ตอนที่ 688: ได้รับยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ
“น้องเจี้ยนเฉิน ระวังยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎในมือของเขาด้วย เจ้าต้องไม่รับมันซึ่งซึ่งหน้า” คำเตือนของหวงเทียนป้าผุดขึ้นมาในใจของเจี้ยนเฉิน อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้ากับยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่กำลังพุ่งตรงมาหาเขานั้น เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะหลบเลยแม้แต่น้อย ความบ้าคลั่งปรากฏที่นัยน์ตาของเขา ขณะที่พลังบรรพกาลหลั่งไหลออกมาจากร่างบรรพกาลของเขา ซึ่งปกคลุมไปทั่วทั้งหมัดขวาของเขา เขาแกว่งหมัดตรงไปที่ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่กำลังพุ่งเข้ามา
ในตอนนี้เจี้ยนเฉินต้องการที่จะรับมือกับยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่ทรงพลังด้วยมือเปล่าของเขา นี่เป็นเพราะเขามั่นใจในพลังป้องกันของร่างบรรพกาลของเขามาก ความแข็งแกร่งของจินเทียนในชั้นสวรรค์ที่ 3 รวมกับ ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎนั้น มันคงเทียบได้กับชั้นสวรรค์ที่ 4 ซึ่งเหมือนกับซิตูชิงของนิกายพยัคฆ์มังกร และมันไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับชั้นสวรรค์ที่ 5 ดังนั้นแม้ว่าการโจมตีนั้นจะทำให้เจี้ยนเฉินบาดเจ็บ แต่ก็คงจะไม่ร้ายแรงมาก
“เจี้ยนเฉิน เจ้ามันรนหาที่ตาย ! ” การที่ได้เห็นเจี้ยนเฉินจะใช้แค่เพียงร่างกายของเขาเพื่อป้องกันยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ ปากของจินเทียนก็บิดเบี้ยวไปด้วยความเย้ยหยัน นี่เป็นเพราะว่าพลังของยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎนั้นแข็งแกร่งมาก ที่แม้แต่คนที่อยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 6 ยังไม่กล้าที่จะรับการโจมตีตรง ๆ และความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินก็ยังห่างไกลจากระดับนั้น
ปัง ! หมัดของเจี้ยนเฉินปะทะกับขอบของยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎและทำให้เกิดเสียงเหมือนเหล็กกระทบกับหิน หมัดของเจี้ยนเฉินไม่ได้เหมือนกับส่วนอื่นของร่างกาย มันแข็งแรงดังเหล็ก
หมัดและยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎกระเด็นออกจากกันทันทีที่ปะทะกัน ซึ่งเกิดจากการสะท้อนกลับของพลังที่มหาศาล ทั้งสองคนกระเด็นออกห่างกันจากพลังสะท้อนที่แข็งแกร่ง และทั้งสองคนก็ตั้งตัวได้หลังจากกระเด็นออกไปประมาณ 100 เมตร
สิ่งที่เห็นได้คือการบาดเจ็บที่ดูแย่ที่หมัดขวาของเจี้ยนเฉิน มันลึกลงไปถึงกระดูกและตัดไปถึงครึ่งของนิ้วของเขา เลือดไหลอาบทั่วทั้งหมัดของเขา
ห่างไปร้อยเมตร จินเทียนจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความประหลาดใจ เขาร้องออกมาด้วยความไม่เชื่อ “นี่ มันเป็นไปได้อย่างไร ! มือของเจ้ามันทำด้วยอะไรกัน ! ? ” ร่างกายของมนุษย์ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ ! ข้าใช้ ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎแต่มันก็ไม่สามารถตัดแขนของเจ้าออกมาได้ ! นี่ นี่มันเป็นไปไม่ได้”
มองไปที่จินเทียนซึ่งกำลังประหลาดใจ เจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นถึงความเย้ยหยัน เขาจ้องมองมือที่ชุ่มเลือดของเขาและคิดเล็กน้อย พลังบรรพกาลได้พุ่งออกมาจากตันเถียนของเขา หลังจากนั้น มันก็ไหลอย่างรวดเร็วไปที่มือขวาของเขา
ในตอนนี้ พลังบรรพกาลแห่งการทำลายล้างดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นพลังในการฟื้นฟูชีวิต และเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บที่มือของเจี้ยนเฉินด้วยความรวดเร็ว เร็วกว่าพลังของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง
ร่างบรรพกาลของเจี้ยนเฉินนั้นมีความสามารถในการฟื้นตัวที่สูงมาก แต่หลังจากที่ใช้พลังบรรพกาลไปได้ซักพัก เจี้ยนเฉินก็ได้มาค้นพบว่ามันทำอย่างอื่นที่มหัศจรรย์ได้ ถ้ารวมพลังบรรพกาลไปบริเวษที่บาดเจ็บ มันจะทำให้อาหารบาดเจ็บฟื้นคืนได้เร็วขึ้น
อาการบาดเจ็บที่มือของเจี้ยนเฉินนั้นฟื้นฟูในระดับที่สังเกตได้ แม้ว่าผิวหนังหรือกระดูกที่นิ้วของเขาหัก แต่มันก็ถูกรักษาแล้ว เลือดสด ๆ ที่มือของเขาเหมือนจะมีชีวิตและไหลกลับเข้าไปทางบาดแผลที่มือของเขา
จินเทียนถลึงตาโต แล้วจ้องไปที่ฝ่ามือของเจี้ยนเฉิน เขาอยู่มานาน แต่นี้ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอะไรที่เหนือจินตนาการเช่นนี้
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ มือขวาของเจี้ยนเฉินก็หายสนิทและดูไม่ต่างจากตอนปกติเลย มันไม่มีแม้แต่รอยเลือดเหลืออยู่
“นี่ นี่ นี่มันเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้จริง ๆ ” ความตกใจก่อตัวขึ้นในใจของจินเทียน ในขณะที่เขาพึมพำไปด้วยความสิ้นหวัง แม้ว่าเขาจะเป็นถึงเซียนผู้คุมกฎ เขาก็ยังประหลาดใจกับสิ่งที่เพิ่งเห็นอยู่ดี
ขณะที่จินเทียนรู้สึกสิ้นหวังอยู่นั้น รอยแยกเล็ก ๆ ก็เกิดขึ้นกลางอากาศตรงหน้าของเขา ลูกธนูที่ประกอบด้วยพลังแห่งธรรมชาติได้มาถึงเขาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย และพุ่งตรงทะลุผ่านอกของจินเทียน
ฟึบ ! รูขนาดเท่านิ้วปรากฏขึ้นบนหน้าอกของจินเทียนและเริ่มขยายออก ในพริบตาเดียว มันก็ขยายเป็นขนาดเท่ากับกำปั้น ทะลุผ่านหน้าอกของเขา เลือดสีแดงสดพุ่งออกมาจากตัวของจินเทียนเหมือนน้ำพุ และปกกคลุมเสื้อของเขาไปด้วยสีแดงอย่างรวดเร็ว
เสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดดังออกมาจากปากของจินเทียนและผิวหนังของเขาก็เริ่มซีด เขาโงนเงนอยู่กลางอากาศและเกือบที่จะตกลงมา การที่ถูกโจมตีด้วยธนูจากพลังงานของโลกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ แค่ธนูดอกเดียวถึงกับทำให้เซียนผู้คุมกฎถึงกับบาดเจ็บหนัก
ความสนใจปรากฏขึ้นบนตาของเจี้ยนเฉิน เขารู้ว่านี้เป็นโอกาสอันดีที่จะฆ่าจินเทียนในพริบตาเดียว เขาใช้ พลังมิติเพื่อย่นระยะทางข้างหน้าร้อยเมตรเพื่อไปถึงตรงหน้าจินเทียน เขาใส่พลังบรรพกาลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลไปที่มือขวาที่เพิ่งหายดีแล้วเหวี่ยงมันไปที่หัวของจินเทียน
จินเทียนเพิ่งจะได้รับบาดเจ็บหนัก ดังนั้นพลังของเขาจึงลดลงไปอย่างมาก หมัดของเจี้ยนเฉินเหมือนจะหลอมรวมไปกับอากาศ และกระแทกไปที่หัวของจินเทียนดุจดั่งสายฟ้า
ปัง ! เสียงอื้ออึงดังขึ้น หัวของจินเทียนถูกกระแทก ซึ่งทำให้ตัวเขาลอยกระเด็นถอยหลังไป กะโหลกของเขาแตกและเลือดของเขาไหลพุ่งออกมาเหมือนดอกไม้ที่สวยงามกำลังบานอยู่กลางอากาศ
เจี้ยนเฉินรู้ดีว่าถ้าไม่กำจัดวิญญาณของเซียนผู้คุมกฎที่แข็งแกร่งไปละก็ มันก็จะเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเขา ถึงแม้ว่าหัวของเขาจะถูกเจาะเป็นรูก็ตาม เจี้ยนเฉินจึงไม่ลังเลและไล่ตามจินเทียนที่โดนกระแทกลอยถอยหลังไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้าโดยการใช้พลังมิติ เขาเหวี่ยงหมัดดุดันออกไปอีกครั้งที่หัวของจินเทียน
ตูม ! ครั้งนี้ หัวของจินเทียนแตกกระจายออกจากกันด้วยหมัดของเจี้ยนเฉิน มันสมองสีขาวผสมกับเลือดกระจายออกไปทุกทิศทาง ด้วยเหตุนี้ จินเทียนจึงร่วงลงมาจากท้องฟ้า
การที่ได้เห็นหัวของจินเทียนหลุดออกมาแล้ว เขาจึงถอนหายใจ มันไม่ง่ายเลยที่จะกำจัดเซียนผู้คุมกฎ ถ้าจินเทียนไม่ได้รับบาดเจ็บหนักจากลูกธนูของหวงเทียนป้าละก็ เจี้ยนเฉินคงไม่สามารถล้มเซียนผู้คุมกฎที่แข็งแกร่งนี้ได้ง่ายดายขนาดนี้
สายตาของเจี้ยนเฉินหยุดอยู่ที่ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎซึ่งศพของจินเทียนจับอยู่แน่น เขาคว้ามันมาและยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่รูปร่างคล้ายกระบี่ก็ลอยออกจากมือของจินเทียนไปหาเขา
การที่ได้จับกระบี่บาง ๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกับกระบี่วายุโปรยนั้น เจี้ยนเฉินหวนนึกถึงวันเก่า ๆ ที่เขาเดินทางโดยใช้เพียงกระบี่เท่านั้น
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เขาพบอาวุธที่เหมาะสมกับเขาแล้ว ซึ่งทำให้เขาเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่ได้
ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินสะดุ้งเล็กน้อย เขาละสายตาจากยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่เพิ่งได้รับมาและมองลงไปข้างล่างด้วยความสนใจ เขามองเห็นกะโหลกที่แหลกนั้น ทันใดนั้นลูกบอลสีขาวก็ออกมา ทันทีที่ลูกบอลสีขาวนั้นปรากฏ มันก็เริ่มที่จะหนีไปให้ไกลด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า
ควับ !
หลังจากที่ลูกบอลลอยไปได้แค่ไม่กี่ร้อยเมตร ลูกศรสีเงินก็ไล่ตามหลังมันไปและพุ่งทะลุมัน
“อ่า ! ” เสียงร้องอย่างหดหู่ดังก้องมาจากลูกบอลสีขาวนั้นและแสงจากลูกบอลก็กระจายหายจนดับสนิทไปหลังจากนั้นไม่นาน
“น้องเจี้ยนเฉิน เซียนผู้คุมกฎนั้นได้กลั่นเอาวิญญาณดั้งเดิมของมันออกมา ด้วยการกำจัดวิญญาณดั้งเดิมของมันเท่านั้นถึงจะถือว่าเป็นการฆ่าเซียนผู้คุมกฎที่แท้จริง ลูกบอลที่มีแสงนั้นคือวิญญาณดั้งเดิมของจินเทียน” หวงเทียนป้ากล่าวกับเจี้ยนเฉินด้วยรอยยิ้มในขณะที่เขารีบเดินตามมา