บทที่ 721 คุณกราบผมสิ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 721 คุณกราบผมสิ
เจียงลั่วเสินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้นายเข้าใจแล้วหรือยัง? นายรู้ไหมว่าเคล็ดวิชาของตระกูลลี้ลับมาจากไหน”

เย่เซิ่งเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความจริง แล้วเผ่าเทพโบราณกาลยังดำรงอยู่อีกไหม? ถ้ายังดำรงอยู่ แล้วพวกเขาอยู่ที่ไหน? เทพเจ้าสามารถมีชีวิตอมตะได้จริง ๆ หรือ?”

เจียงลั่วเสินหัวเราะและด่า “ผมจะรู้ได้อย่างไร? ทั้งหมดล้วนเป็นการเดาของผมจากเบาะแสต่าง ๆ แต่เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์เป็นความจริง สรุปแล้วเป้าหมายของตระกูลลี้ลับคือกลายเป็นการดำรงอยู่เหมือนเผ่าเทพโบราณกาลบรรลุเป้าหมายแห่งความเป็นอมตะ เพื่อเป้าหมายนี้ทำให้ตระกูลลี้ลับบ้าคลั่งไปแล้ว”

“บ้าคลั่งจริง ๆ”

ดวงตาของเย่เซิ่งเทียนเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า เจียงลั่วเสินไม่ต้องพูดอะไร ตอนนี้เขาก็รู้ว่าแล้วแม่ของเขาอยู่ที่ไหน

ต้องอยู่ที่ตระกูลลี้ลับแน่นอน

แต่ตอนนี้ เขากลับไม่กล้าไปหาแม่

ถ้าแม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ละก็…..

เย่เซิ่งเทียนไม่กล้าคิดเรื่องนี้

เขาไม่เชื่อว่าแม่จะเป็นคนแบบนั้น แต่ก็ต้องคาดเดา

ขณะนี้ เขามีอาการทางประสาทเล็กน้อย และเริ่มสงสัยทุกสิ่ง

แม้แต่การเกิดของเขายังเป็นการทดลอง แล้วยังมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก?

เย่เซิ่งเทียนรู้สึกขมขื่นมาก สำหรับบางสิ่งบางอย่าง การไม่ได้รู้ความจริงนั้นมีความสุขมากกว่าการรู้ความจริง

เจียงลั่วเสินตบไหล่เย่เซิ่งเทียนเบา ๆ และกล่าวว่า “อย่าคิดมาก ไม่ว่าเป้าหมายของพวกเขาคืออะไร ชีวิตเป็นของนาย นายเป็นคนสร้างเส้นทางขึ้นมาเอง ไม่มีใครควบคุมนายได้ ถ้าสวรรค์ไม่ให้ทางรอดแก่พวกเรา ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็สร้างทางรอดเอง ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลลี้ลับทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์โดยไร้ยางอายเหมือนฝูงแมลงวันกับสุนัข ไม่มีความกล้าหาญแม้แต่น้อย”

เย่เซิ่งเทียนพยักหน้าด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ชั่วขณะหนึ่ง เขามีความคิดที่จะหลบหนีออกไปจากโลก

อยากกลับไปที่เฉียนถัง และใช้ชีวิตของตัวเอง

แต่ทันทีที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้น ความโกรธก็พัดความคิดนี้หายไปจากสมองทันที

แม่งฉิบหาย!

เขาเป็นเย่เซิ่งเทียน เขาทำงานหนักและเสี่ยงตายมาหลายปี แต่สุดท้ายเขากลับพบว่ามันเป็นแผนของคนอื่น!

แม้แต่การเกิดของเขายังเป็นการทดลอง!

ไอ้พวกตระกูลลี้ลับ แม่งฉิบหาย พวกแกเป็นตัวอะไร สามารถควบคุมโชคชะตาของกูได้เหรอ?

ชีวิตของกู กูจะเป็นคนตัดสินใจเอง!

จะตายหรืออยู่ อยู่ที่กูตัดสินใจ!

เส้นทางที่กูเดินผ่านมา กูไม่เคยกลัวและไม่เคยถอย!

การทดลองบ้าอะไรเนี่ย กูเป็นแค่เย่เซิ่งเทียน!

ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ขอเพียงมึงกล้าขวางทางกู กูก็จะฆ่ามึง!

ต่อให้ตาย กูก็จะตายอย่างสง่าผ่าเผย!

การทดลองอะไร แม่งฉิบหาย!

กูเป็นแค่เย่เซิ่งเทียน!

“ห๊ะ?”

เจียงลั่วเสินตกตะลึงครู่หนึ่ง เมื่อเห็นพลังบนร่างกายของเย่เซิ่งเทียนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน จากนั้นพลังที่ทรงพลังก็แผ่กระจายออกมาจากร่างกายของเย่เซิ่งเทียน

“นายทะลวงแล้ว?”

เย่เซิ่งเทียนส่ายศีรษะด้วยความรู้สึกอธิบายไม่ถูก “ผมฝึกฝนมาสี่ปีแล้ว และปีนี้ผมไม่สามารถทะลวงสำเร็จได้ ผมติดอยู่ในแดนเหนือโลกีย์มาหนึ่งปีกว่าแล้ว ถ้ามันจะทะลวงมันก็ทะลวงไปนานแล้ว แต่ตอนนี้อารมณ์ของผมมันต่างออกไป ผมแค่อยากจะผ่าท้องฟ้านี้แยกออกจากกัน!”

สี่ปีแห่งการฝึกฝน!

นี่เป็นคำพูดของมนุษย์เหรอ?

เวลาสั้น ๆ เพียงสี่ปี เขาสามารถทะลวงสู่แดนเหนือโลกีย์แล้ว!

แล้วพวกเราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?

เจียงลั่วเสินกล่าวด้วยความสงสัย “มันเป็นเรื่องที่แปลก ก่อนหน้านั้นบนร่างกายของนายเป็นเพียงรัศมีฆ่าที่รุนแรง แต่ตอนนี้มีพลังที่ทรงพลังมาก หรือว่าเมื่อสักครู่จิตใจของนายกระวนกระวาย แล้วไปกระตุ้นสายเลือดเทพอีกประเภทหนึ่งทีอยู่ในร่างกาย?”

“สายเลือดที่สองเหรอ?”

เย่เซิ่งเทียนสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เขาไม่รู้สึกอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง “ไม่มีอะไร เหี้ย เมื่อก่อนตอนที่ผมปลุกเลือดประหลาดตื่น ตอนนั้นราวกับร่างกายถูกฟ้าผ่าและเลือดลมปั่นป่วน แต่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกอะไรเลย พลังที่คุณกล่าวถึงน่าจะเป็นพลังเผด็จการบนร่างกายของผม เพราะผมปรับปรุงพลัง จนสามารถสยบคุณได้ ตอนนี้คุณจงคุกเข่าลงแล้วยอมรับผมเป็นเจ้านาย และกราบผม ต่อไปคุณจะมีโอกาสที่ดีไม่น้อย”

เจียงลั่วเสินตบด้านหลังศีรษะของเย่เซิ่งเทียน และด่าว่า “ไสหัวออกไป ผมยังถือเป็นปู่ของนายน่ะ ทำไมนายไม่กราบผม? รีบไสหัวออกไป ไดกสารเลวอย่างนายไม่ช้าก็เร็วก็จะถูกฟ้าผ่า!”