ตอนที่ 2769 เควสระดับเทพนิยายที่อ่อนแอ

ระบบ : คำเตือน ! คำเตือน !

ระบบ : คุณได้เปิดใช้งานเควสโลกระดับเทพนิยายที่อ่อนแอ แบบทางเลือก

เนื้อหาเควส : ช่วยแองเจลิก้า เทเรซ่า ให้กลายเป็นลอร์ดผู้ปกครองเมืองอุกกาบาต

รางวัล : ไอเทม “Unknown” หนึ่งชิ้น คะแนนอำนาจในโลก God domain สองแต้ม

บทลงโทษหากล้มเหลว : Unknown

ระบบ : คุณมีเวลาพิจารณาสามสิบวินาที และระบบจะถือว่าคุณยอมรับเควสตามการตั้งค่าไว้ตั้งแต่ต้น เมื่อเกินเวลาแล้วคุณไม่ตอบสนองใดๆ

เควสโลกระดับเทพนิยายที่อ่อนแอ ?! ซือเฟิงนั้นอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าหูของเขาได้ยินผิดรึปล่าว เมื่อเขาได้ยินเสียงการแจ้งเตือนของระบบจนครบ

เท่าที่เขารู้ เควสเนื้อเรื่องหลักระดับตำนานนั้นเป็นเควสที่ท้าทายที่สุดที่ผู้เล่นสามารถเลือกจะท้าทายได้ อย่างไรก็ตามมันก็มีเควสที่ระดับสูงกว่าเควสเนื้อเรื่องหลักระดับตำนานอยู่ ซึ่งนั่นก็คือเควสระดับเทพนิยาย ซึ่งมันนับเป็นปริศนาลึกลับใน God domain มาโดยตลอด และมันก็มีเพียงแต่ข่าวลือเท่านั้นเกี่ยวกับเควสระดับเทพนิยาย ในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง มันยังไม่มีใครยืนยันถึงการมีอยู่จริงของมันได้

ถึงกระนั้นตอนนี้เขากับเปิดใช้งานเควสโลกระดับเทพนิยายที่อ่อนแอขึ้นมาได้ ….

ฉันควรจะยอมรับเควสนี้ไหม ? ซือเฟิงลังเล

นี่มันอาจจะเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้ท้าทายเควสแบบนี้ อย่างไรก็ตามพูดกันตามตรง เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีใครได้เปิดใช้งานเควสระดับนี้ได้ เพียงเพราะว่าบังเอิญได้มาเยือน God domain ในยุคโบราณ และได้พบกับบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์

ยิ่งไปกว่านั้นดูจากรูปการณ์ทั้งหมดแล้ว ดูเหมือนว่าผู้เล่นที่อยู่รอบตัวเขาคนอื่นๆจะไม่ได้รับเควสนี้เหมือนเขา ซึ่งนั่นมันก็หมายความว่าเขาน่าจะเป็นคนเดียวที่ผ่านเงื่อนไขบางอย่างในการเปิดใช้งานเควสระดับนี้

อย่างไรก็ตามเพียงแค่บทลงโทษจากเควสเนื้อเรื่องหลักระดับตำนานนั้นมันก็มากเกินพอแล้วที่จะยุติอาชีพของผู้เล่นทั้งหมดใน God domain สำหรับการล้มเหลวในการทำเควสระดับเทพนิยายที่อ่อนแอนั้น บทลงโทษน่าจะรุนแรงกว่านี้หลายเท่า ซึ่งหากเขายอมรับเควสนี้ และทำไม่สำเร็จ …. อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นรางวัลที่เป็น “คะแนนอำนาจในโลก God domain ที่จะเพิ่มขึ้นสองแต้ม” หลังจากทำเควสสำเร็จ เขาก็รู้สึกโลภไปชั่วขณะ

ใน God domain ปัจจุบัน คนอื่นๆอาจไม่รู้ว่าคะแนนอำนาจในโลก God domain นั้นคืออะไร เนื่องจากมันเป็นเรื่องยากเกินกว่าที่ผู้เล่นปกติจะได้รับมา เพราะท้ายที่สุดผู้เล่นจะต้องทำบางอย่างให้สำเร็จก่อน ซึ่งบางอย่างนี้นั้นมันจะต้องส่งผลต่อ God domain ทั้งหมด ผู้เล่นจึงจะได้รับคะแนนอำนาจในโลก God domain

ผู้เล่นที่ได้รับคะแนนอำนาจในโลก God domain มานั้น แม้จะได้รับมาเพียงแค่แต้มเดียวก็ตาม แต่ผู้เล่นคนนั้นก็จะได้รับความช่วยเหลือที่ไม่อาจจินตนาการได้ในความก้าวหน้าของตัวเองใน God domain ซึ่งทุกอย่างมันก็เป็นไปตามชื่อเลย “คะแนนอำนาจ” ผู้ที่ได้รับมันไปจะกลายเป็นผู้มีสิทธิพิเศษใน God domain

มหาอำนาจต่างๆนั้นเต็มใจที่จะเททุกอย่างที่ตัวเองมีหมดหน้าตัก และเสี่ยงที่จะยอมรับความสูญเสียอย่างมหาศาลที่จะตามมาเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิพิเศษที่วิหารเทพสงครามจะมอบให้ เพราะท้ายที่สุดการได้รับสิทเหล่านี้มา มันก็หมายความว่ากิลของตนจะขึ้นไปอยู่เหนือกิลอื่นๆอย่างมาก และมันก็จะทำให้ตำแหน่งกิลของตนใน God domain มั่นคงได้

โดยผู้เล่นแต่ละคนก็สามารถจะรับสิทธิพิเศษใน God domain มาได้ด้วยคะแนนอำนาจในโลก God domain การได้รับคะแนนอำนาจในโลก God domain มาเพียงแต้มเดียวนั้น มันก็เทียบเท่ากับการได้เข้าใจ God domain อีกมากขึ้นอย่างมาก และผู้เล่นที่มีคะแนนอำนาจในโลก God domain นี้ ก็จะมีความสัมพันธ์ที่จินตนาการไม่ถึงกับโลกเลย

หากมองแค่พื้นผิว การมีความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นกับโลกนั้นอาจดูเหมือนไม่มีประโยชน์ใดๆมากนัก อย่างไรก็ตามมันจะช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจองค์ประกอบเวทย์มนต์ต่างๆ รวมไปถึงธาตุของเวทย์มนต์ และหลักการต่างๆทั้งหมดเหล่านี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และสิ่งนี้มันก็มีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้เล่นที่ต้องการจะไปให้ถึงขั้นหก

ในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง เพื่อประโยชน์ในการจะสร้างผู้เล่นขั้นหกขึ้นมา ซุเปอร์กิลต่างๆนั้นยินดีจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อช่วยให้สมาชิกจำนวนหนึ่งของพวกเขาที่ได้รับเลือกให้ได้รับคะแนนอำนาจในโลก God domain อย่างไรก็ตามแม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังรับเอาคะแนนแบบนี้มาไม่ได้ง่ายๆ และสุดท้ายแล้วพวกเขาก็รวบรวมคะแนนมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากดิ้นรนอย่างหนักเป็นเวลาสี่ถึงห้าปี

ถึงกระนั้นมันก็ยังเป็นความจริงที่ว่าผู้เล่นทุกคนที่ได้รับคะแนนอำนาจในโลก God domain นั้นล้วนสามารถไปถึงขั้นหกได้

ตอนนี้ซือเฟิงมีโอกาสที่จะได้รับคะแนนอำนาจในโลก God domain ถึงสองแต้ม เพียงแค่ต้องทำเควส เควสเดียวให้เสร็จสิ้น ดังนั้นเขาจะไม่รู้สึกโลภได้อย่างไร ? หากเขาทำเควสนี้สำเร็จ นับประสาอะไรกับขั้นห้า แม้แต่การเลื่อนขั้นเป็นขั้นหกก็จะง่ายขึ้นสำหรับเขามาก

“ผู้บัญชาการ คุณโอเคไหม ?” หยานย่าถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเธอเห็นสังเกตเห็นท่าทีที่แปลกประหลาดของซือเฟิง “คุณใช้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจมากเกินไป หลังจากใช้เทคนิคการต่อสู้นั่นรึปล่าว ?”

ก่อนหน้านี้นั้นซือเฟิงได้ล้มลงอย่างหมดแรง หลังจากต่อสู้กับโทเดลย่า และแม้ว่าพวกเขาจะหยุดพักไปแล้วเล็กน้อย แต่ปริมาณค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจที่พวกเขาสามารถฟื้นฟูมาได้มันก็ยังจัดว่ามีอยู่จำกัดมากๆ

“ฉันสบายดี …” ซือเฟิงพูดพลางส่ายหัว จากนั้นเขาก็มองไปที่แองเจลิก้า เทเรซ่า ซึ่งตอนนี้นอนแผ่อยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง และกัดฟันพยายามทนความเจ็บปวดอยู่

ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องช่วยเธอ ….

ความจริงแล้วเขาไม่ต้องการจะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้เลย เพราะท้ายที่สุดชายชราที่ส่งเขามาที่นี่นั้นได้ย้ำเตือนเขาแล้วว่าอย่าทำอะไรให้เป็นจุดสนใจมากเกินไป ไม่งั้นโลกนี้จะค้นพบตัวตนของเขาอย่างรวดเร็ว และบังคับให้เขากลับไปที่โลกปัจจุบัน ซึ่งหากสิ่งนี้เกิดขึ้น มันจะนับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับเขา
ท้ายที่สุดแล้วสภาพแวดล้อมที่นี่นั้นมันยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง ยิ่งกว่านั้นในยุคโบราณของ God domain แบบนี้ มันยังมีสิ่งที่เหนือกว่ายุคปัจจุบันของ God domain อีกหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านมรดก วัสดุ อาวุธ และอุปกรณ์ ที่ที่นี่ก้าวหน้ากว่า God domain ยุคปัจจุบันมาก

ในตอนนี้เขายังคิดไม่ออกว่าเขาจะได้รับทรัพยากรจำนวนมากจากโลกยุคโบราณได้ยังไง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถจะทำอะไรโดยประมาทได้ นี่คือเหตุผลที่เขาเลือกจะไล่เนเมน คาร์โลที่เป็นปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ออกไปแทนที่จะฆ่ามัน

นี่ยังไม่จำเป็นต้องพูดถึงว่าเขายังต้องการจะหลีกเลี่ยงการช่วย NPC ในยุคนี้ หากเป็นไปได้ เรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องจริงอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับ NPC อย่าง แองเจลิก้า เทเรซ่า

การที่ได้ก้าวหน้าไปอย่างมั่นคงนั้นนับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดใน God domain

อย่างไรก็ตามรางวัลของเควสนี้มันก็มีมากเกินไป และแม้ว่ามันจะหมายถึงการเสี่ยงครั้งใหญ่ แต่ซือเฟิงก็ยังอยากจะลองดู

ท้ายที่สุดแล้วในสถานะปัจจุบันของเขา เขาไม่มั่นใจเลยว่าเขาจะสามารถเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นห้าได้ หากเขาอาศัยเพียงแค่การใช้คำแนะนำมรดก การสร้างร่างมานาขึ้นใหม่ทั้งหมดมันก็จะเป็นไปได้ยากมากๆ ไม่ต้องพูดถึงการสร้างร่างมานาให้เทียบเคียงกับมอนสเตอร์ขั้นห้าได้

ในที่สุดซือเฟิงก็ได้ตัดสินใจเดินเข้าไปหา แองเจลิก้า เทเรซ่าอย่างช้าๆ ซึ่งการกระทำของเขามันก็ทำให้คนอื่นๆตื่นตัวขึ้นมา

แม้ว่าซือเฟิงจะช่วยพวกเขาขับไล่กองทัพปีศาจออกไป แต่เขาก็ยังจัดว่าเป็นตัวตนที่ทรงพลังที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับพวกเขา ซึ่งพวกเขาก็ต้องระวังไว้ก่อน

เพราะท้ายที่สุดแล้วมันมีคนมากมายที่พร้อมจะแทงคนที่ล้มซ้ำ แม้ว่าคนๆนั้นจะเข้ามาช่วยเหลือคนที่ล้มไปรอบหนึ่งแล้วก็ตาม แองเจลิก้า เทเรซ่า ผู้บัญชาการของพวกเขาก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง การที่กองทัพของเธอถูกกองทัพปีศาจโอบล้อมที่นี่ มันก็เกิดจากสายลับในหมู่พวกเขา ในกองทัพพวกเขานี่แหละ !!!

เมื่อเห็นซือเฟิงเดินเข้ามา ยู่หลัวก็กัดฟัน และถามด้วยน้ำเสียงสงบว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณมีวิธีช่วยผู้บัญชาการหรือไม่ ? ตราบใดที่คุณสามารถช่วยผู้บัญชาการได้ ฉันจะยอมทำทุกอย่างที่คุณต้องการ !! แม้ว่ามันจะหมายถึงการต้องสังเวยตัวเองก็ตาม !!!”

ในความเป็นจริงยู่หลัวไม่ได้คิดว่าซือเฟิงจะมีวิธีช่วยผู้บัญชาการของเธอ แองเจลิก้า เทเรซ่า เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่คูลลิ่งคลาวด์ ซึ่งเป็นทั้งฮีลเลอร์ และปรมาจารย์นักเล่นแร่แปรธาตุขั้นสูงก็ยังไม่สามารถจะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้

“ฉันมีวิธีที่จะช่วยเธออย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามฉันไม่ได้ต้องการให้คุณสังเวยตัวเองรึอะไรแบบนั้น …” ซือเฟิงยิ้มบางๆออกมา เมื่อเห็นท่าทีของยู่หลัว “ฉันแค่อยากให้คุณบอกฉันเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดของโลกนี้ หลังจากทุกอย่างที่นี่เรียบร้อย
แล้ว”

แม้ว่ายู่หลัวจะไม่ได้มาขอความช่วยเหลือจากเขาแบบนี้ แต่เขาก็ยังคงจะช่วยแองเจลิก้า เทเรซ่าอยู่ดี เพราะท้ายที่สุดคนที่ตายแล้วจะไม่สามารถกลายเป็นลอร์ดผู้ปกครองเมืองอุกกาบาตได้

“คุณมีวิธีที่จะช่วยผู้บัญชาการจริงๆงั้นหรอ ?! หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม” ยู่หลัวตกตะลึง เมื่อได้ยินคำตอบของซือเฟิง อย่างไรก็ตามหลังจากเธอประมวลผลคำตอบของเขาเรียบร้อยแล้ว เธอก็รีบกล่าวต่ออย่างตื่นเต้นว่า “ไม่มีปัญหา !!! ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่ฉันรู้ ฉันจะบอกคุณทุกอย่างแน่นอน !!!”

ในทางกลับกันคูลลิ่งคลาวด์ที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้นก็รู้สึกสับสนมากๆ เมื่อเธอได้ยินคำตอบที่ดูมั่นใจของซือเฟิง เธอนั้นเป็นปรมาจารย์นักเล่นแร่แปรธาตุขั้นสูง และเธอก็พบว่ามันยากที่จะเชื่อมากๆว่าผู้ที่มาจากที่เดียวกับยู่หลัวจะมีวิธีช่วยชีวิตผู้บัญชาการได้

นี่มันไม่ใช่เพราะคูลลิ่งคลาวด์ดูถูกยู่หลัว และซือเฟิง แต่เป็นเพราะความรู้ที่ยู่หลัวได้แสดงออกมาเกี่ยวกับ God domain นั้นมันย่ำแย่มากๆ เธอไม่ได้ครหาในฝีมือการเป็นฮีลเลอร์ของยู่หลัว แต่เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมยู่หลัวที่เป็นฮีลเลอร์ถึงปรุงโพชั่นไม่ได้เลย เพราะจริงๆแล้วผู้ที่ทำหน้าที่เป็นฮีลเลอร์นั้น ต่อให้จะแย่แค่ไหนก็ควรจะปรุงโพชั่นบางอย่างเป็นบ้าง

ดังนั้นคูลลิ่งคลาวด์จึงสรุปได้ว่ายู่หลัว และซือเฟิงนั้นน่าจะมาจากอารยธรรมที่ล้าหลังกว่าของพวกเขา ไม่งั้นพวกเขาก็คงจะไม่ขาดสามัญสำนักปกติแบบนี้ ….

อย่างไรก็ตามซือเฟิงไม่ได้ตอบคำถามของยู่หลัว เขาทำเพียงแค่หยิบคริสตัลโปร่งแสงออกมาจากกระเป๋าและส่งให้เธอ “ให้เธอกินมัน เธอจะค่อยๆฟื้นตัวทันทีที่ทำแบบนี้ …” ซือเฟิงกล่าวโดยไม่คิดจะอธิบายเพิ่มเติม

ยู่หลัวนั้นรู้สึกสับสนมาก เมื่อเธอได้รับคริสตัลโปร่งแสงนี้มาจากซือเฟิง เธอไม่เข้าใจเลยว่าคริสตัลนี้มันจะช่วยผู้บัญชาการแองเจลิก้าได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม เมื่อคูลลิ่งคลาวด์เห็นคริสตัลในมือของยู่หลัว เธอก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ

“คริสตัลแห่งวิญญาณ ?! เป็นไปได้ยังไง ?!”

เมื่อได้ยินคำพูดของคูลลิ่งคลาวด์ ฮีลเลอร์คนอื่นๆก็จ้องมองไปที่ซือเฟิงราวกับกำลังจ้องมองไปยังสัตว์ประหลาด

“พี่สาวคลาวด์ คริสตัลแห่งวิญญาณนี้มันน่าอัศจรรย์ขนาดนั้นเลยหรอ ?” ยู่หลัวถามอย่างงุนงง

เมื่อเธอตระหนักได้ว่าตัวเองสูญเสียความสงบไป คูลลิ่งคลาวด์ก็รีบสงบสติอารมณ์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็อธิบายว่า “คริสตัลแห่งวิญญาณนั้นมีค่า และน่าอัศจรรย์มากๆ แถมมันยังหายากมากด้วยใน God domain แห่งนี้ แม้แต่ฝั่งของเมืองศักสิทธิ์นั้นก็สามารถเก็บรวบรวมพวกมันมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดคริสตัลนี้จะปรากฎขึ้นในสถานที่ที่มีวิญญาณมารวมตัวกันจำนวนมากเท่านั้น เช่น โลกใต้พิภพ คริสตัลนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาจิตใจกับจิตวิญญาณได้เท่านั้น แต่มันยังจะช่วยให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย คริสตัลแห่งวิญญาณนั้นหากถูกขายในตลาด มันจะมีค่ามากกว่าน้ำแห่งชีวิตหลายเท่า”

“มันเป็นของหายากขนาดนั้นเลยงั้นหรอ ?” ยู่หลัวตกใจ เธอไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะลงทุนใช้ของล้ำค่าแบบนี้เพื่อช่วยชีวิตใครสักคน ด้วยเหตุนี้ เธอจึงจะเป็นหนี้บุญคุณเขาอย่างมหาศาลเลยทีเดียว ….

“เอาล่ะ ฉันว่ารีบช่วยเธอก่อนเถอะ …” ซือเฟิงกล่าว เมื่อเขาเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของทุกคนที่มองมายังเขา ซึ่งนี่มันก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว และยิ้ม ….

คริสตัลแห่งวิญญาณนั้นจัดว่ามีค่าอย่างแท้จริงในสถานการณ์ปกติ และเขาจะไม่เต็มใจที่จะใช้มันแน่นอน เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาต้องพึ่งพาตัวเองในการเก็บรวบรวมวิญญาณมอนสเตอร์มาเพื่อสร้างคริสตัลแห่งวิญญาณ

อย่างไรก็ตามในตอนนี้ทุกอย่างมันแตกต่างออกไป แถมเขายังมีโซลออบ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมบัติทั้งเจ็ดที่ช่วยให้เขาสามารถสร้างคริสตัลแห่งวิญญาณได้อย่างง่ายดาย โดยสิ่งที่เขาต้องทำมันก็แค่ฆ่ามอนสเตอร์ระดับลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่หรือสูงกว่าขึ้นไปที่มีเลเวลมากกว่าเขาห้าเลเวลเพื่อรับเอาวิญญาณมอนสเตอร์ที่จำเป็นมา

เมื่อได้ยินคำเตือนของซือเฟิง ยู่หลัวก็หายจากอาการตกใจ และรีบเอาคริสตัลแห่งวิญญาณไปให้แองเจลิก้ากินทันที

หลังจากนั้นไม่นาน ผิวของแองเจลิก้าก็ฟื้นฟูกลับมาดูมีสีเลือดขึ้นอย่างมาก และแม้ว่าเธอจะหมดสติไปหลังจากกินคริสตัลแห่งวิญญาณ แต่ทุกคนก็สามารถบอกได้เลยว่าอาการของเธอไม่ได้อยู่ในขั้นวิกฤตอีกต่อไป และตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือรอให้แองเจลิก้าตื่นขึ้นมา หลังจากทุกอย่างในตัวเธอถูกฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว

ในขณะเดียวกัน หลังจากที่ได้เห็นว่าแองเจลิก้าได้รับการช่วยเหลือแล้ว คูลลิ่งคลาวด์ ในฐานะหัวหน้ากองอัศวินก็ริเริ่มที่จะเชิญกลุ่มของซือเฟิงเข้าไปพักผ่อนในเมืองอุกกาบาต ซึ่งเป็นเมืองหลักที่พวกเขาอาศัยอยู่

โดยซือเฟิงนั้นก็ไม่ได้ปฎิเสธคำเชิญนี้เช่นกัน เพราะเขาอยากรู้เรื่องราวของโลก God domain ยุคโบราณนี้ให้มากขึ้น

หลังจากนั้นกองทัพมนุษย์ก็เดินเท้าเป็นเวลามากกว่าสิบชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็ได้มาถึงบริเวณเทือกเขาที่สูงตระหง่านซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าเมืองหลวงของอาณาจักรใน God domain ยุคปัจจุบัน โดยเมืองนี้นั้นมันตั้งอยู่ในหุบเขาของเทือกเขานี้