บทที่ 1678 เทพอมตะเสียใจแต่ข้าไม่

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1678 เทพอมตะเสียใจแต่ข้าไม่

 

“เจ้ากล่าวสิ่งใด?” ราชันมังกรได้ยินไม่ชัด

 

“ข้าบอกว่าข้าเสียใจ” หงถิงกล่าวอีกครั้ง

 

คิ้วของราชันมังกรขมวดแน่นทันที “เสียใจ? หงถิง อย่ากล่าวเรื่องไร้สาระ เจ้ารู้อยู่แล้ว มีกี่คนที่อุทิศตนและเสียสละเพื่อเจ้า? หากเจ้ากล่าวเช่นนี้ ผู้คนที่ช่วยเหลือเจ้ามาตลอดชีวิตจะไม่ได้รับความยุติธรรม พ่อแม่ของเจ้า ภรรยาผู้ล่วงลับของเจ้าผู้อมตะที่เสียสละตนเองเพื่อให้เจ้าก้าวข้ามภัยพิบัติ

 

ราชันมังกรตําหนิหงถึงอย่างรุนแรง

 

“ท่านราชันมังกร การตายของหลิวซูเชียนเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เราสามารถทําความเข้าใจความรู้สึกของเทพอมตะบัวแดง เขาเพียงสับสนชั่วคราวเท่านั้น” ผู้อมตะของวังสวรรค์พยายามไกล่เกลี่ย

 

“เทพอมตะบัวแดง…ฮ่าฮ่าฮ่า” หงถิงหัวเราะด้วยความรังเกียจ เขามองราชันมังกรด้วยดวงตาแดงก่ำ “หากต้องเสียสละและเสียสละมากขึ้นในอนาคตเพื่อตําแหน่งนี้ ข้าก็ไม่ต้องการมัน!”

 

“พอแล้ว!” ราชันมังกรโกรธมาก “ข้าไม่อนุญาตให้เจ้ากล่าวไร้สาระอีกต่อไป หงถิง! เจ้าคิดว่าตําแหน่งเทพอมตะของเจ้าสามารถได้รับหรือละทิ้งได้ตามที่เจ้าต้องการงั้นหรือ? ทั้งหมดเป็นชะตากรรม นี่คือภารกิจในชีวิตของเจ้าไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นก็ตาม!”

 

หงถึงหัวเราะเสียงดัง เขามองราชันมังกร “แท้จริงแล้วเทพอมตะที่ยิ่งใหญ่กลับไม่สามารถทําสิ่งที่เขาพอใจ เขาไม่สามารถแม้แต่จะปฏิเสธตําแหน่งเทพอมตะ”

 

ราชันมังกรกล่าวด้วยน้ําเสียงเย็นชา “บอกข้า หงถิง บนโลกใบนี้ผู้ใดสามารถทําตามที่ตนเองพอใจ? ความคิดของเจ้ายังเด็กเกินไป เจ้าคิดว่าการเป็นเทพอมตะและเป็นผู้นําฝ่ายธรรมะไม่ต้องเสียสละงั้นหรือ? มีสิ่งใดในโลกใบนี้ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย? เพื่อปกครองและดูแลวังสวรรค์ เจ้าต้องจ่ายด้วยบางสิ่ง หากเจ้าไม่เสียสละ เจ้าก็ไม่มีคุณสมบัติเข้าสู่วังสวรรค์!”

 

ร่างกายของหงถึงสั่นสะท้านขึ้น

 

“ท่านราชันมังกร ท่านเทพอมตะ โปรดสงบอารมณ์ ตอนนี้เราควรพักฟื้นและรักษาอาการบาดเจ็บแทนที่จะทะเลาะกัน” ผู้อมตะคนอื่นๆพยายามไกล่เกลี่ย

 

หงถึงค่อยๆก้มศีรษะลงและกล่าวด้วยน้ําเสียงหนักแน่น “ข้าต้องการชุบชีวิตพวกเขา”

 

คิ้วของราชันมังกรยกขึ้น ใบหน้าของเขาเย็นชาราวกับน้ําแข็ง “เจ้าต้องการชุบชีวิตผู้ใด?”

 

“ทุกคนที่เสียสละเพื่อข้า ท่านพ่อท่านแม่ของข้า หลิวซูเซียน และคนอื่นๆ”

 

“อวดดี!” ราชันมังกรตะโกนและชี้นิ้วไปที่หงถึง “เจ้ามีความคิดนอกรีตเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้ารู้อยู่แล้ว ข้าบอกเจ้าไปหลายครั้งแล้ว ชีวิตและความตายถูกกําหนดโดยโชคชะตาชีวิตและความตายเป็นกฏแห่งเต๋ที่ยิ่งใหญ่ ชีวิตและความตายของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอยู่ภายใต้การจัดเตรียมของโชคชะตา เจ้าต้องการชุบชีวิตคนตายงั้นหรือ? เจ้ากําลังพยายามทําให้โลกทั้งใบตกสู่ความโกลาหล เจ้ายังไม่ได้เรียนรู้อีกมั้นหรือ? ยิ่งต่อต้านโชคชะตาโศกนาฏกรรมที่โหดร้ายยิ่งกว่าจะเกิดขึ้นรอบตัวเจ้า!”

 

“แม้จะเกิดโศกนาฏกรรมที่โหดร้ายกว่าข้าก็จะยอมรับมัน! ท่านอาจารย์ ศิษย์มีคําถามติดอยู่ในใจมาตลอด เหตใด? เพราะเหตุใดเราต้องยอมรับการจัดเตรียมของโชคชะตา? หากไม่มีโชคชะตา โลกจะวุ่นวายจริงๆงั้นหรือ? เป็นไปได้หรือไม่ที่โลกจะน่าอยู่มากขึ้น!?” หงถิงถาม

 

ร่างกายของราชันมังกรสั่นด้วยความโกรธ กระทั่งผู้อมตะของวังสวรรค์ก็เริ่มถอยหลังและรู้สึกราวกับหงถึงไม่ใช่คนที่พวกเขารู้จักอีกต่อไป

 

“ท่านเทพอมตะ ความคิดของท่านอันตรายเกินไป”

 

“ถูกต้อง หากปราศจากโชคชะตา เผ่าพันธุ์มนุษย์จะไม่รุ่งเรือง”

 

“วิญญาณชะตากรรมเป็นสมบัติล้ําค่าของวังสวรรค์ ท่านเทพอมตะจะทําลายมันงั้นหรือ? นี่…นี่…”

 

“พวกเจ้าทั้งหมด…” หงถิงมองผู้อมตะที่อยู่รอบๆและรู้สึกถึงความโดดเดี่ยว

 

เวลาผ่านไป

 

ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในสายธารแห่งกาลเวลา

 

ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความผันผวนของชีวิต เขาดูเหมือนคนจรที่เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกและไม่มีที่ใดที่สามารถเรียกว่าบ้าน

 

ใบหน้าของเขายังมีเงาของหงถึงในอดีต แต่การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

เทพปีศาจบัวแดงมองสายธารแห่งกาลเวลาและถอนหายใจ “ถึงเวลาทิ้งมรดกของข้า ไว้เบื้องหลังแล้ว”

 

เขาเดินลงมาอย่างช้าๆ เท้าของเขาหยุดก่อนที่มันจะสัมผัสสายธารแห่งกาลเวลา “เกาะบัวหินเกาะแรกจะเป็นเกาะบัวหินที่สําคัญที่สุด ข้าจะใช้วิญญาณความเสียใจเป็นแกนกลางของเกาะและทิ้งสิ่งนี้ไว้ให้ปีศาจต่างโลกเพราะเขามีความหวังมากที่สุดในการทําลายวิญญาณชะตากรรม”

 

เกาะบัวหินค่อยๆปรากฏขึ้น

 

เทพปีศาจบัวแดงทิ้งวิญญาณความเสียใจระดับแปดไว้ที่นี่รวมถึงทรัพยากรอมตะบนเส้นทาง แห่งกาลเวลา ความทรงจําบางส่วน ความหมายที่แท้จริง เคล็ดลับการหลอมรวม และท่าไม้ตาย

 

หลังจากเสร็จสิ้นการจัดเตรียม เทพปีศาจบัวแดงก็บินจากไปอย่างช้าๆด้วยร่างกาย ที่อ่อนล้าของเขา

 

เวลาผ่านไป

 

คนนอกบุกเข้าไปสู่เกาะบัวหิน

 

เขามีรูปร่างผอมบาง ศีรษะโล้น เท้าเปล่า ขาของเขาเปื้อนโคลนเหมือนชาวนาที่กลับจากการทํางานในทุ่งมาทั้งวัน

 

อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขากลับดูอ่อนเยาว์ ดวงตาส่องประกายและเต็มไปด้วยความเมตตา

 

ความหมายที่แท้จริงที่อยู่ในร่างเทพปีศาจบัวแดงปรากฏขึ้นและเผยรอยยิ้มให้กับชาย เท้าเปล่า “ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ”

 

“ข้าคือสวรรค์พิภพ ในที่สุดข้าก็พบที่นี่หลังจากใช้ความพยายามมากมาย”

 

คนผู้นี้ก็คือเทพอมตะสวรรค์พิภพ ตอนนี้เขากลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าเรียบร้อยแล้ว

 

เทพปีศาจบัวแดงถามอย่างตรงไปตรงมา “ท่านมาเยือนที่นี่เพื่อสิ่งใด?”

 

เทพอมตะสวรรค์พิภพยิ้ม “ท่านบัวแดง เหตุใดต้องถามเมื่อรู้อยู่แล้ว?”

 

เทพปีศาจบัวแดงเผยรอยยิ้ม “ท่านพูดถูก วิญญาณชะตากรรมได้รับความเสียหายแต่ยังไม่ถูกทําลายอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นทุกอย่างจึงสามารถสังเกตเห็นได้จากสายธารแห่งกาลเวลา”

 

เทพปีศาจบัวแดงหยุดก่อนกล่าวต่อ “ข้าสามารถให้ท่านยืมวิญญาณความเสียใจ สำหรับความตั้งใจที่จะขโมยผู้สืบทอดของข้า นั่นขึ้นอยู่กับความสามารถของท่าน”

 

เทพอมตะสวรรค์พิภพกล่าวอย่างเคร่งขรึม “แม้เขาจะเป็นปีศาจต่างโลก แต่เขาไม่ใช่คนไร้ความรู้สึก ไม่สายเกินไปที่จะหันหลังกลับ ผู้ใดบ้างที่ไม่ต้องการได้รับการปลดปล่อย? ข้ายินดีทดลอง!”

 

เทพปีศาจบัวแดงหัวเราะ “เอาล่ะ ร่างหลักของข้ากังวลอยู่บ้างเมื่อสร้างเกาะแห่งนี้ ท้ายที่สุดข้าก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถป้องกันวังสวรรค์ อย่างไรก็ตามเมื่อท่านเคลื่อนไหวด้วยตนเอง ข้าก็ไม่จําเป็นต้องกังวล นี่คือวิญญาณความเสียใจรับมัน”

 

วิญญาณความเสียใจบินเข้าไปหาเทพอมตะสวรรค์พิภพอย่างช้าๆขณะที่ฝ่ายหลังรับมันไว้อย่างระมัดระวัง

 

“สมกับเป็นวิญญาณความเสียใจ มันกระตุ้นความรู้สึกเสียใจอันไร้ขอบเขตออกมาอย่างต่อเนื่อง มีเพียงคนที่ปราศจากความเสียใจแม้แต่น้อยเท่านั้นที่มีภูมิคุ้มกันต่อมัน มิฉะนั้นผู้อมตะที่เข้าใกล้มันจะรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!” เทพอมตะสวรรค์พิภพเผยรอยยิ้มขมขืน “หากข้ายังไม่บรรลุระดับเก้า ข้าจะไม่สามารถกําหราบมัน”

 

“ดูเหมือนท่านจะมีความเสียใจอยู่ในใจเช่นกัน” เทพปีศาจบัวแดงถอนหายใจ

 

เทพอมตะสวรรค์พิภพเผยรอยยิ้มบาง “ผู้ใดบนโลกใบนี้ที่ไม่มีความเสียใจในชีวิต?”

 

หลังจากเก็บวิญญาณความเสียใจเข้าไปในมิติช่องว่าง เทพอมตะสวรรค์พิภพก็โค้งคํานับเทพปีศาจบัวแดง “เช่นนั้นขาขอลา เมื่อถึงเวลาข้าจะส่งเขามาที่นี่อย่างแน่นอน”

 

ฟางหยวนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น ความงุนงงค่อยๆหายไปจากดวงตาของเขา

 

เขาได้รับความทรงจําบางส่วนของเทพปีศาจบัวแดงและเข้าใจเหตุผลทั้งหมด

 

“ข้าไม่เคยคาดหวังว่าจะมาถึงเกาะบัวหินโดยตรง แม้เทพปีศาจบัวแดงและเทพอมตะสวรรค์ พิภพจะตายไปแล้วแต่การจัดเตรียมของพวกเขายังทํางานอยู่”

 

ฟางหยวนถอนหายใจก่อนจะมองความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงและวิญญาณความเสียใจที่ลอยอยู่ด้านหน้า

 

ความหมายที่แท้จริงในร่างของเทพปีศาจบัวแดงเผยรอยยิ้มกล่าว “ฟางหยวน ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่ ไม่จําเป็นต้องกล่าวสิ่งใด ข้าเชื่อว่าเจ้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทําลายวิญญาณชะตากรรม ดังนั้นรับมรดกที่แท้จริงของข้าไป มันรอเจ้ามาเป็นเวลากว่าล้านปีแล้ว”

 

ฟางหยวนพยักหน้าและยื่นมือออกไปคว้าจับวิญญาณความเสียใจ

 

เทพปีศาจบัวแดงเร่งเตือน “ระวังวิญญาณความเสียใจไม่สามารถสัมผัสได้โดยตรง มิฉะนั้น เจ้าจะจมอยู่ในความเสียใจที่ไม่รู้สิ้นสุด! ข้าเตรียมวิธีการไว้ให้เจ้าแล้ว เจ้าเพียงแค่..”

 

“ไม่จําเป็น” ฟางหยวนคว้าวิญญาณความเสียใจเอาไว้และปรับแต่งมันทันทีอย่างไม่แยแส

 

เทพปีศาจบัวแดงตะลึง “เจ้า…”