ตอนที่ 1015

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ฝูงอสรพิษเริ่มกระหน่ำโจมตี

‘ปัง! ปัง! ปัง!’

การโจมตีของพวกมันแตกต่างกันออกไป บ้างก็พ่นระเบิดวารี บางก็ใช้หางสะบัดจู่โจม บ้างก็เคลื่อนที่ไปซุ่มอยู่ใต้ซากเรือ เป้าหมายของพวกมันทุกตัวเหมือนกันคือทำให้พวกหลิงฮันร่วงจากซากเรือ

ตราบใดที่พวกเขาร่วงไปยังมหาสมุทร เหล่าอสรพิษจะสามารถเขมือบจอมยุทธเหล่านี้เป็นอาหารได้

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ไม่มีใครกล้าปิดบังพลังไว้อีกต่อไป พวกเขาใช้พลังทั้งหมดออกมาอย่างไม่ลังเล ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่เป็นแน่

หลิงฮันไม่ได้กังวลว่าเขาจะตาย แต่ปัญหาก็คือการเขาหล่นไปยังใต้มหาสมุทรเขาจะกลับขึ้นบกได้อย่างไรต่างหาก ดังนั้นเขาจึงใช้ไม่ลังเลที่จะสู้ต่อต้าน เขานำคันศรออกมาและใช้ปราณก่อเกิดควบแน่นเป็นลูกศรเพื่อโจมตีอสรพิษจากระยะไกล

ถึงแม้ลูกศรจะไม่ใช่แร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็ยังอัดแน่นไปด้วยพลังต่อสู้ห้าดาวของเขา

ระดับพลังในตอนนี้ของหลิงฮันคือภูผาวารีขั้นกลางชั้นต้น ด้วยพลังต่อสู้ห้าดาวของเขา การโจมตีของเขาจะมีอำนาจเทียบเท่าระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นกลาง ถ้าอสรพิษไม่ใช่ระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด พวกมันจะต้องถูกสังหารแน่นอน

ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดารานั้นรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง หากศัตรูไม่แข็งแกร่งก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหนีพ้นและมีชะตากรรมคือแหลกออกเป็นสองส่วน

จอมยุทธส่วนใหญ่นั้นจะสามารถแสดงพลังต่อสู้ออกมาได้เต็มที่คือในระยะสองถึงสามฟุต จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะเทียบกับศรฆ่ามังกรทะลวงดาราได้

ดังนั้นเมื่อพูดถึงความเชี่ยวชาญในการสังหาร ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทัดเทียมหลิงฮัน

หยางเทียนเฉิงที่เห็นเช่นนั้นก็ทำเพียงทุ่มพลังไปกับการป้องกันซากเรือและปล่อยให้หลิงฮันเป็นคนโจมตี

‘ฟุบ ฟุบ ฟุบ’ ลูกศรถูกยิงออกไปอย่างต่อเนื่องส่งผมให้อสรพิษจำนวนมากตกตาย

‘ครืนน!’

ผิวมหาสมุทรเปิดออกพร้อมกับอสรพิษขนาดมหึมาที่พุ่งขึ้นมา มันคืออสรพิษยักษ์ที่มีร่างกายเป็นสีเงินแวววาว

“ราชาอสรพิษ!” ใบหน้าของหยางเทียนเฉิงเปลี่ยนเป็นหน้าเกลียดทันที

‘ตูม’ ราชาอสรพิษเปิดปากยิงระเบิดวารีเข้าใส่หยางเทียนเฉิง

ความเร็วของระเบิดวารีไม่ใช่ช้าไปกว่าศรฆ่ามังกรทะลวงดาราเลย

‘ฮึม!’ หยางเทียนเฉิงใช้หมัดชกเข้าปะทะ ‘ปัง’ ร่างของเขาถูกซัดกระเด็นลอยไปไกลหลายร้อยฟุตและร่วงไปยังมหาสมุทร

ขนาดแข็งแกร่งอย่างหยางเทียนเฉิงก็ยังไม่สามารถต้านทานการโจมตีเดียวของราชาอสรพิษ?

ทุกคนหวาดหวั่นทันที หรือพวกเขาต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่จริงๆ?

‘ตูม’ ร่างๆหนึ่งโผล่ขึ้นจากมหาสมุทร นั่นคือหยางเทียนเฉิงนั่นเอง ขาของเขาวิ่งทะยานอยู่บนผิวมหาสมุทรก่อให้เกิดเป็นคลื่น บนหน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลท่วม

แรงโน้มถ่วงในอาณาเขตมหาสมุทรแห่งนี้รุนแรงมาก เพื่อที่จะต่อต้านแรงโน้มถ่วงเช่นนั้นเขาต้องเผาผลาญปราณก่อเกิดไปจำนวนมหาศาล ดังนั้นแม้จะเป็นแค่ระยะทางร้อยฟุตแต่หยางเทียนเฉิงก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไปไม่น้อย

ทันใดนั้นอสรพิษหลายสิบตัวก็รุมโจมตีเขาทันที แต่หยางเทียนเฉิงในตอนนี้มีพลังต่อสู้สามดาวของระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด เพียงแค่หมัดเดียวเหล่าอสรพิษก็ถูกซัดจนกลายเป็นฝนโลหิต

ราชาอสรพิษเกรี้ยวกราด มันปรากฏตัวอีกครั้งด้านหน้าหยางเทียนเฉิงก หัวของมันแหงนหน้าขึ้นสูงเพื่อเตรียมปล่อยระเบิดวารีอีกครั้ง

“ลุย!” หลิงฮันยิงลูกศรออกไป ครั้งนี้เขาไม่ได้เพียงใช้เนตรแห่งสัตจธรรมมองหาจุดอ่อนของราชาอสรพิษแต่ยังโคจรอักขระศักดิ์สิทธิ์ของภูผาวารีอีกด้วย

ขนาดเป็นลูกศรนี้ ราชาอสรพิษยังไม่หวาดกลัวที่จะรับการโจมตีซึ่งๆหน้า

‘ปัง’ ราชาอสรพิษใช้หางรับลูกศรที่สร้างจากปราณก่อเกิดเอาไว้ แต่หยางเทียนเฉิงก็ใช้โอกาสนี้ในการเคลื่อนที่หลบเปลี่ยนตำแหน่ง เขากระโดดไปยังเศษแผ่นไม้ ถึงแม้แผ่นไม้จพเล็กแต่มันก็ยังช่วยให้เขามีเวลาหายใจเพราะไม่ต้องเหยียบย่ำผิวมหาสมุทร

ราชาอสรพิษหันมามองหลิงฮันอย่างด้วยเกรี้ยวกราดด้วยตาคู่ยักษ์

หลิงฮันอดรู้สึกขนลุกไม่ได้ ราชาอสรพิษตนนี้น่าสะพรึงกลัวมาก มันสมควรเป็นตัวตนที่อีกก้าวเดียวก็จะข้ามผ่านไปยังระดับสุริยันจันทราแน่นอน เพียงแค่มันจองมองมาเขาก็สัมผัสถึงความเย็นยะเยือกอันไร้ที่สิ้นสุด

“เป็นเจ้าหนูนั่นที่ดึงดูดความสนใจของราชาอสรพิษมาทางนี้!”

“พลักเขาให้ตกมหาสมุทรไปเลย!”

บนซากเรือชิ้นนี้ มีหลัวอู้และฟานหยงที่จ้องไปยังหลิงฮันด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

แม้เป้าหมายที่แท้จริงของราชาอสรพิษจะเป็นหลิงฮัน แต่ถ้าเจ้าตัวใหญ่นั่นโจมตีมา พวกเขาก็คงโชคร้ายโดนลูกหลงไปด้วย แต่ถ้าพวกเขาพลักหลิงฮันให้ร่วงมหาสมุทรไปพวกเขาก็อาจจะพอซื้อเวลาต่อไปได้อีก

ตราบใดที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่พวกเขาก็ยังเหลือความหวัง เมื่อใดที่เรือลำใหญ่ผ่านมาที่นี่พวกเขาก็จะสามารถหลบหนีไปจากสถานการณ์นี้ได้

“ทำไมเจ้าไม่ลงไปเองล่ะ?” หลิงฮันกล่าวอย่างเย็นชา ทั้งสองคนนี้เห็นแก่ตัวเกินไป

“ไม่ พวกข้าจะส่งเจ้าลงไปเอง!” หลัวอู้และฟานหยงลงมือพร้อมกัน แต่เดิมพวกเขาก็มีแผนจะลงมือกับหลิงฮันอยู่แล้วเพียงแต่ว่าพวกเขาไม่กล้าพอที่จะทำอย่างโงแจ้ง แต่ในตอนนี้เพื่อชีวิตตนเองพวกเขาจึงไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว

ทั้งสองคนคือจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงและมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่ง

หลิงฮันเค้นเสียงและใช้งานทักษะจิตเจ็ดสังหาร เป้าหมายของเขาในการใช้ทักษะนี้คือฟานหยง แต่ทันใดนั้นบริเวณร่างกายของอีกฝ่ายก็มีแสงเงาปรากฏออกมาเพื่อป้องกันจิตวิญญาณเอาไว้

“ฮ่าๆๆๆ นี่คือสมบัติลับที่นายน้อยให้ข้าเอาไว้ มันคือสมบัติที่ถูกสร้างขึ้นโดยปรมาจารย์ระดับดารา มันมีคุณสมบัติในการป้องกันการโจมตีทางจิตวิญญาณ เจ้าคงนึกไม่ถึงล่ะสิ!” ฟานหยงหัวเราะ น่าเสียหายที่ดาบที่นายน้อยของเขาให้มานั้นอยู่ในมือของจั่วเซียว ไม่เช่นนั้นเขาคงสามารถหั่นหลิงฮันออกเป็นสองท่อนได้แล้ว

แต่นั่นก็ไม่สำคัญ เขาร่วมมือกับหลัวอู้ผลักหลิงฮันลงไปในมหาสมุทร

‘ตูม!’

ทั้งสองคนร่วมมือกันแล้ว แน่นอนว่าหลิงฮันย่อมถูกผลักให้ร่วงสู่มหาสมุทร

“หลิงฮัน!” สุ่ยเยี่ยนยวี่อุทานและกระโดดตามลงไป

“สตรีโง่!” ฟานหยงอดอุทานออกมาไม่ได้ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด เขารู้ดีว่าจ้าวหลุนหลงใหลสตรีคนนี้มากขนาดไหน จ้าวหลุนวางแผนจะแต่งงานกับนางเมื่อตอนที่ทะลวงระดับสุริยันจันทราได้สำเร็จ

แต่ตอนนี้โอกาสที่สุ่ยเยี่ยนยวี่จะถูกฝังอยู่ใต้มหาสมุทรนั้นมีถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ หลังจากกลับไปเมืองจักรพรรดิแล้วเขากับจั่วเซียวจะอธิบายให้จ้าวหลุนฟังอย่างไรดี?

แต่เขาไม่มีเวลาที่จะคิดเรื่องนั้นในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ เหล่าอสรพิษเริ่มกระหน่ำโจมตีอีกครั้ง

สังหาร! สังหาร! สังหาร!

จอมยุทธระดับภูผาวารีนั้นคือจอมยุทธที่บรรลุระดับพลังของพระเจ้า พวกเขาแต่ละคนหรืออสูรแต่ละตัวมีพลังที่แข็งแกร่ง โลหิตแต่ละหยดของพวกเขาอัดแน่นไปด้วยพลังชีวิตและพลังงาน ผ่านไปไม่นานน้ำทะเลรอบด้านก็เปลี่ยนไปเป็นสีโลหิต

สิ่งนี้ได้ดึงดูดปลามากมาย แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือมันยังดึงดูดสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งอีกด้วย

ปลาตัวแบนขนาดยักษ์ปรากฏตัวโผล่ขึ้นมา ดวงตาทั้งสองดวงของมันเรียงกันไว้อยู่ฝั่งเดียว มันเคลื่อนไหวได้เร็วมาก ปากขนาดมหึมาของมันเปิดกว้างและกลืนอสรพิษนับสิบตัวในขณะที่ลอยอยู่และดำน้ำหายไปในพริบตา

มันคือสัตว์อสูรระดับสุริยันจันทราที่น่าเกรงขาม!