ฉินฝานหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “หานสงตระกูลหานงั้นเหรอ ฉันรู้จักคนนี้ หมีบื้อที่มีชื่อเสียง เป็นยังไง เขาต่อสู้กับลู่ฝานใครเป็นฝ่ายชนะ การต่อสู้เป็นยังไงบ้าง”

โฉวซิงพูดว่า “ลู่ฝานชนะครับ อีกทั้งพูดกันว่าลู่ฝานใช้เพียงกระบวนท่าเดียว ก็ซัดเขาจนล้มคว่ำลงกับพื้น”

“กระบวนท่าเดียวเหรอ”

ฉินฝานหัวเราะขึ้นมา

“ข่าวลือตามข้างทางนับวันยิ่งไม่น่าเชื่อถือขึ้นเรื่อยๆ! กระบวนท่าเดียวเหรอ ลู่ฝานเป็นผู้รับช่วงต่อของสิบตระกูลใหญ่เหรอ คนหนุ่มที่สามารถเอาชนะหานสงได้ด้วยกระบวนท่าเดียว ทั้งเมืองหลวงมีแค่ไม่กี่คนเองมั้ง”

สีหน้าโฉวซิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย “องค์ชาย ผมสอบถามอย่างละเอียดแล้ว เหมือนเหตุการณ์เป็นแบบนี้จริงๆ ครับ คนพวกนั้นพูดถึงอย่างออกรส ไม่เหมือนโกหก มีสองสามคนใช้กระจกจำภาพบันทึกไว้ด้วยครับ ว่ากันว่าใช้แค่นิ้วเดียวเท่านั้น”

รอยยิ้มบนหน้าฉินฝานหายไปทันที

“นายบอกว่าเป็นเรื่องจริงเหรอ”

โฉวซิงพยักหน้า เห็นประกายในแววตาฉินฝาน โฉวซิงตั้งสติขึ้นมาได้ทันที

“องค์ชาย ผมจะไปซื้อกระจกจำภาพพวกนั้นมา ให้องค์ชายได้ชม”

ฉินฝานแสดงสีหน้าพอใจออกมา โบกมือแล้วพูดว่า “ไปสิ ถ้าเป็นจริงอย่างที่นายพูด ฉันมีรางวัลใหญ่ให้”

โฉวซิงได้ยินคำว่ารางวัลใหญ่ แววตาโลภขึ้นมาทันที เขารีบคำนับแล้วออกไป

ฉินฝานวางขนมในมือลง ตอนนี้สีหน้าไม่จริงจังหายไปหมดแล้ว

แววตาทั้งสองข้างเป็นประกายแวววาว ฉินฝานพึมพำว่า “ลู่ฝาน ถ้านายสร้างความประหลาดใจให้ฉันเยอะๆ จะดีเป็นที่สุด”

……

ซอยเก่าๆ บนถนนลึก

ในร้านเล็กๆ แห่งหนึ่งมีแขกนั่งเต็มไปหมด

เถ้าแก่เป็นคนอ้วนคนหนึ่ง ถือไหเหล้าสกปรกอยู่ในมือ เดินมาด้านหน้าผู้อาวุโสคนหนึ่ง

เถ้าแก่กำลังจะพูดอะไร แต่เห็นผู้อาวุโสยื่นมือออกมาห้ามเขาไว้

“ไม่ต้องพูด ให้ฉันฟังอีกครู่หนึ่ง!”

เถ้าแก่ขมวดคิ้วสงสัย ที่นี่มีอะไรให้ฟังเหรอ

เมื่อหันไป เห็นแขกสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่พอดี

“ฉันจะบอกให้นะ ลู่ฝานเป็นผู้แข็งแกร่งในบรรดาผู้แข็งแกร่ง แค่นิ้วเดียวก็ทำให้หานสงตระกูลหานล้มลงบนพื้น หานสงขึ้นชื่อเรื่องทนไม้ทนมือมากเลยนะ ในตระกูลหาน ถึงโดนพี่ใหญ่ที่ระดับสูงกว่าเขาสองสามขั้นรุมกระทืบ ก็ทนได้เป็นร้อยกระบวนท่าเลยนะ แต่ครั้งนี้แค่กระบวนท่าเดียวเอง แค่กระบวนท่าเดียวก็แพ้แล้ว นักกระบี่แห่งตงหวาคนนี้ แข็งแกร่งจนน่ากลัว!”

ผู้อาวุโสฟังถึงตรงนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เถ้าแก่อ้วนเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ จู่ๆ คิดอะไรขึ้นได้ พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ลูกศิษย์นายใช่ไหม!”

ผู้อาวุโสหัวเราะร่า โผล่หน้าออกมา แสงอาทิตย์นอกหน้าต่าง ส่องลงบนใบหน้าเขาพอดี

ฝ่ามือดำขลับ ผมและเคราขาว ใบหน้ามีรอยยิ้ม หวูเฉินนั่นเอง

“ใช่ นั่นลูกศิษย์ฉันเอง!”

หวูเฉินหัวเราะๆ เบาแล้วเอ่ยขึ้น คว้าไหเหล้ามา จากนั้นเงยหน้าดื่มอึกใหญ่

เถ้าแก่อ้วนหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “ตาเฒ่าอย่างนายนี่ สุดท้ายยังรับศิษย์ดีขนาดนี้ได้ด้วยเหรอ ดูเหมือนฉันต้องเห็นหน่อยแล้ว ตอนนี้เขามาเมืองหลวงแล้วใช่ไหม วันตอนไหนพามาสิ”

หวูเฉินวางไหเหล้าลง โบกมือไปมาแล้วพูดว่า “ไม่รีบๆ!”

พูดจบหวูเฉินหัวเราะออกมา

เถ้าแก่อ้วนพึมพำเบาๆ

“ลู่ฝาน อืม ฉันจำชื่อนี้ไว้แล้ว!”