ตอนที่ 289 บุญคุณ

รักเล่ห์เร้นใจ

“เรื่องนี้ทำให้ไม่ได้” หลินหว่านพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเป็นปกติ เหมือนกับเรื่องนี้ไม่กระทบใจเธอเลยแม้แต่น้อย 

 

 

หลินหว่านเงยหน้าขึ้นสบตาฮั่วเทียนอวี่ น้ำเสียงเด็ดเดี่ยว “บุญคุณที่ฉันติดค้างคุณนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับเซียวจิ่งสือ ถ้าคุณยอมรับ ฉันสามารถช่วยคุณหางานให้ เรื่องเงิน ถ้าคุณขาดเหลืออะไร ฉันก็ช่วยคุณได้” 

 

 

หลินหว่านเว้นวรรคแล้วพูดต่อไปว่า “แต่ว่า คุณต้องการบริษัทของเซียวจิ่งสือนั้น เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!” 

 

 

แสงแดดสดใสนอกหน้าต่าง ส่องผ่านเข้ามาภายในห้อง แต่กลับส่องมาไม่ถึงจิตใจที่ขุ่นมัวของฮั่วเทียนอวี่ 

 

 

ข้างหูพอได้ยินคำปฏิเสธอย่างเด็ดขาดของหลินหว่าน ฮั่วเทียนอวี่ก็โมโหพุ่งปรี๊ด เพราะเขารู้สึกว่าคำขอของเขาไม่เกินเลยสักนิดหนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่เขาควรจะได้! ตอนนี้เขาต้องตกต่ำขนาดนี้ ล้วนเป็นเพราะฝีมือไอ้เซียวจิ่งสือนั่นไม่ใช่รึไง? หลินหว่านกลับยังปกป้องมันขนาดนี้! นี่เธอยังเห็นเขาอยู่ในสายตารึเปล่ากันแน่! 

 

 

เพลิงโทสะและทิฐิเผาผลาญจนสติสัมปชัญญะของฮั่วเทียนอวี่ขาดผึง 

 

 

ในเมื่อเป็นแบบนี้… “ได้สิ ในเมื่อคุณไม่ยอกรับปากข้อเสนอนี้ งั้นผมเปลี่ยนเป็นอีกอย่างก็ได้” ฮั่วเทียนอวี่มองหลินหว่าน สายตาเป็นประกายวาววับอย่างหื่นกระหายแทบจะปริ่มออกมา “คุณพูดเองนะว่านี่เป็นบุญคุณที่คุณติดค้าง งั้นก็ใช้ตัวคุณมาชดใช้คืนก็แล้วกัน!” 

 

 

ดวงตาหลินหว่านทอแววเหยียดหยันออกมาแวบหนึ่ง ยิ่งกว่านั้นก็คือความปวดใจที่ได้เห็นตัวตนของฮั่วเทียนอวี่ที่ถูกกิเลสครอบงำจนกลายเป็นแบบนี้ 

 

 

“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ” หลินหว่านยังพยายามควบคุมน้ำเสียงของตัวเอง ไม่ทำให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความเยียบเย็น 

 

 

“หึหึ ความหมายของผมชัดเจนอยู่แล้ว ผมต้องการให้คุณนอนกับผม!” ใบหน้าของฮั่วเทียนอวี่ปรากฏรอยยิ้มมาดมั่นเหมือนทุกอย่างอยู่ในกำมือ หลินหว่านเห็นแล้วอยากจะอ้วก 

 

 

“หว่านหว่าน คุณทิ้งเซียวจิ่งสือมาอยู่กับผมเถอะ!” ฮั่วเทียนอวี่เลียริมฝีปาก “ผมจะดีกับคุณนะ แล้วผมก็ขอไม่มากเลย คุณอยู่กับผม มีลูกชายตัวอ้วนให้เราสักคนก็พอ หลังคลอดลูกแล้ว ผมจะไม่ยุ่งกับคุณเลยว่าจะอยู่กับใคร” ตอนนี้ท่าทีของฮั่วเทียนอวี่เหมือนกับว่า “ผมอุตส่าห์เมตตาให้ขนาดนี้แล้ว คุณยังไม่รีบขอบคุณผมอีกรึไง” 

 

 

“ฮั่วเทียนอวี่ คงต้องบอกว่าคุณนี่มันเห็นแก่ตัวจริงๆ เลยนะ!” หลินหว่านกระตุกยิ้มเย็นที่มุมปาก เดิมทีคิดว่าวันนี้การอัดเสียงไว้คงไม่ได้ประโยชน์อะไรซะอีก ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ต้องชมตัวเองซะหน่อย คราวนี้ได้งานเข้าแล้ว 

 

 

“ฉันบอกคุณแล้วนี่ฮั่วเทียนอวี่ ถ้าเป็นเรื่องเงินกับงาน ฉันจะช่วยคุณจัดหาให้ แต่ถ้าข้อเสนอประเภทนี้ คุณเห็นฉันเป็นคนรังแกได้ง่ายรึไง!” พูดจบหลินหว่านก็คว้ากระเป๋าเป้ ลุกเดินออกมา โดยไม่สนว่าฮั่วเทียนอวี่จะร้องตะโกนเรียกเสียงดังอยู่ที่ด้านหลัง 

 

 

ชำระเงินแล้วออกมาจากร้านกาแฟ หลินหว่านรู้สึกเหมือนท้องฟ้าใสสว่างขึ้นกว่าเดิมมาก เธอจัดหน้ากากอนามัย สวมแว่นตาดำ แล้วโบกรถแท็กซี่ข้างทางคันหนึ่งจากไป 

 

 

ฮั่วเทียนอวี่มองดูเงาหลังหลินหว่านที่จากไปด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างโมโห มือที่ถือถ้วยกาแฟขึ้นเส้นเอ็นปูนโปน สุดท้ายไม่อาจข่มกลั้นโทสะไว้ได้อีก เขวี้ยงแก้วกาแฟลงพื้นอย่างแรง 

 

 

เสียง “เพล้ง” ดังสดใส แขกทุกคนในร้านพากันมองมาเป็นตาเดียว และได้เรียกให้บริกรมาด้วย 

 

 

“คุณลูกค้าคะ คุณทำลายของในร้านเรา ขอให้คุณชดใช้ด้วยค่ะ” คำพูดของบริกรยังนับว่าให้เกียรติอยู่ แต่น้ำเสียงกลับไม่เคารพนัก ก็แค่เลิกกับแฟนไม่ใช่หรือไง? ถูกทิ้งก็สมควรแล้ว ให้คนสวยขนาดนี้รอตั้งนาน บริกรสาวก็คือคนที่คอยเสริฟกาแฟและอาหารเช้าให้หลินหว่านนั่นเอง 

 

 

ภายใต้สายตาตั้งมากมายจับจ้องอยู่ ฮั่วเทียนอวี่ไม่กล้าไม่จ่าย แต่ปากยังด่าอย่างไม่เกรงใจ “ก็แค่ถ้วยใบเดียวเอง กลัวฉันจ่ายไม่ไหวรึไง?” พอเขาพูดออกมา แขกในร้านต่างก็ได้ยินกันชัดสองหู พากันคิดว่าเจ้าคนนี้หน้าตาก็ดีอยู่หรอก แต่นิสัยแย่เหลือทน! 

 

 

ฮั่วเทียนอวี่บูดบึ้งอยู่ท่ามกลางสายตาประชาชนที่มองอย่าง…ดูแคลนบ้าง อยากรู้บ้าง ดูอย่างสนุกสาแก่ใจบ้าง เขาจ่ายเงินแล้วออกจากร้านกาแฟมาอย่างหมดรูป 

 

 

ส่วนหลินหว่านกลับถึงบ้าน ก็เปิดเครื่องโน๊ตบุ๊ก โหลดเสียงที่อัดไว้ลงไป ดึงข้อมูลเฉพาะส่วนที่เป็นบทสนทนาระหว่างพวกเขาออกมา จากนั้นเข้าเวยปั๋ว ส่งคลิปเสียงท่อนนี้ขึ้นเน็ตโดยปกปิดสถานะตัวตนไว้ 

 

 

เดิมทีหลินหว่านก็อยากจะให้โอกาสกับฮั่วเทียนอวี่ แต่เขาขอในสิ่งที่เกินตัว ทำให้สายใยความหวังดีและน้ำใจเส้นสุดท้ายของเธอหมดไป 

 

 

พอเห็นว่าโพสต์ขึ้นไปแล้ว เพื่อให้ได้ผลที่ดียิ่งขึ้น หลินหว่านว่าจ้างมือโพสต์จำนวนหนึ่งเริ่มปั่นกระแสเรียกความสนใจ 

 

 

ไม่ถึงสิบนาที ด้วยความพยายามของมือโปรทั้งหลาย คลิปเสียงนี้ก็มีคลิ้กส่งต่อเกินหมื่น เกิดกระแสฮือฮาขึ้นบนเน็ต บรรดาชาวเน็ตขาเม้าท์ทั้งหลายพากันออกมา… 

 

 

[ว้าว ตื่นเต้นโดนใจซะเหลือเกิน! นายฮั่วเทียนอวี่หน้าด้านได้ขนาดนี้เลยเหรอ? ]  

 

 

[มารังแกหว่านหว่านของพวกเราแบบนี้ได้ยังไงนะ! ขออะไรเกินไปจริงๆ เลย! ]  

 

 

[เห็นด้วยกับข้างบน +1]  

 

 

[ฮั่วเทียนอวี่หน้าไม่อาย]  

 

 

[ไอ้ฮั่วเทียนอวี่นี่ท่าทางจิตใจไม่ปกติว่ะ ไม่รู้จักดูตัวเองซะบ้างว่าเป็นตัวอะไร คิดจะเสนอหน้ามาเทียบกับหว่านหว่านของพวกเรางั้นรึ? ]  

 

 

[ช่ายเลย คิดว่าช่วยเขาแล้วจะทำอะไรก็ได้รึไง หว่านหว่านของพวกเราบอกแล้วว่าจะหางานให้ยังไม่พอใจอีก]  

 

 

[ฮั่วเทียนอวี่ ไอ้มือที่สาม แทรกเข้ามาทำลายความรักคนอื่น ถุย (*`へ´ *) ]  

 

 

[คนแบบนี้ยังกล้าคิดจะครอบครองบริษัทของเซียวจิ่งสือของพวกเราอีก หน้าคงจะหนาเป็นกำแพงเมืองเลยมั้งเนี่ย? ]  

 

 

…… 

 

 

เสียงก่นด่าฮั่วเทียนอวี่ทะลักออกมาเป็นระลอก 

 

 

หลินหว่านยิ้มกริ่มมองดูคอมเมนต์จากชาวเน็ตที่ทะลักทะลายออกมาไม่หยุดอย่างพอใจมาก 

 

 

ส่วนอีกด้านหนึ่ง ฮั่วเทียนอวี่พอรู้ข่าวเปิดเวยปั๋ว เห็นโพสต์ยอดนิยมแล้วหน้าเขียวคล้ำไปเลย 

 

 

โพสต์ยอดนิยมอันดับหนึ่ง ฮั่วเทียนอวี่หน้าด้าน  

 

 

ฮั่วเทียนอวี่หลินหว่าน  

 

 

ฮั่วเทียนอวี่มือที่สาม 

 

 

ฮั่วเทียนอวี่กำมือถือแน่น ดูท่าว่าอยากให้มือถือเป็นหลินหว่าน…บีบให้ตายไปเลย คิดไม่ถึงว่าหลินหว่านจะวางกับดักเขา เสียแรงที่เขายังรักหวังดีกับเธอมาตลอด แต่ตอนนี้จะปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว 

 

 

แต่เสียงในคลิปนั่นก็ของจริงแท้แน่นอน บอกเรื่องราวความเป็นจริงได้ดีมากอยู่แล้ว เขาไม่อาจปฏิเสธได้ ได้แต่ใช้คะแนนความสงสารแล้ว… 

 

 

พอนึกถึงตรงนี้ ฮั่วเทียนอวี่ก็เข้าเวยปั๋ว โพสต์ข้อความที่ @ หลินหว่านด้วย 

 

 

[@ หลินหว่าน ถ้าคุณไม่เต็มใจตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิตของผม ก็ไม่ต้องใช้วิธีแบบนี้มาล่อลวงผม ขอให้นึกถึงความหลังครั้งเก่าของพวกเราด้วยเถอะ! คิดไม่ถึงเลยว่าคุณ…ผมหวังสูงเกินไปจริงๆ ผมแค่ชอบคุณเท่านั้นเอง! ]  

 

 

พอเขาโพสต์ข้อความที่รู้สึกว่าน่าเห็นใจซะเหลือเกินออกไปเสร็จ ก็ใช้วิธีการเดียวกับหลินหว่าน จ้างมือโพสต์มาจำนวนหนึ่ง ช่วยเขาปั่นกระแสออกมาว่าชื่นชมที่เขากล้าช่วยคน กล้าทำเพื่อความรัก 

 

 

คราวนี้ ฮั่วเทียนอวี่แต่งองค์ทรงเครื่องให้น่าสงสารในความ ‘จริงใจ’ ของเขา มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเริ่มพลิกเสียง ตอนนี้สถานการณ์บนเน็ตจึงแบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งยังสนับสนุนหลินหว่าน เห็นว่าฮั่วเทียนอวี่หน้าด้านไร้ยางอาย ยังกล้าพูดซี้ซั้วแบบนั้นอีก อีกฝ่ายเห็นว่าฮั่วเทียนอวี่ถูกจัดฉาก เสียงในคลิปอาจเป็นของปลอม 

 

 

ทั้งนี้ทั้งนั้นจึงเกิดศึกโต้เถียงด่าทอกันขึ้น 

 

 

[ฮั่วเทียนอวี่ดูน่าสงสารออก คงไม่หาเรื่องกับหลินหว่านจริงๆ หรอกมั้ง]  

 

 

[เห็นชัดอยู่ว่าฮั่วเทียนอวี่รนหาที่ตายเอง แล้วยังมาตีหน้าทำท่าน่าสงสาร ใส่ร้ายหว่านหว่านของพวกเรา]  

 

 

[ชิ ไม่แน่ว่าหว่านหว่านสุดที่รักของพวกคุณใส่ร้ายคนอื่นต่างหาก คลิปเสียงนั่นไม่แน่ว่าเป็นฝีมือเธอทำปลอมออกมาเอง! ]  

 

 

[เก่งกาจขนาดนั้น ทำไมคุณไม่ไปทำปลอมขึ้นมาอีกสักอันเลยล่ะ! ]  

 

 

…… 

 

 

หลินหว่านเห็นสงครามน้ำลายบนเน็ตรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็ขมวดคิ้ว