ตอนที่ 689: กระบี่สังหารมังกร
“มันเป็นเช่นนั้นหรือ ? ข้าคิดว่าเซียนผู้คุมกฎก็เหมือนกับเซียนสวรรค์ ทันทีที่หัวของเขาถูกกำจัด วิญญาณของเขาก็จะแตกดับลง” เจี้ยนเฉินกล่าวด้วยความประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงรู้สึกสงสัย ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกถึงวิญญาณดั้งเดิมที่หวงเทียนป้ากำลังพูดถึงข้างในตัวเขาเลย ?
“บางทีอาจเป็นเพราะจิตวิญญาณกระบี่ได้รวมกับการมีอยู่ของข้า ทำให้วิญญาณของข้าเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนี้คือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงไม่สามารถกลั่นวิญญาณดั้งเดิมออกมาได้ ? ” เจี้ยนเฉินถามตัวเองในใจ
หวงเทียนป้าหัวเราะเบา ๆ “วิญญาณดั้งเดิมของเซียนผู้คุมกฎนั้นยากมากที่จะจัดการ และมันก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนของเซียนสวรรค์ ถ้าแค่หัวถูกทำลายละก็ มันไม่เพียงพอที่จะกำจัดวิญญาณดั้งเดิมได้ ต้องออกแรงเพิ่มอีกเล็กน้อย ครั้งนี้ถ้าเราปล่อยให้วิญญาณดั้งเดิมของจินเทียนหนีไปได้ละก็ เขาจะต้องกลับมาอยู่ในสภาพเดิมโดยใช้เวลาไม่นานนักแน่”
เมื่อได้ยินดังนั้น สายตาของเจี้ยนเฉินก็ฉายแววถึงความประหลาดใจ “เซียนผู้คุมกฎสามารถที่จะสร้างร่างกายใหม่ได้โดยอาศัยแค่วิญญาณดั้งเดิมแค่นั้นหรือ ? “
“นั่นก็ไม่ใช่เสมอไป แม้ว่าเซียนผู้คุมกฎจะแข็งแกร่งมาก แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีพลังที่น่ากลัวอะไรแบบนั้น” หวงเทียนป้าส่ายหัวและอธิบาย “นี่เป็นเพราะว่าวิญญาณดั้งเดิมของเซียนผู้คุมกฎนั้นมีความสามารถที่จะสิงร่างของคนอื่นและมีชีวิตอยู่ในอีกรูปแบบหนึ่ง”
“สิงร่าง ? ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าเซียนผู้คุมกฎจะมีความสามารถแบบนั้น” หลังจากที่ได้ยินหวงเทียนป้าพูด เจี้ยนเฉินก็เข้าใจถึงพลังของเซียนผู้คุมกฎมากขึ้น
หวงเทียนป้ามองไปที่ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่อยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน “นี่เป็น 1 ใน 2 ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎของตระกูลหวงฟู่ กระบี่สังหารมังกร ตำนานเล่าขานว่าเจ้าของเดิมของยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎนี้ได้ฆ่ามังกรที่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับ 7 และย้อมกระบี่นี้ไปด้วยเลือดของมังกรดำ ด้วยเหตุนี้ กระบี่นี้จึงถูกเรียกว่ากระบี่สังหารมังกรจากเจ้าของคนแรกของมัน น้องเจี้ยนเฉินรู้สึกว่ากระบี่นั้นเหมาะมือหรือไม่ ? “
สายตาของเจี้ยนเฉินหยุดอยู่ที่ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่เขาเพิ่งได้รับ บางทีอาจเป็นเพราะกระบี่ไม่ได้รับพลังเซียน จึงทำให้แสงที่ออกมาจกากระบี่สังหารมังกรไม่สว่างออกมาเท่าที่ควร มันเป็นแค่กระบี่ที่เหมือนถูกฉาบไปด้วยชั้นของแสงระยิบระยับที่พร่ามัว ดังนั้นมันจึงดูเหมือนเป็นกระบี่ธรรมดา ๆ
การที่มองไปยังชั้นแสงลาง ๆ นั้น เจี้ยนเฉินสามารถเห็นได้ลางลางว่ากระบี่สังหารมังกรนั้นมีความกว้าง 2 นิ้วและเหมือนมีมังกรมีชีวิตอยู่ด้านใน เขาไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่นั้นได้ยังไง
การที่ได้ถือกระบี่สังหารมังกรนั้น เจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความรู้สึกยินดี กระบี่ทำให้บุคลิกของเขาเปลี่ยนไป จากคนธรรมดากลายไปเป็นเหมือนคนที่ดูโดดเด่น กระบี่ที่ล้ำค่านี้ต้องการจะแสดงพลังของมัน
ในตอนนั้นเอง เจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไป มันเหมือนว่าเขาได้กลายเป็นเทพกระบี่ เทพกระบี่ที่อยู่ระหว่างสวรรค์และโลก
สายตาของหวงเทียนป้าดูเคร่งเครียดขึ้นมา เขารู้สึกการเพิ่มขึ้นของปราณกระบี่จากกลิ่นอายของเจี้ยนเฉิน ปราณกระบี่นั้นเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้แม้แต่เขายังรู้สึกกลัว
ฮืม ! ทันใดนั้น แขนของเจี้ยนเฉินก็สั่น กระบี่สังหารมังกรในมือของเขาก็ส่งเสียงก้องต่ำ ๆ เสียงเหมือนมังกรดำที่กำลังคำรามด้วยความเจ็บปวดและเศร้าเสียใจ หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็เหวี่ยงแขนของเขาไปด้วยความเร็วสูง โจมตีออกไปด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ กระบี่สังหารมังกรกลายเป็นภาพซ้อนติดตากันหลายภาพปกคลุมไปทั่วอากาศข้างหน้าเขา ภาพซ้อนนั้นรวมกันเป็นกลุ่มก้อนตนยากที่จะบอกว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ
“เป็นการโจมตีที่รวดเร็วอะไรเช่นนี้ ข้าไม่เคยเห็นการฟันที่รุนแรงแบบนี้มาก่อน น้องเจี้ยนเฉินเก็บงำความสามารถไว้เยอะเหลือเกิน ใครจะคิดว่าการใช้กระบี่ของเจ้าจะยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้” หวงเทียนป้าอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
หลังจากที่ใช้มัน ใจของเจี้ยนเฉินก็แทบหยุดเต้น เขามองไปที่กระบี่ด้วยความยินดี ในเวลานั้นเอง ความตื่นเต้นของเขาก็พุ่งไปถึงขีดสุด ไม่เพียงแค่ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎนี้จะชดเชยความเชื่องช้าที่เขาใช้มือเปล่าเท่านั้น มันยังสามารถทนพลังบรรพกาลได้ด้วย นี่ทำให้เขาแสดงความสามารถได้ดียิ่งขึ้น
แม้ว่าการใช้พลังบรรพกาลร่วมกับร่างบรรพกาลจะเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างมากให้กับเขาในการต่อสู้ แต่เขาก็เป็นแค่มือกระบี่ มือกระบี่ที่ทรงพลัง มีแค่กระบี่เท่านั้นที่ทำให้เขาสบายใจ
ในตอนนี้ เสียงดังกึกก้องจำนวนมากดังมาจากที่ไกล ๆ เกิน 5 กิโลเมตร พวกเขาเห็นไกล ๆ ว่า ยอดเขาหลายยอดได้พังทลายลงมาและหินจำนวนมากกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า พลังงานที่ทรงพลังเพิ่มขึ้นและกลายเป็นลมหมุน ซึ่งทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเดินทางผ่าน มันทำให้เสื้อของเจี้ยนเฉินและหวงเทียนป้าสะบัดไปมา แม้ว่าต้นกำเนิดลมจะอยู่ไกลกว่า 5 กิโลเมตร
“น้องเจี้ยนเฉิน ท่านพักสักครู่ก่อน ข้าจะไปช่วยนูบิสฆ่าจิ้งเฟิง” หวงเทียนป้าบอกเจี้ยนเฉินและบินออกไปพร้อมกับคันธนูของเขา
ในที่ห่างไกลออกไป นูบิสและจิ้งเฟิงกำลังติดอยู่ในการต่อสู้ที่ดุเดือด แม้ว่าพวกเขาจะฝึกฝนมาอยู่ในระดับเดียวกัน แต่นูบิสคือสัตว์อสูรในตำนาน ความสามารถในการต่อสู้ของเขาเทียบได้กับเซียนผู้คุมกฎในชั้นสวรรค์ที่ 6 แม้จะใช้ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ จิ้งเฟิงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนูบิสแม้แต่น้อย ดังนั้นมันจึงเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากสำหรับเขา เขายังได้รับพิษจากอสรพิษทองริ้วเงินอีกด้วย มันแพร่กระจายไปทั่วร่างของเขา ผิวของจิ้งเฟิงเริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีม่วงคล้ำ
“เจ้าเฒ่า แม้ว่าเจ้าจะมียุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ แต่ต่อหน้าข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ มันก็ไร้ค่า เตรียมตัวตายได้แล้ว” นูบิสหัวเราะเสียงดัง เขาดูถูกจิ้งเฟิงอย่างหมดเปลือก
“นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ ข้า หวงเทียนป้ามาช่วยเจ้าแล้ว” หวงเทียนป้ารีบพุ่งมาข้างหลังเขา