อานหลิงหัวคือลูกชายของอานซื่อเฉิง ที่เฉินโม่ช่วยไว้ในวันนั้น แต่หลังจากอานหลิงหัวได้ฟังเรื่องราวของเฉินโม่ เขาไม่ยอมรับว่าเฉินโม่ช่วยตระกูลอานเอาไว้ หนำซ้ำยังคิดว่าตระกูลอานของเขาช่วยเฉินโม่ด้วย

ไม่งั้นเฉินโม่แค่คนเดียว ไม่มีทางต่อต้านตระกูลกงซุนได้หรอก

จั่วเยว่เอ๋อร์พูดอย่างโมโหว่า “เรื่องวันนั้นทุกคนเห็นประจักษ์ชัดแจ้ง ถ้าไม่ใช่เพราะผู้มีพระคุณช่วยเหลือไว้ ตระกูลอานของพวกนายคงกลายเป็นบันไดที่กงซุนจั่วเสวียนใช้วางอำนาจบาตรใหญ่ไปนานแล้ว นายไม่เพียงแต่ไม่รู้จักซาบซึ้งในพระคุณ ยังกล้าไร้มารยาทกับผู้มีพระคุณอีก อานหลิงหัว ทำไมนายถึงกล้าขนาดนี้!”

อานหลิงหัวเถียงไม่ออก แต่จะให้เขายอมรับเฉินโม่เป็นผู้มีพระคุณ ไม่มีทางเด็ดขาด!

อานหลิงหัวยิ้มเยาะ แล้วพูดว่า “จั่วเยว่เอ๋อร์ เธอยอมเป็นสุนัขรับใช้ของเขา อย่ามาลากตระกูลอานของเราไปด้วย คนอย่างอานหลิงหัวไม่มีทางเลียแข้งเลียขาเขาเหมือนเธอหรอก!”

“นาย!” จั่วเยว่เอ๋อร์โมโหจนพูดอะไรไม่ออก

จู่ๆ เสียงมีพลังของผู้ชายดังขึ้นทางด้านหลัง

“นายพูดแบบนี้ ฉันก็เป็นสุนัขรับใช้เหมือนที่นายพูดน่ะสิ”

ทุกคนอึ้งไป รีบหันไปมองทันที ชายวัยกลางคนดูท่าทางไม่ธรรมดา สวมชุดสูทสีดำประมาณสองสามคน เดินอกผายไหล่ผึ่งเข้ามา

คนที่เดินนำมาสีหน้าไม่สู้ดี แทบจะพ่นไฟออกมาจากตา เขาคืออานซื่อเฉิง ผู้นำตระกูลอาน พ่อของอานหลิงหัว

พวกลูกคนรวยที่มุงอยู่รอบๆ พูดอุทานด้วยความตกใจทันที “นี่คือพวกผู้มีอิทธิพลระดับสูงของมณฑลซีไห่!”

“นั่นคือผู้นำตระกูลอาน ยังมีผู้นำตระกูลจั่วด้วย……”

“ผู้มีอิทธิพลระดับสูงรวมตัวกัน ดูเหมือนงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ใกล้เริ่มแล้ว!”

อานหลิงหัวตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี รีบก้มตัวคำนับทำความเคารพ “พ่อ ลูกมิกล้า!”

อานซื่อเฉิงเดินเข้ามา จ้องอานหลิงหัวอย่างเย็นชา “แม้แต่ผู้มีพระคุณ นายยังกล้าไร้มารยาท ยังมีอะไรที่นายไม่กล้าทำอีก”

อานหลิงหัวเถียงข้างๆ คูๆ ว่า “พ่อ ลูกแค่ว่าไปตามเนื้อผ้า หวังว่าพ่อจะเข้าใจอย่าถ่องแท้!”

อานซื่อเฉิงจ้องอานหลิงหัวอย่างเย็นชา สีหน้าอึมครึม “อีกเดี๋ยวฉันค่อยคิดบัญชีเรื่องนาย”

พูดจบ อานซื่อเฉิงไม่สนใจอานหลิงหัวอีก รีบเดินมาข้างเฉินโม่ แล้วก้มตัวคำนับทำความเคารพ “อานซื่อเฉิงคารวะผู้มีพระคุณ!”

ประโยคที่อานซื่อเฉิงพูดออกมา ทำให้ฮือฮากันทั้งงาน

“คิดไม่ถึงว่าผู้นำตระกูลอานคนปัจจุบัน จะเรียกเด็กนั่นว่าผู้มีพระคุณ!”

“นี่มันเรื่องอะไรกัน! เด็กคนนั้นเป็นใครกันแน่”

พวกลูกคนรวยพากันตกใจและประหลาดใจมาก สายตาที่มองเฉินโม่เต็มไปด้วยความสงสัย

สีหน้าของอานหลิงหัวไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าพ่อตัวเองจะคำนับทำความเคารพ ศัตรูหัวใจที่แย่งผู้หญิงของตัวเอง และเรียกว่าผู้มีพระคุณ ต่อหน้าลูกคนรวยในมณฑลซีไห่นับไม่ถ้วนและนักเรียนอีกเยอะแยะด้วย จะให้อานหลิงหัวเอาหน้าไปไว้ไหน

เฉินโม่จำอานซื่อเฉิงได้ เขารู้สึกดีกับอานซื่อเฉิงมากเช่นกัน เขาพูดอย่างราบเรียบว่า “ไม่ต้องมีพิธีรีตองหรอก”

อานซื่อเฉิงยืดตัวตรง ทางด้านหลังพวกผู้มีอิทธิพลที่มากับเขา ก็รีบพากันเดินเข้ามาคำนับทำความเคารพเฉินโม่

“คารวะผู้มีพระคุณ!”

“ทุกท่านไม่ต้องเกรงใจหรอก ไม่ต้องคำนับหรอก!” เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ ใบหน้าไม่สะทกสะท้าน

ทุกคนยืดตัวตรง ยืนนอบน้อมอยู่ด้านข้าง

สายตาของอานซื่อเฉิงหันไปทางอานหลิงหัว ใบหน้าชราอึมครึมจนน่ากลัว “ไอ้ลูกเวร ยังไม่รีบมาคำนับสำนึกผิดกับผู้มีพระคุณอีก!”

คำนับสำนึกผิดเหรอ!

นี่……ครั้งนี้สนุกแล้ว!

พวกลูกคนรวยที่มุงดูอยู่ สีหน้าแต่ละคนดูมีชีวิตชีวา คิดไม่ถึงว่าคุณชายตระกูลอานผู้ยิ่งใหญ่ จะต้องคำนับสำนึกผิดให้ศัตรูหัวใจของตัวเอง!

ถ้าอานหลิงหัวทำแบบนี้จริง ต่อไปเขาจะสู้หน้าทุกคนยังไง

หลินเหม่ยหลิงมองภาพที่เหมือนละคร ตกใจจนอ้าปากค้าง นัยน์ตาที่มองเฉินโม่ยิ่งสงสัยเข้าไปอีก ความสนใจที่มีต่อเฉินโม่ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

บทที่ 1094
บทที่ 1096