EG บทที่ 910 เจ้านาย นี่มันเกินขีดจำกัดของเราแล้ว
นโยบายการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนเป็น 1,000% นี้รุนแรงมากแค่ไหนกัน? ถือว่าเป็นการยกเลิกการปล่อยกู้ข้ามคืนและไม่มีใครสามารถจ่ายดอกเบี้ยนี้ได้ แม้แต่พ่อค้ายาก็ไม่มีกำไรสูงขนาดนี้!
เมื่อมีการประกาศนโยบายนี้ หมายความว่าเงินทุนสำรอง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของรัฐบาลไทยไม่เพียงพอที่จะจัดการกับโซรอสได้
แน่นอนว่าโซรอสไม่สามารถขายทิ้งเงินบาทได้อีกต่อไปหลังจากมีการนำนโยบายนี้มาใช้
กลยุทธ์การขายทิ้งเงินบาทล้มเหลว
“เจ้านายครับ รัฐบาลไทยบ้าไปแล้วหรอ? นโยบายนี้จะส่งผลอย่างมากต่อตลาดการเงิน!” ดรัคเคน มิลเลอร์ อุทาน เขากำลังตื่นตระหนก หากไม่มีเงินบาทให้ขายทิ้ง พวกเขาจะลดอัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างไร?
การอาศัยบริษัทพวกนั้นและธนาคารต่างประเทศให้ขายทิ้งเงินบาทจะไม่ได้ผล
โซรอสตอบอย่างใจเย็น “เลิกกระต่ายตื่นตูมสักที คุณบอกเองนิว่ากลยุทธ์นี้จะเป็นสถานการณ์ที่สูญเสียสำหรับทั้งสองฝ่าย แต่นั่นหมายความว่าตอนนี้รัฐบาลไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศไม่เพียงพอ!”
ตลาดการเงินของประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในชั่วข้ามคืน สถาบันการเงินพวกนั้นจะต้องเตรียมเงินทุนมากขึ้นเพื่อรักษาธุรกิจของตัวเอง
นอกเหนือจากการกู้ยืมแบบข้ามคืนแล้ว ยังมีแบบกู้ยืมหนึ่งวัน เจ็ดวัน และหนึ่งเดือนด้วย รัฐบาลไทยจะไม่กล้าเพิ่มอัตราดังกล่าวให้สูงกว่า 1,000%!
“แต่แม้ว่าพวกเขาจะมีเงินสำรองต่างประเทศไม่เพียงพอ แต่เงินดอลลาร์สหรัฐของเราก็ใกล้หมดแล้วเหมือนกัน ตอนนี้เราสามารถกู้ยืมโดยใช้ระบบเจ็ดวันขึ้นไปเท่านั้น อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ที่ 1,000% ต่อวันและดอกเบี้ยรายสัปดาห์ก็ไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อย ต้นทุนของเราเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป!” ดรัคเคน มิลเลอร์พูด
โซรอสประคองศีรษะของเขาด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างถือซิการ์ เขาจำเป็นต้องคิดอย่างรอบคอบว่าจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร เขาควรจะเดินหน้าต่อไปหรือยอมรับความล้มเหลวและถอนตัวออกจากตลาดชั่วคราวเพื่อระดมทุนให้เพียงพอแล้วค่อยกลับมาอีกครั้ง!
“มิลเลอร์ ไปเรียกอีกสามคนมา เราจำเป็นต้องหารือว่าจะเอายังไงต่อไปดี”
แม้ว่าโซรอสจะเป็นคนที่มีความเด็ดขาด แต่เขาก็ยังไว้ใจผู้จัดการกองทุนชั้นนำทั้งสี่ของเขาอย่างมาก เขาจะหารือเกี่ยวกับการตัดสินใจที่สำคัญทั้งหมดกับพวกเขา ตัวอย่างเช่น การดำเนินการเพื่อโจมตีสกุลเงินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งนี้จะถูกตัดสินหลังจากได้รับความเห็นชอบจากทุกคน
……
“โซรอสจบเห่แน่คราวนี้ พวกนั้นไม่มีเงินบาทที่จะขายทิ้งอีกต่อไปและกำลังจะขาดทุน” ฟู่กวางเจิ้งหัวเราะ
เฝิงหยู่และอาจารย์เหลียงสบตากันและส่ายหน้า
“กวางเจิ้ง อัตราดอกเบี้ยข้ามคืนและอัตราแบบหนึ่งวันเพิ่มขึ้นมาก แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำหรับอัตราแบบเจ็ดวัน โซรอสและคนของเขาสามารถกู้ยืมโดยใช้ระบบการกู้ยืมแบบเจ็ดวันและขายทิ้งเงินบาทต่อไปได้” อาจารย์เหลียงอธิบาย
“ใช้เงินกู้ยืมแบบเจ็ดวันหรอ? ค่าใช้จ่ายของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นมากและความเสี่ยงก็จะสูงขึ้นมาก”
“แต่นายเคยคิดมั้ยว่าพวกเขาลงทุนไปเท่าไหร่? หากพวกเขาถอนตัวตอนนี้ พวกเขาจะสูญเสียเท่าไหร่? นอกจากนี้ พวกเขาซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเมื่อตอนที่อัตราอยู่ที่ 24: 1 ถ้าพวกเขายกเลิกสัญญาตอนนี้ ความสูญเสียจะไม่สูงมากนัก แต่หากเงินบาทยังคงอ่อนค่าลง ก็จะทำกำไรได้สูง!” เฝิงหยู่พูดเตือนฟู่กวางเจิ้ง
โซรอสและคนของเขาได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามูลค่าอย่างน้อย 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าเงินบาทจะกลับมาเป็น 25: 1 แต่ก็ยังทำเงินได้ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตราบใดที่พวกเขาไม่สูญเสียเงินไปมากกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการขายทิ้งเงินบาท พวกเขาก็จะไม่ขาดทุน
แต่จากการคำนวณของเฝิงหยู่ โซรอสและคนของเขาได้ขายทิ้งเงินบาทอย่างบ้าคลั่งก่อนหน้านี้และขาดทุนอย่างน้อยกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การขาดทุนหลักมาจากดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา
นั่นหมายความว่าแม้ว่าเงินบาทจะฟื้นขึ้นมาเป็น 25: 1 โซรอสและคนของเขาก็ยังพลาดอยู่ดี!
แม้ว่าโซรอสและคนของเขาจะทำลายเศรษฐกิจไทยได้สำเร็จ แต่พวกเขาก็ประสบความสูญเสีย คราวนี้โซรอสทำให้ตัวเองต้องอับอาย
โซรอสเตรียมเงินไว้เพียงพอและแม้ว่าเฝิงหยู่จะไม่ได้เข้าร่วม แต่ก็ยังเพียงพอ แต่โซรอสโลภมากเกินไป เขาเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าเมื่อสกุลเงินของประเทศหนึ่งอ่อนค่าลง จะทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเริ่มสร้างพอร์ตการลงทุนสำหรับการซื้อขายล่วงหน้าในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แม้ว่าโซรอสจะใช้เลเวอเรจ แต่เขาก็ได้ซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าระยะยาวทั้งหมดและจำเป็นต้องวางเงินมัดจำเพื่อป้องกันการบังคับยกเลิกสัญญาเมื่อสกุลเงินของประเทศมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
โซรอสและคนของเขาได้สร้างพอร์ตการลงทุนจำนวนมาก แม้จะใช้เลเวอเรจ แต่ก็ยังต้องลงทุนจำนวนมาก พวกเขาคิดว่าถ้ารวมกับเงินทุนของเฝิงหยู่และคิริเลนโกที่เข้าสู่ตลาด จำนวนเงินก็จะเพียงพอที่จะเอาชนะรัฐบาลไทยได้ แต่ใครจะรู้ว่าอยู่ดีๆ เฝิงหยู่ก็ถอนตัวกลางคัน!
บอกตามตรงว่าชะตากรรมตอนนี้ของโซรอสมีส่วนเกี่ยวข้องกับเฝิงหยู่
“นั่นหมายความว่าคุณคิดว่าโซรอสและคนของเขาจะชนะงั้นหรอ?” ฟู่กวางเจิ้งขมวดคิ้วและถาม
“เปล่า ตรงกันข้ามกันต่างหาก ผมคิดว่าโซรอสจะต้องประสบกับความพ่ายแพ้และจะถอนตัวออกชั่วคราว” เฝิงหยู่หัวเราะและจิบกาแฟ
“ทำไมล่ะ?”
“เหตุผลหลักก็คือโซรอสมีเงินทุนไม่พอที่จะสนับสนุนตัวเอง พวกเขาคิดว่าผมจะไปร่วมด้วย และพวกเขาจะชนะรัฐบาลไทยได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ผมถอนตัวออกมาอย่างกะทันหัน ปล่อยให้เขาเผชิญหน้ากับรัฐบาลไทยคนเดียว เขามีเงินทุนก็จริง แต่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน!”
“แต่คุณไม่ได้บอกเองหรอว่ารัฐบาลไทยใช้เงินสำรองต่างประเทศไปเกือบหมดแล้ว?” นี่คือสิ่งที่เฝิงหยู่เพิ่งพูดไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
“ใช่แล้วครับ รัฐบาลไทยมีเงินไม่พอ พวกเขาต้องใช้เงินสำรองต่างประเทศเกือบทั้งหมดในปีนี้ นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในส่วนของพวกเขา ลองคิดดูนะครับ ถ้าธุรกิจของคุณประสบปัญหาและต้องการเงินเพื่อแก้ไขปัญหานี้ คุณจะทำยังไง?” เฝิงหยู่ถาม
“ผมก็จะกู้ยืม คุณกำลังบอกว่ารัฐบาลไทยจะได้เงินกู้หรอ?” ฟู่กวางเจิ้งเข้าใจสิ่งที่เฝิงหยู่พยายามบอก ถ้ามีเงินเพิ่มเติม รัฐบาลไทยจะอัดฉีดเงินเข้าสู่สกุลเงินของตนเพื่อดึงอัตราดอกเบี้ย
ประเทศไทยเป็นหนี้จำนวนมากอยู่แล้วและไม่คิดที่จะเพิ่มหนี้ ประเทศที่ยินดีให้กู้ยืมเงินก็ไม่ต้องการเห็นประเทศไทยตกอยู่ในวิกฤติ
เมื่อเศรษฐกิจของประเทศไทยล่มสลาย พวกเขาจะไม่ได้รับการชำระหนี้คืน! นั่นหมายความว่าบางประเทศต้องให้ประเทศไทยยืมเงินหรือช่วยเหลือไทยในการเพิ่มค่าเงินบาท พวกเขาจะต้องสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทยและทำให้ตลาดการเงินมีเสถียรภาพ!
อาจารย์เหลียงมองไปที่เฝิงหยู่ด้วยสีหน้าเห็นด้วย ลูกศิษย์ของเขาคนนี้จะเก่งกว่าเขามาก
เศรษฐกิจมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการเมืองและหลายคนไม่คิดถึงเรื่องนี้ แต่เฝิงหยู่รู้เรื่องนี้ นอกจากนี้ เฝิงหยู่ยังเด็กมาก เขาจะแซงหน้าไปไกลกว่าอาจารย์เหลียง!
“กวางเจิ้ง เธอยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ” อาจารย์เหลียงยิ้ม
“อาจารย์เหลียง ผมจะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวังครับ” ฟู่กวางเจิ้งพูด
เฝิงหยู่มองหน้าฟู่กวางเจิ้งและอาจารย์เหลียง ทำไมอยู่ดีๆ ฟู่กวางเจิ้งถึงกลายเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เหลียงไปได้?
……
ดรัคเคน มิลเลอร์รีบเข้าไปในห้องทำงานของโซรอสพร้อมกับตะโกน “ เจ้านายครับ นี่มันเกินขีดจำกัดของเราแล้ว!”