ในสำนักธาราเมฆ หญ้าและต้นไม้ทุกต้นที่นางคุ้นเคยยังอยู่ แต่ใบหน้ามากมายที่นางคุ้นเคยกลับไม่อยู่แล้ว บนถนนหลักที่กว้างใหญ่ของสำนัก มีผู้คนหลายกลุ่มถือคบเพลิงออกลาดตระเวน ยิ่งเข้าใกล้ยอดเขามากเท่าไร จำนวนพลลาดตระเวนก็ยิ่งหนาแน่นมากขึ้น และภายในสำนักธาราเมฆเองก็มียามเฝ้าทุกๆ 10 ก้าว ถ้าไม่ใช่เพราะจวินอู๋เสียใช้พลังที่เกือบเทียบได้กับพลังวิญญาณขั้นสีทอง เกรงว่านางคงถูกเปิดเผยตำแหน่งทันทีที่เข้าใกล้สำนักธาราเมฆ
จวินอู๋เสียเดินผ่านความมืดไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครสังเกตเห็น นางไม่ได้ค้นหาอย่างไร้จุดหมายไปทั่วสำนัก แต่สังเกตการเคลื่อนไหวทุกอย่างที่นั่นอย่างละเอียดรอบคอบ
เย่เม่ยหาจนแทบพลิกสำนักธาราเมฆแล้ว สถานที่เดียวที่เขาไม่ได้เข้าไปก็บังเอิญเป็นสาขาจ้าววิญญาณที่จวินอู๋เสียเคยอยู่พอดี!
จวินอู๋เสียใช้เวลากับซูหย่านับไม่ถ้วนที่สาขาจ้าววิญญาณ ตอนนี้นางมาถึงด้านนอกสาขาจ้าววิญญาณแล้ว ความเสียใจผุดขึ้นในใจนาง ความโกรธแค้นกลายเป็นเชื้อเพลิงให้กับความเกลียดชังที่นางมีต่อศัตรู
แม้แต่ระดับพลังของจวินอู๋เสียในตอนนี้ นางยังไม่สามารถสัมผัสได้ว่ามีใครอยู่ข้างในสาขาจ้าววิญญาณ แต่โดยพื้นฐานแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนอยู่ เนื่องจากในสาขาจ้าววิญญาณตอนนี้จุดไฟสว่างเอาไว้ และจวินอู๋เสียก็เห็นเงาคนอยู่หลายคนอย่างชัดเจนจากหน้าต่าง แต่นางไม่สามารถสัมผัสได้ว่ามีคนอยู่ข้างใน
อย่างที่คิดไว้ พวกเขาซ่อนมือไว้อย่างดี!
จวินอู๋เสียหรี่ตา นางคิดอยู่แล้วว่าสถานที่ที่เย่เม่ยไม่สามารถตรวจสอบได้จะต้องมีอะไรแปลกๆ ตอนนี้นางมาที่นี่ด้วยตัวเองแล้ว นางก็ยิ่งแน่ใจว่าตัวเองเดาถูก คนที่นางไม่สามารถสัมผัสได้ต้องมีพลังวิญญาณขั้นสีทองขึ้นไปอย่างแน่นอน!
กวาดตามองทั่วทั้งอาณาจักรกลาง มีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีทองอยู่ทั้งหมดกี่คน? ต่อให้มีคนสันโดษซ่อนตัวอยู่ ก็ไม่น่ามีจำนวนเกินกว่าที่จะนับได้ด้วยมือเดียว แต่จำนวนคนในหอนั่นเห็นได้ชัดว่ามีมากกว่า 5 คน!
จวินอู๋เสียแทบจะแน่ใจแล้วว่าซูหย่าถูกซ่อนเอาไว้ในสาขาจ้าววิญญาณ!
เมื่อความคิดนั้นผุดขึ้นมา จวินอู๋เสียก็แทบจะไม่สามารถระงับความปรารถนาที่จะบุกเข้าไปในสาขาจ้าววิญญาณเพื่อช่วยซูหย่า แต่สุดท้ายนางก็ยับยั้งตัวเองได้
ตอนนี้ซูหย่าอยู่ในมือคนพวกนั้น ถ้านางบุ่มบ่ามบุกเข้าไป แม้ว่าจะมีจวินอู๋เหยาอยู่เคียงข้าง แต่ศัตรูก็ยังมีโอกาสฆ่าซูหย่าก่อน
จวินอู๋เสียไม่มีวันที่จะล้อเล่นกับชีวิตของซูหย่า!
เนื่องจากคนพวกนั้นใช้ซูหย่าเป็นเหยื่อล่อบังคับให้ชายชราตัวเล็กปรากฏตัวออกมา ดังนั้น ก่อนที่จะถึงเส้นตายในอีก 3 วันข้างหน้า ซูหย่าจะปลอดภัย novel-lucky
จวินอู๋เสียถอยกลับอย่างเงียบๆภายใต้ความมืด ดวงตาเย็นชาของนางที่ซ่อนอยู่ในความมืดยามค่ำคืนกำลังส่องประกายเย็นเยียบน่ากลัว ไม่ว่าคนพวกนั้นจะเป็นใคร ใครก็ตามที่บังอาจทำร้ายอาจารย์ของนาง จะต้องชดใช้ด้วยเลือด!
ภายในสำนักธาราเมฆ นอกจากศิษย์ของเก้าอารามที่ลาดตระเวนอยู่ ยังมีผู้อาวุโสของเก้าอารามเดินผ่านไปมาเป็นครั้งคราวด้วย พวกเขาเดินกันเงียบๆโดยไม่พูดอะไรเลย ขนาดเห็นคนที่คุ้นเคยก็ยังแค่สบตากันเท่านั้น บรรยากาศในสำนักธาราเมฆแปลกประหลาดและเงียบสงัดมาก
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งถือเหยือกเหล้าในมือและเดินไปตามถนนหลักของสำนัก ชายสูงอายุที่เดินผ่านเขาแค่พยักหน้าให้หนุ่มหล่อคนนั้นโดยไม่พูดอะไร และเดินผ่านกันไปแบบนั้น
รอยยิ้มบางประดับอยู่ที่ริมฝีปากของชายคนนั้นขณะเดินไปยังที่พักของตน
เมื่อเดินมาถึงข้างต้นไม้ที่มีเงามืด ชายคนนั้นก็ได้ยินเสียงเบาๆ ฝีเท้าของเขาช้าลงเล็กน้อยเด็กหนุ่มหน้าตาธรรมดาในชุดเครื่องแบบหมาป่าสวรรค์เดินมาทางเขา ในตอนที่เด็กหนุ่มเดินผ่านเขา ชายคนนั้นก็ชะงักเท้าและพูดขึ้นทันที
“หยุดก่อน”