บทที่ 1679 มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1679 มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง

 

สายน้ำไหลจากอดีตสู่ปัจจุบันและอนาคต

 

ฟางหยวนยืนอยู่บนเกาะบัวหินของเทพปีศาจบัวแดงและมองไปยังสายธารแห่งกาลเวลาอยู่อย่างเงียบๆ

 

สายธารแห่งกาลเวลาถือเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพที่พิเศษที่สุด

 

มันเคลื่อนที่ผ่านโลกทั้งใบ หากปราศจากมัน โลกของผู้ใช้วิญญาณจะกลายเป็นภาพนิ่งที่ไร้ชีวิตและไร้การเปลี่ยนแปลง

 

ฟางหยวนครอบครองภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปแต่เขาไม่สามารถยึดครองสายธารแห่งกาลเวลา

 

แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพแห่งนี้เป็นของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสัตว์ทุกตัว หญ้าทุกต้น หินทุกก้อน น้ําทุกหยด ทุกสิ่งล้วนได้รับประโยชน์จากสายธารแห่งกาลเวลา

 

ผู้อมตะสามารถครอบครองสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาที่อยู่ภายในมิติช่องว่างของพวกเขาเท่านั้น

 

สายธารแห่งกาลเวลาคือสมบัติส่วนรวมของคนทั้งโลก

 

พื้นผิวของสายธารแห่งกาลเวลาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นบางๆของแสงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

 

มันเป็นสถานที่ที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งกาลเวลาอยู่มากที่สุดในโลก

 

ฟางหยวนยืนอยู่ที่ขอบเกาะบัวหิน เขาสามารถมองเห็นอสูรปี ฉลามนิ้วกาลเวลา และวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจํานวนมากด้วยการกวาดตามองเพียงครั้งเดียว

 

หลายวันผ่านไปแล้วตั้งแต่ฟางหยวนมาถึงเกาะบัวหิน

 

ในช่วงเวลานี้เขาดูดซับความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงและทําให้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขามุ่งสู่ระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุด

 

ด้วยความสําเร็จระดับนี้ ฟางหยวนได้รับความเข้าใจใหม่มากมายเกี่ยวกับสายธารแห่งกาลเวลา มันไม่ใช่เรื่องผิวเผินแต่เป็นแก่นแท้ของสายธารแห่งกาลเวลา มันเหมือนม่านลึกลับค่อยๆเปิดออกและทําให้เขาเข้าใจการทํางานของโลกใบนี้มากขึ้น

 

ความสําเร็จระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาทําให้ฟางหยวนเติบ โตขึ้นในทุกแง่มุม

 

ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายอมตะตัดเวลา ตอนนี้ฟางหยวนเข้าใจแก่นแท้ของมันอย่างสมบูรณ์และ สามารถกู้คืนพลังอํานาจดั่งเดิมของมัน

 

อีกตัวอย่างหนึ่งคือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเซี่ยชา ตอนนี้ฟางหยวนสามารถดัดแปลงพวกมันให้เหมาะสมกับตนเองมากขึ้น

 

การเติบโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขาคือเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและเส้นทางแห่งการหลอมรวม ฟางหยวนมั่นใจมากในการคิดค้น พัฒนา และดัดแปลงเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะทุกเส้นทางโดยเฉพาะเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด ถัดมาคือวิญญาณความเสียใจ

 

ยังไม่ต้องกล่าวถึงประวัติศาสตร์ของวิญญาณดวงนี้ ด้วยการเป็นวิญญาณอมตะระดับ แปดคุณค่าของมันก็ไม่ธรรมดาแล้ว

 

ตอนนี้ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะระดับแปดในการครอบครองทั้งสิ้นห้าดวงได้แก่วิญญาณ ทัศนคติ วิญญาณดาบแห่งปัญญา วิญญาณปีไหลผ่านราวกับสายน้ํา วิญญาณป้ายคําสั่งอสูรวิญญาณ และวิญญาณความเสียใจ

 

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณความเสียใจ เขาสามารถสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะสระแห่งความโศกเศร้าได้อย่างไร้อุปสรรค

 

แน่นอนว่าความยากลําบากยังมีอยู่ แต่อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพังทลายลงแล้ว นั่นคือวิญญาณความเสียใจ ย้อนกลับไปเมื่อเทพปีศาจบัวแดงจัดเตรียมมรดกที่แท้จริงนี้ เขาอนุมานสถานการณ์ของฟางหยวนและเตรียมทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาไว้เป็นจํานวนมาก

 

ด้วยสิ่งเหล่านี้ ฟางหยวนจะสามารถสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่เหนือกว่าสระแห่งความโศกเศร้า

 

เขายังสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะและยกระดับวิญญาณอมตะที่มีอยู่แล้ว

 

ทรัพยากรอมตะที่เทพปีศาจบัวแดงทิ้งไว้อย่างน้อยก็เป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด มีทรัพยากรอมตะระดับแปดจํานวนมาก

 

หากวังสวรรค์เห็นสิ่งนี้ พวกเขาจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้ฟางหยวนได้รับทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาโดยไม่สนใจค่าใช้จ่าย แต่ตอนนี้การกระทําทั้งหมดของพวกเขากลับกลายเป็นไร้ความหมาย

 

ท่ามกลางท่าไม้ตายอมตะที่ฟางหยวนได้รับ ส่วนใหญ่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่ใช้วิญญาณกาลเวลาเป็นแกนกลาง สิ่งสําคัญที่สุดคือฟางหยวนได้รับท่าไม้ตายอมตะหวนคืนสําเร็จท่าไม้ตายนี้ ใช้วิญญาณอมตะหลายดวงสนับสนุนวิญญาณกาลเวลา มันจะทําให้การใช้วิญญาณกาลเวลประสบความสําเร็จเต็มร้อยส่วน

 

การใช้วิญญาณกาลเวลาเพียงดวงเดียวมีโอกาสประสบความสําเร็จต่ําเกินไป นอกจากนั้นมันยังมีข้อเสียคือโชคจะลดลง สําหรับท่าไม้ตายอมตะหวนคืนสําเร็จ ข้อเสียเรื่องโชคลดลงยังคงอยู่ แต่การกําเนิดใหม่จะประสบความสําเร็จอย่างแน่นอน โอกาสล้มเหลวของมันเป็นศูนย์

 

ด้วยท่าไม้ตายนี้การใช้งานวิญญาณกาลเวลาจะปลอดภัยมาก ฟางหยวนตัดสินใจเตรียมความพร้อมสําหรับท่าไม้ตายนี้

 

ฟางหยวนได้รับท่าไม้ตายอมตะหลายท่า ท่ามกลางพวกมันมีท่าไม้ตายอมตะท่าหนึ่งที่เทพปีศาจบัวแดงจัดเตรียมไว้ให้ฟางหยวนเป็นพิเศษ เดิมที่มันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า แต่หลังจากผ่านกาลเวลามานั้นล้านปี พลังอํานาจของมันลดลงไปบ้าง

 

ชื่อของท่าไม้ตายนี้คือตัวตนในอนาคต

 

ท่าไม้ตายนี้พึ่งพาพลังอํานาจของสายธารแห่งกาลเวลา ผู้อมตะสามารถยืมสถานะในอนาคตของพวกเขาเป็นการชั่วคราว

 

ตัวอย่างเช่นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าที่สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะในอนาคต ภายใต้พลังอํานาจของท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต เขาจะสามารถยืมตัวตนผู้อมตะของเขาในอนาคตและต่อสู้ในสถานะผู้อมตะได้ชั่วคราว

 

กระทั่งฟางหยวนก็ยังพูดไม่ออกกับพลังอํานาจที่ลึกลับและน่าสะพรึงกลัวของท่าไม้ตายนี้

 

โชคไม่ดีที่ท่าไม้ตายนี้อ่อนแอลงและตกลงมาอยู่ในระดับเจ็ด มันไร้ประโยชน์สําหรับฟางหยวน

 

ในการอนุมานของเทพปีศาจบัวแดง ฟางหยวนยังเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดเมื่อเขาพบเกาะบัวหินแห่งนี้ แต่เทพปีศาจบัวแดงไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา แม้เขาจะสามารถเลียนแบบความสามารถบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่มันอาจเกิดข้อบกพร่องบางอย่างในการอนุมาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่วิญญาณชะตากรรมได้รับบาดเจ็บขณะที่เส้นทางแห่งโชคปรากฏขึ้น ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดา

 

‘ข้าก้าวเข้าสู่ระดับแปดแล้ว ข้าทําได้เพียงมอบท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตให้กับ ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าเท่านั้น’

 

‘สิ่งนี้สามารถชดเชยความแข็งแกร่งและคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมในการต่อสู้ของพวกเขา’

 

‘น่าเสียดายที่ข้าสูญเสียกําลังคนไปมากก่อนหน้านี้’

 

มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงมีมากมายแต่ฟางหยวนยังรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

 

เหตุผลเป็นเพราะเทพปีศาจบัวแดงไม่ได้ทิ้งสิ่งที่เขาคาดหวังมากที่สุดเอาไว้ นั่นคือวิธีการบางอย่างหรือทางลัดที่จะทําไปสู่การทําลายวิญญาณชะตากรรม

 

ความทรงจําที่เทพปีศาจบัวแดงทิ้งไว้มีเพียงประสบการณ์ในการก้าวเข้าสู่ระดับเก้าและชีวิตที่น่าเศร้าของเขา สําหรับวิธีการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาหรือวิธีบุกวงสวรรค์และทําลายวิญญาณชะตากรรม ความทรงจําเหล่านี้ไม่ได้ถูกทิ้งไว้

 

ความทรงจําข้ามมาถึงช่วงเวลาที่เทพปีศาจบัวแดงสร้างเกาะบัวหิน สิ่งใดคือเหตุผลของการจัดเตรียมนี้?

 

ฟางหยวนสอบถามจากความหมายที่แท้จริงในร่างเทพปีศาจบัวแดง

 

คําตอบที่ได้รับคือไม่มีทางลัดในการทําลายวิญญาณชะตากรรม แม้เทพปีศาจบัวแดงจะเคยใช้ทางลัดบางอย่างในยุคสมัยของเขา ทางลัดเหล่านั้นก็ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว อย่าประมาทวังสวรรค์ หากพบทางลัดๆใด ต้องระวัง มันอาจเป็นกับดักของวังสวรรค์

 

เหตุใดเทพปีศาจบัวแดงไม่ทิ้งความทรงจําอื่นๆเอาไว้สําหรับคําถามนี้ ความหมายที่แท้จริงในร่างเทพปีศาจบัวแดงไม่มีคําตอบ เขาเพียงคาดเดาว่า “ร่างหลักอาจไม่ต้องการชี้ทางให้เจ้าเดิน เพราะมันอาจนําไปสู่ความเข้าใจผิด การทําลายวิญญาณชะตากรรมขึ้นอยู่กับทางเลือกของเจ้าเอง”

 

ฟางหยวนถามต่อว่าเกาะบัวหินเกาะอื่นๆอยู่ที่ใด

 

ความหมายที่แท้จริงในร่างเทพปีศาจบัวแดงไม่รู้

 

อย่างไรก็ตามคําตอบนี้อยู่ในความคาดหมายของฟางหยวน

 

หากเกาะบัวหินทุกเกาะสามารถระบุตําแหน่งของเกาะอื่น พวกมันคงถูกค้นพบหรือถูกวังสวรรค์ยึดครองไปแล้ว เพื่อป้องกันเหตุการณ์นี้ เทพปีศาจบัวแดงจึงสร้างเกาะบัวหินแต่ละเกาะแยกจากกันโดยที่แต่ละเกาะไม่สามารถระบุตําแหน่งของเกาะอื่น

 

“วิญญาณชะตากรรมต้องถูกทําลาย!”

 

วังสวรรค์ที่มีวิญญาณชะตากรรมและวังสวรรค์ที่ไม่มีวิญญาณชะตากรรมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากวังสวรรค์ประสบความสําเร็จในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม แม้ฟางหยวนจะไม่ถูกผูกมัดด้วยโซ่ตรวนแห่งโชคชะตา แต่คนอื่นๆและสิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลกใบนี้จะได้รับอิทธิพลและ ถูกควบคุมโดยโชคชะตา

 

เมื่อเวลานั้นมาถึงทุกคนและทุกสิ่งจะกลายเป็นศัตรูของเขาทั้งหมด

 

มันอาจฟังเกินจริงไปเล็กน้อย แต่มันเป็นเรื่องจริง

 

อีกเหตุผลที่สําคัญกว่าคือการคงอยู่ของวิญญาณชะตากรรมเป็นอุปสรรคต่อการแสวงหาชีวิตนิรันดร์ของฟางหยวน

 

วิญญาณชะตากรรมไม่อนุญาตให้มีการดํารงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์หรือการฟื้นคืนชีพ สิ่งมีชี วิตทั้งหมดต้องตาย

 

ดังนั้นไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น ฟางหยวนก็ต้องทําลายวิญญาณชะตากรรม

 

เทพปีศาจบัวแดงอนุมานมานานแล้ว เขาไม่กังวเลเกี่ยวกับแรงจูงใจของฟางหยวน