กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1132

ยามดึกในคืนนั้นที่เชิงเขากอลมิน เจฟฟรีย์ถูกห่อด้วยเสื้อแจ็คเก็ตตัวหนาทำจากหนังกวางแล้วดึงจอร์แดนพ่อของเขาเดินตามมาด้านหลังขณะที่เดินออกจากภูเขา

อุณหภูมิของภูเขากอลมินลดลงอย่างฉับพลัน อุณหภูมิตอนกลางคืนอาจจะลดต่ำไปได้มากสุดถึงลบสามสิบองศาเลยทีเดียว

ถ้าเป็นในสถานการณ์ปกติ พวกเขาทั้งคู่คงไม่อยากจะก้าวขาออกจากบ้านแม้ว่าต้องตายก็ตาม แต่ว่าด้วยเงื่อนไขที่ชัดเจนพวกเขาต้องเข้าไปในภูเขาเพื่อเก็บโสม

พวกเขาจะได้รับอาหาร ยา น้ำมัน และฟืนที่จำเป็นเพื่อให้ความอบอุ่นก็ต่อเมื่อเอาโสมที่เก็บได้ไปแลกเท่านั้น

อีกอย่างเพราะว่าอากาศหนาวมาก ดังนั้นเชื้อเพลิงก็หมดไปอย่างเร็วทุกวัน การไปเก็บฟืนมาใช้เองนั้นไม่พอสำหรับพวกเขารวมถึงฟืนต้องอาศัยน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเช่นกัน

หลังจากที่เดินขึ้นเขามาทั้งวัน สองพ่อลูกขุดได้โสมแค่หกหรือเจ็ดต้น โสมปริมาณแค่นี้เพียงพอให้เขาแลกอาหารสำหรับพรุ่งนี้ได้เท่าน้น

จอร์แดนทั้งเหนื่อยและหิว ริมฝีปากก็กลายเป็นสีม่วงจากความหนาว

แม้ว่าเจฟฟรีย์จะร่างกายแข็งแรงกว่าเมื่อเทียบกับพ่อ แต่เขาก็ยังรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าสาหัส

ตอนนี้บนภูเขากอลมินเริ่มมีหิมะแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะเดินลึกเข้าไปในภูเขา เพราะต้องอาศัยกำลังกายที่แข็งแกร่ง แต่เพราะว่าจำนวนของโสมที่เก็บได้น้อยลง แปลว่าพวกเขาต้องเดินลึกเข้าไปในป่าทุกที ๆ

ตอนนี้พวกเขายังได้กลับมาบ้านตอนกลางคืน แต่ภายในอีกไม่กี่วันพวกเขาอาจจะต้องค้างคืนในภูเขา

จอร์แดนยื่นมือออกไปกำหิมะมาเต็มมือก่อนยัดเข้าปาก ริมฝีปากเขาแห้งแตก เขาอ้าปากพูด “ลูกพ่อ ถ้าเรายังเป็นแบบนี้ต่อไปพ่อว่า พ่อคงอยู่รอดไม่พ้นหน้าหนาวนี้ หลังจากที่พ่อตายลูกก็อยู่ต่อไปอย่างแข็งแรงและอยู่ด้วยตัวเอง จงหาทางรักษาสายเลือดของวีเวอร์เอาไว้ แกต้องหาโอกาสกลับไปที่โอลรัส ฮิลล์และเอาบริษัทยาวีเวอร์คืนมา ถ้าเป็นแบบนั้นจะดีที่สุด”

เจฟฟรีย์หอบหายใจหนักหน่วงก่อนเอ่ย “พ่ออย่าพูดแบบนั้นเลย ถึงสภาพของภูเขากอลมินจะยากลำบาก แต่ผมก็รู้สึกว่าร่างกายพ่อแข็งแรงและดีกว่าเมื่อก่อนอีก”

เจฟฟรีย์ถอนหายใจ “เมื่อก่อนพ่อไม่ดูแลร่างกายเลย พ่อใช้แรงกายเสเพลไปมากสมัยยังหนุ่ม แถมยังไม่เคยออกกำลังกาย พ่อแทบไม่เดินเลยด้วยซ้ำ สุขภาพร่างกายถึงได้ยิ่งแย่ลงทุกวัน แต่หลังจากที่มาภูเขากอลมิน พ่อก็เข้าป่ามาเก็บโสมทุกวัน ผมว่าเพราะแบบนี้แหละ ร่างกายพ่อเลยยิ่งแข็งแรงขึ้นทุกวัน ถ้าพ่อยังทำแบบนี้ต่อไป ผมเชื่อว่าพ่อต้องอยู่ได้อายุยืนยาวแน่”

จอร์แดนนั่งลงบนกองหิมะหนา เขาเต็มตื้นไปด้วยอารมณ์พร้อมบอก “ที่แกบอกก็มีเหตุผลเหมือนกัน พ่อรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงกว่าเมื่อก่อนมาก เมื่อก่อนแค่เดินไม่กี่ก้าวพ่อก็หอบเหนื่อยแล้ว ตอนนี้ถึงกับเดินขึ้นเขาไปเก็บโสมได้ทั้งวัน”

ถึงตอนนี้จอร์แดนถอนหายใจ “ทั้งหมดนี่ก็เป็นเพราะพ่อไม่รู้จักถนอมและดูแลร่างกายเมื่อตอนยังหนุ่ม พ่อหักโหมใช้งานร่างกายมากไปตั้งแต่อายุยังน้อย แกต้องดูไว้เป็นบทเรียนแล้วอย่าทำตามอย่างพ่อเชียว”

เจฟฟรีย์นั่งลงข้างพ่อของตน ก่อนหยิบไฟฉายออกมาส่องไปที่กองหิมะและต้นไม้รอบ ๆ หลังจากนั้นเขาก็พูดอย่างท้อแท้ “ถึงแม้ผมจะอยากทำตามอย่างพ่อ แต่ก็คงไม่มีโอกาสให้ทำหรอก บนภูเขานี่ขนาดหมีตัวเมียยังไม่มีจำศีลอยู่เลย แล้วผมจะหาผู้หญิงที่ไหนมาให้ผมหักโหมด้วยล่ะ?”

จอร์แดนอดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดลูกชาย

เมื่อพูดถึงเรื่องผู้หญิงลูกชายเขาเทียบเขาไม่ติดสักนิด

สมัยเขายังหนุ่ม เขาเที่ยวเสเพลกับสาว ๆ ไปทั่ว จำนวนของผู้หญิงที่เขาเคยยุ่งเกี่ยวด้วยน่าจะมากกว่าจำนวนผู้หญิงที่ลูกชายเขาเคยเจอเสียอีก

เมื่อคิดเรื่องนี้ จอร์แดนรู้สึกว่าเขาก็ไม่ได้ใช้ชีวิตเสียเปล่า

เจฟฟรืย์อดถอนหายใจไม่ได้เมื่อคิดถึงเรื่องผู้หญิง “พูดถึงผู้หญิง ผมก็คิดถึงเวนดี้จากตระกูลวิลสันในโอลรัส ฮิลล์นะ ผมไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้กลับไปโอลรัส ฮิลล์อีกไหม แต่ถ้าได้กลับไปผมจะต้องไปหาเธอและใช้เวลากับเธอ”

จอร์แดนตบหลังลูกชายเบา ๆ ก่อนที่จะให้กำลังใจโดยบอกว่า “พ่อเชื่อว่าเราสองคนพ่อลูกจะต้องมีโอกาสกลับไปพลิกชะตาของเราแน่!”