Ch.1 – ปฐมบท : เบื้องหลังการปราบจอมมาร

Translator : Reheikichi / Author

――คิดว่าเรื่องมันคงเป็นอย่างนี้ล่ะ

 

สงครามผู้กล้าครั้งที่สี่

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือสงครามระหว่างผู้กล้าและจอมมาร

 

จอมมาร ราชาแห่งความมืดมิดที่มีความคิดเพียงทำลายมนุษยชาติให้หมดสิ้น

และผู้กล้าก็คือผู้ที่เกิดมาเพื่อจัดการจอมมาร

 

จอมมารได้ส่งกองทัพเข้าโจมตีมนุษยชาติ ฝั่งมนุษย์จึงส่งผู้กล้าออกมา มันคือสงครามที่ไร้ความปราณี เพราะการปะทะกันของทั้งสองฝ่ายทำให้คนบริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อมากมาย การต่อสู้นองเลือดที่ไม่สิ้นสุด แต่เมื่อผ่านไปสิบปี ในที่สุดก็ถึงเวลาตัดสิน

 

――ไม่รู้สึกว่าแบบนั้นเลยนะ

 

เปลวเพลิงที่ลุกไหม้ ขณะที่รอบตัวมีแต่ซากปรักหักพัง ที่เหลือเพียงตัวฉันเพียงคนเดียว

 

สิ่งที่เชื่อมั่นคือ

อีกไม่นานสงครามนี้ก็จะจบลงแล้ว

ตอนนี้พวกผู้กล้าพยายามกำลังต่อสู้กับจอมมารกันอยู่

 

ส่วนฉันนั้นได้ทำหน้าที่สุดท้ายได้สำเร็จแล้ว

 

[ นี่เหรอหัวใจของจอมมาร ]

 

บนฝ่ามือมีสิ่งหนึ่งที่มีสีดำกำลังเต้นตุ๊บๆ

 

และยังรู้สึกอุ่นอยู่ มันถูกเรียกว่า [ หัวใจจอมมาร ] ก็ไม่รู้หรอกนะว่าใช้หลักการอะไร ถึงแยกมันออกมาจากร่างกายได้ ทั้งตอนนี้มันยังเต้นตุ๊บๆ อย่างแข็งแรง

 

[ หากทำลายสิ่งนี้ จอมมารก็จะตายสินะ? ]

 

ฉันโยนคำถามนั้นไปยังสิ่งที่คลานอยู่ใต้เท้า

 

[ ….ช ใช่แล้ว ]

 

เงาของคนๆ หนึ่งตอบยืนยันด้วยเสียงเบาๆ

 

ดูเหมือนว่าจอมมารยุคนี้จะรอบคอบน่าดู

 

ต่างจากจอมมารคนอื่น ถ้าหัวใจไม่ถูกทำลายก็จะไม่ตายหรือบาดเจ็บ จอมมารเตรียมแผนนี้เพื่อการต่อสู้ครั้งสุดท้ายจึงเก็บหัวใจไว้ที่อื่นก่อน แม้ผู้กล้าจะตัดแขนขาของจอมาร แต่หากหัวใจยังปลอดภัยอยู่ก็สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้

 

ดังนั้นฉันจึงได้รับงานมา

 

ขณะที่ผู้กล้ากำลังต่อสู้กับจอมมาร ให้หาหัวใจของจอมมารที่อยู่ที่ไหนสักแห่งและทำลายมันซะ

 

[ ไม่นึกเลยว่าข้าคนนี้จะถูกคนอื่นนอกจากผู้กล้าฆ่าได้ ]

 

เสียงดังมาจากใต้เท้า

 

ชายคนนี้คือปีศาจชั้นสูงที่คอยปกป้องหัวใจของจอมมาร ――กล่าวก็คือจตุรัสเทพของจอมมาร

 

ชายคนนี้ถือเป็นอุปสรรคมากในการขโมยหัวใจของจอมมาร

 

เพื่อปกป้องจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวของจอมมาร ปีศาจชั้นสูงที่คอยเฝ้าอย่างเขาจึงแข็งแกร่งกว่าปีศาจชั้นสูงใดๆ ที่เคยสู้มา พื้นที่แถบนี้ทั้งหมดลุกเป็นไฟและหลังจากการต่อสู้อาคารทั้งหมดก็กลายเป็นซากปรักหักพัง ซึ่งในที่สุดก็ชนะเขาได้

 

หากดูที่ผลลัพธ์ อาจกล่าวได้ว่าเป็นชัยชนะ

 

แต่ปีศาจชั้นสูงคนนี้ได้พยายามเจาะทะลุหัวใจของฉัน แต่ฉันได้ป้องกันเอาไว้ได้ทำให้ไม่มีบาดแผล ถึงจะเป็นแรงเฮือกสุดท้ายแต่ก็ยังเคลื่อนไหวได้สมบูรณ์แบบเลยนะชายคนนี้

 

[ ผู้กล้ากำลังยุ่งกับการจัดการจอมมารอยู่ แค่ปีศาจชั้นสูงตนเดียว ฉันคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ]

 

จากนั้นปีศาจชั้นสูงคนนั้นก็หัวเราะ

 

[ อย่ามาตลกหน่อยเลย เจ้าไม่รู้หรอกรึ? จอมมารยุคใหม่น่ะอ่อนแอ ในสงครามครั้งนี้พวกเราปีศาจที่อยู่ใต้อาณัติแข็งแกร่งกว่าจอมมารซะอีก… ถึงแม้ผู้กล้าจะฆ่าจอมมารลงได้ก็ไม่มีวันจัดการข้าได้ หากจะเป็นคนที่ฆ่าข้าได้เห็นทีคงจะมีแต่เจ้า ]

 

เมื่อปีศาจตนนั้นพูดขึ้น ฉันก็ยักคิ้ว

 

[ ทั้งที่เป็นการพบกันครั้งแรก แต่แกรู้จักฉันสินะ? ]

 

[ แน่นอน ผู้ที่จะโผล่มาโดยไร้ตัวตนเมื่อสงครามได้เริ่มต้นขึ้น ในโลกนี้ไม่มีปีศาจชั้นสูงคนไหนที่ไม่รู้จักเจ้า  ปีศาจชั้นสูงมากมายที่ถูกเจ้าฆ่าไปต่างแข็งแกร่งกว่าราชาปีศาจมาก…. คุคุคุ สิ่งที่ควรระวังตั้งแต่แรกไม่ใช่ผู้กล้า แต่เป็นเจ้าต่างหาก ]

 

เปลือกนอกผิวหนังของปีศาจตนนั้นเริ่มแตกสลาย

 

จากนั้นกระดูกและเนื้อในก็กลายเป็นทราย ซึ่งอันเป็นการตายของปีศาจ

 

[ ลาก่อนผู้กล้าแห่งเงา ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ตายด้วยน้ำมือของเจ้าไม่ใช่ผู้กล้า ]

 

ร่างกายปีศาจตนนั้นกลายเป็นฝุ่นและกระจายหายไป

 

ปีศาจชั้นสูงที่ยกย่องฉันเหรอ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะยอมรับหรอกนะ

 

เอาล่ะ

ผมขยี้หัวใจของจอมมาร

 

จอมมารตายแล้ว

เท่านี้สงครามก็จบแล้ว

 

[ ก็ทำนองนี้]

 

ผ่านมาสิบปีในที่สุดสงครามก็สิ้นสุดลง

ดูเหมือนจะยาวนานแต่ก็สั้น ทำให้ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

 

มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร

ที่จุดยืนของตัวฉันไม่ใช่ท่ามกลางสปอตไลต์แต่เป็นเบื้องหลังของเวที

 

ฉันนำกระดาษบางๆ ออกมาจากกระเป๋าและกดตรงกลางด้วยนิ้ว

 

กระดาษแผ่นบางๆ เปล่งแสงออกมาและพูด

 

[ ภารกิจทำลายหัวใจจอมมารเสร็จสิ้น ]

 

[ รับทราบ ยืนยันการตายของจอมมาร รีบกลับมาโดยเร็ว… อย่าให้ผู้กล้าที่อยู่แถวนั้นพบตัวได้เด็ดขาด เพราะเดิมทีคุณไม่ใช่คนที่ควรจะไปอยู่ในสนามรบได้ ]

 

[ รู้แล้วน่า …ผู้กล้าสามารถปราบจอมมารลงได้ ไม่อยากให้ไปบดบังความจริงข้อนี้สินะ ]

 

[ ดี ขอให้จงจำไว้ ]

 

ฉันปิดการสื่อสารและรีบออกจากที่นั้นทันที

 

ความรู้สึกที่ได้ช่วยมนุษยชาติให้พ้นภัยนั้นไม่สำคัญสักนิด

ฉันก็แค่ได้รับงานมาก็เท่านั้น

 

ถูกฝึกทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ องค์กรที่คอยเลี้ยงดูฉันมาในฐานะทหารที่เชื่อฟังคำสั่ง

องค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการเอาชนะสงครามและฉันก็คือเครื่องมือที่ใช้เพื่อชนะสงคราม

 

สงครามสิ้นสุดลงแล้ว

งานสุดท้ายที่ได้รับก็จบลงแล้ว

 

แล้วต่อจากนี้ฉันควรใช้ชีวิตยังไงต่อไป