายไปทั่วทั้งถ้ําสวรรค์และส่งผลกระทบต่อการจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

 

สิ่งที่ฟางหยวนทําคือการเร่งให้ภารกิจนี้ปรากฏขึ้น

 

ผลลัพธ์ก็คือแผนการของเขาประสบความสําเร็จ

 

โดยปราศจากความลังเล ฟางหยวนรับภารกิจนี้และถูกส่งตัวไปยังเมืองทะเลศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง

 

หลายวันต่อมา

 

เทพธิดาเงือกเซี่ยหลินยืนอยู่บนหลังเต่ายักษ์ที่กําลังมุ่งหน้าไปยังทะเลปีศาจร่ําไห้

 

ฟางหยวนยืนอยู่ด้านหลังนางอย่างสงบ

 

การเดินทางราบรื่นมาก แต่ทันใดนั้นพายุใหญ่กลับพัดมาพร้อมกับเสียงคร่ําครวญ “ข้าเสียใจจริงๆ เหตุใดข้าต้องยั่วยุเทพอมตะสวรรค์พิภพ ข้าเสียใจมาก!”

 

เซียหลินสะดุ้งตกใจ นางมองฟางหยวน “ท่านชู…”

 

“อย่ากังวล” ฟางหยวนยิ้มและลอบใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อทําให้เซี่ยหลินและเต่ายักษ์สงบลง

 

เสียงคร่ําครวญเหมือนท่าไม้ตายอมตะที่สามารถรบกวนสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

 

ยิ่งพวกเขาเดินทางลึกเข้าไปในทะเลปีศาจร่ําไห้มากเท่าใด เสียงคร่ําครวญก็ยิ่งดังและเข้มข้นมากเท่านั้น

 

“ข้าเสียใจ ข้าไม่ควรฆ่าคนมากมายเช่นนั้น!”

 

“ข้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง ข้าไม่ควรไล่ล่าอํานาจ มันจะดีกว่านี้หากข้าอยู่ที่บ้านดูแลบิดามาร

 

“ข้าสํานึกผิดแล้ว ข้าหลอกลวงทุกคนและปกปิดวิญญาณอมตะ ข้าปล่อยให้สหายที่ดีที่สุดของข้าแบกรับความผิดขณะที่ข้าฉกฉวยผลประโยชน์!”

 

เสียงคร่ําครวญทําให้ใบหน้าของเซี่ยหลินซีดขาวขณะที่ฟางหยวนรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะเขาสัมผัสได้ถึงการคงอยู่ของค่ายกลวิญญาณอมตะขนาดใหญ่

 

“ข้าเกือบแน่ใจแล้วว่าวิญญาณความเสียใจอยู่ที่นี่ แต่หากเข้านําวิญญาณความเสียใจออกมา มันจะกระตุ้นการจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพหรือไม่?” ฟางหยวนสงสัย

 

วิญญาณความเสียใจมีความสําคัญมาก มันถูกใช้ในการกําหราบปีศาจอมตะที่อยู่ในทะเลแห่งนี้

 

แต่ฟางหยวนตัดสินใจที่จะแบกรับความเสี่ยงเพื่อให้ได้รับวิญญาณความเสียใจดวงนี้

 

ฟางหยวนกระตุ้นใช้วิธีการตรวจสอบทั้งหมดของเขา ค่ายกลวิญญาณค่อยๆปรากฏขึ้นในใจของเขาแต่มันก็ทําให้ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดเผือด

 

“ค่ายกลวิญญาณนี้ช่างทรงพลังนัก! มันยิ่งใหญ่ราวกับท้องฟ้า! ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของข้าไม่ต่ําต้อย วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาของข้ายิ่งทรงพลัง แต่ขากลับต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายสิบปีเพื่อทําความเข้าใจค่ายกลนี้!”

 

เหงื่ออันเย็นเยียบไหลลงมาจากหน้าผากของฟางหยวน หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อค้นพบบางสิ่ง “วิญญาณความเสียใจ!”

 

เขาพบมันแล้ว

 

แม้วิญญาณความเสียใจจะถูกซ่อนไว้ แต่ฟางหยวนรู้แล้วว่ามันอยู่ที่ใด

 

“ข้าควรทําอย่างไรเพื่อให้ได้รับมันมา โดยไม่กระตุ้นการตอบโต้ของค่ายกลวิญญาณอมตะ!”

 

บางทีข้าอาจพึ่งพาเกราะหวนคืนเพื่อต่อต้านมัน”

 

“หรือข้าควรหยิบยืมพลังอํานาจของปีศาจอมตะที่ถูกผนึกไว้?”

 

ฟางหยวนวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องอยู่ในใจ

 

หากปีศาจอมตะถูกปลดปล่อย สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกใบเล็กใบนี้อาจเผชิญหน้ากับภัยพิบัติครั้งใหญ่ แต่ฟางหยวนไม่วิตกและไม่สงสาร

 

ขณะที่เขากําลังไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องนี้ การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้น

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะทํางานด้วยตัวของมันเอง วิญญาณความเสียใจพุ่งตรงมาที่ฟางหยวน!

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น!?” ฟางหยวนถูกส่งออกจากถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าทันที