ตอนที่ 1014

Alchemy Emperor of the Divine Dao

โดยทั่วไปแล้วจอมยุทธที่ใช้มือหรือเท้าเป็นอาวุธนั้นมีจำนวนน้อยมาก และบางคนอาจฝึกฝนทักษะแปลกๆอย่างเช่น ทักษะหัวเหล็ก

อย่างไรก็ตาม คนที่ใช้ปากเป็นอาวุธ นอกจากฮูหนิวแล้วก็เป็นชายหนุ่มคนนี้

รูปแบบการต่อสู้ของฟู่เทียนคล้ายกับฮูหนิวมาก แต่เขาดูโหดเหี้ยมกว่า มือของเขาเป็นเหมือนกับกรงเล็บที่สามารถทะลวงผ่านการป้องกันของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย

การต่อสู้แบบนั้นมันน่าจะมาจากประสบการณ์ที่สะสมมานานหลายพันปีจนกลายเป็นสัญชาตญาณ เมื่อเขาต่อสู้ร่างกายก็จะเคลื่อนไหวอัตโนมัติ

แล้วเด็กหนุ่มคนนี้มาจากที่ไหนกัน?

“ถอย!” พวกโจรสลัดเริ่มต้านไม่ไหว ก่อนหน้านี้พวกเขาขึ้นมาบนเรือทั้งหมดหกสิบคน แต่ตอนนี้เหลือไม่ถึงยี่สิบคน การสูญเสียครั้งนี้มันมหาศาลมาก ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังไม่สามารถยึดเรือลำนี้ได้

“จะไม่มีใครหลบหนีจากไปได้!” หยางเทียนเฉิงตะโกนและโจมตีใส่โจรสลัดที่พยายามหนีลงจากเรือจากทางด้านซ้ายและขวาของกราบเรือ

ปัง!

ทันใดนั้นเองเรือก็สั่นไหวอย่างรุนแรงและเกือบจะพลิก

ทุกคนบนเรือชะงักและหยุดต่อสู้ มันเกิดอะไรขึ้น?

“ไม่ได้การ!”

หยางเทียนเฉิงและโจรสลัดหลายคนมองออกไปในระยะไกล และเผยสีหน้าตกตะลึงพร้อมกัน

มันจะต้องเป็นเรื่องเลวร้ายอย่างแน่นอน พวกเขาถึงแสดงสีหน้าแบบนั้นออกมา

หลิงฮันจึงใช้เนตรแห่งสัจธรรมและมองไปในระยะไกล เขาเห็นอสรพิษทะเลอย่างน้อยหนึ่งร้อยตัวกำลังแหวกว่ายมาที่นี่ ซึ่งแต่ละตัวมีความยาวประมาณสิบฟุตและยังมีร่างกายที่หนาและมีจุดสีเขียวบนร่างกายของพวกมัน

“อสรพิษจุดเขียว!” ลูกเรืออุทาน

มันเป็นสัตว์อสูรทะเลที่วิวัฒนาการมาจากงู ความแข็งแกร่งของพวกมันเทียบได้กับจอมยุทธระดับภูผาวารี ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยตัว

ปัง!

เรือทั้งลำสั่นสะเทือนอีกครั้งและเริ่มพลิกคว่ำไปทางซ้าย

“ฮึ่ม!” หยางเทียนเฉิงรีบกระโดดไปที่ด้านขวาของกราบเรือ และทำให้เรือกลับมาสมดุลอีกครั้ง

ด้านล่างตัวเรือมีอสรพิษยักษ์กำลังพยายามพลิกคว่ำเรืออยู่

เมื่ออยู่ในน้ำ ความแข็งแกร่งของจอมยุทธจะลดลงอย่างมาก

– เมื่อสัตว์อสูรทะลวงผ่านระดับพระเจ้าจะทำให้มันมีสติปัญญา ถึงขั้นอาจแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ พวกมันเลยพยายามพลิกคว่ำเรือ

หลิงฮันหันไปมองรอบๆ และเห็นว่าพวกเขาตกอยู่ในวงล้อมของพวกมัน อสรพิษจุดเขียวบางตัวมีความยาวหลายสิบฟุต ซึ่งพวกมันนั้นเป็นอสรพิษระดับภูผาวารี ส่วนขั้นไหนนั้นไม่อาจระบุแน่ชัดได้

นอกจากนั้นยังมีอสรพิษตัวเล็กตัวน้อยอยู่บ้าง พวกมันอยู่ด้านหลังสุด เพราะพวกมันเป็นแค่สัตว์อสูรระดับทลายมิติเท่านั้น

เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการต่อสู้ได้ และรอให้อสรพิษตัวใหญ่เป็นคนจัดการ แล้วพวกมันค่อยกินเลือดและเนื้อของจอมยุทธทีหลัง

เนื้อพลังปราณเป็นยาบำรุงที่ยอดเยี่ยมสำหรับจอมยุทธ ในทางตรงกันข้ามเลือดของจอมยุทธเองก็เป็นยาบำรุงที่ยอดเยี่ยมของพวกสัตว์อสูรเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจอมยุทธที่ทะลวงผ่านระดับพลังของพระเจ้าแล้ว

กลุ่มอสรพิษพวกนั้นน่าจะได้กลิ่นเลือดลอยมาตามทะเล พวกมันออกมาจากรังและมาที่นี่เพื่อกินพวกเขา

สถานการณ์การในตอนนี้ถือว่าเลวร้ายเป็นอย่างมาก

ปัง!

เรือยังคงสั่นคลอนไม่หยุด อสรพิษที่อยู่ด้านข้างตัวเรือยังคงไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะคว่ำเรือ

สถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้ทุกคนหยุดต่อสู้กันและยืนกระจายไปทั่วทุกมุมของเรือเพื่อรักษาสมดุลเอาไว้ไม่ให้เรือพลิกคว่ำ หากเรือคว่ำนั่นหมายความว่าชีวิตของพวกเขาได้จบสิ้นแล้ว

ปัง! ปัง! ปัง!

เกิดเสียงดังมาจากข้างเรือไม่หยุด ราวกับมีอะไรระเบิดเกิดขึ้น

“ไม่ พวกมันกำลังพยายามทำลายเรือ!” สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที

หากยื่นหัวออกไปมองด้านล่างเรือในตอนนี้จะเห็นว่ามีอสรพิษจุดเขียวยักษ์หลายสิบตัวกำลังโจมตีเรือจากด้านล่างไม่หยุด และทำให้เรือสั่นสะเทือนรุนแรงยิ่งกว่าเก่า

ท่ามกลางพวกมันมีอสรพิษยักษ์ที่มีความยาวร้อยฟุตและมีจุดสีเงินอยู่บนร่างกาย มันคือราชาอสรพิษ ซึ่งความแข็งแกร่งของมันได้ทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดแล้ว

เรือยังคงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ในทะเล และผู้คนที่มีระดับพลังต่ำกว่าระดับภูผาวารีต่างก็สั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

หลิงฮันและคนอื่นเองก็ไม่มีข้อยกเว้น สีหน้าของพวกเขาเริ่มดูวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพวกเขาทุกคนรู้ว่าเรือลำนี้คงต้านทานการโจมตีที่บ้าคลั่งของพวกมันได้ไม่นาน

“พวกเราเสียเวลาอยู่ที่นี่นานเกินไป แต่ถ้าพวกเราสามารถยืนหยัดได้สองวัน เรือลำต่อไปก็จะผ่านมาที่นี่ มันเป็นเรือลำใหญ่ที่มีจอมยุทธระดับสุริยันจันทรามาด้วย” หยางเทียนเฉิงพูดให้กำลังใจทุกคน

ถ้ามีจอมยุทธระดับสุริยันจันทราอยู่ที่นี่ อย่าว่าแต่อสรพิษเขียวลายจุดร้อยตัวเลย แม้แต่หนึ่งหมื่นตัวพวกเขาก็สามารถสังหารพวกมันได้

แต่คำถามคือพวกเขาจะสามารถยืนหยัดได้ถึงสองวันหรือไม่?

“เรือกำลังจะแตก!” ฟู่เทียนเปิดปากพูด แต่ใบหน้าของเขากลับไม่แสดงร่อยรองของความหวาดกลัวให้เห็นเลยแม้แต่น้อย และดูกระหายการต่อสู้

เขาเป็นคนบ้าการต่อสู้อย่างแน่นอน!

แคร๊ก!

เสียงแตกหักดังมาจากกลางลำเรือ มันคือกระดูกงูที่หัก

ทุกคนมองหน้ากันไปมา แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้พูดอะไรออกมา เรือทั้งลำก็พังทลายลงเป็นชิ้นๆ

“หาอะไรที่ลอยได้และยืนบนนั้น มิฉะนั้นพวกเจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน!” หยางเทียนเฉิงตะโกนเสียงดัง ในฐานะกัปตันเรือ เขามีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตของลูกเรือและผู้โดยสารทุกคน

ทุกคนเชื่อฟังคำพูดของเขาและยืนบนเศษซากของเรือ

พวกโจรสลัดเองก็หยุดต่อสู้ พวกเขาประมาณยี่สิบคนลอยกระจัดกระจายอยู่บนเศษซากเรือสามส่วน ส่วนเรือที่พวกเขาพายมานั้นถูกพวกอสรพิษบดขยี้เป็นชิ้นเล็กๆไปแล้ว จึงไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

ปัง อสรพิษยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากน้ำราวกับมังกร และใช้หางที่ยาวเหยียดของมันทำลายเศษซากเรือที่มีคนยืนอยู่

โชคร้ายคนที่ยืนอยู่บนเศษซากเรือนั้นคือหลิงฮัน

แต่โชคดีคนที่ยืนอยู่ไม่ได้มีแค่หลิงฮันคนเดียว แต่ยังมีหยางเทียนเฉิงด้วย!

“ตาย!” เขากำหมัดและต่อยไปที่หางของอสรพิษยักษ์

ปัง หางของอสรพิษยักษ์ถูกทำลายทันที และกลายเป็นฝนโลหิตที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า ทำให้ร่างของมันดิ้นไปดิ้นมาด้วยความเจ็บปวด

สมแล้วที่เป็นหยางเทียนเฉิง เขาแข็งแกร่งมาก!

“ภรรยาข้า มานี่สิ” หลิงฮันจับดาบในมือขวาและใช้มือซ้ายโอบเอวของสุ่ยเยี่ยนยวี่ “วันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายของพวกเรา แม้เจ้าจะไม่เคยพูดบอกรักครั้งสักครั้ง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ข้าตายด้วยความเสียใจ!”

สุ่ยเยี่ยนยวี่จ้องเขม็งใส่หลิงฮัน ชายคนนี้แสดงละครเก่งเกินไปแล้วทั้งที่มีหอคอยทมิฬอยู่ในมือ แม้ว่าทุกคนในที่นี้จะถูกฆ่าตาย แต่พวกเขาทั้งสองคนจะเป็นผู้รอดชีวิต