เฉินหู่และซินเหวยออกจากบ้านแล้ว บ้านเฉินก็ดี บ้านซินก็ดี บรรยากาศต่างเศร้าสลดไปในชั่วขณะ 

 

 

เฉินเยี่ยนก็ดูออก ดังนั้นเลยอุ้มเด็กสองคนมาเล่นหน้าคนแก่บ่อยๆ มีเด็กทดแทน บ้านซินก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว 

 

 

ส่วนบ้านเฉินมีเฉินฉือหลิวและเฉินเฟยเด็กสองคนอยู่ แล้วยังมีเฉินกุ้ยและหลัวเหมยอยู่ด้วย หวางนิวเสียใจไปสองวันก็ไม่เป็นอะไรแล้ว 

 

 

เฉินหู่และซินเหวยจะโทรมาแจ้งข่าวคราวทุกสองวัน ถึงแม้พวกเขาจะบอกว่าทุกอย่างนั้นดี แต่เฉินเยี่ยนรู้ พวกเขาไม่ได้ราบรื่น 

 

 

ที่จริงเฉินเยี่ยนคิดไว้แล้ว มีความสำเร็จที่ได้มาง่ายๆ แบบนี้ที่ไหน ถ้าเฉินหู่และซินเหวยอยากจะตั้งเนื้อตั้งตัว อยากจะประสบความสำเร็จ เส้นทางหลังจากนี้ยังอีกยาวไกลนัก 

 

 

ตอนที่ลูกอายุครบร้อยวัน ซินห้าวขี่มอเตอร์ไซค์พาเฉินเยี่ยนและลูกสองคนไปร้านถ่ายรูปเพื่อถ่ายรูปลูกเกิดครบหนึ่งร้อยวัน 

 

 

การถ่ายรูปเป็นไปด้วยดี เด็กสองคนน่ารักมาก ยิ้มอย่างมีความสุข 

 

 

ช่างถ่ายภาพยังชมเลย รอยยิ้มไม่จางหายไปจากใบหน้าเฉินเยี่ยน รู้สึกเป็นสุขและภาคภูมิใจออกมาจากใจ นี่คือลูกของเธอ! 

 

 

ซินห้าว เฉินเยี่ยนและลูก ทั้งครอบครัวสี่คนก็ถ่ายรูปไปสองใบ 

 

 

เดิมทีเป็นเรื่องที่น่าดีใจแต่มาถึงตอนเย็นเฉินเยี่ยนก็เริ่มกังวลใจแล้ว เพราะลูกทั้งสองคนเริ่มไม่สบาย 

 

 

ซินเช่อดีขึ้นหน่อย ซินหรูเยว่กินนมเสร็จก็แหวะนมออกมา 

 

 

เห็นลูกอาเจียนนมพุ่งออกมา เฉินเยี่ยนก็กังวลใจ 

 

 

เพราะเป็นตอนกลางคืน ไปหาหมอไม่ได้ ลูกอาเจียนเสร็จก็ร้องไห้ใหญ่ ซินเช่อก็ร้องไห้ตาม เฉินเยี่ยนโอ๋คนนี้แล้วก็มาโอ๋คนนั้น เห็นพวกเขาร้องไห้ทรมานจนเหนื่อยก็หลับไป เฉินเยี่ยนรู้สึกเหมือนมีคนเอามีดมาควักหัวใจเธอ 

 

 

“รู้อย่างนี้ไม่ไปก็ดี ต้องเป็นเพราะระหว่างทางตากลมเจอไอเย็นแน่เลย คุณว่าทำไมจะต้องให้พวกเขาถ่ายรูปให้ได้ ไม่ถ่ายก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย” 

 

 

เฉินเยี่ยนรู้สึกผิด ตอนนี้อากาศหนาว เธอคิดว่าห่อลูกหนาๆ ไว้จะไม่เป็นไร ใครจะไปคิดว่าสุดท้ายลูกจะป่วย 

 

 

ตามหลักแล้วทารกที่เกิดภายในหกเดือนจะไม่ป่วยงาย แต่เพราะตัวเองพาลูกไปถ่ายรูปเลยทำให้ลูกสูดไอเย็นเข้าไป เป็นเพราะเธอเป็นแม่ที่ไม่ระวังเลย 

 

 

“อย่าคิดแบบนี้ พวกเราก็ไม่ได้คิด โทษคุณไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะผมขี่รถเร็วไป ไม่เป็นไร ไม่แน่พรุ่งนี้เช้าลูกก็ดีขึ้นแล้ว 

 

 

ซินห้าวปลอบใจเฉินเยี่ยน เขารู้ว่าเฉินเยี่ยนเสียใจ เขาก็ทรมานเช่นกัน 

 

 

เฉินเยี่ยนพยักหน้า เธอก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น 

 

 

แต่มาถึงวันรุ่งขึ้นเยว่เยว่ไม่ได้ดีขึ้นเลย เธอกินนม กินเสร็จเฉินเยี่ยนตบหลังเธอเสร็จ พอวางเธอลง ไม่กี่นาทีเธอก็อาเจียนออกมา 

 

 

อาการของซินเช่อยังดีหน่อย ถึงแม้จะไม่อาเจียนเหมือนเยว่เยว่ แต่เขาก็ดูหงอยซึม ไม่สดใส 

 

 

อีกอย่างพอเยว่เยว่ร้องไห้ เขาก็ร้องไห้ตาม ดูน่ากังวลใจ 

 

 

ครอบครัวซินก็เป็นห่วง อุ้มไปดูที่สถานีอนามัย สถานีอนามัยบอกว่าโดนความเย็น สั่งยาให้ ให้เอาแป้งม้วนป้อนให้เด็ก 

 

 

เฉินเยี่ยนไม่เคยป้อนยามาก่อน คุณย่าและป้ารองไป๋ซิ่วเหมยมาช่วย 

 

 

เห็นท่าทางพวกเธอป้อนยาแล้ว เฉินเยี่ยนตาแดงหันหน้าไป 

 

 

ไม่ง่ายเลยกว่าจะป้อนยาลงไป ยังไม่ทันได้สบายใจ เยว่เยว่ก็อาเจียนออกมาอีกแล้ว 

 

 

ได้ยินเสียงลูกร้องไห้เหมือนปอดจะฉีก เห็นเธอถีบเท้าขึ้นมา น้ำตาเฉินเยี่ยนก็ไหลออกมา  

 

 

“ไม่ต้องเสียใจ ตอนเด็กทุกคนก็แหวะนมออกมากันหมด ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นไร” 

 

 

ไป๋ซิ่วเหมยปลอบเฉินเยี่ยน 

 

 

เฉินเยี่ยนพยักหน้า โอ๋เยว่เยว่เสียงเบา 

 

 

มาถึงตอนกลางวันเฉินเยี่ยนป้อนนมเยว่เยว่ ยังไม่ทันกินเสร็จ เยว่เยว่ก็อาเจียนใส่ตัวเฉินเยี่ยน 

 

 

เฉินเยี่ยนไม่สนใจความสกปรกบนตัว เธอร้อนใจ ปรึกษากับซินห้าว จะพาเยว่เยว่ไปหาหมอในเมือง 

 

 

ซินห้าวก็เป็นพ่อคนครั้งแรก เขาไม่มีประสบการณ์เรื่องพวกนี้ ถึงแม้คุณย่ากับป้ารองจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เห็นสายตาเฉินเยี่ยนทั้งร้อนใจทั้งเป็นห่วง เขาก็คิดว่าพาไปดีกว่า 

 

 

ซินห้าวเลยขี่รถพาเฉินเยี่ยนไปโรงพยาบาล 

 

 

หลังคุณหมอตรวจก็บอกว่าโดนไอเย็น แล้วสั่งยาให้ 

 

 

ส่วนฉีดยาที่ก้น คุณหมอไม่ได้บอกว่าไม่ได้ เพียงแต่เด็กยังเล็ก บางครั้งกลัวว่าจะขวัญเสีย ส่วนให้น้ำเกลือ ยุคนี้ยังไม่มีเทคนิคเท่ายุคหลัง เด็กเล็กขนาดนี้ฉีดยาก 

 

 

พวกเขาจึงต้องพาลูกกลับ 

 

 

เฉินเยี่ยนไม่อยากให้ลูกโดนฉีดยาเจ็บ แต่ลูกก็กลืนยาไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่มีวิธี เธอมืดมนไปหมด 

 

 

สุดท้ายเฉินเยี่ยนนึกถึงหลุมอวกาศขึ้นมา เลยติดต่อหลุมอวกาศ หลุมอวกาศบอกเธอ ไม่ต้องกินยาก็ได้ บอกว่าเด็กได้รับไอเย็นในท้องถ่ายไม่ออก ดังนั้นเลยอาเจียนออกมา บอกเฉินเยี่ยนอย่าเพิ่งให้เด็กกินอะไร ให้หิวไปสองวัน จนลมในท้องเด็กโดนไล่ออกมาหมดแล้วถ่ายอีกรอบ ก็จะดีขึ้น 

 

 

พูดฟังดูง่าย แต่เด็กเล็กขนาดนี้ไม่รู้เรื่องอะไร ไม่ให้เธอกิน เธอจะร้องไห้เพราะความหิว 

 

 

ไป๋ซิ่วเหมยอยากจะช่วยดูแล เฉินเยี่ยนรู้ว่าไม่ให้ลูกกินอะไร ใครดูแลก็ไม่มีประโยชน์ ให้ป้ารองกลับไป แค่เธอก็พอแล้ว ไม่ต้องให้ทุกคนไม่ได้นอนตอนกลางคืน 

 

 

เฉินเยี่ยนสงสารอุ้มลูกเดินไปมาในบ้าน ไม่ง่ายเลยกว่าจะกล่อมจนหลับ ยังไม่ทันวางลง ลูกก็เบะปากเล็ก ร้องไห้เพราะอยากจะกินขึ้นมาอีก 

 

 

ระหว่างนั้นเฉินเยี่ยนต้องหาเวลามาป้อนนมซินเช่อ โชคดีที่มีซินห้าวคอยผลัดเปลี่ยนช่วยเธอกล่อม ไม่อย่างนั้นเฉินเยี่ยนไม่รู้ว่าจะรับมือยังไง 

 

 

เฉินเยี่ยนไม่รู้ว่าเธอทนผ่านมาได้ยังไง เห็นลูกร้องไห้หิว เธอทนไม่ไหว แต่ไม่ป้อน ทำได้เพียงอุ้มปลอบเสียงเบา สายตาเธอเต็มไปด้วยเส้นเลือด ผมเธอยุ่งเหยิง ลำคอเธอก็แหบแห้ง แต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไร เธอมีเพียงความคิดเดียว นั่นคือหวังให้ลูกรีบหายเร็วๆ 

 

 

ทนผ่านมาได้สองวัน เยว่เยว่ถ่ายออกมา ลมในท้องก็ออกมาหมด เธอคุยกับหลุมอวกาศ รู้ว่าได้แล้ว เฉินเยี่ยนถึงให้เธอกิน 

 

 

เห็นลูกออกแรงดูด กลืนกินอย่างตะกละ เฉินเยี่ยนดีใจจนร้องไห้ รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของการเป็นแม่ครั้งแรก ครั้งแรกที่รู้สึกว่าชีวิตนั้นมีค่า 

 

 

ครั้งนี้เยว่เยว่ไม่อาเจียนออกมาอีก รอหนึ่งชั่วโมง เยว่เยว่ก็ยังนอนหลับนิ่ง เฉินเยี่ยนถึงค่อยตัวอ่อนปวกเปียกไปอยู่บนเตียง รู้สึกว่าทั้งตัวชาไปหมด ขยับไม่ไหวแล้ว 

 

 

คืนนี้เป็นคืนที่สงบ นี่เป็นครั้งแรกในสามวันที่เฉินเยี่ยนสบายใจ และเป็นครั้งแรกในสามวันที่เฉินเยี่ยนหลับตาลง 

 

 

เห็นภรรยาและลูกหลับสนิท ซินห้าวนัยน์ตาแดงทั้งสองข้างลูบไปที่ใบหน้าเฉินเยี่ยนและลูก หลายวันนี้เขาลำบากมาก แต่เฉินเยี่ยนลำบากกว่า หลายวันนี้เฉินเยี่ยนแทบจะอุ้มเยว่เยว่ที่ไม่รู้เรื่องร้องไห้เพราะหิวอยากนมตลอดเวลา 

 

 

ตอนกลางวันป้ารองอยากจะเปลี่ยนเวรกับเฉินเยี่ยน แต่พอคนอื่นอุ้ม เยว่เยว่ก็ร้องไห้หนัก เฉินเยี่ยนทนไม่ไหวร้องไห้เพราะให้ลูกกินไม่ได้ เลยได้แต่อุ้ม ความลำบากนี้ คนที่ไม่เคยประสบ ก็ยากที่จะเข้าใจ 

 

 

ที่แท้การดูแลเด็กนั้นลำบากแบบนี้ ลูกป่วย คนที่ลำบากสุดคือแม่ 

 

 

วินาทีนี้ ซินห้าวไม่ถือโทษซุนหม่านเซียงแล้ว 

 

 

บางทีตอนเด็กเขานำภัยพิบัติมาให้ ร่างกายอ่อนแอ ตอนแรกซุนหม่านเซียงก็เหมือนเฉินเยี่ยนดูแลเขาแบบนี้ สงสารเขา นานเข้าร่างกายก็ทนไม่ไหวแล้ว ไม่มีจิตใจจะดูแลเขาแล้ว ดังนั้นเลยส่งเขาไป 

 

 

ถ้ามีทางเลือก คิดว่าเธอก็คงไม่ใจร้ายส่งตัวเองไป คิดว่าตอนนั้นในใจเธอก็คงเสียใจเช่นกัน 

 

 

หลังผ่านการป่วยครั้งนี้ เฉินเยี่ยนกับซินห้าวก็ยิ่งตั้งใจดูแลลูกทั้งสองคน