“เรื่องนี้ทำให้ไม่ได้” หลินหว่านพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเป็นปกติ เหมือนกับเรื่องนี้ไม่กระทบใจเธอเลยแม้แต่น้อย
หลินหว่านเงยหน้าขึ้นสบตาฮั่วเทียนอวี่ น้ำเสียงเด็ดเดี่ยว “บุญคุณที่ฉันติดค้างคุณนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับเซียวจิ่งสือ ถ้าคุณยอมรับ ฉันสามารถช่วยคุณหางานให้ เรื่องเงิน ถ้าคุณขาดเหลืออะไร ฉันก็ช่วยคุณได้”
หลินหว่านเว้นวรรคแล้วพูดต่อไปว่า “แต่ว่า คุณต้องการบริษัทของเซียวจิ่งสือนั้น เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”
แสงแดดสดใสนอกหน้าต่าง ส่องผ่านเข้ามาภายในห้อง แต่กลับส่องมาไม่ถึงจิตใจที่ขุ่นมัวของฮั่วเทียนอวี่
ข้างหูพอได้ยินคำปฏิเสธอย่างเด็ดขาดของหลินหว่าน ฮั่วเทียนอวี่ก็โมโหพุ่งปรี๊ด เพราะเขารู้สึกว่าคำขอของเขาไม่เกินเลยสักนิดหนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่เขาควรจะได้! ตอนนี้เขาต้องตกต่ำขนาดนี้ ล้วนเป็นเพราะฝีมือไอ้เซียวจิ่งสือนั่นไม่ใช่รึไง? หลินหว่านกลับยังปกป้องมันขนาดนี้! นี่เธอยังเห็นเขาอยู่ในสายตารึเปล่ากันแน่!
เพลิงโทสะและทิฐิเผาผลาญจนสติสัมปชัญญะของฮั่วเทียนอวี่ขาดผึง
ในเมื่อเป็นแบบนี้… “ได้สิ ในเมื่อคุณไม่ยอกรับปากข้อเสนอนี้ งั้นผมเปลี่ยนเป็นอีกอย่างก็ได้” ฮั่วเทียนอวี่มองหลินหว่าน สายตาเป็นประกายวาววับอย่างหื่นกระหายแทบจะปริ่มออกมา “คุณพูดเองนะว่านี่เป็นบุญคุณที่คุณติดค้าง งั้นก็ใช้ตัวคุณมาชดใช้คืนก็แล้วกัน!”
ดวงตาหลินหว่านทอแววเหยียดหยันออกมาแวบหนึ่ง ยิ่งกว่านั้นก็คือความปวดใจที่ได้เห็นตัวตนของฮั่วเทียนอวี่ที่ถูกกิเลสครอบงำจนกลายเป็นแบบนี้
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ” หลินหว่านยังพยายามควบคุมน้ำเสียงของตัวเอง ไม่ทำให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความเยียบเย็น
“หึหึ ความหมายของผมชัดเจนอยู่แล้ว ผมต้องการให้คุณนอนกับผม!” ใบหน้าของฮั่วเทียนอวี่ปรากฏรอยยิ้มมาดมั่นเหมือนทุกอย่างอยู่ในกำมือ หลินหว่านเห็นแล้วอยากจะอ้วก
“หว่านหว่าน คุณทิ้งเซียวจิ่งสือมาอยู่กับผมเถอะ!” ฮั่วเทียนอวี่เลียริมฝีปาก “ผมจะดีกับคุณนะ แล้วผมก็ขอไม่มากเลย คุณอยู่กับผม มีลูกชายตัวอ้วนให้เราสักคนก็พอ หลังคลอดลูกแล้ว ผมจะไม่ยุ่งกับคุณเลยว่าจะอยู่กับใคร” ตอนนี้ท่าทีของฮั่วเทียนอวี่เหมือนกับว่า “ผมอุตส่าห์เมตตาให้ขนาดนี้แล้ว คุณยังไม่รีบขอบคุณผมอีกรึไง”
“ฮั่วเทียนอวี่ คงต้องบอกว่าคุณนี่มันเห็นแก่ตัวจริงๆ เลยนะ!” หลินหว่านกระตุกยิ้มเย็นที่มุมปาก เดิมทีคิดว่าวันนี้การอัดเสียงไว้คงไม่ได้ประโยชน์อะไรซะอีก ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ต้องชมตัวเองซะหน่อย คราวนี้ได้งานเข้าแล้ว
“ฉันบอกคุณแล้วนี่ฮั่วเทียนอวี่ ถ้าเป็นเรื่องเงินกับงาน ฉันจะช่วยคุณจัดหาให้ แต่ถ้าข้อเสนอประเภทนี้ คุณเห็นฉันเป็นคนรังแกได้ง่ายรึไง!” พูดจบหลินหว่านก็คว้ากระเป๋าเป้ ลุกเดินออกมา โดยไม่สนว่าฮั่วเทียนอวี่จะร้องตะโกนเรียกเสียงดังอยู่ที่ด้านหลัง
ชำระเงินแล้วออกมาจากร้านกาแฟ หลินหว่านรู้สึกเหมือนท้องฟ้าใสสว่างขึ้นกว่าเดิมมาก เธอจัดหน้ากากอนามัย สวมแว่นตาดำ แล้วโบกรถแท็กซี่ข้างทางคันหนึ่งจากไป
ฮั่วเทียนอวี่มองดูเงาหลังหลินหว่านที่จากไปด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างโมโห มือที่ถือถ้วยกาแฟขึ้นเส้นเอ็นปูนโปน สุดท้ายไม่อาจข่มกลั้นโทสะไว้ได้อีก เขวี้ยงแก้วกาแฟลงพื้นอย่างแรง
เสียง “เพล้ง” ดังสดใส แขกทุกคนในร้านพากันมองมาเป็นตาเดียว และได้เรียกให้บริกรมาด้วย
“คุณลูกค้าคะ คุณทำลายของในร้านเรา ขอให้คุณชดใช้ด้วยค่ะ” คำพูดของบริกรยังนับว่าให้เกียรติอยู่ แต่น้ำเสียงกลับไม่เคารพนัก ก็แค่เลิกกับแฟนไม่ใช่หรือไง? ถูกทิ้งก็สมควรแล้ว ให้คนสวยขนาดนี้รอตั้งนาน บริกรสาวก็คือคนที่คอยเสริฟกาแฟและอาหารเช้าให้หลินหว่านนั่นเอง
ภายใต้สายตาตั้งมากมายจับจ้องอยู่ ฮั่วเทียนอวี่ไม่กล้าไม่จ่าย แต่ปากยังด่าอย่างไม่เกรงใจ “ก็แค่ถ้วยใบเดียวเอง กลัวฉันจ่ายไม่ไหวรึไง?” พอเขาพูดออกมา แขกในร้านต่างก็ได้ยินกันชัดสองหู พากันคิดว่าเจ้าคนนี้หน้าตาก็ดีอยู่หรอก แต่นิสัยแย่เหลือทน!
ฮั่วเทียนอวี่บูดบึ้งอยู่ท่ามกลางสายตาประชาชนที่มองอย่าง…ดูแคลนบ้าง อยากรู้บ้าง ดูอย่างสนุกสาแก่ใจบ้าง เขาจ่ายเงินแล้วออกจากร้านกาแฟมาอย่างหมดรูป
ส่วนหลินหว่านกลับถึงบ้าน ก็เปิดเครื่องโน๊ตบุ๊ก โหลดเสียงที่อัดไว้ลงไป ดึงข้อมูลเฉพาะส่วนที่เป็นบทสนทนาระหว่างพวกเขาออกมา จากนั้นเข้าเวยปั๋ว ส่งคลิปเสียงท่อนนี้ขึ้นเน็ตโดยปกปิดสถานะตัวตนไว้
เดิมทีหลินหว่านก็อยากจะให้โอกาสกับฮั่วเทียนอวี่ แต่เขาขอในสิ่งที่เกินตัว ทำให้สายใยความหวังดีและน้ำใจเส้นสุดท้ายของเธอหมดไป
พอเห็นว่าโพสต์ขึ้นไปแล้ว เพื่อให้ได้ผลที่ดียิ่งขึ้น หลินหว่านว่าจ้างมือโพสต์จำนวนหนึ่งเริ่มปั่นกระแสเรียกความสนใจ
ไม่ถึงสิบนาที ด้วยความพยายามของมือโปรทั้งหลาย คลิปเสียงนี้ก็มีคลิ้กส่งต่อเกินหมื่น เกิดกระแสฮือฮาขึ้นบนเน็ต บรรดาชาวเน็ตขาเม้าท์ทั้งหลายพากันออกมา…
[ว้าว ตื่นเต้นโดนใจซะเหลือเกิน! นายฮั่วเทียนอวี่หน้าด้านได้ขนาดนี้เลยเหรอ? ]
[มารังแกหว่านหว่านของพวกเราแบบนี้ได้ยังไงนะ! ขออะไรเกินไปจริงๆ เลย! ]
[เห็นด้วยกับข้างบน +1]
[ฮั่วเทียนอวี่หน้าไม่อาย]
[ไอ้ฮั่วเทียนอวี่นี่ท่าทางจิตใจไม่ปกติว่ะ ไม่รู้จักดูตัวเองซะบ้างว่าเป็นตัวอะไร คิดจะเสนอหน้ามาเทียบกับหว่านหว่านของพวกเรางั้นรึ? ]
[ช่ายเลย คิดว่าช่วยเขาแล้วจะทำอะไรก็ได้รึไง หว่านหว่านของพวกเราบอกแล้วว่าจะหางานให้ยังไม่พอใจอีก]
[ฮั่วเทียนอวี่ ไอ้มือที่สาม แทรกเข้ามาทำลายความรักคนอื่น ถุย (*`へ´ *) ]
[คนแบบนี้ยังกล้าคิดจะครอบครองบริษัทของเซียวจิ่งสือของพวกเราอีก หน้าคงจะหนาเป็นกำแพงเมืองเลยมั้งเนี่ย? ]
……
เสียงก่นด่าฮั่วเทียนอวี่ทะลักออกมาเป็นระลอก
หลินหว่านยิ้มกริ่มมองดูคอมเมนต์จากชาวเน็ตที่ทะลักทะลายออกมาไม่หยุดอย่างพอใจมาก
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ฮั่วเทียนอวี่พอรู้ข่าวเปิดเวยปั๋ว เห็นโพสต์ยอดนิยมแล้วหน้าเขียวคล้ำไปเลย
โพสต์ยอดนิยมอันดับหนึ่ง ฮั่วเทียนอวี่หน้าด้าน
ฮั่วเทียนอวี่หลินหว่าน
ฮั่วเทียนอวี่มือที่สาม
ฮั่วเทียนอวี่กำมือถือแน่น ดูท่าว่าอยากให้มือถือเป็นหลินหว่าน…บีบให้ตายไปเลย คิดไม่ถึงว่าหลินหว่านจะวางกับดักเขา เสียแรงที่เขายังรักหวังดีกับเธอมาตลอด แต่ตอนนี้จะปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
แต่เสียงในคลิปนั่นก็ของจริงแท้แน่นอน บอกเรื่องราวความเป็นจริงได้ดีมากอยู่แล้ว เขาไม่อาจปฏิเสธได้ ได้แต่ใช้คะแนนความสงสารแล้ว…
พอนึกถึงตรงนี้ ฮั่วเทียนอวี่ก็เข้าเวยปั๋ว โพสต์ข้อความที่ @ หลินหว่านด้วย
[@ หลินหว่าน ถ้าคุณไม่เต็มใจตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิตของผม ก็ไม่ต้องใช้วิธีแบบนี้มาล่อลวงผม ขอให้นึกถึงความหลังครั้งเก่าของพวกเราด้วยเถอะ! คิดไม่ถึงเลยว่าคุณ…ผมหวังสูงเกินไปจริงๆ ผมแค่ชอบคุณเท่านั้นเอง! ]
พอเขาโพสต์ข้อความที่รู้สึกว่าน่าเห็นใจซะเหลือเกินออกไปเสร็จ ก็ใช้วิธีการเดียวกับหลินหว่าน จ้างมือโพสต์มาจำนวนหนึ่ง ช่วยเขาปั่นกระแสออกมาว่าชื่นชมที่เขากล้าช่วยคน กล้าทำเพื่อความรัก
คราวนี้ ฮั่วเทียนอวี่แต่งองค์ทรงเครื่องให้น่าสงสารในความ ‘จริงใจ’ ของเขา มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเริ่มพลิกเสียง ตอนนี้สถานการณ์บนเน็ตจึงแบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งยังสนับสนุนหลินหว่าน เห็นว่าฮั่วเทียนอวี่หน้าด้านไร้ยางอาย ยังกล้าพูดซี้ซั้วแบบนั้นอีก อีกฝ่ายเห็นว่าฮั่วเทียนอวี่ถูกจัดฉาก เสียงในคลิปอาจเป็นของปลอม
ทั้งนี้ทั้งนั้นจึงเกิดศึกโต้เถียงด่าทอกันขึ้น
[ฮั่วเทียนอวี่ดูน่าสงสารออก คงไม่หาเรื่องกับหลินหว่านจริงๆ หรอกมั้ง]
[เห็นชัดอยู่ว่าฮั่วเทียนอวี่รนหาที่ตายเอง แล้วยังมาตีหน้าทำท่าน่าสงสาร ใส่ร้ายหว่านหว่านของพวกเรา]
[ชิ ไม่แน่ว่าหว่านหว่านสุดที่รักของพวกคุณใส่ร้ายคนอื่นต่างหาก คลิปเสียงนั่นไม่แน่ว่าเป็นฝีมือเธอทำปลอมออกมาเอง! ]
[เก่งกาจขนาดนั้น ทำไมคุณไม่ไปทำปลอมขึ้นมาอีกสักอันเลยล่ะ! ]
……
หลินหว่านเห็นสงครามน้ำลายบนเน็ตรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็ขมวดคิ้ว